สวัสดีค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงของดิฉันเอง ฉันเป็นคนจังหวัดนึงในภาคเหนือ ทางเชื้อสายยายเรามีเชื้อที่เรียกว่าร่างทรง เป็นร่างทรงมาเป็นหลายร้อยปี ตอนนี้คุณทวดเราอายุร้อยกว่าปีแล้วก็สืบให้ลูกๆต่อกันมา ซึ่งคุณทวดมีลูก3คน รับเชื้อ2คนส่วนยายเรานั้นไม่รับเชื้อเนื่องจากมาอยู่กับคุณตาเราอีกจังหวัดบ้านเราเลยมีความเชื่อเรื่องนี้พอสมควร ตอนเด็กเราป่วยบ่อยมากๆปวดท้อง ปวดหัว ไข้ ไม่หายนอนโรงพยาบาบเป็นเดือนๆ คุณป้าเราพาไปหาร่างทรง ตอนนั้นเราอายุ13ปีได้ ร่างทรงท่านทักเพราะว่าจิตใจเรามีความอยากบวชทำให้วิญญาณรอมาขอส่วนบุญ รอเราบวช ทำให้ป่วยบ่อย ซึ่งเราสารภาพจากใจว่าเราอยากบวชจริงๆ เราถึงตกใจที่ท่านทักแบบนี้ แต่ยายเราไม่เชื่อว่าเราอยากบวชแต่ก็ทำตามที่ร่างทรงบอก เราไปบวชที่วัดป่าแห่งนึงซึ่งบ้านเราไม่มีใครเคยบวชเลยไม่รู้สถานที่ ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก เพราะท่านทำงานที่กทม. จะปิดเทอมท่านจะมารับลงไปเที่ยว พอเรื่องนี้ที่ร่างทรงทักพ่อกับแม่ก็รีบขึ้นมาดู แม่เลยหยุดงานบวชเป็นเพื่อนเรา 7วัน เราเข้าไปในวัดป่าแต่ไม่เจอใครเลยแม้แต่พระสักองค์ เจอผู้หญิงวัยกลางคน2คน เหมือนท่านจะนั่งสมาธิและดูแลที่นี่ ผู้ใหญ่ก็เข้าไปถามเรื่องขอบวช ท่านก็แนะนำ บวชกับท่านที่ป่าช้า หลังวัดป่า ปัดกวาดดูแลพระพุทธรูปต่างๆ กางเต็นท์นอน ซึ่งเราก็ตกลง ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีจนวันสุดท้ายที่ญาติมารับ เราก็ลาท่านเรียบร้อย ตอนออกมาจากป่าช้าแม่เราเลยไปหาซื้อกระเช้าผลไม้มาขอบคุณท่าน แต่เชื่อมั้ยคะพอกลับเข้าไปที่ป่าช้าเรารู้สึกไม่เหมือนเดิม มันวังเวง ไม่มีคน เราเดินหาท่านสักพักก็ไม่เจอ สถานที่ที่เรานอนก็หาไม่เจออาจเป็นเพราะมาผิดทางก็เป็นได้ ตอนออกมาอีกรอบเจอป้าคนนึงแม่เราเลยถามหาท่านแต่ป้าทำหน้างงๆบอกว่าที่นี่ไม่มีผู้หญิงลักษณะที่เราเอ่ยถึง ที่นี่ไม่มีคนมีแค่ป้า แม่กับเราก็ต่างตกใจนะคะแต่ก็ฝากกระเช้าไว้ถ้าเจอฝากให้ท่านถ้าไม่เจอป้าเอาไว้กินเลย ออกจากป่าช้าอีกรอบเรากับแม่ก็ยกมือไหว้ป่าช้า ขึ้นรถมาก็ไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเลย และเราก็ลืมมันไปสนิท
ปิดเทอม คุณพ่อคุณแม่มารับเราไปเที่ยวทุกครั้ง. เรามักจะเดินทางกันในตอนดึก 8-9ชม.ถึงเช้าพอดี ทุกครั้งเวลาขึ้นรถพ่อและแม่จะพูดเสมอว่าเจออะไรห้ามทัก และมักจะปิดตาเราด้วยตลอดจนหลับ พอโตขึ้นจบม.3 ก็ได้ย้ายลงมาเรียนที่กทม. ตอนนั้นดิฉันน่าจะอายุราวๆ16ปี ใช้ชีวิตปกติ เลิกเรียนกลับบ้านทันที ไม่เคยกลับบ้านเกิน1ทุ่ม วันหยุดดิฉันจะชอบไปดูหนัง หรือตอนดึกก็จะชอบดูหนังผี อ่านเรื่องผี ฟังเรื่องผี มนต์ดำ โลกคู่ขนาน ครบทุกเรื่องจริงๆที่ฮิต ดูจบก็นอนไม่ได้ตกใจหรือกลัวเลยสักครั้ง จนดิฉันขึ้น ปวช.ปี3 เริ่มมีวิชาที่จะต้องเลิกค่ำดึกถึง3-4ทุ่ม ซึ่งเป็นครั้งแรก และมีแผนกเราแผนกเดียว ห้องเดียว เลิกเรียนคุณพ่อมารอรับที่หน้าโรงเรียน แต่ด้วยความที่ตึกของเราอยู่ในสุดของโรงเรียน ซึ่งมืด ดึก และแทบไม่มีเสียง ทุกคนก็พากันเปิดแฟลชมือถือรีบเดินออกไปหน้าโรงเรียน แต่เพื่อนเราดันปวดฉี่เลยแวะห้องน้ำ อยู่กัน3คน พอออกจากห้องน้ำเพื่อนในห้องก็ออกไปกันหมดแล้ว ก็รีบเดินไป แต่ต้องผ่านตึกอื่นๆ3ตึก เราก็เดินกันในโถงทางเดิน สายตาเราเหลือบขึ้นไปบนตึกเห็นผู้ชายนั่งห้อยขาลงมาจากบนตึก เราก็กรี๊ดเพื่อนก็หันมามองถามว่าเป็นอะไร ทีนี้เหมือนเราช็อคนิ่งไปเพื่อนเลยจับมือเราพากันวิ่งออกมาถึงหน้าประตูโรงเรียน เราตกใจไม่หาย แต่รีบขึ้นรถกลับบ้านก่อน ระหว่างทางกลับก็ไม่มองข้างทางเลย เช้าวันต่อมาก็ไปเรียนปกติตอนเช้าก็แอบเหลือบไปมองที่เราเห็น แต่ผ่านตึกนี้ทีไรเราจะรีบเดินทุกที พึ่งสัมผัสกับความกลัวผีก็วันนั้น จากนั้นเพื่อนก็ถามเรื่องที่เกิดขึ้นเราเลยเล่าให้ฟัง เพื่อนที่อยู่มาก่อนไม่แปลกใจเพราะตึกนั้นมีผู้ชายตายจริงๆ และเรื่องผีอื่นๆในวิทยาลัยที่พากันออกมาเล่า ซึ่งเราก็รับฟังและก็บอกตรงๆว่ากลัว จากนี้คือของจริงที่ทำให้เราเห็นผีบ่อยยิ่งขึ้น วันนั้นเราเดินทางไปซื้อของ ด้วยBTS เวลาช่วง11โมง เรารีบวิ่งขึ้นมาแต่ไม่ทันขบวนนั้นเลยได้ยืนรออีกขบวน เราก็ก้มหน้าดูมือถือแต่รู้สึกว่ามีคนจ้องมองอยู่ เลยเงยหน้าขึ้น ด้านหน้าเราจะเป็นรางรถและประตูกั้นซึ่งเป็นกระจกใส เราก็เห็นผู้หญิงคนนึงจ้องเราตาไม่กระพริบ เราก็ก้มหน้าต่อ แต่เขาไม่หยุดมอง เราเลยหันไปจะดูว่ามองอะไรนักหนา แต่ปรากฎว่าด้านหลังเราไม่มีใครเลยสักคน เป็นบันไดเดินขึ้น ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนยืนอยู่บนนั้นเพราะต่ำจากที่เราอยู่มาก หลังเราพิงกับราว ทีนี้ก็ใจสั่นหันซ้ายขวายังมีคนมารอรถห่างออกไป2-3คน เราเลยตัดสินใจกลับบ้านทันทีไม่ไปซื้อของ และเล่าให้พ่อแม่ฟังด้วยอาการที่ตกใจมาก พ่อและแม่เราก็ปลอบกอดเรา ว่าไม่มีอะไรเราอาจจะแค่เหนื่อย บังเอิญเย็นวันนั้นแม่และพ่อจะไปหาเพื่อนแถวพระราม2 จะให้เราไปด้วยเพราะเรายังกลัวอยู่แต่เราก็ไม่ได้อยากไป แม่ก็บอกไปนอนในรถก็ได้กินข้าวนอกบ้านกัน เราก็แต่งตัวไป ขาไปไม่ได้มีอะไรผิดปกติเลยเรานอนตลอดทาง(นอนเบาะหลังคนเดียว)(เดินทางด้วยรถยนต์) ขากลับเราก็นอนมองเพดานรถ ฟังพ่อแม่คุยกัน จนเราหิวน้ำเลยลุกขึ้นมาจะกินน้ำ ตอนเราลุกขึ้นหน้าเราจะหันออกทางหน้ารถพอดี ตอนนั้นอยู่บนทางด่วน เราสบตากับผู้ชายคนนึงค่อนข้างมีอายุ ผอม ตัวดำ นั่งอยู่ท้ายกระบะรถคันหน้า จ้องเรา จังหวัดนั้นพ่อเราแซงรถคันนั้นพอดี สายตาเราและเขายังจ้องกันอยู่จนพ่อแซงเราก็มองตามผู้ชายคนนั้น พอรถมาข้างๆผู้ชายคนนั้นหายไป หลังกระบะไม่มีใครเลย ไม่มีเลย เราตกใจมากเลยรีบถามแม่ว่ากล้องหน้ารถเราดูได้ไหม แม่บอกว่าได้ มีอะไร เดี๋ยวถึงบ้านแม่ให้พ่อเปิดให้นะใจเย็นๆนอนก่อน แม่ก็มานั่งด้านหลังกอดเรา เราก็ดูเวลา 19:19 เราให้แม่ช่วยจำเวลา พอถึงบ้านเรารีบให้พ่อดูกล้องทันที ตอนนั้นเวลาประมาณ2ทุ่ม20เราเล่าให้แม่ฟังว่าเราเจออะไร ทุกคนเชื่อมั้ยคะกล้องหน้ารถเวลา19:00-20:00 หายหมดเลย ไม่มี เหมือนเมมเมอรี่เต็ม พ่อแม่ก็มองหน้ากันบอกว่าเดี๋ยวเราไปทำบุญให้เขาเอานะลูก เพราะเราเห็น2วันติด ทั้งBTSทั้งบนทางด่วน แม่ก็สั่งห้ามดูเรื่องผีอีกเลย บล็อคหมด กลัวว่าบางทีดูเยอะอาจจะประสาทหลอน+เหนื่อย ทำให้จิตตก ช่วงนั้นปิดเทอมพอดีเราก็มีโอกาสได้กลับต่างจังหวัด คุณยายพาไปหาพระปู่แถวบ้านพระปู่บอกว่าเขาแค่มาให้เห็น ดวงเราตก ซึ่งช่วงนั้นเดือนสิงหา เราเกิดวันที่28 เดือน8 อายุ18 ผ่านปีนี้ไปจะดีขึ้น เราก็ไม่เข้าใจแต่ก็ทำตามที่ท่านบอก จากนั้นมาเราก็ไม่เห็นผีอีกเลย ไม่ฟังเรื่องผี ไม่ดูเรื่องผี จนช่วงกลางปีที่ผ่านมา ตอนนี้เราอายุ21 มีแฟนแล้วนะคะหลังกลับจากทำงานไปทานข้าวข้างนอกตอนนั้นช่วง5ทุ่มกว่า ผ่านแยกนึงแยกไฟแดงเราไม่เคยไปนะคะแฟนก็ขับ เราเห็นผู้หญิงยืนอยู่ตรงเสาไฟกลางแยก ด้วยความปากไวเลยพูดว่าดึกแล้วมายืนทำอะไรคนเดียว ทีนี้แฟนก็บอกให้เงียบก่อน ระหว่างทางห้ามทักอีก เราเลยตกใจนึกขึ้นได้ว่าดึกแล้วคงไม่ใช่คน ทีนี้ก็เลยหลับตาหลับเลยค่ะเปิดเพลงดังๆจนถึงห้อง แฟนก็บอกแยกนี้ชนตายบ่อยวันหลังห้ามทัก เราก็โอเคไม่ทัก ซึ่งก็ยังงงๆอยู่ว่าเห็นอีกแล้วหรอไม่เห็นมาตั้งสองปี จากนั้นก็ใช้ชีวิตปกติลืมเรื่องที่เกิดขึ้นไป ช่วงไม่กี่เดือนก่อนเราไปปาร์ตี้กับที่ทำงานและแฟนด้วย ก็มีดื่มLกฮ.นิดหน่อย กลับประมาณตี1-2 พี่ที่ทำงานขอกลับด้วย1คน เราก็ให้นั่งหน้ากับแฟนเรา เราก็นั่งหลัง เงียบตลอดทางเพราะเมาๆแต่ไม่มาก แฟนก็ขับไปทางที่เราไม่คุ้นชิน ขับช้านะคะ เราก็เห็นผู้ชายคนนึงสภาพเหมือนพึ่งเลิกงานโบกรถเรา โบกแบบจริงจังเหมือนขอความช่วยเหลือ เราเลยพูดขึ้นมาว่าดึกแล้วเขาขอติดรถไปด้วยแน่เลย มันไม่มีรถผ่านเลย แฟนเรากับพี่ที่ทำงานก็เงียบ บอกเราว่ามันไม่มีใครเลยเธอ เงียบก่อนใกล้ถึงบ้านแล้ว แต่ภาพมันติดตาเรามากเหมือนคนมากๆ แต่พี่ๆไม่มีใครเห็นเลย กลับถึงห้องเราเลยเล่าให้แฟนฟัง ตั้งแต่ที่เห็นครั้งก่อน เขาก็พยักหน้าฟัง แต่เรื่องแบบนี้ใครไม่เจอไม่เห็นกับตัวไม่รู้จริงๆ เรากลายเป็นคนกลัวหนังผีหรือฟังเสียง จากที่เคยชอบมากๆ แต่ทุกครั้งที่เราเห็นก็แค่เห็นไม่ได้หน้าตาเละเทะหรืออะไรเลย แต่ขอจากนี้อย่าได้เห็นอีกเลยนะ ต่างคนต่างอยู่เถอะ เรื่องแปลกที่เกิดขึ้นในชีวิตบางทีเราอาจจะแค่ประสาทหลอนก็เป็นได้
ชอบเรื่องผี จนเห็นผี และกลายเป็นคนกลัวผีไปเลย
ปิดเทอม คุณพ่อคุณแม่มารับเราไปเที่ยวทุกครั้ง. เรามักจะเดินทางกันในตอนดึก 8-9ชม.ถึงเช้าพอดี ทุกครั้งเวลาขึ้นรถพ่อและแม่จะพูดเสมอว่าเจออะไรห้ามทัก และมักจะปิดตาเราด้วยตลอดจนหลับ พอโตขึ้นจบม.3 ก็ได้ย้ายลงมาเรียนที่กทม. ตอนนั้นดิฉันน่าจะอายุราวๆ16ปี ใช้ชีวิตปกติ เลิกเรียนกลับบ้านทันที ไม่เคยกลับบ้านเกิน1ทุ่ม วันหยุดดิฉันจะชอบไปดูหนัง หรือตอนดึกก็จะชอบดูหนังผี อ่านเรื่องผี ฟังเรื่องผี มนต์ดำ โลกคู่ขนาน ครบทุกเรื่องจริงๆที่ฮิต ดูจบก็นอนไม่ได้ตกใจหรือกลัวเลยสักครั้ง จนดิฉันขึ้น ปวช.ปี3 เริ่มมีวิชาที่จะต้องเลิกค่ำดึกถึง3-4ทุ่ม ซึ่งเป็นครั้งแรก และมีแผนกเราแผนกเดียว ห้องเดียว เลิกเรียนคุณพ่อมารอรับที่หน้าโรงเรียน แต่ด้วยความที่ตึกของเราอยู่ในสุดของโรงเรียน ซึ่งมืด ดึก และแทบไม่มีเสียง ทุกคนก็พากันเปิดแฟลชมือถือรีบเดินออกไปหน้าโรงเรียน แต่เพื่อนเราดันปวดฉี่เลยแวะห้องน้ำ อยู่กัน3คน พอออกจากห้องน้ำเพื่อนในห้องก็ออกไปกันหมดแล้ว ก็รีบเดินไป แต่ต้องผ่านตึกอื่นๆ3ตึก เราก็เดินกันในโถงทางเดิน สายตาเราเหลือบขึ้นไปบนตึกเห็นผู้ชายนั่งห้อยขาลงมาจากบนตึก เราก็กรี๊ดเพื่อนก็หันมามองถามว่าเป็นอะไร ทีนี้เหมือนเราช็อคนิ่งไปเพื่อนเลยจับมือเราพากันวิ่งออกมาถึงหน้าประตูโรงเรียน เราตกใจไม่หาย แต่รีบขึ้นรถกลับบ้านก่อน ระหว่างทางกลับก็ไม่มองข้างทางเลย เช้าวันต่อมาก็ไปเรียนปกติตอนเช้าก็แอบเหลือบไปมองที่เราเห็น แต่ผ่านตึกนี้ทีไรเราจะรีบเดินทุกที พึ่งสัมผัสกับความกลัวผีก็วันนั้น จากนั้นเพื่อนก็ถามเรื่องที่เกิดขึ้นเราเลยเล่าให้ฟัง เพื่อนที่อยู่มาก่อนไม่แปลกใจเพราะตึกนั้นมีผู้ชายตายจริงๆ และเรื่องผีอื่นๆในวิทยาลัยที่พากันออกมาเล่า ซึ่งเราก็รับฟังและก็บอกตรงๆว่ากลัว จากนี้คือของจริงที่ทำให้เราเห็นผีบ่อยยิ่งขึ้น วันนั้นเราเดินทางไปซื้อของ ด้วยBTS เวลาช่วง11โมง เรารีบวิ่งขึ้นมาแต่ไม่ทันขบวนนั้นเลยได้ยืนรออีกขบวน เราก็ก้มหน้าดูมือถือแต่รู้สึกว่ามีคนจ้องมองอยู่ เลยเงยหน้าขึ้น ด้านหน้าเราจะเป็นรางรถและประตูกั้นซึ่งเป็นกระจกใส เราก็เห็นผู้หญิงคนนึงจ้องเราตาไม่กระพริบ เราก็ก้มหน้าต่อ แต่เขาไม่หยุดมอง เราเลยหันไปจะดูว่ามองอะไรนักหนา แต่ปรากฎว่าด้านหลังเราไม่มีใครเลยสักคน เป็นบันไดเดินขึ้น ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนยืนอยู่บนนั้นเพราะต่ำจากที่เราอยู่มาก หลังเราพิงกับราว ทีนี้ก็ใจสั่นหันซ้ายขวายังมีคนมารอรถห่างออกไป2-3คน เราเลยตัดสินใจกลับบ้านทันทีไม่ไปซื้อของ และเล่าให้พ่อแม่ฟังด้วยอาการที่ตกใจมาก พ่อและแม่เราก็ปลอบกอดเรา ว่าไม่มีอะไรเราอาจจะแค่เหนื่อย บังเอิญเย็นวันนั้นแม่และพ่อจะไปหาเพื่อนแถวพระราม2 จะให้เราไปด้วยเพราะเรายังกลัวอยู่แต่เราก็ไม่ได้อยากไป แม่ก็บอกไปนอนในรถก็ได้กินข้าวนอกบ้านกัน เราก็แต่งตัวไป ขาไปไม่ได้มีอะไรผิดปกติเลยเรานอนตลอดทาง(นอนเบาะหลังคนเดียว)(เดินทางด้วยรถยนต์) ขากลับเราก็นอนมองเพดานรถ ฟังพ่อแม่คุยกัน จนเราหิวน้ำเลยลุกขึ้นมาจะกินน้ำ ตอนเราลุกขึ้นหน้าเราจะหันออกทางหน้ารถพอดี ตอนนั้นอยู่บนทางด่วน เราสบตากับผู้ชายคนนึงค่อนข้างมีอายุ ผอม ตัวดำ นั่งอยู่ท้ายกระบะรถคันหน้า จ้องเรา จังหวัดนั้นพ่อเราแซงรถคันนั้นพอดี สายตาเราและเขายังจ้องกันอยู่จนพ่อแซงเราก็มองตามผู้ชายคนนั้น พอรถมาข้างๆผู้ชายคนนั้นหายไป หลังกระบะไม่มีใครเลย ไม่มีเลย เราตกใจมากเลยรีบถามแม่ว่ากล้องหน้ารถเราดูได้ไหม แม่บอกว่าได้ มีอะไร เดี๋ยวถึงบ้านแม่ให้พ่อเปิดให้นะใจเย็นๆนอนก่อน แม่ก็มานั่งด้านหลังกอดเรา เราก็ดูเวลา 19:19 เราให้แม่ช่วยจำเวลา พอถึงบ้านเรารีบให้พ่อดูกล้องทันที ตอนนั้นเวลาประมาณ2ทุ่ม20เราเล่าให้แม่ฟังว่าเราเจออะไร ทุกคนเชื่อมั้ยคะกล้องหน้ารถเวลา19:00-20:00 หายหมดเลย ไม่มี เหมือนเมมเมอรี่เต็ม พ่อแม่ก็มองหน้ากันบอกว่าเดี๋ยวเราไปทำบุญให้เขาเอานะลูก เพราะเราเห็น2วันติด ทั้งBTSทั้งบนทางด่วน แม่ก็สั่งห้ามดูเรื่องผีอีกเลย บล็อคหมด กลัวว่าบางทีดูเยอะอาจจะประสาทหลอน+เหนื่อย ทำให้จิตตก ช่วงนั้นปิดเทอมพอดีเราก็มีโอกาสได้กลับต่างจังหวัด คุณยายพาไปหาพระปู่แถวบ้านพระปู่บอกว่าเขาแค่มาให้เห็น ดวงเราตก ซึ่งช่วงนั้นเดือนสิงหา เราเกิดวันที่28 เดือน8 อายุ18 ผ่านปีนี้ไปจะดีขึ้น เราก็ไม่เข้าใจแต่ก็ทำตามที่ท่านบอก จากนั้นมาเราก็ไม่เห็นผีอีกเลย ไม่ฟังเรื่องผี ไม่ดูเรื่องผี จนช่วงกลางปีที่ผ่านมา ตอนนี้เราอายุ21 มีแฟนแล้วนะคะหลังกลับจากทำงานไปทานข้าวข้างนอกตอนนั้นช่วง5ทุ่มกว่า ผ่านแยกนึงแยกไฟแดงเราไม่เคยไปนะคะแฟนก็ขับ เราเห็นผู้หญิงยืนอยู่ตรงเสาไฟกลางแยก ด้วยความปากไวเลยพูดว่าดึกแล้วมายืนทำอะไรคนเดียว ทีนี้แฟนก็บอกให้เงียบก่อน ระหว่างทางห้ามทักอีก เราเลยตกใจนึกขึ้นได้ว่าดึกแล้วคงไม่ใช่คน ทีนี้ก็เลยหลับตาหลับเลยค่ะเปิดเพลงดังๆจนถึงห้อง แฟนก็บอกแยกนี้ชนตายบ่อยวันหลังห้ามทัก เราก็โอเคไม่ทัก ซึ่งก็ยังงงๆอยู่ว่าเห็นอีกแล้วหรอไม่เห็นมาตั้งสองปี จากนั้นก็ใช้ชีวิตปกติลืมเรื่องที่เกิดขึ้นไป ช่วงไม่กี่เดือนก่อนเราไปปาร์ตี้กับที่ทำงานและแฟนด้วย ก็มีดื่มLกฮ.นิดหน่อย กลับประมาณตี1-2 พี่ที่ทำงานขอกลับด้วย1คน เราก็ให้นั่งหน้ากับแฟนเรา เราก็นั่งหลัง เงียบตลอดทางเพราะเมาๆแต่ไม่มาก แฟนก็ขับไปทางที่เราไม่คุ้นชิน ขับช้านะคะ เราก็เห็นผู้ชายคนนึงสภาพเหมือนพึ่งเลิกงานโบกรถเรา โบกแบบจริงจังเหมือนขอความช่วยเหลือ เราเลยพูดขึ้นมาว่าดึกแล้วเขาขอติดรถไปด้วยแน่เลย มันไม่มีรถผ่านเลย แฟนเรากับพี่ที่ทำงานก็เงียบ บอกเราว่ามันไม่มีใครเลยเธอ เงียบก่อนใกล้ถึงบ้านแล้ว แต่ภาพมันติดตาเรามากเหมือนคนมากๆ แต่พี่ๆไม่มีใครเห็นเลย กลับถึงห้องเราเลยเล่าให้แฟนฟัง ตั้งแต่ที่เห็นครั้งก่อน เขาก็พยักหน้าฟัง แต่เรื่องแบบนี้ใครไม่เจอไม่เห็นกับตัวไม่รู้จริงๆ เรากลายเป็นคนกลัวหนังผีหรือฟังเสียง จากที่เคยชอบมากๆ แต่ทุกครั้งที่เราเห็นก็แค่เห็นไม่ได้หน้าตาเละเทะหรืออะไรเลย แต่ขอจากนี้อย่าได้เห็นอีกเลยนะ ต่างคนต่างอยู่เถอะ เรื่องแปลกที่เกิดขึ้นในชีวิตบางทีเราอาจจะแค่ประสาทหลอนก็เป็นได้