พอผมกลับมาที่ไลนัส ผมก็ปรับตัวได้
ถึงแม้หัวใจจะเกือบแตกสลายเมื่อรู้ว่า
จะไม่ได้เจอเจ้าหญิงเจนีวาอีก
แต่ผมควรจะรู้ว่าตัวเองกำลังทำหน้าที่อะไรอยู่
เรื่องรักนั้นก็เรื่องนึง แต่เรื่องความรับผิดชอบก็ต้องมี
แต่ตอนเล่าภารกิจที่ 3 ให้ศักดา 971 ในร่างขององค์ชายสี่ฟังนี่สิ
ผมต้องระวังให้มาก
ต้องระวังอย่าเอาความรู้สึกของตัวเองใส่ลงไปมาก
เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ผมคงเล่าไม่ได้
จากสิ่งที่ผมทำและระลึกได้ถึงปัจจุบัน
มนุษย์ก็คือสิ่งเปราะบางที่สุดแล้วในจักรวาลนี้
แต่ทุกวันก็ต้องแสร้งเข้มแข็ง
เพื่อให้หน้าที่ๆรับผิดชอบมันโอเคที่สุด
มนุษย์อาจไม่มีทางเลือกไปมากกว่านี้
ตอนผมเจอศักดา 971 ผมจึงเล่าอย่างระมัดระวัง
เพื่อให้ศักดาไปถ่ายทอดให้องค์ชายสามฟัง
เพราะเขาจะอยู่ที่นี่นานกว่าผม
ถึงแม้จะเล่าอย่างระมัดระวังแล้ว
ศักดาก็ยังทักผมว่า "นายเป็นอะไรไปรึเปล่า"
"อ๋อ ผมอาจจะไม่ค่อยสบาย" ผมตอบออกไป
"มิน่าล่ะ เห็นเสียงสั่นๆ น่าจะเจ็บคอนะ"
ผมอยากจะบอกออกไปว่าที่คอ ไม่เจ็บหรอกครับ
แต่ที่หัวใจนี่แหละ เจ็บที่สุดแล้ว
ผมเอง ปีหน้าก็จะ 33 แล้ว
ผ่านอะไรมาก็เยอะ แต่เรื่องของรักแรกพบนี่สิ
ไม่เคยเจอเลย ไม่นึกว่าจะมาเจอในภารกิจที่ 3
แต่ผมก็รู้สึกว่าตัวเองน่าจะทำทุกอย่างๆดีที่สุดแล้ว
เห็นศักดาบอกผมว่าที่นี่ห่างจากที่ 452 ถึงเจ็ดล้านปีแสง
เพราะมันคนละจักรวาลกันด้วย
อาจห่างกว่านั้นมากๆเลย
จะไปจะมาก็ต้องขึ้นกับอาณาจักรสภาวะจิตทั้ง 3 อาณาจักร
จะไปมาเองไม่ได้
ฟังแล้วก็หนาวครับว่าทำไมผมกับเธอจึงอยู่ไกลกันขนาดนี้
แต่ถ้ามองโลกในแง่ดี
ก็ไม่น่าจะไกลกันมากเพราะอย่างน้อยก็ยังมีโอกาสได้เจอกัน
ได้เห็นหน้ากัน ได้จุมพิตกัน
ผมยังไม่แน่ใจเลยว่า การไปจุมพิตเธอ ถือว่าผิดไหม
แต่ที่คิดที่ไรก็เศร้าก็คือเธอรับรู้ว่าผมคือองค์ชายสาม
แต่ไม่เป็นไรหรอก เมื่อเรารักใคร เราก็ควรพอใจที่เห็นคนที่เรารักมีความสุข
ผมควรจะพอใจที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของเธอมีความสุข
ผมควรพอใจที่ได้มีโอกาสใกล้เธอ
การได้มีโอกาสได้ใกล้เธอถือเป็นโอกาสพิเศษของผมแล้ว
ถึงจะห่างกันเจ็ดล้านปีแสง
แต่ผมยังรู้สึกว่าเราอยู่ใกล้กัน
ผิดกับคนข้างบ้าน คนที่ไม่มีใจให้กัน
ถึงจะอยู่ใกล้กัน ก็เหมือนไกลกันเจ็ดล้านปีแสง
เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าเราไกลหรือใกล้
สิ่งสำคัญที่สุดคือเรามีใจให้กันมากแค่ไหน
ถึงแม้ผมจะไม่รู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไร
รู้ไหมว่าผมเป็นใคร ก็ไม่เป็นไร
เพราะทางผมรู้สึกมากกว่าที่จะเรียกได้ว่ารู้สึก
และยังรู้สึกใกล้อยู่ตลอดเวลา
ถึงแม้ความใกล้กันหลังจากนี้จะเหมือนอยู่ใน
ม่านฝันแห่งรัตติกาล
แต่ผมรู้สึกว่าถ้าผมยังคงศรัทธาในรัก ความหวังยังคงมีเสมอ
ถึงแม้ตอนนี้จะห่างกันเจ็ดล้านปีแสง
แต่ความรักกับความหวังอาจทำให้มันย่นระยะทางได้
หรือแม้แต่ย่นระยะเวลา
จะอย่างไรก็ตาม ขอให้ใจใกล้กันก่อน
นั่นแหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
วิมานมายา โดย ศักดิ์สิทธิ์ ตอนที่ 243 เมื่อหัวใจใกล้กัน จะเจ็ดล้านปีแสงก็ยังไม่ถือว่าไกล
พอผมกลับมาที่ไลนัส ผมก็ปรับตัวได้
ถึงแม้หัวใจจะเกือบแตกสลายเมื่อรู้ว่า
จะไม่ได้เจอเจ้าหญิงเจนีวาอีก
แต่ผมควรจะรู้ว่าตัวเองกำลังทำหน้าที่อะไรอยู่
เรื่องรักนั้นก็เรื่องนึง แต่เรื่องความรับผิดชอบก็ต้องมี
แต่ตอนเล่าภารกิจที่ 3 ให้ศักดา 971 ในร่างขององค์ชายสี่ฟังนี่สิ
ผมต้องระวังให้มาก
ต้องระวังอย่าเอาความรู้สึกของตัวเองใส่ลงไปมาก
เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ผมคงเล่าไม่ได้
จากสิ่งที่ผมทำและระลึกได้ถึงปัจจุบัน
มนุษย์ก็คือสิ่งเปราะบางที่สุดแล้วในจักรวาลนี้
แต่ทุกวันก็ต้องแสร้งเข้มแข็ง
เพื่อให้หน้าที่ๆรับผิดชอบมันโอเคที่สุด
มนุษย์อาจไม่มีทางเลือกไปมากกว่านี้
ตอนผมเจอศักดา 971 ผมจึงเล่าอย่างระมัดระวัง
เพื่อให้ศักดาไปถ่ายทอดให้องค์ชายสามฟัง
เพราะเขาจะอยู่ที่นี่นานกว่าผม
ถึงแม้จะเล่าอย่างระมัดระวังแล้ว
ศักดาก็ยังทักผมว่า "นายเป็นอะไรไปรึเปล่า"
"อ๋อ ผมอาจจะไม่ค่อยสบาย" ผมตอบออกไป
"มิน่าล่ะ เห็นเสียงสั่นๆ น่าจะเจ็บคอนะ"
ผมอยากจะบอกออกไปว่าที่คอ ไม่เจ็บหรอกครับ
แต่ที่หัวใจนี่แหละ เจ็บที่สุดแล้ว
ผมเอง ปีหน้าก็จะ 33 แล้ว
ผ่านอะไรมาก็เยอะ แต่เรื่องของรักแรกพบนี่สิ
ไม่เคยเจอเลย ไม่นึกว่าจะมาเจอในภารกิจที่ 3
แต่ผมก็รู้สึกว่าตัวเองน่าจะทำทุกอย่างๆดีที่สุดแล้ว
เห็นศักดาบอกผมว่าที่นี่ห่างจากที่ 452 ถึงเจ็ดล้านปีแสง
เพราะมันคนละจักรวาลกันด้วย
อาจห่างกว่านั้นมากๆเลย
จะไปจะมาก็ต้องขึ้นกับอาณาจักรสภาวะจิตทั้ง 3 อาณาจักร
จะไปมาเองไม่ได้
ฟังแล้วก็หนาวครับว่าทำไมผมกับเธอจึงอยู่ไกลกันขนาดนี้
แต่ถ้ามองโลกในแง่ดี
ก็ไม่น่าจะไกลกันมากเพราะอย่างน้อยก็ยังมีโอกาสได้เจอกัน
ได้เห็นหน้ากัน ได้จุมพิตกัน
ผมยังไม่แน่ใจเลยว่า การไปจุมพิตเธอ ถือว่าผิดไหม
แต่ที่คิดที่ไรก็เศร้าก็คือเธอรับรู้ว่าผมคือองค์ชายสาม
แต่ไม่เป็นไรหรอก เมื่อเรารักใคร เราก็ควรพอใจที่เห็นคนที่เรารักมีความสุข
ผมควรจะพอใจที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของเธอมีความสุข
ผมควรพอใจที่ได้มีโอกาสใกล้เธอ
การได้มีโอกาสได้ใกล้เธอถือเป็นโอกาสพิเศษของผมแล้ว
ถึงจะห่างกันเจ็ดล้านปีแสง
แต่ผมยังรู้สึกว่าเราอยู่ใกล้กัน
ผิดกับคนข้างบ้าน คนที่ไม่มีใจให้กัน
ถึงจะอยู่ใกล้กัน ก็เหมือนไกลกันเจ็ดล้านปีแสง
เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าเราไกลหรือใกล้
สิ่งสำคัญที่สุดคือเรามีใจให้กันมากแค่ไหน
ถึงแม้ผมจะไม่รู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไร
รู้ไหมว่าผมเป็นใคร ก็ไม่เป็นไร
เพราะทางผมรู้สึกมากกว่าที่จะเรียกได้ว่ารู้สึก
และยังรู้สึกใกล้อยู่ตลอดเวลา
ถึงแม้ความใกล้กันหลังจากนี้จะเหมือนอยู่ใน
ม่านฝันแห่งรัตติกาล
แต่ผมรู้สึกว่าถ้าผมยังคงศรัทธาในรัก ความหวังยังคงมีเสมอ
ถึงแม้ตอนนี้จะห่างกันเจ็ดล้านปีแสง
แต่ความรักกับความหวังอาจทำให้มันย่นระยะทางได้
หรือแม้แต่ย่นระยะเวลา
จะอย่างไรก็ตาม ขอให้ใจใกล้กันก่อน
นั่นแหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุด