มีคนบางกลุ่มเชื่อว่ามนุษย์ไม่ได้ดำเนินชีวิตด้วยความบังเอิญ แต่ดำเนินชีวิตภายใต้กฎเกณฑ์บางอย่าง
ที่คอยควบคุมมนุษย์ให้เป็นไปตามกฎแห่งกรรม คือ "ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว"
โดยการกระทำทุกอย่างของผู้ใดในโลกนี้ จะส่งผลต่อชีวิตของผู้นั้นไม่เร็วก็ช้า
ยกตัวอย่าง
1. นาย ก. ได้ขโมยเงินของนาย ข. ดังนั้น นาย ก. จะต้องเสียเงินโดยที่ไม่จำเป็น เท่ากับจำนวนเงินที่ขโมยมา
โดยอาจต้องเสียเงินหลายครั้งจนครบจำนวน
2. นาย ก. เป็นคนเกลียดสุนัข แล้วมีสุนัขตัวหนึ่งได้แอบเข้ามาขับถ่ายที่สนามหญ้าในบ้านของเขาเป็นประจำ
อยู่มาวันหนึ่ง นาย ก.เห็นสุนัขตัวดังกล่าวกำลังขับถ่ายที่สนามหญ้า จึงแอบเอาไม้ไปตีสุนัขดังกล่าวอย่างแรงหลายครั้ง
จนขามันได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วเขาก็นำสุนัขออกไปไว้นอกบ้าน โดยไม่สนใจใยดีที่จะรักษาอาการบาดเจ็บให้มัน
ต่อมาไม่นาน นาย ก. กระโดดขึ้นรถไฟพลาดในขณะที่รถไฟกำลังเคลื่อนตัว ทำให้ขาของเขาเข้าไปอยู่บนรางรถไฟ
แล้วถูกล้อรถไฟทับจนขาดทั้ง 2 ข้าง
ส่วนตัวผมเอง ผมเชื่อว่าพระเจ้าผู้ประเสริฐเป็นผู้สร้าง "กฎแห่งกรรม" ขึ้นมา โดยพระองค์จะตอบแทนมนุษย์
ตามการกระทำของทุกคนอย่างเหมาะสมและครบถ้วน ก่อนที่มนุษย์จะตายจากโลกนี้ไป
หากผู้ใดได้รับผลกรรมที่ตนเองได้ทำมา ยังไม่ครบถ้วนทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว
ผู้นั้นจะยังไม่ตาย จนกว่าจะได้รับผลกรรมจนครบถ้วน
หมายเหตุ การกระทำของมนุษย์นั้น รวมทั้งคำพูดและความคิดด้วย
อ้างอิงจากคัมภีร์ไบเบิล
เยเรมีย์ 17:10 "เราคือพระเจ้า จะตอบแทนมนุษย์ตามความคิดของมนุษย์ และตามการกระทำของมนุษย์"
เราคือพระเจ้าตรวจค้นดูใจ และทดสอบดูจิต เพื่อให้แก่ทุกคนตามพฤติการณ์ของเขา ตามผลแห่งการกระทำของเขา : THSV1971
I the LORD search the heart, I try the reins, even to give every man according to his ways,
and according to the fruit of his doings. : King Jame
วิธีพิสูจน์
ให้เราศึกษาชีวิตจริงจากญาติพี่น้องที่เราสนิทอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเขาตาย แล้วเราจะพบความจริงนี้ด้วยตัวเราเองว่า
"ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว" จุดที่สังเกตได้ชัดเจนก็คือ หากทำความดีมามากจะตายสบาย แต่หากทำความชั่วมามากจะตายทรมาน
ส่วนชีวิตของผู้อื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมานี้ จะนำมาพิจารณาไม่ได้ เนื่องจากเรารู้ข้อมูลเขาไม่ครบถ้วน จึงเชื่อถือไม่ได้
กฎแห่งกรรม เวอร์ชั่น 2
ที่คอยควบคุมมนุษย์ให้เป็นไปตามกฎแห่งกรรม คือ "ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว"
โดยการกระทำทุกอย่างของผู้ใดในโลกนี้ จะส่งผลต่อชีวิตของผู้นั้นไม่เร็วก็ช้า
ยกตัวอย่าง
1. นาย ก. ได้ขโมยเงินของนาย ข. ดังนั้น นาย ก. จะต้องเสียเงินโดยที่ไม่จำเป็น เท่ากับจำนวนเงินที่ขโมยมา
โดยอาจต้องเสียเงินหลายครั้งจนครบจำนวน
2. นาย ก. เป็นคนเกลียดสุนัข แล้วมีสุนัขตัวหนึ่งได้แอบเข้ามาขับถ่ายที่สนามหญ้าในบ้านของเขาเป็นประจำ
อยู่มาวันหนึ่ง นาย ก.เห็นสุนัขตัวดังกล่าวกำลังขับถ่ายที่สนามหญ้า จึงแอบเอาไม้ไปตีสุนัขดังกล่าวอย่างแรงหลายครั้ง
จนขามันได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วเขาก็นำสุนัขออกไปไว้นอกบ้าน โดยไม่สนใจใยดีที่จะรักษาอาการบาดเจ็บให้มัน
ต่อมาไม่นาน นาย ก. กระโดดขึ้นรถไฟพลาดในขณะที่รถไฟกำลังเคลื่อนตัว ทำให้ขาของเขาเข้าไปอยู่บนรางรถไฟ
แล้วถูกล้อรถไฟทับจนขาดทั้ง 2 ข้าง
ส่วนตัวผมเอง ผมเชื่อว่าพระเจ้าผู้ประเสริฐเป็นผู้สร้าง "กฎแห่งกรรม" ขึ้นมา โดยพระองค์จะตอบแทนมนุษย์
ตามการกระทำของทุกคนอย่างเหมาะสมและครบถ้วน ก่อนที่มนุษย์จะตายจากโลกนี้ไป
หากผู้ใดได้รับผลกรรมที่ตนเองได้ทำมา ยังไม่ครบถ้วนทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว
ผู้นั้นจะยังไม่ตาย จนกว่าจะได้รับผลกรรมจนครบถ้วน
หมายเหตุ การกระทำของมนุษย์นั้น รวมทั้งคำพูดและความคิดด้วย
อ้างอิงจากคัมภีร์ไบเบิล
เยเรมีย์ 17:10 "เราคือพระเจ้า จะตอบแทนมนุษย์ตามความคิดของมนุษย์ และตามการกระทำของมนุษย์"
เราคือพระเจ้าตรวจค้นดูใจ และทดสอบดูจิต เพื่อให้แก่ทุกคนตามพฤติการณ์ของเขา ตามผลแห่งการกระทำของเขา : THSV1971
I the LORD search the heart, I try the reins, even to give every man according to his ways,
and according to the fruit of his doings. : King Jame
วิธีพิสูจน์
ให้เราศึกษาชีวิตจริงจากญาติพี่น้องที่เราสนิทอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเขาตาย แล้วเราจะพบความจริงนี้ด้วยตัวเราเองว่า
"ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว" จุดที่สังเกตได้ชัดเจนก็คือ หากทำความดีมามากจะตายสบาย แต่หากทำความชั่วมามากจะตายทรมาน
ส่วนชีวิตของผู้อื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมานี้ จะนำมาพิจารณาไม่ได้ เนื่องจากเรารู้ข้อมูลเขาไม่ครบถ้วน จึงเชื่อถือไม่ได้