สังคมในแผนกที่ทำงานเราทำงานอยู่นั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะพวกผู้ร่วมงานมักจะชอบนินทากันเอง และบางครั้งก็คอยเสี้ยม จับผิด ยุยงให้คนในแผนกไม่ชอบกัน ส่วนเราจะเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ก็จะไม่ค่อยมีใครมาพูดเสี้ยมอะไรให้ฟัง ถ้ามีเราก็จะเลือกฟังเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับเรา แต่เรารู้ว่าเราก็เป็นคนหนึ่งที่ถูกนินทา ไม่ต้องมีใครมาบอก เราก็รู้สึกได้ เราจึงไม่รู้สึกสนิทใจกับใคร แต่ละวันเราไปทำงาน นั่งโต๊ะคุยประสานงานกับลูกค้าและทำงานเอกสาร แต่แทบไม่คุยกับเพื่อนร่วมงาน เราแค่ไหว้รุ่นพี่ตอนเข้างานกับเลิกงาน นอกนั้นก็ตัวใครตัวมัน เหมือนว่าเรามีงานยุ่งมากจนไม่ว่างคุยกับใคร ส่วนกับหัวหน้าเราจำเป็นต้องคุยแม้ว่าบางครั้งจะไม่อยากคุย เพราะเราต้องพึ่งพาเขา และหัวหน้าก็ค่อนข้างใจดี (ถ้าไม่นับเรื่องชอบเสี้ยม)
แต่ก็จะมีเพื่อนร่วมงานบางคน ที่เรารู้สึกไม่สนิทใจด้วยมากเป็นพิเศษ และเราก็แสดงออกค่อนข้างชัดเจนว่าไม่ปลื้ม ไม่ค่อยอยากผูกมิตรด้วย ตอนนี้มี 4 คน เรียงลำดับจากเบาสุดไปหนักสุด
>>> คนที่ 1 เป็นรุ่นพี่อายุคราวน้าเรา นั่งทำงานใกล้เรา แต่เราจะไม่ไหว้ทักทายเขาเวลามาทำงาน เพราะก่อนหน้านี้เราเคยไหว้แล้วเขาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หลายครั้ง (เราทักแล้วไม่ทักตอบ แต่พอคนอื่นทักดันทักตอบ จะให้เราคิดยังไง) แต่ถึงเราจะไม่ไหว้เขา แต่ก็ยังมีพูดคุยหยอกล้อกันบ้าง เพราะนั่งใกล้กัน ยังมีเรื่องต้องพึ่งพากัน
>>> คนที่ 2 เป็นรุ่นพี่ นั่งทำงานไกลเรา(แต่ในห้องเดียวกัน) คนนี้เราก็ไม่ไหว้เหมือนกัน ภายนอกเขาดูเหมือนเป็นคนใจดี พูดจาอ่อนหวาน แต่ก็เป็นคนที่สนใจเรื่องของคนอื่น ดูมีเครดิตดีใช้ได้ เพราะเพื่อนร่วมงานหลายคนจะชอบไปซุบซิบนินทาเรื่องนั้นเรื่องนี้กับเขา (และเรามั่นใจว่ามีเรื่องของเราด้วย) แต่เรากลับรู้สึกถึงพลังงานลบบางอย่างจากตัวเขา ทั้งคำพูดและท่าทีของเขาต่อเรา เรารู้สึกว่าเขาเองก็ไม่ได้มีความปรารถนาดีต่อเรา ถ้าวันใดเราล้มหรือมีปัญหา เขาก็คงเม้าท์สมน้ำหน้าเราร่วมกับคนอื่นๆ ฉะนั้นเราก็จะมีท่าทีเฉยๆกับเขา แต่ถ้าต้องคุยกันก็จะคุยดีๆ ถ้าไม่มีเรื่องของคุยกันก็จะเมินกันไปเลย คิดว่าเขาก็คงรู้สึกกับเราแบบเดียวกับที่เรารู้สึกกับเขา
>>> คนที่ 3 เป็นรุ่นน้อง ตอนนี้ทั้งเราและเขาต่างเมินกัน เพราะหลายเดือนก่อนเขาพูดจาไม่ค่อยดีกับเรา แล้วเราก็ขึ้นเสียงสวนเขากลับไป จากนั้นก็ไม่คุยกันอีก และเราก็ยังไม่สามารถลืมเรื่องนั้นได้ สักวันคงให้อภัยได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้
>>> คนที่ 4 เป็นรุ่นน้อง คนนี้เราเลี่ยงที่จะคุยด้วย แม้ว่าจะไม่เคยทะเลาะกัน เราไม่ชอบเขามานานแล้ว เพราะเขาเป็นคนหัวร้อนง่ายและไม่เกรงใจคนอื่น เขามีเรื่องไม่พอใจเยอะแยะไปหมด ทั้งเรื่องงานและส่วนตัว แล้วก็ชอบเอามาพูดในที่ทำงาน พูดเสียงดัง เสียงแหลม ใส่อารมณ์ ใช้คำพูดก้าวร้าว และชอบเถียงเอาชนะ ไม่ฟังใคร เหมือนมีตาไว้มองเห็นแต่สิ่งที่ไม่ถูกใจตัวเองในตัวของคนอื่น เรารำคาญเสียงเขา และบางครั้งเราก็รู้สึกว่าถูกเขาพูดจาแซะใส่ (ไม่พูดกับเราตรงๆ แต่พูดลอยๆ หรือพูดกับคนอื่นแต่ให้กระทบเรา) เขากับรุ่นน้องคนที่ 3 (ที่เรากล่าวถึงด้านบน) สนิทกัน ในวันที่เราถูกคนที่ 3 พูดจาไม่ดีใส่ เราแอบเห็นรุ่นน้องคนนี้กับรุ่นพี่คนที่ 2 (คนที่อ่อนหวาน) ยิ้มและแปะมือกันเหมือนชอบใจที่เห็นเราโดนพูดแบบนั้นใส่ แต่พอเราพูดเสียงดังสวนกลับไป รุ่นน้องคนนี้ก็แสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบเรา เพราะตอนนี้เขาไหว้ทักทายรุ่นพี่ทุกคนยกเว้นเรา เราคิดว่าลับหลังพวกเขาก็คงรวมหัวกันด่าเรา เราจึงทำเมินใส่เขาด้วย ถ้าเขาจะไม่เคารพเรา เราก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
ข้อเสียของเราคือ เราเป็นคนที่แสดงออกตรงไปตรงมา เราเป็นคนไม่ค่อยพูด แทบไม่เคยดุด่าใคร (ตอนเราขึ้นเสียงใส่เพื่อนร่วมงานคนที่ 3 ก็ไม่มีคำหยาบหรือคำตำหนิ เพียงแต่เราเสียงดังและใส่อารมณ์ไปหน่อย) แต่เวลาเราไม่ชอบหรือไม่พอใจใคร เราก็แสดงท่าทีค่อนข้างชัดเจน ส่วนใหญ่ก็คือเมิน ไม่คุยด้วย เราไม่สามารถฝืนทำตัวปกติเสมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ เราไม่สามารถฝืนพูดคุยเป็นกันเองกับคนที่เรารู้สึกว่าเขาก็ไม่ได้ชอบเรา (ส่วนเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆนอกจาก 4 คนนั้น เรารู้ว่าพวกเขาก็นินทาเราเช่นกัน แต่ตอนอยู่ต่อหน้าพวกเขาคุยกับเราปกติและค่อนข้างเป็นกันเอง เราก็จะมีท่าทีค่อนข้างปกติกับพวกเขา) เราไม่รู้ว่ามันผิดหรือเปล่า ถ้าเราถามตัวเอง เราก็ต้องตอบว่าไม่ผิด เพราะเราไม่ใช่ฝ่ายเริ่มหาเรื่องใครก่อน สิ่งที่เราแสดงออกเป็นเหมือนการปกป้องตัวเอง แต่ถ้าในอนาคตเราอยากเติบโตเป็นหัวหน้า การเป็นแบบเราก็อาจจะผิด เพราะคนเป็นหัวหน้ามักถูกลูกน้องเกลียด มักเป็นเป้าให้ลูกน้องนินทา ถ้าไม่พอใจและทำเมินใส่ลูกน้อง ก็คงไม่สามารถคุมลูกน้องได้
ผิดไหม ถ้าเราไม่สามารถตีสองหน้าผูกมิตรกับคนที่เราไม่สนิทใจด้วยได้