ไม่อยากติดกรรม ไม่ต้องแนะนำใครทำแท้ง

คือ..ด้วยหัวข้อ กระทู้ อายุ 14 แล้วท้อง 
บังเอิญจัง เมื่อวาน คิดเล่นๆ อยากตั้งกระทู้ สนทนา เรื่อง พสพ ในวัยรุ่น ก่อนอายุ 15
คือ........ ด้วยเพิ่งรู้เรื่องเพื่อนของเพื่อนลูกสาวอีกที เป็นเพื่อนต่างห้อง ที่เค้าเสียสาวตั้งแต่อายุ 14 

เค้ามาคุยให้เพื่อนฟัง เป็นคนเปิดเผย ไม่ได้แคร์ว่า เพื่อน ผช หรือ ผญ จะรู้ไม่รู้ เรื่องเค้ามีแฟน แล้วไปมีอะไรด้วย คุยเหมือนเป็นเรื่องปกติ
ของการมีแฟน ว่าถ้าจะมีอะไรกัน ก็ไม่ผิด ก็คนเป็นแฟนกัน ไอ้เราก็กลัว ลูกสาวจะรับอิทธิพลความคิดแบบนี้ จากเพื่อนมา

แต่เราก็ได้คุยกับลูกไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วละว่า เรื่อง พสพ มีได้ แต่ต้องมีในวัยวุฒิ และคุณวุฒิ ที่เหมาะสม
แม่ พ่อ ไม่ได้แคร์ ว่าลูกจะต้องแต่งงานก่อนถึงค่อยมี พสพ กับแฟน
เอาเป็นว่า มีได้ แต่ต้องรับผิดชอบผลที่ตามมาได้ 

กฏ 3 ข้อในชีวิตที่เราขอจากลูกทั้ง 2 คน คือ
1. ขอว่า อย่ายุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติด และการพนัน ทุกชนิด
2. ขอว่า อย่าฆ่าตัวตาย
3. ขอว่า อย่าทำแท้ง ถ้าเป็น ผช ก็คือ อย่าพาแฟนไปทำแท้ง 

ขอแค่นี้เลย นอกนั้น อยากทำอะไร ไม่เดือดร้อนตนเอง และผู้อื่น ไม่เบียดเบียนตน ก็ทำเล้ยยยยยยย ใช้ชีวิตให้เต็มที่

เพราะ 3 ข้อที่ขอ คือ เบียดเบียนตนเอง อย่างร้ายแรงที่สุด แม่สู้อุตส่าห์ เลี้ยงดู ฟูมฟัก ให้แต่สิ่งดีๆ แก่ลูก แต่ลูกจะไม่รักตัวเอง
แล้วทำร้ายตัวเอง ด้วย 3 ข้อที่แม่ขอ คือ บาป มากกกกกกกกกก

แบบสอนเรื่องบุญบาป ธรรมะ ศีลธรรม อะไร ก็พูดๆ บอกๆ เล่าๆ ไปตั้งแต่วัยละอ่อนๆ ก่อน 12 นะ พูดๆไป พาไปวัด ยังไปง่าย
แต่พอ มัธยมละ 11-12 ละ ตื่นเช้ายากละ ส-อา ไม่อยากจะตื่น แม่ก็เหนื่อยด้วย ก็เลยไม่ค่อยได้พาไปวัด
ตอนเด็กๆ พาไปวัดให้บ่อยๆ ให้มากที่สุด บ่อยที่สุด เพราะพอโตมา จะไม่ค่อยได้ว่างพาไปละ สงสารลูกด้วยตื่นเช้าไปเรียน ทุกวัน ส-อา
เห็นนอน สบาย ก็ไม่อยากจะปลุก เพราะวัด กับวัยรุ่น มันช่างสวนทางกันซะเหลือเกิน

เข้าเรื่องว่า อายุ 14 ทำไมรีบมี พสพ จัง ข้ามจาก ดญ เป็น นาง เลย ไม่ได้ จะทันได้ใช้ นางสาว อ้าว มีผัวซะละ (ทางพฤตินัย)
ถ้าว่า กันตามกายภาพ มันช่างแสลงใจ
ทำไม ไม่ใช้ชีวิตวัยสาวสะพรั่ง ให้นานหน่อย แค่ไม่กี่ปีเอง 4-5 ปีเอง ที่จะได้เป็นเด็กสาวที่อายุ หลักสิบกว่าๆอ่ะ สาวน้อยแสนบริสุทธิ์ อย่าเพิ่งรีบเสียเลือดพรมจรรย์ เอาไว้ปักตะไคร้ ไล่ฝน สักหน่อยก๊อนนน หายากจริงสมัยนี้

ห่วยยยย เพราะเวบโป้ มันหาดูง่าย มือถือ ก็มีติดมือกันทุกคนตั้งแต่เด็กๆ
สิ่งที่จะป้องกันลูกๆ พวกเราได้ ก็คือการปลูกฝังความคิด ค่านิยม ที่ถูกที่ควร ตั้งแต่น้อยๆ ให้เค้าป้องกันตัวเอง จากสิ่งยั่วยุทั้งหลาย
มากกว่าจะไปหาสังคมดีๆ ที่เราคิดอยากให้ลูกไปอยู่ มันยากส์ กว่าอี๊กกกกกก

เกริ่นมาซะยาว ถ้าใครอ่านจบ ก็ขอบคุณที่คุณขยันอ่าน 5555

แค่จะบอกว่า เรามีความเชื่อส่วนตัว เรื่อง บาปบุญ ศีล 5 ข้อ ที่ควรปฏิบัติให้ได้ ในความเป็นฆราวาส แค่ ข้อ 1 ก็ทำหนักซะแล้ว
ถ้าท้องไม่พร้อม ยิ่งตอนนี้ กฏหมายทางสังคม มีให้ทำแท้งได้ 
มันเลยเป็นเรื่องง่าย ที่คนส่วนใหญ่จะรู้สึกว่า เออ ถ้าไม่พร้อมจะเลี้ยง ก็ทำแท้งดีกว่า ใช่มันดีกว่าแน่นอน ถ้ามองระยะยาว
การเลี้ยงคนๆหนึ่งให้มีคุณภาพทางความคิด และชีวิตที่ดีได้ นั้น ยากส์ มากๆ
แต่เราเคยได้ยิน ได้ฟังมาว่า แม้เราไม่ใช่ผู้ทำแท้งเสียเอง แต่การไปแนะนำใครให้ทำแท้งนั้น เราก็ย่อมติดกรรม เศษกรรม นั้นมาด้วย
เลยจะบอกว่า ถ้ามีกระทู้ แนวๆนี้เราจะระมัดระวังในการให้ความคิดเห็น ซึ่งต้องดู องค์ประกอบหลายๆ อย่างของคนตั้งกระทู้ด้วย

แต่ใดๆ เราจำไม่ได้ว่าเคยตั้งกระทู้ ถามเรื่อง การทำแท้ง ไปในห้องศาสนาหรือป่าว
ว่าคนทำแท้ง(ที่เป็นคนไข้) กับ คนทำแท้งให้ (คุณหมอ)

ใครติดกรรมฆ่าชีวิต กันแน่ หรือ ร่วมกัน ถ้าแบบนั้น คนเป็นหมอ ไม่บาปหนักเหรอ เพราะคนไข้ ฆ่าแค่คนเดียว แต่หมอ ฆ่า หลายคนเลยนะ
ด้วยอาชีพ รู้สึกเห็นใจหมอสูติฯ มากๆเลยในเคสนี้ เราก็ยังไม่ได้บรรลุธรรม อยากรู้จริงๆนะ ไม่รู้จะได้คำตอบที่ถูกต้อง ได้อย่างไร ได้แต่สงสัยๆๆๆ

ไม่ทราบว่า เพื่อนๆ มีความคิดเห็นเรื่องนี้อย่างไร
1. การแนะนำคนไปทำแท้ง
2. หมอ กับ คนไข้ (ทำแท้ง) ใครบาป
3. หมอปฏิเสธ ไม่ทำแท้งให้คนไข้ได้มั้ย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่