คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
ฎีกาแรงงาน ที่ 3004/ 2526
ลูกจ้างไม่มาทํางานมากกว่า 3 วัน เพราะต้องดูแลมารดาที่ป่วยหนัก มีเหตุอันสมควร
------------------
มาตรา ๘ ศาลแรงงานมีอำนาจพิจารณาพิพากษา หรือมีคำสั่งในเรื่องต่อไปนี้
(๑)คดีพิพาทเกี่ยวด้วยสิทธิหรือหน้าที่ตามสัญญาจ้างแรงงาน หรือตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง
(๕)คดีอันเกิดแต่มูลละเมิดระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง สืบเนื่องมาจากข้อพิพาทแรงงาน หรือเกี่ยวกับการทำงานตามสัญญาจ้างแรงงาน
ปพพ. มาตรา 420 “ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น”
คำพิพากษาฎีกาที่ 8108/2559
การที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยออกหนังสือตักเตือนโจทก์เรื่องบริหารงานล้มเหลว ขาดความเข้าใจในการผลิตงานและขาดความเป็นทีมในฝ่าย พร้อมแนบหนังสือตักเตือนมาท้ายคำฟ้องโดยไม่เป็นความจริง และไม่ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เป็นการใช้อำนาจที่ไม่ชอบและไม่เป็นธรรม ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียงและเกียรติคุณนั้น พอเข้าใจได้ว่า เป็นการกล่าวอ้างว่าการออกหนังสือตักเตือนของจำเลย เป็นการใช้อำนาจลงโทษโจทก์ซึ่งไม่ได้กระทำความผิด โดยไม่ชอบด้วยข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ถือได้ว่าโจทก์มีข้อโต้แย้งสิทธิกับจำเลยแล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 55 ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31 โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
ลูกจ้างไม่มาทํางานมากกว่า 3 วัน เพราะต้องดูแลมารดาที่ป่วยหนัก มีเหตุอันสมควร
------------------
ลงโทษไม่ได้ ....ฟ้องศาลแรงงาน ให้เพิกถอนได้ ฟ้องถูกบริษัท/GM ฐานละเมิดได้ เรียกค่าเสียหายเสียให้เข็ดอีกต่างหาก
มาตรา ๘ ศาลแรงงานมีอำนาจพิจารณาพิพากษา หรือมีคำสั่งในเรื่องต่อไปนี้
(๑)คดีพิพาทเกี่ยวด้วยสิทธิหรือหน้าที่ตามสัญญาจ้างแรงงาน หรือตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง
(๕)คดีอันเกิดแต่มูลละเมิดระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง สืบเนื่องมาจากข้อพิพาทแรงงาน หรือเกี่ยวกับการทำงานตามสัญญาจ้างแรงงาน
ปพพ. มาตรา 420 “ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น”
คำพิพากษาฎีกาที่ 8108/2559
การที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยออกหนังสือตักเตือนโจทก์เรื่องบริหารงานล้มเหลว ขาดความเข้าใจในการผลิตงานและขาดความเป็นทีมในฝ่าย พร้อมแนบหนังสือตักเตือนมาท้ายคำฟ้องโดยไม่เป็นความจริง และไม่ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เป็นการใช้อำนาจที่ไม่ชอบและไม่เป็นธรรม ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียงและเกียรติคุณนั้น พอเข้าใจได้ว่า เป็นการกล่าวอ้างว่าการออกหนังสือตักเตือนของจำเลย เป็นการใช้อำนาจลงโทษโจทก์ซึ่งไม่ได้กระทำความผิด โดยไม่ชอบด้วยข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ถือได้ว่าโจทก์มีข้อโต้แย้งสิทธิกับจำเลยแล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 55 ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31 โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
แสดงความคิดเห็น
หยุดงานกระทันหัน เนื่องจากคุณแม่ที่ป่วยให้คีโม ภูมิคุ้มกันตก ต้องย้ายเข้าห้องปลอดเชื้อฉุกเฉิน
ได้รับสายจากโรงพยาบาล แจ้งว่า คุณแม่ที่ป่วยอยู่ ภูมิคุ้มกันตก หลังจากที่ให้คีโม เมื่อวานตอนเย็น ต้องย้ายฉุกเฉิน เข้าห้องปลอด เชื้อ ซึ่งผมก็มีกันแค่ 2 คนแม่ลูก คนอื่นเขาก็อยู่ที่อื่น พยาบาลได้แจ้งมา ผมสติแตก ทำอะไรไม่ถูกเพราะ กลัว กลัวจะเสียเขาไป จึงมุ่งหน้าไปโรงพยาบาลเลย จนลืมแจ้งที่ทำงานก่อนไป และช่วงเช้า การจราจรก็เยอะมากกว่าจะถึงโรงพยาบาล ชลบุรี ก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง จาก เขาเขียว - โรงพยาบาลชลบุรี พอยังไปไม่ถึง โรงพยาบาลโทรมาอีกแต่ความที่เสียใจร้องไห้ไม่ได้ยินไม่ได้รับสาย
และเขาก็โทรเข้าที่ทำงาน ที่ทำงานก็ไม่มีคนรับเพราะลูกค้าเยอะ จึงติดต่อ ทางญาติทุกคนก็ช่วยกันโทรเพราะเขาไม่รู้ว่าเราถึงไหนแล้ว แต่โทรไป เบอร์นึงก็โทรติดแต่ไม่มีคนรับ อีกเบอร์ก็ไม่ติดเลย โทรหาฝ่ายบุคคลก็ไม่ติดขึ้นปิดเครื่อง โทรกันจนมีคนรับแล้วจะแจ้งข้อมูลกับเขา แต่เขากลับบอกว่า ไม่รู้ๆติดต่อไม่ได้เหมือนกัน แล้ววางสาย แล้วหัวหน้าก็ต่อว่าลงในกลุ่มว่า ทำไมติดต่อไม่ได้ถึงต้องให้เขาโทรเข้าบริษัท ผมก็ไม่ได้ตอบเดี๋ยวนั้น ประมาณแปดโมงกว่าจึงไปตอบและถ่ายรูปส่งให้ดู ถามต่ออีกว่า ไม่มีญาติเลยหรอที่รับสายติดต่อด่วน ผมตอบว่าไม่มีญาติครับ มีกัน2คนแม่ลูก แต่GM ตอบว่า รับทราบ เข้าใจแล้ว พอมาทำงาน เขาโทรหาฝ่ายบุคคลให้ผมขาดงาน และเซ็นใบเตือน
มันสมเหตุสมผลหรือไม่ครับ กับการขาดงานโดยคิดว่าเราเอาแม่มาอ้าง ปละขับรถไปเอาเอกสารเพื่อมาลาหยุดงานวันนั้น ผมรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จากตรงนี้เลย หาทางออกได้อย่างไรบ้างครับ