สวัสดีครับ มีเรื่องมาเล่า ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่าน สดๆ ร้อนๆ โนการปรุงแต่ง ชีวิตถึงจุดหนึ่งก็เหมือนได้พบคำตอบเรื่อยๆ ไม่ต้องทำอะไรเดี๋ยวมันก็มาเอง
คนโสดก็ฟังได้ครับ เพราะชีวิตคนโสดมักเจอเหตุการ์ณแบบนี้เป็นเรื่องปกติเลยมั้งในสังคมไทย ทำให้บางคนไม่กล้ามีแฟนหรือแต่งงาน
สิ่งที่เรียกว่า พ่อ-แม่ ในบางครั้งก็ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ใจเราจะทำ แทบจะเป็นปัญหาของสังคมไทยเลย บ้านดีพ่อแม่ดีก็เหมือนถูกหวย แล้วเป็นปัญหาที่แก้ยากพูดยากสะด้วย
เรากับพ่อ-แม่แยกกันอยู่ถาวรมากว่าจะ 20 ปีแล้ว ตั้งแต่ประถม คนละประเทศเจอกันน้อยมาก ไม่อิน "ครอบครัว" เป็นทุนตั้งต้น "เราตัวคนเดียวตั้งแต่อายุน้อยมาก" ไม่มีความรู้สึกใดเลยสักมิลลิกรัมหนึ่ง เหมือนที่หลายคนพูดอะครับว่า การมีพ่อแม่ มันจะแบบว่า ใจฟู คือ มันไม่มี ไม่ใช่เลย
1 ปีคุยกันแค่ 2-3 ครั้ง โทรคุยกี่ครั้ง สิ่งที่คุยทุกครั้ง เหมือนละครฟ้ามีตานั่นแหละ เรื่องเงินทุกครั้ง สิ้นปีประโยคเดิม โอนเงินให้ละเอาไปใช้กินเลี้ยงปีใหม่นะ
ปัญหาคือ
อายุพ่อ ก็ 63 แล้ว แต่ยังมีหาทำงานหาเงินลงทุนอยู่ เพราะเขาเกษียณไม่ทันครับ แล้วตอนนี้อยากได้รถยนต์ราคา 1.5-1.7 ล้านบาท พวกสายผู้รับเหมา งานที่ทำก็เพื่อหาเงินเกษียณ พยายามหาทางนั่นนู่นนี่แบบให้รอดแต่ตัวเองแก่แล้ว
แล้วเขามองว่ามันคุ้ม เหมาะกับเขาด้วยคงไม่เอาคันอื่น หรือ ไม่ซื้อเลยถ้าไม่ได้รุ่นนี้ เครื่องยนต์ห้ามต่ำกว่า 2000 เพราะต้องวิ่งด้วยความเร็วสูง ต่อเนื่องหลายวัน ฟิลลิ่งแบบผู้รับเหมาวิ่งงานยันแก่ 4W ยกสูง ฟอจูนเนอร์เขาจะชอบมาก
พ่อมีเงินสดแต่มันแค่ 7-8 แสน มันไม่พอจะซื้อเงินสด จะยืมเราเพิ่มทำให้ดาวน์ได้หนา จะได้ดอกเบี้ยน้อยซึ่ง เขามีความรู้แค่นี้ แต่เขาไม่คำนึงถึงอะไรเท่าไหร่ว่าใครจะลำบากขนาดไหน
มีเงินจะส่งผ่อนเราคืนคิดดอกเบี้ยให้เราด้วยซึ่ง เรามองว่ามันไม่คุ้มค่าสำหรับเราหรอกครับ เราให้ยืมเราก็ไร้อนาคตไปอีกพักใหญ่เรื่องหาแฟนหรือหาเมียฝันไปเลย เราก็ต้องทำงานปั่นเงินเหมือน ATM วนไปแบบนี้เมื่อไหร่จะจบ จนกว่าพ่อแม่จะเกษียณได้หรอ อยู่ทำงานไปจนกว่าจะหาเงินก้อนใหญ่สร้างอนาคตได้
แล้วเราไม่อยากเชื่อด้วยซ้ำว่าเขาจะผ่อนไหว งานที่ทำและเงินที่ได้มันก็พอคุ้มค่าทำให้ตั้งตัวได้ขนาดไหน แต่เขาก็ยังเกษียณหรือซื้อเงินสดไม่ได้เลย ยังไงก็เสี่ยงในสายตาเราครับ มันไม่แน่นอนหรอกว่าจะผ่อนรถหมด ถึงผ่อนหมดก็ 70 แหกทุกคอนเซ็บของนักลงทุนเพื่อการเกษียณ
เราเลยไม่เชื่อแล้วรู้สึกกว่ามันน่าจะโกหก แล้วยังมีภาระอื่นอีก
เรามีน้องสาว นะแต่!! น้องสาวเป็นภาระครอบครัวอีก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บางคนคิดว่าทำอะไรขนาดนี้เป็นลูกคนเดียว แต่เราเป็นลูก 2 คนแล้วเราไม่ได้อะไรเลยสักชิ้นจึงต้องพยายามอย่างหนัก น้องสาวเราได้เรียนจีน มันต่อยอดทำเงินได้ดีกว่าเรามาก แต่ทิ้งหมดทุกตำรา
น้องสาวเรา คือ ต้นแบบของผู้หญิงที่ไม่ควรหาเป็นเมียที่สุด ไม่จำเป็นต้องไปหาไกลตัว น้องเราเป็นพนักงานราชการเงินเดือน 10000 ขี้เกียจ ห่วงสวย ไม่อยากทำงานหนัก อยากรวย อยากได้คนเปย์ ลงแต่รูปให้ดูสวยดูแพงดูชีวิตดี อยากมีความรักตลอด อยากเที่ยว แล้วก็โดนเสี้ยมให้สอบราชการ แต่จนวันนี้ 28 แล้ว ยังสอบไม่ติด แล้วยังใช้ชีวิตแบบนี้วนไป
รถยนต์ที่นางใช้ พ่อเราผ่อนให้ ถ้ามันโทรมานั่นหมายความว่า มันจะยืมเงินหรือขอของขวัญ นี่แหละคำว่า พี่-น้อง!! ผมตัดพี่ตัดน้องเรียบร้อยแล้ว โตแล้วรับผิดชอบชีวิตเอาเอง
ส่วนของปัญหาของพ่อจะ เอาไงดีนะ
เราเลยนึกถึงมุขหนึ่งขึ้นมา บางครั้งเราก็ต้องเป็นคนโกหก คิดไม่ถึง 5 นาทีหลังจากรับสายมุขนี้แทบจะมาทันที
เลยบอกเขาไปว่าเราไม่มีเงิน มีแค่ 2 แสนแค่นั้นให้คือหมด เอาเงินไปโปะคอนโดหมดแล้ว ปลายปีก็ต้องส่งเงินให้คนที่ ช่วยเหลือซัพพอร์ทเรายามเด็กอีกตอบแทนบุญคุณ ก็เงินไม่ต่ำกว่า 2-3แสนในปีนี้ 2566 (1 แสนคือขั้นต่ำสำหรับเรา เพราะติดหนี้ต้องรีบปิดลดดอกเบี้ย)
แต่ในความเป็นจริง มี 6 แสน แต่มันเป็นทั้ง เงินฉุกเฉิน เงินดาวน์บ้านเพื่ออนาคต เงินเกษียณเราด้วย มันไม่ใช่เงินที่จะยืมกันง่าย ถ้ายืมไปเราขาดเงิน เราตาย เราตกงาน คือ จบเลย เราเลยดองเงินมากขึ้นให้ชีวิตตกงานได้หลายปีมากขึ้น รับความเสี่ยงได้มากขึ้น ได้ปันผลให้มันงอกงามบ้าง ได้ปิดหนี้ด้วย
ไม่ใช่เข้า-ออก เข้า-ออก จนดอกเบี้ยไม่ได้สักบาทแบบนี้ นี่แหละครับ เงินเย็น เงินฉุกเฉิน ต้องแบ่งให้เป็น
แล้วบอกไปว่า ไอ้แผนจะผ่อนบ้านอยู่ปล่อยเช่าคอนโด วันนี้ก็ไม่ทำแล้วนะ แบกภาระไม่ไหว ดอกเบี้ยแพงเกินไป แพงกกว่ารถอีก เราก็โน้มน้าวเขาด้วยข้อมูล ชีวิตที่ต้องเสียดอกเบี้ยที่แพงกว่ารถยนต์ว่า มันเยอะมากกว่าจะจบด้วยการ ไม่ยืมแล้วหาทางออกเองก็ได้
เฮ้อ โคตรเหนื่อย ถึงจะโน้มน้าวได้ แต่สุดท้ายเราก็ต้องมาหาแผนรับมือ ให้คิดอีกว่า แล้วถ้าเขาผ่อนไม่ไหวเราต้องผ่อนแทนไหมเนี้ย เพิ่ออะไรก๊อน!!
ซึ่งถ้าเราไม่เจรจาโน้มน้าวเลย เป็นเราในอีก what if จะเกิดอะไรขึ้นหละ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เราคงต้องเสียเวลาตั้งตัวใหม่อีก 2-4 ปีแน่เพราะหาเงินก้อนใหม่ ระหว่างรอเงินที่ไม่แน่ใจด้วยซ้ำจะได้ไหม ในวัย 29 ปี เราก็จ่ายไป 3-4 ปีแล้ว อีกทีมันก็อายุ 33 เลยนะมันไม่ใช่น้อยเลย เราจะพร้อมหรือมีอะไรไม่ปาไปอายุ 40 เลยหรอ
อนาคตเรายังมาไม่ได้ถึงคลึ่งทางเลย แต่เราต้องจ่ายเวลาไปเกือบคลึ่งชีวิตสะแล้ว จูบลาชีวิตได้เลย
ช่วง 25-29 เราจ่ายไปแล้วหลายอย่างเป็นเวลาเป็นความทุกข์ใจแทนเงิน เพื่ออนาคต พยายามหลายอย่างเพื่อหารายได้เพิ่มให้มันมากพอที่จะ อุดทุกปัญหาให้ได้ดีที่สุด แล้วเราก็รอดด้วย พยายายาม speed up มาแทบตาย
มาตกม้าตายเพราะเจออะไรแบบนี้ นิ่งได้ไปอีกหลายปี นี่แหละครับ "บทเรียนที่ดีที่สุดมักใกล้ตัวเสมอ" แล้วเราเหมือนโดน challenge อะไรแบบนี้ตลอดเวลาจนเราต้องเหลือ ตัวคนเดียว คือสิ่งที่ถูกกต้องที่สุดที่พระเจ้าคงอยากบอกแบบนั้น
ปัญหาอื่น มันเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ น่าอึดอัดมาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1. ต้องโกหกตลอดไปให้ดูน่าเชื่อถือ เล่นโซเชียลไม่ได้ อวดแฟนหรือเดทหรืออะไรให้ดูชีวิตดีมีตังไม่ได้ เรามีพ่อแม่ญาติในโซเชียลเยอะ ต้องมาบล็อคมาห้ามเห็น กว่าสบายแล้ว เราเลยไม่เล่นโซเชียลไปเลย
2. บอกอะไรไม่ได้สักอย่างเงินเดือนตัวเลขเพื่อแบบเออภูมิใจ เราต้องทำตัวให้ดูจน ให้ดูใช้เงินเพื่ออนาคตตลอดเวลา ไม่ให้เงินมันไปเข้าตาใครในครอบครัว แล้วมีเหตุผลที่ดีกว่าตอบเสมอ
3. บางเวลารู้สึกว่า เราเกิดผิดครอบครัวหรือเปล่านะ แนวคิดทัศนคติ การใช้ชีวิตการใช้ข้อมูล การวางแผน แทบจะแตกต่างกํนโดยสิ้นเชิง เราพยายามเป็นคนเก่งฉลาด มีความสามารถ แต่ครอบครัวมีแต่ตามแนวคิดเราแทบจะไม่ทันเลยสักเรื่อง เขายังเชื่อมั่นแนวคิดคนโบราณ 30 ปีก่อนอะครับว่า ขยัน หมั่นหาเงิน ไม่อดตายก็พอแล้ว มันไม่ใช่เลยสักนิด
4. รู้สึกว่าเก่งแค่ไหนก็ไม่มากพอเลยด้วยซ้ำ ต้องหาทางเก่งให้ได้มากกว่านี้ ถึงวันนี้จะเงินเดือน 80K ก็ตาม มันก็ไม่มากพอครับที่จะสู้ทุกปัญหาไหวขนาดนั้น
5. สาเหตุที่ไม่อยากมีแฟนแล้วเพราะรู้สึก การมีแฟนยิ่งมีแต่ปัญหาที่ out of control หรือ ปัจจัยภายนอกเยอะเกินไป ยิ่งเอาปัญหาไปเล่าให้แฟนฟัง แฟนเราไม่เครียดตายตามกันเลยหรอ
6. แค่ผมต้อง handle ปัญหาแล้วคิดแผนเตรียมความพร้อม ผมก็แทบจะไม่เหลือเวลาใช้ชีวิตอะไรเลิศเลอสวยงาม ใช้เงินได้สบายตัวขนาดนั้นครับ ทุกอย่างต้องอยู่ในการควบคุม ไม่เคยได้รับความรู้สึกว่าชิวแล้วขนาดนั้น เพราะผมรู้ว่าตัวปัญหาอยู่ที่ใคร ที่ไม่ใช่ตัวเรา
7. แล้วก็ยังบอกให้หาเมีย อยากอุ้มลูกอุ้มหลาน ตัวพ่อยังไม่รู้เลยว่า สาเหตุส่วนหนึ่งคือตัวแกเองนั่นแหละ
ประโยชน์ที่ได้รับ มันทำให้เรารู้ว่า ครอบครัวนั้นสร้างยากและต้องระวังให้ดีกว่าเดิมเพื่อรักษามันไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1. ถ้าเราจะมีแฟน แล้วแฟนเราต้องมาเจอสตอรี่แบบนี้ เป็นบางคนคงไม่เอาด้วย เป็นผู้หญิงนี่อาจจะตั้งกระทู้แล้วนะตอนใกล้แต่ง เขาคงมั่นใจที่ความสามารถตัวเรา แต่เขาคงไม่มั่นใจพ่อตาแม่ยาย แล้วมันจะทำให้เรามีแฟนง่ายยังไงก่อน
เรามองมันเป็นปัญหา พยายามหาทางแก้ไขเสมอ เราเลยจะไม่เอาปัญหาของฝั่งเรา เข้ามายุ่งเกี่ยวกับครอบครัวของเราที่จะคิดสร้างเด็ดขาด เราจะทำทุกทางให้เรา มีแค่ตัวเราคนเดียว แล้วโฟกัสแค่คน 2 คนคบหากันกับลูก 1 คนก็พอ แฟนจะได้ไม่ต้องคิดหรือกังวลพ่อแม่เรา
แฟนที่เข้ามา ก็ต้องมีสภาพชีวิตเช่นเดียวกับเรานั่นแหละ ถ้าเขาเอาปัญหาเข้ามาในชีวิตด้วยหละก็ นึกสภาพ 2 พ่อตาแม่ยายของ 2 บ้านรวมพลังเอาปัญหามายัดแบบนี้ บอกเลย "บ้านแตกชัว!! หาเงินแทบไม่ทันใช้" หรือ ไม่ต้องมีแฟนไปสะเลยยังดีกว่าเพื่อความสบายใจ
2. ความรักไม่ใช่แค่เรื่อง 2 คนหรอก ขี้ฮกเบเบ๋ มันมีแค่คนบ้านรวยเหลือแล้วเท่านั้นแหละที่ปล่อยให้ลูกเลือกเอง เพราะยังไงการแต่งงานมันก็คือการรวมครอบครัว ปัญหาพ่อแม่แฟนก็คือปัญหาของเรา ปัญหาของเราก็อาจจะเป็นปัญหาของแฟน
3. มันแทบจะมาคอนเฟริมด้วยซ้ำว่า คนธรรมดาไม่มีทางอยู่กับเราได้ ผู้หญิงต้องเก่งในการแก้ปัญหาได้ดีพอตัวเลย แล้วอาจจะรวมถึงการคิดเหมือนกันช่วยกันแก้ปัญหาอื่นด้วย
ม
บทเรียนที่สำคัญ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้การมีครอบครัวที่เข้าใจถึงปัญหา การให้ความสำคัญกับการเกษียณ การมีเงินทุน มีลูกเมื่อพร้อม แล้วตามตามแนวคิดใหม่ทัน มันมีผลต่ออนาคตลูกแบบโคตรเยอะ ไม่แปลกใจเลย ทำไมชนชั้นกลางเขาถึงเกษียณได้ ลูกหลานคือทำงานไม่เยอะก็มีรายได้เพิ่ม สะสมทุนจนรวย
ถ้าเป็นคนปกติคงไม่สามารถจัดการปัญหาได้ง่าย สำหรับผมปัญหานี้ยังอยู่ในสิ่งที่เรา คาดคะเนไว้แล้วว่าต้องเกิด control ได้อยู่ครับ แต่คงไม่มีอะไรสงบสุขแล้วหละครับ ชีวิตหลัง 30
เพราะครอบครัวเรามันไม่ใช่แบบนั้นเลย มันคนละทัศนคติเลย แล้วขวางแนวคิดเรา ขวางอนาคตไปหมดทุกอย่าง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราตัดสินใจ ออกจากบ้านมาใช้ชีวิตคนเดียวเสมอ ไม่คิดจะกลับไปหาครอบครัว
ปีนี้ปีเดียว ก็มีปัญหาเรื่องเงิน หลักแสนมาให้คิดถึง 2 เรื่องแล้วรวมกัน ปลายปีคือ 150K จะต้องลอยออกบัญชีไปแน่นอนแล้วครับ 100K ปิดคอนโดก่อน 25K ใช้บุญคุณ 25K ให้พ่อแม่ ไหนหละจร๊ะเงินเติมความสุขให้ตัวเองผมใช้มากไม่ได้หรอก
ปล.มีอะไรก็แชร์กันปรึกษากันได้ครับ เพื่อผมมีมุขเด็ด มานำเสนอในการแก้ไขปัญหา
มาเล่าให้ฟัง ครอบครัวนั้น มีส่วนสำคัญกับอนาคต โคตร!!
คนโสดก็ฟังได้ครับ เพราะชีวิตคนโสดมักเจอเหตุการ์ณแบบนี้เป็นเรื่องปกติเลยมั้งในสังคมไทย ทำให้บางคนไม่กล้ามีแฟนหรือแต่งงาน
สิ่งที่เรียกว่า พ่อ-แม่ ในบางครั้งก็ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ใจเราจะทำ แทบจะเป็นปัญหาของสังคมไทยเลย บ้านดีพ่อแม่ดีก็เหมือนถูกหวย แล้วเป็นปัญหาที่แก้ยากพูดยากสะด้วย
เรากับพ่อ-แม่แยกกันอยู่ถาวรมากว่าจะ 20 ปีแล้ว ตั้งแต่ประถม คนละประเทศเจอกันน้อยมาก ไม่อิน "ครอบครัว" เป็นทุนตั้งต้น "เราตัวคนเดียวตั้งแต่อายุน้อยมาก" ไม่มีความรู้สึกใดเลยสักมิลลิกรัมหนึ่ง เหมือนที่หลายคนพูดอะครับว่า การมีพ่อแม่ มันจะแบบว่า ใจฟู คือ มันไม่มี ไม่ใช่เลย
1 ปีคุยกันแค่ 2-3 ครั้ง โทรคุยกี่ครั้ง สิ่งที่คุยทุกครั้ง เหมือนละครฟ้ามีตานั่นแหละ เรื่องเงินทุกครั้ง สิ้นปีประโยคเดิม โอนเงินให้ละเอาไปใช้กินเลี้ยงปีใหม่นะ
ปัญหาคือ
อายุพ่อ ก็ 63 แล้ว แต่ยังมีหาทำงานหาเงินลงทุนอยู่ เพราะเขาเกษียณไม่ทันครับ แล้วตอนนี้อยากได้รถยนต์ราคา 1.5-1.7 ล้านบาท พวกสายผู้รับเหมา งานที่ทำก็เพื่อหาเงินเกษียณ พยายามหาทางนั่นนู่นนี่แบบให้รอดแต่ตัวเองแก่แล้ว
แล้วเขามองว่ามันคุ้ม เหมาะกับเขาด้วยคงไม่เอาคันอื่น หรือ ไม่ซื้อเลยถ้าไม่ได้รุ่นนี้ เครื่องยนต์ห้ามต่ำกว่า 2000 เพราะต้องวิ่งด้วยความเร็วสูง ต่อเนื่องหลายวัน ฟิลลิ่งแบบผู้รับเหมาวิ่งงานยันแก่ 4W ยกสูง ฟอจูนเนอร์เขาจะชอบมาก
พ่อมีเงินสดแต่มันแค่ 7-8 แสน มันไม่พอจะซื้อเงินสด จะยืมเราเพิ่มทำให้ดาวน์ได้หนา จะได้ดอกเบี้ยน้อยซึ่ง เขามีความรู้แค่นี้ แต่เขาไม่คำนึงถึงอะไรเท่าไหร่ว่าใครจะลำบากขนาดไหน
มีเงินจะส่งผ่อนเราคืนคิดดอกเบี้ยให้เราด้วยซึ่ง เรามองว่ามันไม่คุ้มค่าสำหรับเราหรอกครับ เราให้ยืมเราก็ไร้อนาคตไปอีกพักใหญ่เรื่องหาแฟนหรือหาเมียฝันไปเลย เราก็ต้องทำงานปั่นเงินเหมือน ATM วนไปแบบนี้เมื่อไหร่จะจบ จนกว่าพ่อแม่จะเกษียณได้หรอ อยู่ทำงานไปจนกว่าจะหาเงินก้อนใหญ่สร้างอนาคตได้
แล้วเราไม่อยากเชื่อด้วยซ้ำว่าเขาจะผ่อนไหว งานที่ทำและเงินที่ได้มันก็พอคุ้มค่าทำให้ตั้งตัวได้ขนาดไหน แต่เขาก็ยังเกษียณหรือซื้อเงินสดไม่ได้เลย ยังไงก็เสี่ยงในสายตาเราครับ มันไม่แน่นอนหรอกว่าจะผ่อนรถหมด ถึงผ่อนหมดก็ 70 แหกทุกคอนเซ็บของนักลงทุนเพื่อการเกษียณ
เราเลยไม่เชื่อแล้วรู้สึกกว่ามันน่าจะโกหก แล้วยังมีภาระอื่นอีก
เรามีน้องสาว นะแต่!! น้องสาวเป็นภาระครอบครัวอีก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนของปัญหาของพ่อจะ เอาไงดีนะ
เราเลยนึกถึงมุขหนึ่งขึ้นมา บางครั้งเราก็ต้องเป็นคนโกหก คิดไม่ถึง 5 นาทีหลังจากรับสายมุขนี้แทบจะมาทันที
เลยบอกเขาไปว่าเราไม่มีเงิน มีแค่ 2 แสนแค่นั้นให้คือหมด เอาเงินไปโปะคอนโดหมดแล้ว ปลายปีก็ต้องส่งเงินให้คนที่ ช่วยเหลือซัพพอร์ทเรายามเด็กอีกตอบแทนบุญคุณ ก็เงินไม่ต่ำกว่า 2-3แสนในปีนี้ 2566 (1 แสนคือขั้นต่ำสำหรับเรา เพราะติดหนี้ต้องรีบปิดลดดอกเบี้ย)
แต่ในความเป็นจริง มี 6 แสน แต่มันเป็นทั้ง เงินฉุกเฉิน เงินดาวน์บ้านเพื่ออนาคต เงินเกษียณเราด้วย มันไม่ใช่เงินที่จะยืมกันง่าย ถ้ายืมไปเราขาดเงิน เราตาย เราตกงาน คือ จบเลย เราเลยดองเงินมากขึ้นให้ชีวิตตกงานได้หลายปีมากขึ้น รับความเสี่ยงได้มากขึ้น ได้ปันผลให้มันงอกงามบ้าง ได้ปิดหนี้ด้วย
ไม่ใช่เข้า-ออก เข้า-ออก จนดอกเบี้ยไม่ได้สักบาทแบบนี้ นี่แหละครับ เงินเย็น เงินฉุกเฉิน ต้องแบ่งให้เป็น
แล้วบอกไปว่า ไอ้แผนจะผ่อนบ้านอยู่ปล่อยเช่าคอนโด วันนี้ก็ไม่ทำแล้วนะ แบกภาระไม่ไหว ดอกเบี้ยแพงเกินไป แพงกกว่ารถอีก เราก็โน้มน้าวเขาด้วยข้อมูล ชีวิตที่ต้องเสียดอกเบี้ยที่แพงกว่ารถยนต์ว่า มันเยอะมากกว่าจะจบด้วยการ ไม่ยืมแล้วหาทางออกเองก็ได้
เฮ้อ โคตรเหนื่อย ถึงจะโน้มน้าวได้ แต่สุดท้ายเราก็ต้องมาหาแผนรับมือ ให้คิดอีกว่า แล้วถ้าเขาผ่อนไม่ไหวเราต้องผ่อนแทนไหมเนี้ย เพิ่ออะไรก๊อน!!
ซึ่งถ้าเราไม่เจรจาโน้มน้าวเลย เป็นเราในอีก what if จะเกิดอะไรขึ้นหละ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ช่วง 25-29 เราจ่ายไปแล้วหลายอย่างเป็นเวลาเป็นความทุกข์ใจแทนเงิน เพื่ออนาคต พยายามหลายอย่างเพื่อหารายได้เพิ่มให้มันมากพอที่จะ อุดทุกปัญหาให้ได้ดีที่สุด แล้วเราก็รอดด้วย พยายายาม speed up มาแทบตาย
มาตกม้าตายเพราะเจออะไรแบบนี้ นิ่งได้ไปอีกหลายปี นี่แหละครับ "บทเรียนที่ดีที่สุดมักใกล้ตัวเสมอ" แล้วเราเหมือนโดน challenge อะไรแบบนี้ตลอดเวลาจนเราต้องเหลือ ตัวคนเดียว คือสิ่งที่ถูกกต้องที่สุดที่พระเจ้าคงอยากบอกแบบนั้น
ปัญหาอื่น มันเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ น่าอึดอัดมาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ประโยชน์ที่ได้รับ มันทำให้เรารู้ว่า ครอบครัวนั้นสร้างยากและต้องระวังให้ดีกว่าเดิมเพื่อรักษามันไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บทเรียนที่สำคัญ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปีนี้ปีเดียว ก็มีปัญหาเรื่องเงิน หลักแสนมาให้คิดถึง 2 เรื่องแล้วรวมกัน ปลายปีคือ 150K จะต้องลอยออกบัญชีไปแน่นอนแล้วครับ 100K ปิดคอนโดก่อน 25K ใช้บุญคุณ 25K ให้พ่อแม่ ไหนหละจร๊ะเงินเติมความสุขให้ตัวเองผมใช้มากไม่ได้หรอก
ปล.มีอะไรก็แชร์กันปรึกษากันได้ครับ เพื่อผมมีมุขเด็ด มานำเสนอในการแก้ไขปัญหา