ช่วยหนูด้วยค่ะ หนูเครียดนอนไม่หลับมาหลายวันแล้ว 🙏
เริ่มต้นด้วยนายจ้าง (นายจ้างหุ้นส่วนรายใหญ่)
แจ้งใน LINE กลุ่มเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2568
มีเนื้อความว่า ฝากนาย B (ผู้ซึ่งเป็นหุ้นส่วนรอง) ลองคิดดูว่าจะทำร้านขายยาต่อไหมเพราะ
นายจ้างไม่อยากเปิดร้านต่อแล้ว จะไปเปิดกิจการใหม่กับเพื่อน ต้นเดือนพฤษภาคมเร็วที่สุด ช้าสุดคือต้นเดือนมิถุนายน (ก็คือสิ้นเดือนพฤษภาคม) แต่ถ้าไม่ทำต่อพี่ต้องไปแจ้งทางอย. ว่าจะเลิกกิจการจะได้เอาชื่อออก ซึ่ง B(หุ้นส่วนรอง) ได้ถามหุ้นส่วนรายอื่นๆแต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรเลยไม่มีใครถามหรือโต้แย้งและคุยเรื่องนี้ต่อ
ซึ่งข้อมูลของวันนี้หนู (ลูกจ้าง) เพิ่งจะได้รับทราบด้วยคำพูดปากเปล่าของหุ้นส่วนรองในวันที่10เมษายน
จนมาวันที่ 16 เมษายน 2568
นายจ้าง ได้มาแจ้งใน LINE กลุ่มceo(ซึ่งไม่มีลูกจ้างอยู่) ว่าจะปิดร้านต้นเดือนพฤษภาคม (ซึ่งก็คือสิ้นเดือนเมษายน) และถามหุ้นส่วนว่าได้แจ้งเจ้าของที่เช่าร้านไว้แล้วหรือยัง ทางหุ้นส่วนรองเลยตอบกลับไปว่า
แจ้งเขาไว้ว่าจะปิดสิ้นเดือนพฤษภาคม แต่ถ้าจะเปลี่ยนมาแจ้งปิดร้านต้นเดือนค่าเช่าและค่าจ้างพนักงานก็จะไม่มีรายได้จากร้าน
หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรต่อถึงเรื่องนี้ ซึ่งลูกจ้างก็ไม่ได้รับรู้เป็นลายลักษณ์อักษรรู้จักคำพูดของหุ้นส่วนเอง และเข้าใจว่าร้านจะปิดกิจการสิ้นเดือนเมษายน
จนมาวันที่ 21 เมษายน 2568
ลูกจ้างได้สอบถามทางไลน์นายจ้างใหญ่ ว่าสรุปจะปิดร้านสิ้นเดือนนี้ใช่ไหมเพราะลูกจ้างจำเป็นต้องรีบหางานและกว่าจะได้สัมภาษณ์งาน และลูกจ้างได้ถามถึงเงินชดเชยตามกฎหมายที่ควรจะได้ แต่ได้รับคำตอบมาอีกแบบนึงกับสิ่งที่รับทราบ
สรุปคือ นายจ้างแจ้งปิดร้านสิ้นเดือนพฤษภาคมจ่ายค่าจ้างตามปกติไม่มีเงินชดเชยและขอให้แพ็คของให้เสร็จ
ซึ่งก่อนหน้านี้หนูก็นั่งหางานอดหลับอดนอนมาหลายวันจนป่วยไข้ แล้วต้องเปลี่ยนแผนไปมาตามนายจ้าง แถมไม่ได้เงินค่าชดเชยใดๆซึ่งลูกจ้างคิดว่ามันไม่ถูกต้องกับความเครียดสะสมและเวลาที่เสียไปอย่างขุ่นมัว
ต่อมานายจ้างใหญ่ได้โทรมาคุยเป็นการส่วนตัวว่าเป็นการเข้าใจผิดกันกับหุ้นส่วน ที่จริงจะจ้างจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมและจ่ายค่าจ้างตามปกติแต่เงินชดเชยก็จะไม่ได้ใดๆ
ซึ่งหนู มีนัดสัมภาษณ์งานและสมัครงานมาหลายที่แล้วไม่สามารถปล่อยโอกาสนี้ไปได้อีก ... จึงเลือกที่จะขอทำถึงสิ้นเดือนเมษายนเลย ซึ่งนายจ้างได้พูดว่าถือว่าลูกจ้างสมัครใจที่จะออกเองนะ และก็จะไม่มีเงินค่าชดเชยใดๆ หรือแม้กระทั่งค่าตกใจ
อีกทั้งหนู ลากิจเมื่อวันที่ 28 เมษายน หุ้นส่วนคนอื่นมีการประกาศว่าจะไม่ให้เงินเดือนหนู จนกว่าจะเข้ามาเคลียร์สต๊อก ซึ่งหนูเคลียร์มา 4 วันแล้ว ทั้งปริ้นกระดาษเช็ดมือเขียนเอาเอง ทั้งชื่อสินค้าวันหมดอายุหนูทำให้หมดเรียบร้อยแล้วเขาก็ยังไม่พอใจ
เพราะสต๊อกไม่คงที่ ที่ผ่านมาพนักงานรุ่นก่อนๆก็ไม่เคยนับสต๊อกแล้วจะมาโยนความผิดให้หนูเหมือนจะหักเงินเดือน หนูเลยแจ้งเขาไปว่าจะเข้าไปเก็บของลงลังให้วันที่ 1 นี้ แต่ถ้าเกิดเขาเหลี่ยมใส่หนูอีกแล้วหนูไม่ได้เงินเดือนหนูควรจะทำยังไงต่อ เครียดมากค่ะ เขาไม่สงสารเด็กตาดำๆบ้างเลยหนูทำงานมาเกิด 4 ปีเต็มที่ตลอดไมาเคยขาด ไม่สบายก็ไปตายที่ร้านทำให้แม้กระทั่งซักเสื้อผ้า เห็นเขาเป็นเหมือนครอบครัวตัวเอง แต่พอจะจากกันแล้วทำกับหนูแบบนี้ เสียใจมากค่ะ 😞🙏
หนูอยากรู้ว่าถ้าวันที่ 1 นี้หนูเก็บของเสร็จแล้วแจ้งเขาถ้าเขายังไม่จ่ายเงินเดือนให้หนูหนูควรต้องทำยังไงต่อ แล้วจะเอาเงินที่ไหนใช้ล่ะไม่อยากจะคิด หนูกลัวเขาไม่รักษาคำพูด
ช่วยหนูด้วยค่ะ หนูเครียดนอนไม่หลับมาหลายวันแล้ว 🙏
แจ้งใน LINE กลุ่มเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2568
มีเนื้อความว่า ฝากนาย B (ผู้ซึ่งเป็นหุ้นส่วนรอง) ลองคิดดูว่าจะทำร้านขายยาต่อไหมเพราะ
นายจ้างไม่อยากเปิดร้านต่อแล้ว จะไปเปิดกิจการใหม่กับเพื่อน ต้นเดือนพฤษภาคมเร็วที่สุด ช้าสุดคือต้นเดือนมิถุนายน (ก็คือสิ้นเดือนพฤษภาคม) แต่ถ้าไม่ทำต่อพี่ต้องไปแจ้งทางอย. ว่าจะเลิกกิจการจะได้เอาชื่อออก ซึ่ง B(หุ้นส่วนรอง) ได้ถามหุ้นส่วนรายอื่นๆแต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรเลยไม่มีใครถามหรือโต้แย้งและคุยเรื่องนี้ต่อ
ซึ่งข้อมูลของวันนี้หนู (ลูกจ้าง) เพิ่งจะได้รับทราบด้วยคำพูดปากเปล่าของหุ้นส่วนรองในวันที่10เมษายน
จนมาวันที่ 16 เมษายน 2568
นายจ้าง ได้มาแจ้งใน LINE กลุ่มceo(ซึ่งไม่มีลูกจ้างอยู่) ว่าจะปิดร้านต้นเดือนพฤษภาคม (ซึ่งก็คือสิ้นเดือนเมษายน) และถามหุ้นส่วนว่าได้แจ้งเจ้าของที่เช่าร้านไว้แล้วหรือยัง ทางหุ้นส่วนรองเลยตอบกลับไปว่า
แจ้งเขาไว้ว่าจะปิดสิ้นเดือนพฤษภาคม แต่ถ้าจะเปลี่ยนมาแจ้งปิดร้านต้นเดือนค่าเช่าและค่าจ้างพนักงานก็จะไม่มีรายได้จากร้าน
หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรต่อถึงเรื่องนี้ ซึ่งลูกจ้างก็ไม่ได้รับรู้เป็นลายลักษณ์อักษรรู้จักคำพูดของหุ้นส่วนเอง และเข้าใจว่าร้านจะปิดกิจการสิ้นเดือนเมษายน
จนมาวันที่ 21 เมษายน 2568
ลูกจ้างได้สอบถามทางไลน์นายจ้างใหญ่ ว่าสรุปจะปิดร้านสิ้นเดือนนี้ใช่ไหมเพราะลูกจ้างจำเป็นต้องรีบหางานและกว่าจะได้สัมภาษณ์งาน และลูกจ้างได้ถามถึงเงินชดเชยตามกฎหมายที่ควรจะได้ แต่ได้รับคำตอบมาอีกแบบนึงกับสิ่งที่รับทราบ
สรุปคือ นายจ้างแจ้งปิดร้านสิ้นเดือนพฤษภาคมจ่ายค่าจ้างตามปกติไม่มีเงินชดเชยและขอให้แพ็คของให้เสร็จ
ซึ่งก่อนหน้านี้หนูก็นั่งหางานอดหลับอดนอนมาหลายวันจนป่วยไข้ แล้วต้องเปลี่ยนแผนไปมาตามนายจ้าง แถมไม่ได้เงินค่าชดเชยใดๆซึ่งลูกจ้างคิดว่ามันไม่ถูกต้องกับความเครียดสะสมและเวลาที่เสียไปอย่างขุ่นมัว
ต่อมานายจ้างใหญ่ได้โทรมาคุยเป็นการส่วนตัวว่าเป็นการเข้าใจผิดกันกับหุ้นส่วน ที่จริงจะจ้างจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมและจ่ายค่าจ้างตามปกติแต่เงินชดเชยก็จะไม่ได้ใดๆ
ซึ่งหนู มีนัดสัมภาษณ์งานและสมัครงานมาหลายที่แล้วไม่สามารถปล่อยโอกาสนี้ไปได้อีก ... จึงเลือกที่จะขอทำถึงสิ้นเดือนเมษายนเลย ซึ่งนายจ้างได้พูดว่าถือว่าลูกจ้างสมัครใจที่จะออกเองนะ และก็จะไม่มีเงินค่าชดเชยใดๆ หรือแม้กระทั่งค่าตกใจ
อีกทั้งหนู ลากิจเมื่อวันที่ 28 เมษายน หุ้นส่วนคนอื่นมีการประกาศว่าจะไม่ให้เงินเดือนหนู จนกว่าจะเข้ามาเคลียร์สต๊อก ซึ่งหนูเคลียร์มา 4 วันแล้ว ทั้งปริ้นกระดาษเช็ดมือเขียนเอาเอง ทั้งชื่อสินค้าวันหมดอายุหนูทำให้หมดเรียบร้อยแล้วเขาก็ยังไม่พอใจ
เพราะสต๊อกไม่คงที่ ที่ผ่านมาพนักงานรุ่นก่อนๆก็ไม่เคยนับสต๊อกแล้วจะมาโยนความผิดให้หนูเหมือนจะหักเงินเดือน หนูเลยแจ้งเขาไปว่าจะเข้าไปเก็บของลงลังให้วันที่ 1 นี้ แต่ถ้าเกิดเขาเหลี่ยมใส่หนูอีกแล้วหนูไม่ได้เงินเดือนหนูควรจะทำยังไงต่อ เครียดมากค่ะ เขาไม่สงสารเด็กตาดำๆบ้างเลยหนูทำงานมาเกิด 4 ปีเต็มที่ตลอดไมาเคยขาด ไม่สบายก็ไปตายที่ร้านทำให้แม้กระทั่งซักเสื้อผ้า เห็นเขาเป็นเหมือนครอบครัวตัวเอง แต่พอจะจากกันแล้วทำกับหนูแบบนี้ เสียใจมากค่ะ 😞🙏
หนูอยากรู้ว่าถ้าวันที่ 1 นี้หนูเก็บของเสร็จแล้วแจ้งเขาถ้าเขายังไม่จ่ายเงินเดือนให้หนูหนูควรต้องทำยังไงต่อ แล้วจะเอาเงินที่ไหนใช้ล่ะไม่อยากจะคิด หนูกลัวเขาไม่รักษาคำพูด