เราอายุ 30 เป็นลูกคนเดียว โสด ทิ้งชีวิตในเมืองทึ่เคยทำงาน กลับมาทำงานบริษัทแถวบ้านต่างจังหวัด เพราะแม่ป่วยได้ดูแลแม่ และที่บ้านมีปัญหาทางการเงิน พ่อกับแม่ทำเกษตรกร หาเงินซื้อกับข้าวเลี้ยงชีพ พ่อกับแม่ยังดูแลตัวเองได้ แต่แค่มีโรคประจำตัว ปกติแม่นิสัยค่อยข้างเจ้าอารมณ์อยู่แล้ว พอป่วยยิ่งหนักกว่าเดิม ไม่พอใจร่างกายตัวเอง ประชดยกของหนักๆ จนเราเตือนก็ไม่ฟัง ขู่จะฆ่าตัวตายหลายครั้งเพราะไม่อยากเป็นภาระเรา เราทำได้แค่พาไปหาหมอ กับวันหยุดช่วยทำงานบ้าน เราซื้อของทุกอย่างเข้าบ้าน ของกิน ของใช้ในบ้าน จนวันนึงเราซื้อคอนโดของตัวเองปล่อยเช่า แม่จะเอากุญแจห้องเป็นของตัวเอง แม่มีคติที่ว่า ”ของๆลูก ก็คือของๆแม่“ เคยทะเลาะกันพักนึง ส่วนพ่อชอบเข้าสังคมเมา ตอนเด็กๆ เคยถามว่าทำไมไม่เลิกเหล้า ชวนพ่อไปไหนก็ไม่ได้ไปเพราะพ่อไม่ว่าง พ่อบอกต้องเข้าสังคม พอโตขึ้น พ่อบอกดื่มเหล้าเพราะแก้ปวดเมื่อยเป็นยา หารายได้เท่าไหร่ไม่พอลงขวดหมด พ่อมีคติ ”มีลูกและเมียไว้ใช้ ถ้าอยากมีคนใช้ให้หาลูกเมียของเอง“ ทำดีกับคบข้างนอกด่าคนในบ้าน บอกเลี้ยงดูลูกเป็นหน้าที่ของแม่ พอเราทำผิดก็จะโทษแม่ ด่าเราซ้ำ เค้ามีหน้าที่หน้าแต่เงิน เราอยากให้เค้าเลิกตั้งแต่เด็กๆ แม่ไม่ยอมเลิก ตอนนี้พ่อก็เริ่มมาป่วย งอแงเก่งกว่าแม่ พ่อบอกเป็นลูกโตขึ้นต้องปกป้องพ่อแม่ ค่ายาค่าหมอเรารายจ่ายค่อยๆเยอะกว่ารายได้ แม่พูดเสมอถ้ามีทางเลือกที่ดีกว่าให้เราไป แต่เราไม่ได้เพราะรายจ่ายที่บ้านรับผิดชอบหมด ถ้าไปส่งกลับที่บ้านก็ไม่พอจ่าย ใจนึงก็อยากไปมีชีวิตของตัวเอง อยู่บ้านอึดอัดไม่มีความสุขเลยครับ ทุกวันนี้อยู่บ้านเหมือคนใช้เลยครับ พ่อกับแม่ใช้คำพูดจะเอาไร สั่งๆจะเอานุเอานี้ อยากได้นุอยากได้นี้มาบอกเราซื้อให้ เราเหมือนมีลูกมากกว่ามีพ่อแม่ ทั้งที่ตอนเด็กๆ เราลำบากมาก เวลาครอบครัวไปเดินห้างยังไม่เคยมี จนเราโตขึ้นไปเองกับเพื่อน พ่อกับแม่บอกไม่ว่างทำแต่งาน เรื่องเรียนก็ให้เราไปติดต่อเอาเอง เค้าบอกไม่รู้เรื่องเค้าเรียนมาน้อย ตั้งแต่เรียนจนทำงาน ปรึกษาปัญหาชีวิตอะไรไม่เคยได้เลยครับ พ่อแม่สนใจแต่ชีวิตตัวเอง อยากปรึกษาคนที่พ่อแม่ป่วยรับมือยังไงบ้างครับ ดูแลสุขภาพจิตยังไง หรือควรไปใช้ชีวิตตัวเองปล่อยให้เค้าจัดการปัญหากันเอาเองดีไหมครับ
ในวันที่พ่อแม่ป่วย เราควรวางแผนอนาคตตัวเองยังไงดีครับ?