เมื่อครอบครัวไม่ใช่ safe zone เราควรปรับตัวเองยังไงดีคะ

เราเป็นเดอะแบกค่ะ หาเงินคนเดียวดูแลทั้งแม่ที่ป่วยติดเตียง และพี่ชายที่มีคดียาเสพติดติดตัวเข้าออกคุกบ่อยๆ เพราะไม่เลิกยา

เรามีรายจ่ายสำหรับดูแลบ้าน ผ่อนบ้านให้แม่อยู่
ค่าใช้จ่ายของแม่ ค่าแม่บ้าน ค่าหาหมอ ค่าน้ำค่าไฟบ้านแม่และบ้านพี่ ค่ากินค่าอยู่ของพี่ และค่าต่างๆมากมายของแม่และพี่ รวมๆประมาณ เดือนละ 100,000 บาท (ส่วนตัวเราใช้เงินส่วนตัวประมาณเดือนละ 12000-15000 บาทค่ะ)

เราพึ่งรู้ว่าที่แม่คุยดีกับเรา เพราะหวังให้เราให้เงินพี่ใช้มากกว่าที่ให้อยู่ (แต่เราไม่ให้นะคะ ให้เท่าเดิม) แม่เลยเอาเงินที่เราให้แม่ไว้ซื้อของกินระหว่างวันธรรมดาที่เราออกมาอยู่คอนโด ไปให้พี่หมด จนแม่ไม่มีเงินซื้อของกิน และทานแต่ของในตู้เย็น ที่เราซื้อไว้ให้ในวัน weekend (เราจะกลับบ้านทุกวันศุกร์ค่ะ weekdayเราจะอยู่คอนโด) จนแม่น้ำหนักลดลงเยอะมากค่ะ เพราะไม่เจริญอาหาร ทานไม่กี่คำก็เลิก

3วีคก่อนเราถามแม่ประมาณว่า แม่สงสารพี่ เพราะพี่ไม่มีงานดีดีทำแบบเรา แต่แม่สงสารเราบ้างไหม ที่หาเงินให้แม่ให้พี่ใช้กินอยู่สบาย แม่บอก... เห็นเราร่างกายแข็งแรงดี งานก็มี เงินก็มี ทำไมแม่ต้องสงสารเรา

เรารู้สึกแย่มากเลยค่ะ จำได้ว่าตอนนั้นรีบขึ้นห้องมาร้องไห้ตัวโยนเลย ไม่คิดว่าแม่จะพูดแบบนี้ ตอนนี้กลายเป็นเรา panic นอนไม่หลับ กลัววันศุกร์ เพราะเราต้องกลับบ้านไปอยู่กับแม่ กลัวแม่จะพูดทำให้เราเสียใจอีก เรารู้สึกว่าบ้านหลังนั้นไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยของเราแล้ว(เราต้องกล้บบ้านทุกใันศุกร์ค่ะ เพราะเป็นวันหยุดแม่บ้าน ไม่มีคนอยู่กับแม่ อยากให้พี่แม่บ้านทำ OT แต่เค้ามีครอบครัวเลยอยากกลับไปเจอครอบครัวบ้างค่ะ)

เราไม่รู้จะทำยังไงดีค่ะ บ้านก็ต้องกลับ เวลาเราเตรียมอาหารให้ พาทานข้าว ทานยา ฉีดยา ทำกายภาพให้ แม่ชอบวกกลับมาเรื่องทวงบุญคุณ เรื่องขอเงินให้พี่ตลอด (เราเคยเปย์หนักค่ะ แต่ตอนนี้ใจแข็ง เลิกเปย์แล้ว ให้เท่าที่เราไหว ให้พวกเค้าได้กินข้าวทุกวันก็พอ) พอเราเถียงกลับ เราก็จะมารู้สึกผิด

มีใครแนะนำเราได้บ้างไหมคะ
ขอบคุณค่ะ

**เรามีภาวะ depress จนจะทำร้ายตัวเองหลายครั้งแล้วค่ะ ตอนนี้อยู่ในความดูแลของหมอ ทานยา ออกกำลังกาย พยายามดูแลตัวเองตลอดค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่