วันพ่อแต่เป็นทริปที่พ่อไม่มาเลยส่งแม่มาเที่ยวแทน
ณ บ้านนาต้นจั่น
วิถีการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย
// แต่อยู่ก็ไกลจังน้อ คนจะไปกันเรอะ?? (นี่แอบคิดในใจ) //
++ แต่ไม่น่าเชื่อว่าคนกรุงเทพฯ นี่แหละนิยมมาเที่ยวกันให้คึกคัก ยิ่งช่วงเทศกาลวันลอยกระทงด้วยแล้ว..
และถ้าจะมานอนชิล Home stay ที่บ้านนาต้นจั่นล่ะก้อต้องจองที่พักข้ามปีกันเลยทีเดียว ++
และแล้วก็ขอต้อนรับเข้าสู่อาณาจักรเจ้าหมื่นด้งจ้า
สารพัดแหล่งการท่องเที่ยวและการเรียนรู้..เลือกกันตามใจปรารถนาเล้ย
ส่วนรถของก๋อยขอมุ่งตรงไปร้านยายเครื่องก่อนแล้ว..หิ้วท้องมาตั้งแต่เช้าโน่นแน่ะ
++ ถนนหนทางประมาณนี้ มีความเป็นชุมชนบ้านนาบ้านไร่ ไปตาม GPS ได้รับรองไม่มีตกคูคลองหนองน้ำใด ๆ ++
++ แต่กว่าจะเข้าไปถึงบ้านนาต้นจั่นก็ต้องผ่านทุ่งนาทุ่งหญ้าอันสุดลูกหูลูกตา นั่งรถไปก็คิดในใจว่าคนเค้าก็พยายามมาเที่ยวกันดีเนอะ แล้วถ้าอยากรู้ว่าฟินขนาดไหนก็เสิร์ชอินเตอร์เน็ตดูกันได้เลย..และสำหรับหรับนกอีก๋อยคือทริปปล่อยจอยของแท้ คือแค่จะพาแม่ไปกินข้าวเปิ๊บนั่นเอง
++ ใช้เวลาเดินทางกว่า 2 ชั่วโมงจากพิษณุโลก ก็มาถึงร้านข้าวเปิ๊บยายเครื่อง บ้านนาต้นจั่น จังหวัดสุ๊โขทัย..++
/// นี่คือยายเครื่องซึ่งจะมีอายุ 80 ขวบในวันที่ 7 ธันวาคมนี้ แต่ยังสวยเช้งอย่างกับสาวๆ ก๋อยขอเข้าไปถ่ายรูปแกก็ส่งยิ้มหวานเชื้อเชิญในทันที ///
++ อ้อ..ลืมให้ดูเส้นทางเลย ก๋อยใช้เส้นทางเป็นวงกลมแบบนี้ คือขาไปไปทางอุตรดิตถ์และขากลับกลับทางสุโขทัย เวลาทั้งไปและกลับไม่แตกต่างกันมากอยู่ที่ 2 ชั่วโมงหน่อยๆ แต่เรากลับได้ชมทัศนียภาพที่แตกต่างระหว่างทางสองเส้นนี้..++
// กลับมาที่ร้านร้านยายเครื่องต่อ //
+++ เมนูหลักๆ ของร้านมีไม่มากนัก แต่ความน้อยนี่แหละกลับมหาศาลด้วยความ Unique +++
++ เริ่มที่ “ข้าวเปิ๊บ” เมนูสวยใสใส่ใจสุขภาพ เซ็ทนี้เป็นการผสมผสานกันระหว่างข้าวพันผัก ราดน้ำซุปรสอ่อนๆ แล้วโปะหน้าด้วยไข่ดาว(นึ่ง)
กับหมูแดงหั่นชิ้นเบิ้มๆ..แบบเน้ ++
แต่ถ้าใครอยากให้มีรสมีชาติ ร้านก็มีเครื่องปรุงเตรียมไว้ให้เหมือนกับร้านก๋วยเตี๋ยวทั่วๆ ไปเลยจ้า
/// ต่อมาคือ “ก๋วยเตี๋ยวแบ” ซึ่งก็คือก๋วยเตี๋ยวแห้งที่ปรุงรสมาจัดจ้านแล้ว ราดด้วยถั่วป่น แนมมากับมะนาวชิ้นใหญ่ โปะหน้าด้วยหมูแดงหั่นชิ้นโต..น้ำซุปก็จัดมาพร้อมเพื่อความคล่องคอ และตามสไตล์ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยผักก็จะเป็นถั่วฝักยาวลวกนะจ๊ะ ///
ปล. กากหมูที่เห็นซื้อแยกมาต่างหาก
/// และอีกเมนูที่ก๋อยติดอ๊กติดใจ๋เป็นที่สุด...หมี่พัน อร่อยจังวุ้ย! ///
++ มันง่ายมากจริงๆ คือเค้าจะเอาหมี่ขาวลวกสุกคลุกเคล้าปรุงรสให้ออกเค็มๆ หวานๆ และใส่พริกป่นเพื่อให้รสชาติมันมีความเผ็ดนิดหน่อยแบบเรียกน้ำย่อยอ่ะนะ เอาไปพันด้วยแผ่นข้าวแคป ก่อนเสิร์ฟคือจะนึ่งจนแป้งที่ห่อนุ่มนิ่มแล้วเอามาเสิร์ฟแบบอุ่นๆ เมนูนี้อร่อยแบบไม่ต้องจิ้มอะไร..++
// เมนูภาพรวม..ตามนี้จ้า //
++ และที่ขาดไม่ได้แคปหมูที่กรอบอร่อยฝุดๆ อันนี้จะกินกับเมนูอะไรก็เข้ากันทั้งข้าวเปิ๊บ เตี๋ยวแบ หรือหมี่พัน หรือกินเล่นๆ นี่แหละฟินจนหยุดไม่ได้เลย.. Very Good! เอาไป 10 เต็ม ++
++ นอกจากอาหารที่เป็นซิกเนเจอร์ ภายในบริเวณร้านก็จะมีร้านจำหน่ายผ้าฝ้ายทอซึ่งเป็นหนึ่งในของดีบ้านนาต้นจั่นคือ “ผ้าหมักโคลน” นั่นเอง ผ้าหมักโคลนเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่นำผ้าฝ้ายไปผ่านกรรมวิธีหมักโคลนจนได้ผืนผ้าอันนุ่มนวลน่าใส่เป็นยิ่งนัก ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้ คนขายให้ก๋อยลองสัมผัสผ้าของจริงแล้วคือเทียบกับผ้าฝ้ายธรรมดาๆ จะรู้เลยว่ามันแตกต่างกันมาก คือเนื้อสัมผัสของผ้านี่คือนิ่มมือมากและยิ่งซักคนขายเคลมว่าก็จะยิ่งนุ่มเข้าไปอีก..แม่เลยจัดผ้าคลุมไหล่ไป 2 ผืนเป็นของฝากเพื่อน สว. ของเค้า ++
ปล. เสียดายที่บ้านที่ทำผ้าหมักโคลนปิดในวันที่ก๋อยไปพอดี
++ หลังจากอิ่มหนำสำราญก็เดินดูของฝากด้านหน้าร้านยายเครื่อง..ตามนี้เลยจ้า (ชิมเกือบหมดยกเว้นยาขับลม..หึหึ) ++
/// อันนี้ขอยกให้เป็นของอร่อยต้องลอง “เมี่ยงใบพลู” หรือ “เมี่ยงหวาน” ใบช้าพลูเอาไปดองหรือหมักซะก่อนเพื่อให้รสออกเปรี้ยว ห่อกับถั่วป่น มะพร้าวคั่ว และน้ำตาลอ้อยหรือน้ำตาลปีบ พอเอามาขยำๆ คลุกเคล้าให้เข้าด้วยกันรสชาติก็จะออกเปรี้ยวๆ หวานๆ กลมกล่อมและหอมกำลังดี ส่วนตัวก๋อยชอบรสชาติแบบนี้แหละ..ราคาต่อคำตกคำละ 2 บาทเท่านั้น ///
++ นอกจากนี้ก็จะมีข้าวโป่ง (ข้าวเกรียบว่าวแบบตีโป่ง 555), ข้าวแคป, ส้มลิ้ม, ไส้กรอกหมู (แพ็คเกจจิ้งดีมาก 2 ชั้นกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ชงัด), เส้นขนมจีนแห้ง (คงเอาไปลวกให้นิ่มแล้วกินแบบขนมจีนมั้ยอ่ะ ใครรู้มาเฉลยให้ทีนะ), ยานวดคลายเส้น (หอมมากหอมจริงกลิ่นสมุนไพรเข้มข้นลองเอามาทาๆ เย็นซ่านจับใจไปถึงตับอ่อน..สดชื่นเหมาะแก่วัยก๋อยมาก), แคปหมู (จัดเพิ่มมาอีกแค่ 1 เพราะกลัวอ้วน...จะทันมั้ย??), จิ้นส้ม หรือ แหนมหมู (หน้าตาดีมาก รอเอาไปทอดใส่ไข่..มันต้องอร่อยแน่ๆ) ++
++ส่วนอันนี้นั้นต้องคนที่ชอบจริงจริ๊งงงง (เสียงสูงติดเพดานกันไปเลย) ยาขับลมภูมิปัญญาที่ชาวบ้านนำมาฝากยายเครื่องวางขาย ราคาเพียงกระปุกละ 10 บาท แต่สรรพคุณคือดีมากถ้าพิจารณาตามส่วนผสมอ่ะนะ แต่ดันเป็นของฝากชนิดเดียวที่ก๋อยขอผ่านจ้า..แต่อ้ายกากลองแล้วเห็นว่าอูมาหมิอยู่นะ++
ปล. โดยรวมของฝากที่นี่ดูสะอาดสะอ้านถูกหลักอนามัย เหมาะซื้อฝากหรือจะซื้อกลับไปกินต่อที่บ้านก็ดี ก๋อยลองอบไส้กรอกกินดูแล้วอร่อยมากรสชาติดีความเปรี้ยวของไส้กรอกทำให้ไม่เลี่ยนจนเกินไป ให้ 3 ผ่าน ++
++ รอบๆ ร้านล่ะเป็นยังงัยบ้าง..ไปชมกัน ++
/// ร้านข้าวเปิ๊บยายเครื่องเป็นการดัดแปลงพื้นที่บ้านไม้หลังงามให้กลายเป็นร้านข้าวเปิ๊บที่สวยสง่า ร่มรื่น การจัดวางโต๊ะเก้าอี้ที่มีที่นั่งเหลือเฟือทั้งภายใต้หลังคาบ้าน และแบบ Outdoor ใต้ต้นกล้วยตานียักษ์ (บางต้นยังผูกแพรเจ็ดสีที่เห็นแล้วแอบเกรงใจแม่นางตานีขึ้นมาตะหงิดๆ) ///
++ รอบตัวบ้านหรือตัวร้านก็สะอาดสะอ้าน ห้องน้ำดีเยี่ยมเป็นสัดส่วนชวนเข้าไปทำธุระ 555 ++
+++ บรรยากาศส่วนบริเวณประกอบอาหารมี 2 โซน คือโซนทำข้าวเปิ๊บและเมนูต่างๆ ก็จะประมาณนี้ ไอน้ำ ควันไฟคลุ้งอวลชวนหิวมากมาย +++
++ มีต่อจ้า ++
[
ทริปสุ๊โขทัย กิน-ช้อป-แชะ วันเดียวก็เฟี้ยวได้ (5 ธ.ค.66)