สวัสดีค่ะ 

กระทู้นี้พวกเราพาเดินทางไปกับสองแถวม่วนๆ ยกก๊วนไปทัวร์กันที่ขอนแก่น เป็นเวลา4วัน3คืน ที่อำเภอสีชมพู อุทยานแห่งชาติภูเวียงและในเมืองขอนแก่น   

เริ่มต้นเดินทางไปวันที่ 27 ตุลาคม 2566 จากกรุงเทพ-ขอนแก่น 
แพลนการเดินทางในแต่ละวัน
วันที่ 1 กรุงเทพ สนามบินดอนเมือง - ข่อนแก่น
วันที่ 2 ยายตา@home - อุทยานแห่งชาติภูเวียง
วันที่ 3 อำเภอเมืองขอนแก่น
วันที่ 4 เดินทางกลับกรุงเทพ

แพลนกิจกรรมท่องเที่ยวในขอนแก่น
วันที่ 1 ทำกิจกรรมที อ. สีชมพู โดยไกด์นำทาง ( พี่นุ ) จัดแพลนให้
วันที่ 2 ยังอยู่ที่สีชมพูครึ่งวันเช้าเมื่อกิจกรรมครบตามแพลน เดินทางต่อไปที่ อุทยานห่งชาติภูเวียง
วันที่ 3  - กิจกรรมดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าที่ผาชมตะวัน 
- เดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติรอยเท้าและหัวใจไดโนเสาร์ 
- เวิร์คช็อปผ้ามัดย้อมกับคุณยายที่อำเภอ ก่อนเดินทางเข้าเมือง
วันที่ 4 ท่องเที่ยวในตัวเมืองขอนแก่น
- ร้านคาเฟ่ หมู่บ้าน columbo craft village
- เดินทางกลับบ้านโดยรถทัวร์รอบรถ 19.30น.

วันที่ 27 ตุลาคม 2566 
เดินทางไปขอนแก่น ด้วยเครื่องบิน ขึ้นที่สนามบินดอนเมือง เที่ยวบินเวลา 06.05น.
ใช้เวลาบินประมาณ1ชั่วโมงถึงสนามบินขอนแก่น เวลา 07.05น. ตั๋วเครื่องบินคนละ 950บาท
ยานพาหนะ
เดินทางด้วยรถสองแถวที่เรามีการติดต่อจองไว้ล่วงหน้าแล้วในราคาเหมา 3วัน2คืน ราคา3,300 บาท เดินทางไปทั้งหมด 6 คน ตกคนละ 550 บาท 
ที่พัก 
(วันที่ 1) เริ่มเดินทางจากสนามบินไปที่พักคืนแรก ที่ ยายตา@home อ.สีชมพู 
ค่าใช้จ่ายการจองที่พักและไกด์นำเที่ยวรวมค่าอาหารใน อ.สีชมพู  2วัน1คืน รวมทำกิจกรรม ราคาทั้งหมด 10,800 บาท จำนวน 6คน ตกคนละ 1,800 บาท  
(วันที่ 2) วันที่ 28 ตุลาคม 2566 : พักที่อุทยานแห่งชาติภูเวียง ค่าใช้จ่ายในการจองที่พักโดยเลือกเป็นแบบบ้านพักนอนได้ 5-6 คน 2วัน1คืนในราคา 1,500 บาท ไม่รวมค่าเข้าชมและค่ายานพาหนะ ซึ่งค่าเข้าชมในราคานักศึกษารวมยานพาหนะแบบ4ล้อ ทั้งหมดอยู่ที่ 150 บาท จำนวนทั้งหมด7 คน นักศึกษา 6คน คนขับ 1คน
ติดต่อจองที่พักทาง facebook : อุทยานแห่งชาติภูเวียง เบอร์ 043-438333
( โดยทางอุทยานแห่งชาติภูเวียงจะมีที่พักในรูปแบบลานกางเต็นท์ โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนำอาหารขึ้นมาทำทานกันเอง เนื่องจากทางอุทยานไม่มีอาหารให้ แต่จะมีร้านสวัสดิการเล็กๆขายอาหารแห้งกับขนม)

(วันที่ 3) วันที่ 29 ตุลาคม 2566 : เดินทางเข้าตัวเมืองโดยจองโรงแรมผ่าน แอพ agoda จองที่ บีทู ขอนแก่น บูติค แอนด์ บัดเจทโฮเทล ห้องขนาด 3 คน จำนวน 2 ห้อง ราคาห้องละ 690 บาท ตกคนละ 230 บาท 
ยานพาหนะใน อ.เมืองขอนแก่น
การเดินทางในเมืองขอนแก่นด้วยรถโดยสารจาก grab และ maxim ซึ่งราคาขึ้นอยู่กับระยะทาง 
(เพราะในจุดที่พักไม่มีรถโดยสารประจำทางผ่านจึงนิยมใช้บริการเรียกรถผ่านแอพแทน)
วันที่ 30 ตุลาคม 2566 : เดินทางกลับกรุงเทพด้วยรถทัวร์ นครชัยแอร์ ราคาคนละ 443 บาท

สรุปค่าใช้จ่ายตลอดทริป 4 วัน 3 คืน
เดินทางจำนวน 6 คน 
- ค่าที่พักรวมต่อคน อยู่ที่ 2305 บาท
- ค่ายานพาหนะต่อคน อยู่ที่ 1943 บาท
- ค่ารถโดยสาร grab และ maxim ต่อคนประมาณ 125 บาท
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดต่อคน 4373 บาท (ไม่รวมค่ากิน)
วันที่ 1 
เราเริ่มเดินทางกันจากหอพักของเพื่อนเนื่องจากต้องออกเดินทางแต่เช้าไปสนามบินจึงรวมตัวกันก่อนวันเดินทางหนึ่งคืน แล้วก็เดินทางไปสนามบินด้วยรถของผู้ปกครองในกลุ่มไปถึงสนามบินเวลาตี5เพื่อบินรอบ 06.05 นาที เราใช้เวลาในการเดินทางบนเครื่องบิน1ชั่วโมง ถึงวลาประมาณ 07.05 น.
เดินทางจากสนามบินมาที่บ้านพัก ยายตา @ home เวลาประมาณ 11.00น. ด้วยรถสองแถวที่เราเหมาไว้ เข้าเช็คอินที่พักและเตรียมตัวทำกิจกรรมตามแพลนที่ไกด์ทางเพจเที่ยววิถีสีชมพูมีการจัดเตรียมไว้ให้
แพลนทำกิจกรรมที่ ยายตา@home โดยเที่ยววิถีสีชมพู
- ไหว้พระที่วัดถ้ำแสงธรรม : กิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยว พาไปชมวิวบนยอดเขาที่มองเห็นวิวชุมชนสีชมพู
- แวะพักทานอาหารกลางวันที่ บ้านสวนโฮมรัน โดยได้รับการสนับสนุนจากพี่นุไกด์จัดกิจกรรมนี้ ที่ให้เราได้ลองกินอาหารฝีมือชาวบ้านในชุมชน
- พาแวะทุ่งนาของชาวบ้านในชุมชน แนะนำให้ความรู้เรื่องข้าวเล็กน้อย
- เดินทางไปยังน้ำตกเพื่อศึกษาหินสีโดยมีกิจกรรมให้หาหินในลำธารมาฝนเพื่อเรียนรู้สีจากธรรมชาติ ฟังเสียงน้ำไหล
- หลังจากจบกิจกรรมที่น้ำตก พี่นุก็พาไปทำกิจกรรมต่อคือการเล่น stand up board 
- ปิดจบวันด้วยการพาไปกินมื้อเย็น โดยได้รับสนับสนุนจากไกด์ (พี่นุ) พาไปกินหมูกะทะที่การันตีว่าอร่อยที่สุดในขอนแก่น
วันที่ 2 
เช้าวันที่สองของทริปขอนแก่นเราก็ยังอยู่ที่บ้านพักยายตา@home เนื่องจากโปรแกรมการทำกิจกรรมยังไม่หมด ซึ่งตอนเช้าเราก็มีตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น ตอนเวลาตี5 บรรยายตอนเช้าพร้อมหมอกสวยมากก่อนจะไปกินข้าวเช้า โดยโปรแกรมวันนี้คือ
- ตื่นเช้าไปเดินตลาดของชุมชุน 
- ไปกินข้าวเช้าที่ไร่ภัทราวรินทร์ และมีกิจกรรมทำศิลปะจากหินสี
- กิจกรรมที่สองคือนั่งรถอีเเต๊กชมวิวทะเลภูเขารอบชุมชนที่มีแค่คนในชุมชนเท่านั้นที่พาเที่ยวได้
- เช็คเอาท์ออกจากบ้านยายตา@home เวลาประมาน 11.30 น. เดินทางต่อไปที่อุทยานภูเวียงต่อใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง- แวะซื้ออาหารสำหรับทานมื้อเย็นก่อนเข้าอุทยาน 
(โดยในบริเวณอุทยานจะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์)
- หลังจากเก็บสัมภาระต่างๆเสร็จเรียบร้อยก็เริ่มเดินศึกษาตามเส้นทางธรรมชาติ ไปแวะชมน้ำตกตาดฟ้าซึ่งมีเจ้าหน้าที่เดินนำเข้าไปก่อนเนื่องจากตอนที่เราเริ่มเดินก็ค่อนข้างเย็นเเล้วและก็ไม่ชำนาญเส้นทาง เจ้าหน้าที่จึงอาสาพาไปส่งที่จุดชมน้ำตก
- กลับจากน้ำตกก็ทำการอาบน้ำ ทานข้าวมื้อเย็น และพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 3 
หลังจากที่เดินทางออกจากบ้านพักของยายตา@home ช่วง11.00 น. ของวันที่ 2 เราก็เดินทางมาถึงอุทยานช่วง 17.00 น. ก่อนจะเริ่มทำกิจกรรมที่อุทยานแห่งชาติโดยมีโปรแกรมดังนี้
- ตื่นตี 5 เพื่อที่จะไปผาชมตะวัน ดูพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมหมอกสวยๆ
- หลังจากกลับมาทำการเก็บสัมภาระเพื่อเดินทางต่อไปในเมืองขอนแก่น 
- ระหว่างทางก็แวะชมรอยตีนไดโนเสาร์และหินหัวใจไดโนเสาร์ แล้วก็ออกจากอุทยาน
- เดินทางต่อ2ชั่วโมงเพื่อไปกินอาหารเช้าที่ร้าน อุ่นรัก มีเมนูโจ๊ก จั๊บ เส้น(โจ๊ก ก๋วยจั๊บ ต้มเส้น) โดยได้รับคำแนะนำจากคุณตา คุณยายที่เรากำลังจะไปทำเวิร์คช็อปผ้ามัดย้อมในชุมชนอำเภอภูเวียง
- เดินทางมาทำเวิร์คช็อปกับคุณยายที่กลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชนและผลิตภัณฑ์อำเภอภูเวียง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในกลุ่ม6คน 1,000บาท กิจกรรมเวิร์คช้อปที่ได้ทำก็คือผ้ามัดย้อมลายไดโนเสาร์ ซึ่งราคานี้ก็จะได้ผ้ากลับบ้านไปได้เลย ทางร้านคุณยายก็มีของฝากที่ทำจากวัสดุธรรมชาติที่ทำโดยคนในชุมชน
- หลังจากเสร็จกิจกรรมประมาณบ่าย 2.30ก็เดินทางไปที่วัดป่ากิตติญาณฯเป็นการแนะนำจากคนขับรถ
- พี่คนขับก็พาเราไปส่งที่โรงแรมที่เราจองไว้ก็จะเป็นการแยกย้ายกับพี่คนขับรถและเที่ยวต่อในเมืองขอนแก่น
- เข้าที่พักที่โรงแรมบีทู ขอนแก่น บูติค แอนด์ บัดเจทโฮเทล ห้องขนาด 3 คน จำนวน 2 ห้อง ราคาห้องละ 690 บาท ตกคนละ 230 บาท 
- เวลา 6โมงเย็นเราก็ไปกินข้าวเย็นกันที่ตลาดต้นตาลจนถึง3ทุ่มก็เดินทางกลับที่พัก
วันที่4 
หลังจากเราเดินทางออกจากอำเภอภูเวียงก็เดินเข้าตัวเมืองขอนแก่นต่อกันเลยยยซึ่งวันนี้มีแพลนเที่ยวสบายๆไม่มีไกด์นำเที่ยวและเดินทางกันเองในเมืองขอนแก่น ทำการเปิดmaps หาร้านคาเฟ่นั่งเล่นทำกิจจกรรม และกินอาหารเช้ากัน เจอร้านในม.ขอนแก่นจะมีร้านที่ตั้งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ชื่อว่า columbo craft village ภายในร้านจะเปิดเป็นร้านขนาดย่อยๆแตกต่างกันไปโดยมีทั้งหมด11ร้าน มีกิจกรรมต่างๆที่เปิดให้เข้าชมเดินเล่นถ่ายรูป 
- ออกจากร้าน columbo ประมาณ 4โมง แต่ยังไม่ถึงเวลารอบรถกลับบ้านเราจึงไปเดินเล่นกินข้าวเย็นกันที่ central ขอนแก่น
- เดินทางไปขึ้นรถทัวร์กลับกรุงเทพ เวลา19.00น เพื่อขึ้นในรอบ19.30น..ใช้เวลาประมาณ5โมงในการเดินทางกลับถึงกรุงเทพ
   จบทริปการเดินทางกรุงเทพ-ขอนแก่น ในเวลา 4วัน 3คืน เป็นประสบการณ์เที่ยวกับเพื่อนๆที่น่าประทับใจสนุกมาก ได้ลองทำกิจกรรมหลายๆอย่างครั้งแรกเช่น การนั่งรถอีแต็ก เป็นการนั่งครั้งแรกที่ดีเลยทีเดียว อาหารท้องถิ่นที่ไม่เคยกิน เช่นผัดกบ ผัดปลาไหล หมกปลา ที่รสชาติไม่แย่เลย โดยทริปนี้เราต้องขอขอบคุณไกด์พี่นุที่พาเราเที่ยวทำกิจกรรมในอ.เภอสีชมพูตลอด2วัน1คืน ขอบคุณเจ้าหน้าที่อุทยานที่ตอนรับดูแลเราในวันที่สองในอำเภอภูเวียง และขาดไม่ได้เพื่อนร่วมทางของเราที่พาเราเดินทางไปทุกที่กับสองแถวคู่ใจพี่สมโภชคนขับรถสองแถวในขอนแก่น สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดจากการเที่ยวครั้งนี้คือชาวขอนแก่นที่ให้การต้อนรับพวกเราเป็นอย่างดี ทั้งใจดีให้คำแนะนำต่างๆ