สวัสดีครับ พอดี ผมได้มีโอกาสรู้จักกับคุณยายท่านหนึ่งเป็นคนฝรั่งเศสครับ แกค่อนข้างจะอายุมากแล้วน่าจะประมาณ 80 กว่าได้
รู้จักกับลูกชายของแกด้วยครับ ซึ่งก็เป็นคนฝรั่งเศสเหมือนกัน พอดีผมพอพูดภาษาฝรั่งเศสได้ ลูกชายแกก็เลย มักจะขอให้ผม ขับรถพาคุณยายไปส่งที่ห้างครับ เพราะคุณยายแกชอบเดินห้างครับ แต่ว่าแกไม่สามารถเดินได้ แกมักจะนั่งรถเข็นไฟฟ้าครับ
ทีนี้พอมาวันนี้ลูกชายแกก็ส่งข้อความมาบอกว่าวันนี้ไม่ต้องไปรับ คุณยายนะ โอเคผมก็ไม่ได้ว่าอะไร
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ คุณยายขอให้ทางห้างโทรมาหาผมเพื่อให้ผมมารับแกครับ
พอแกได้ขึ้นรถผมแล้ว แกก็ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแกให้ผมฟังซึ่งทำให้ผม ตกใจเป็นอย่างมาก คือแทบจะไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยินเลยครับ ว่ามันมีแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆเหรอ
เท่าที่ฟังแกเล่ามา แกเล่าให้ฟังว่า แกกลัวลูกชายของแกจะเอาแกไปฆ่าเพื่อหวังเอาเงินบำนาญครับ แกใช้คำว่า la pension ค้นๆดูก็แปลว่าบำนาญครับ
แกเล่าอีกว่า คิอด้วยความที่แกนั่งรถเข็นไฟฟ้า วันก่อนแกก้าวพลาดตกรถเข็น แขนขวาแกช้ำ แกบอกว่ร ลูกชายแกไม่เอาแกไปโรงพยายาลเลย เพราะลูกชสยแกแอบใส่ยาที่ทำให้แกมึนงง
แกถึงขั้นขอให้ผมพาไปที่สมาคมฝรั่งเศสเพื่อที่จะไปเจอกับกงสุลฝรั่งเศสครับ แต่ทีนี้คือ ท่านกงสุลไม่อยู่ครับ
แกถึงขั้นขอให้ผมโทรหาตำรวจแกถึงขั้นขอให้ผมโทรหาตำรวจเลยด้วยซ้ำไปครับ
และยังขอให้ผมพาไปร้านเบเกอรี่ที่แกรู้จักกับเจ้าของจะได้พูดคุยได้ แต่ได้เจอกับภรรยาแทน ภรรยาก็บอกว่าไม่อยากยุ่งครับ
ทีนี้แกขอให้ไปที่โรงพยาบาลที่มีคนฝรั่งเศสทำงานเป็นล่ามครับ
ล่ามคนนั้นเค้าบอกว่า เหมือนบางครั้งแกจะชอบทำตัวเหมือนบางครั้งแกจะชอบทำตัวแบบเด็กเด็ก และชอบมีความวิตกกังวลที่เกินเหตุครับ
พอมาถึงจุดนี้ ผมก็ชักไม่แน่ใจแล้วว่าที่แกเล่าเพราะแกคิดมากไปหรือเปล่า
ผมลองคิดวิเคราะห์ดูนะครับ อันนี้เป็นข้อสังเกตุ ที่ผมคิดเอานะครับ
- ถ้าสมมติว่าลูกแกมีความคิดแบบนี้จริงๆ ลูกของแกก็ต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้คนนอกรู้แน่นอน แต่ทำไม ลูกของแกถึงยอมให้ผมไปรับแกได้ ทั้งทั้งที่รู้ว่าผมพูดฟังฝรั่งเศสได้ เพราะแน่นอน คุณยายแกก็ต้องพยายามบอกผมให้ได้ครับ
หรือ
- ลูกชายแกพยายามวางแผนจะทำให้แนบเนียนมากที่สุดคือยังดีกับแกแต่แอบใส่สารอะไรบางอย่างลงไปในอาหารที่จะทำให้แกมีอาการกำเริบขึ้นในตอนหลัง แล้วแกดันไปเห็นเข้าพอดี
เพราะท่าทางของแก ดูแกกลัว เหมือนเกือบจะร้องไห้ แถมมีการร้องขอให้ผมทั้งพาไปหากงสุลฝรั่งเศส โทรหาตำรวจครับ
แล้วแกคุยกับผม แกบอกว่า แกมีมือถือแต่ว่า ลูกชายแกจะสามานถรู้ได้ว่าแกอยู่ที่ไหนจากมือถือของแก ก็เลยปิดมือถือ และขอให้ห้างโทรหาครับ
ผมยังลังเลไม่แน่ใจครับว่า แกอาจจะวิตกกังวลมากไป หรือที่แกเล่าเป็นความจริง ซึ่งถ้าเป็นจริง ผมเป็นห่วงแกมากครับ
คิดว่ายังไงบ้างครับ คิดว่าความเป็นจริงน่าจะมีแนวโน้มไปในทางไหนครับ
และควรเอาไงต่อดีครับ
พอดีไปได้ยินได้ฟังเรื่องนึงมาชวนให้ตกใจและหดหู่ เลยอยากมาถามความเห็นว่าเอาไงต่อดีครับ
ทีนี้พอมาวันนี้ลูกชายแกก็ส่งข้อความมาบอกว่าวันนี้ไม่ต้องไปรับ คุณยายนะ โอเคผมก็ไม่ได้ว่าอะไร
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ คุณยายขอให้ทางห้างโทรมาหาผมเพื่อให้ผมมารับแกครับ
พอแกได้ขึ้นรถผมแล้ว แกก็ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแกให้ผมฟังซึ่งทำให้ผม ตกใจเป็นอย่างมาก คือแทบจะไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยินเลยครับ ว่ามันมีแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆเหรอ
เท่าที่ฟังแกเล่ามา แกเล่าให้ฟังว่า แกกลัวลูกชายของแกจะเอาแกไปฆ่าเพื่อหวังเอาเงินบำนาญครับ แกใช้คำว่า la pension ค้นๆดูก็แปลว่าบำนาญครับ
แกเล่าอีกว่า คิอด้วยความที่แกนั่งรถเข็นไฟฟ้า วันก่อนแกก้าวพลาดตกรถเข็น แขนขวาแกช้ำ แกบอกว่ร ลูกชายแกไม่เอาแกไปโรงพยายาลเลย เพราะลูกชสยแกแอบใส่ยาที่ทำให้แกมึนงง
แกถึงขั้นขอให้ผมพาไปที่สมาคมฝรั่งเศสเพื่อที่จะไปเจอกับกงสุลฝรั่งเศสครับ แต่ทีนี้คือ ท่านกงสุลไม่อยู่ครับ
แกถึงขั้นขอให้ผมโทรหาตำรวจแกถึงขั้นขอให้ผมโทรหาตำรวจเลยด้วยซ้ำไปครับ
และยังขอให้ผมพาไปร้านเบเกอรี่ที่แกรู้จักกับเจ้าของจะได้พูดคุยได้ แต่ได้เจอกับภรรยาแทน ภรรยาก็บอกว่าไม่อยากยุ่งครับ
ทีนี้แกขอให้ไปที่โรงพยาบาลที่มีคนฝรั่งเศสทำงานเป็นล่ามครับ
ล่ามคนนั้นเค้าบอกว่า เหมือนบางครั้งแกจะชอบทำตัวเหมือนบางครั้งแกจะชอบทำตัวแบบเด็กเด็ก และชอบมีความวิตกกังวลที่เกินเหตุครับ
พอมาถึงจุดนี้ ผมก็ชักไม่แน่ใจแล้วว่าที่แกเล่าเพราะแกคิดมากไปหรือเปล่า
ผมลองคิดวิเคราะห์ดูนะครับ อันนี้เป็นข้อสังเกตุ ที่ผมคิดเอานะครับ
- ถ้าสมมติว่าลูกแกมีความคิดแบบนี้จริงๆ ลูกของแกก็ต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้คนนอกรู้แน่นอน แต่ทำไม ลูกของแกถึงยอมให้ผมไปรับแกได้ ทั้งทั้งที่รู้ว่าผมพูดฟังฝรั่งเศสได้ เพราะแน่นอน คุณยายแกก็ต้องพยายามบอกผมให้ได้ครับ
หรือ
- ลูกชายแกพยายามวางแผนจะทำให้แนบเนียนมากที่สุดคือยังดีกับแกแต่แอบใส่สารอะไรบางอย่างลงไปในอาหารที่จะทำให้แกมีอาการกำเริบขึ้นในตอนหลัง แล้วแกดันไปเห็นเข้าพอดี
เพราะท่าทางของแก ดูแกกลัว เหมือนเกือบจะร้องไห้ แถมมีการร้องขอให้ผมทั้งพาไปหากงสุลฝรั่งเศส โทรหาตำรวจครับ
แล้วแกคุยกับผม แกบอกว่า แกมีมือถือแต่ว่า ลูกชายแกจะสามานถรู้ได้ว่าแกอยู่ที่ไหนจากมือถือของแก ก็เลยปิดมือถือ และขอให้ห้างโทรหาครับ
ผมยังลังเลไม่แน่ใจครับว่า แกอาจจะวิตกกังวลมากไป หรือที่แกเล่าเป็นความจริง ซึ่งถ้าเป็นจริง ผมเป็นห่วงแกมากครับ
คิดว่ายังไงบ้างครับ คิดว่าความเป็นจริงน่าจะมีแนวโน้มไปในทางไหนครับ
และควรเอาไงต่อดีครับ