กาตาร์ส่งทีมงานเยือนอิสราเอล หารือต่อเวลาหยุดยิงในกาซา
https://www.dailynews.co.th/news/2936649/
มีรายงานว่า คณะเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกาตาร์เดินทางมายังอิสราเอล เพื่อหารือกับอีกฝ่ายเกี่ยวกับ "ความเป็นไปได้" ของการขยายระยะเวลาพักรบ ในฉนวนกาซา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 26 พ.ย.โดยอ้างข้อมูลจากสื่อท้องถิ่นหลายแห่งของอิสราเอล ว่าเครื่องบินโดยสารขนาดเล็กลำหนึ่งของกาตาร์แอร์เวย์ส เดินทางจากกรุงโดฮา มาลงจอดที่ท่าอากาศยานนาชาติเดวิด เบกูเรียน ชานกรุงเทลอาวีฟ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า เครื่องบินลำดังกล่าวบรรทุกผู้โดยสารได้สูงสุด 8 คน และผู้ที่เดินทางมากับเครื่องบินลำนี้ ล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกาตาร์ เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลอิสราเอล เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการขยายระยะเวลาพักรบ ให้นานกว่า 4 วัน เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับการช่วยเหลือตัวประกัน
แม้การเดินทางมายังอิสราเอลของเจ้าหน้าที่กาตาร์ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากทั้งสองประเทศไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตต่อกัน และเครื่องบินของกาตาร์แอร์เวย์สลำนี้ จอดแวะที่สนามบินแห่งหนึ่งในไซปรัสก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นเที่ยวบินตรง ทั้งที่สองประเทศอยู่ห่างกันไม่มากก็ตาม
ด้านรัฐบาลอิสราเอลยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ แต่กระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ออกแถลงการณ์แสดงความหวังว่า หลังครบกำหนด 4 วันของการหยุดยิง ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันบรรลุกข้อตกลงฉบับที่สอง เพื่อขยายระยะเวลาการพักรบออกไปอีก
นิด้าโพลคนมองสื่อทำข่าวปั่นกระแสดราม่า
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_645897/
นิด้าโพลเผยผลสำรวจประชาชนเรื่อง “
สื่อไหนเป็นกลาง ยกมือขึ้น!” 38.93% มองสื่อทำข่าวปั่นกระแสดราม่า
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “
สื่อไหนเป็นกลาง ยกมือขึ้น!” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 21-24 พฤศจิกายน 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง
เกี่ยวกับเสรีภาพและความเป็นกลางของสื่อมวลชน การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0
จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนถึงการทำข่าวหรือรายงานข่าวของสื่อมวลชนไทยในปัจจุบัน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 38.93 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว เพื่อปั่นกระแส/สร้างดราม่า รองลงมา ร้อยละ 33.59 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว อย่างลำเอียง ร้อยละ 30.69 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว จากข้อมูลที่ยังไม่มีการตรวจสอบความจริง ร้อยละ 30.23 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว
เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจขององค์กรตนเอง ร้อยละ 25.34 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว เพื่อประโยชน์ของประชาชน ร้อยละ 21.83 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว อย่างไม่ลำเอียง ร้อยละ 20.08 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว จากข้อมูลจริงที่น่าเชื่อถือ ร้อยละ 17.63 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว อย่างไม่รับผิดชอบ หากมีความผิดพลาดในการนำเสนอข้อมูล ร้อยละ 14.81 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว
แบบไม่สนใจสิทธิของผู้อื่น ร้อยละ 14.05 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว ไม่ให้ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ร้อยละ 13.82 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว ที่สร้างความแตกแยก เกลียดชังในสังคม ร้อยละ 11.07 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว เพื่อประโยชน์ของตนเอง ร้อยละ 10.76 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว อย่างรับผิดชอบ หากมีความผิดพลาดในการนำเสนอข้อมูล ร้อยละ 10.00 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ
ร้อยละ 9.47 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว แต่ความจริง ร้อยละ 6.34 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว ที่สร้างความสามัคคีในสังคม และร้อยละ 0.38 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ด้านเสรีภาพในการทำข่าวหรือรายงานข่าวของสื่อมวลชนไทยในปัจจุบัน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 39.08 ระบุว่า ค่อนข้างมีเสรีภาพ รองลงมา ร้อยละ 28.86 ระบุว่า มีเสรีภาพมาก ร้อยละ 24.73 ระบุว่า ไม่ค่อยมีเสรีภาพ ร้อยละ 6.11 ระบุว่า ไม่มีเสรีภาพเลย และร้อยละ 1.22 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความเป็นกลางในการทำข่าวหรือรายงานข่าวของสื่อมวลชนไทยในปัจจุบัน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 38.70 ระบุว่า ค่อนข้างเป็นกลาง รองลงมา ร้อยละ 32.06 ระบุว่า ไม่ค่อยเป็นกลาง ร้อยละ 13.90 ระบุว่า เป็นกลางอย่างมาก ร้อยละ 12.67 ระบุว่า ไม่เป็นกลางเลย และร้อยละ 2.67 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ชัยธวัช ไม่กังวล ศาลรธน.นัดไต่สวน 2 คดีร้อน มั่นใจก้าวไกล แก้ 112 ไม่ใช่การล้มล้าง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4300740
‘ชัยธวัช’ คุย ‘พิธา’ แล้วทำการบ้านหลังศาล รธน.นัดไต่สวนปมถือหุ้นไอทีวี-ชงแก้ ม.112 ยืนยันไม่กังวล พร้อมสู้ให้ปากคำ
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ นาย
ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานในคดีการถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ของ นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ และ คดีที่พรรคก้าวไกล และนาย
พิธา ได้เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ. … เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่าตอนนี้พรรคไม่ได้กังวลอะไร เพราะเราเชื่อมั่นว่าด้วยข้อเท็จจริงเราไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา
ช่วงนี้อยู่ในช่วงที่ต้องเตรียมคำให้การในชั้นไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะต้องใช้เวลาในการไต่สวนในแต่ละคดีกี่ครั้ง อาจจะมีการไต่สวนในหลายๆ ครั้งไปจนถึงเดือนมกราคม 2567 ก็เป็นไปได้ ยืนยันว่าเราไม่ได้มีความกังวล แต่ก็จะเตรียมข้อมูลในชั้นไต่สวนให้มากที่สุด ซึ่งตอนนี้พรรคไม่ทราบว่าจะมีพยาน ไม่ว่าฝ่ายผู้ร้อง หรือทางพรรคเองจะพิจารณากี่ท่าน อย่างไรก็ตาม การเสนอร่างกฎหมายของเราที่ให้แก้ไขปรับปรุงมาตรา 112 นั้นมันไม่สามารถที่จะล้มล้างการปกครองได้ ซึ่งเป็นกระบวนการนิติบัญญัติปกติ ส่วนเรื่องหุ้นไอทีวีเราก็ยังมั่นใจว่า ไม่ได้เป็นบริษัทที่ประกอบกิจการสื่อ
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยเรื่องคดีความกับนาย
พิธาหรือไม่ นาย
ชัยธวัชกล่าวว่า มีการพูดคุยกัน อย่างล่าสุดก็ได้ประชุมกัน รับทราบหลังจากที่ศาลนัดไต่สวนพยาน ถือเป็นการซักซ้อมว่าจากวันนี้จนถึงวันไต่สวน เราต้องเตรียมการบ้านอะไรบ้าง
เมื่อถามย้ำว่า นาย
พิธามีท่าทีอย่างไร และมีความพร้อมมากแค่ไหน นาย
ชัยธวัชกล่าวว่า “
พร้อมมาตลอด”
JJNY : กาตาร์ส่งทีมงานเยือนอิสราเอล│นิด้าโพลคนมองสื่อ│ชัยธวัช ไม่กังวล ศาลรธน.นัดไต่สวน 2 คดี│เผยคกก.แก้รธน.ชงศึกษาเพิ่ม
https://www.dailynews.co.th/news/2936649/
มีรายงานว่า คณะเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกาตาร์เดินทางมายังอิสราเอล เพื่อหารือกับอีกฝ่ายเกี่ยวกับ "ความเป็นไปได้" ของการขยายระยะเวลาพักรบ ในฉนวนกาซา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 26 พ.ย.โดยอ้างข้อมูลจากสื่อท้องถิ่นหลายแห่งของอิสราเอล ว่าเครื่องบินโดยสารขนาดเล็กลำหนึ่งของกาตาร์แอร์เวย์ส เดินทางจากกรุงโดฮา มาลงจอดที่ท่าอากาศยานนาชาติเดวิด เบกูเรียน ชานกรุงเทลอาวีฟ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า เครื่องบินลำดังกล่าวบรรทุกผู้โดยสารได้สูงสุด 8 คน และผู้ที่เดินทางมากับเครื่องบินลำนี้ ล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกาตาร์ เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลอิสราเอล เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการขยายระยะเวลาพักรบ ให้นานกว่า 4 วัน เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับการช่วยเหลือตัวประกัน
แม้การเดินทางมายังอิสราเอลของเจ้าหน้าที่กาตาร์ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากทั้งสองประเทศไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตต่อกัน และเครื่องบินของกาตาร์แอร์เวย์สลำนี้ จอดแวะที่สนามบินแห่งหนึ่งในไซปรัสก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นเที่ยวบินตรง ทั้งที่สองประเทศอยู่ห่างกันไม่มากก็ตาม
ด้านรัฐบาลอิสราเอลยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ แต่กระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ออกแถลงการณ์แสดงความหวังว่า หลังครบกำหนด 4 วันของการหยุดยิง ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันบรรลุกข้อตกลงฉบับที่สอง เพื่อขยายระยะเวลาการพักรบออกไปอีก
นิด้าโพลคนมองสื่อทำข่าวปั่นกระแสดราม่า
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_645897/
นิด้าโพลเผยผลสำรวจประชาชนเรื่อง “สื่อไหนเป็นกลาง ยกมือขึ้น!” 38.93% มองสื่อทำข่าวปั่นกระแสดราม่า
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “สื่อไหนเป็นกลาง ยกมือขึ้น!” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 21-24 พฤศจิกายน 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง
เกี่ยวกับเสรีภาพและความเป็นกลางของสื่อมวลชน การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0
จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนถึงการทำข่าวหรือรายงานข่าวของสื่อมวลชนไทยในปัจจุบัน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 38.93 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว เพื่อปั่นกระแส/สร้างดราม่า รองลงมา ร้อยละ 33.59 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว อย่างลำเอียง ร้อยละ 30.69 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว จากข้อมูลที่ยังไม่มีการตรวจสอบความจริง ร้อยละ 30.23 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว
เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจขององค์กรตนเอง ร้อยละ 25.34 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว เพื่อประโยชน์ของประชาชน ร้อยละ 21.83 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว อย่างไม่ลำเอียง ร้อยละ 20.08 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว จากข้อมูลจริงที่น่าเชื่อถือ ร้อยละ 17.63 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว อย่างไม่รับผิดชอบ หากมีความผิดพลาดในการนำเสนอข้อมูล ร้อยละ 14.81 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว
แบบไม่สนใจสิทธิของผู้อื่น ร้อยละ 14.05 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว ไม่ให้ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ร้อยละ 13.82 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว ที่สร้างความแตกแยก เกลียดชังในสังคม ร้อยละ 11.07 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว เพื่อประโยชน์ของตนเอง ร้อยละ 10.76 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว อย่างรับผิดชอบ หากมีความผิดพลาดในการนำเสนอข้อมูล ร้อยละ 10.00 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ
ร้อยละ 9.47 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว แต่ความจริง ร้อยละ 6.34 ระบุว่า ทำข่าว/รายงานข่าว ที่สร้างความสามัคคีในสังคม และร้อยละ 0.38 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ด้านเสรีภาพในการทำข่าวหรือรายงานข่าวของสื่อมวลชนไทยในปัจจุบัน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 39.08 ระบุว่า ค่อนข้างมีเสรีภาพ รองลงมา ร้อยละ 28.86 ระบุว่า มีเสรีภาพมาก ร้อยละ 24.73 ระบุว่า ไม่ค่อยมีเสรีภาพ ร้อยละ 6.11 ระบุว่า ไม่มีเสรีภาพเลย และร้อยละ 1.22 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความเป็นกลางในการทำข่าวหรือรายงานข่าวของสื่อมวลชนไทยในปัจจุบัน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 38.70 ระบุว่า ค่อนข้างเป็นกลาง รองลงมา ร้อยละ 32.06 ระบุว่า ไม่ค่อยเป็นกลาง ร้อยละ 13.90 ระบุว่า เป็นกลางอย่างมาก ร้อยละ 12.67 ระบุว่า ไม่เป็นกลางเลย และร้อยละ 2.67 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ชัยธวัช ไม่กังวล ศาลรธน.นัดไต่สวน 2 คดีร้อน มั่นใจก้าวไกล แก้ 112 ไม่ใช่การล้มล้าง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4300740
‘ชัยธวัช’ คุย ‘พิธา’ แล้วทำการบ้านหลังศาล รธน.นัดไต่สวนปมถือหุ้นไอทีวี-ชงแก้ ม.112 ยืนยันไม่กังวล พร้อมสู้ให้ปากคำ
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานในคดีการถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ และ คดีที่พรรคก้าวไกล และนายพิธา ได้เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ. … เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่าตอนนี้พรรคไม่ได้กังวลอะไร เพราะเราเชื่อมั่นว่าด้วยข้อเท็จจริงเราไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา
ช่วงนี้อยู่ในช่วงที่ต้องเตรียมคำให้การในชั้นไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะต้องใช้เวลาในการไต่สวนในแต่ละคดีกี่ครั้ง อาจจะมีการไต่สวนในหลายๆ ครั้งไปจนถึงเดือนมกราคม 2567 ก็เป็นไปได้ ยืนยันว่าเราไม่ได้มีความกังวล แต่ก็จะเตรียมข้อมูลในชั้นไต่สวนให้มากที่สุด ซึ่งตอนนี้พรรคไม่ทราบว่าจะมีพยาน ไม่ว่าฝ่ายผู้ร้อง หรือทางพรรคเองจะพิจารณากี่ท่าน อย่างไรก็ตาม การเสนอร่างกฎหมายของเราที่ให้แก้ไขปรับปรุงมาตรา 112 นั้นมันไม่สามารถที่จะล้มล้างการปกครองได้ ซึ่งเป็นกระบวนการนิติบัญญัติปกติ ส่วนเรื่องหุ้นไอทีวีเราก็ยังมั่นใจว่า ไม่ได้เป็นบริษัทที่ประกอบกิจการสื่อ
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยเรื่องคดีความกับนายพิธาหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า มีการพูดคุยกัน อย่างล่าสุดก็ได้ประชุมกัน รับทราบหลังจากที่ศาลนัดไต่สวนพยาน ถือเป็นการซักซ้อมว่าจากวันนี้จนถึงวันไต่สวน เราต้องเตรียมการบ้านอะไรบ้าง
เมื่อถามย้ำว่า นายพิธามีท่าทีอย่างไร และมีความพร้อมมากแค่ไหน นายชัยธวัชกล่าวว่า “พร้อมมาตลอด”