เรากลุ้มใจมากค่ะ คุยกับพ่อแม่ทีไรทะเลาะกันทุกที เราอยากเลือกทางเดินชีวิตเองค่ะ
เราขอแม่เราว่าเราอยากเรียน ม.ราม เอกคหกรรม แต่เราต้องออกจากงานที่ทำ
ซึ่งเงินเดือน 9800 บาท เราบอกที่บ้านว่า เราจะหางานพาร์ทไทมทำ กับเรียนไป ด้วย
หรือไม่ก็ทำขนมขายค่ะ
พ่อแม่ว่าเราว่า อายุจะ 40 จะกลับไปเรียน จบออกมาใครเค้าจะรับเข้าทำงาน
มีสมองคิดดูบ้างไหม แล้วก็ว่าเราไม่หยุด ถ้าพ่อเป็นอะไรแล้วถ้าแม่ป่วยขึ้นมา
ไม่มีเงินแล้วจะทำยังไง ทำไมชีวิตฉันมันต้องลำบากแบบนี้ แม่พูด
ชีวิตเรามันวางแผนพลาดมาหลายอย่างค่ะ
ตอน ม.ต้น ถึง ม.ปลาย. เราไม่มีความสุขค่ะ เราโดนเพื่อนบูลี่ค่ะ เจ็บป่วดที่สุด
พอเข้ามหาลัยเรียนตามเพื่อนค่ะ เอกภาษาอังกฤษ เป็นคณะที่เราไม่ค่อยอยากเรียนค่ะ
กลัวไม่มีเพื่อนค่ะ
จบออกมาทำงาน. พ่อฝากเข้าทำงานเป็นพนักงานราชการค่ะ ลูกจ้างรัฐรายปี เงินเดือน
15000 บาท เราทำงานมา 7 ปี แทบไม่มีประสบการณทำงาน งานรูทีนเดิมๆมมาตลอด
เราเบื่อมาก แต่พ่อแม่เราอยากให้เราสอบราชการได้. เราก็พยายามสอบ กพ. ให้ติด
เราสอบถึง 10 ครั้งก็ไม่ผ่านค่ะ. เราโชคร้ายค่ะเจอหัวหน้างานที่ไม่ดี. เป็นคนค่อนข้างบ้าอำนาจ
ทำเรื่องบีบให้เราออกเพื่อที่จะให้เราไปอ้อนวอนเค้าให้อยู่ต่อ. เราตัดสินใจออกเลยค่ะ
รู้สึกดีเหมือนยกภูเขาออกจากอก. แม่เราว่าเราใหญ่เลย ทำไมไม่ทำตัวน่าสงสารไปขอร้องเค้า
พอลาออกก็ตกงานค่ะ.ลองไปหางานทำค่ะ. อายุเยอะหางานลำบาก ประสบการณ์น้อยมาก
ถึงแม้จะทำงานมา 7 ปี. ตกงานมา 3 ปี บวกกับ ป่วยเป็นทางจิตเวชค่ะ ก็หาหมอด้วย
ทำบัตรคนพิการเพื่อจะใช้สิทธิ์รักษาพยาบาลฟรี. รฟฟ.เดินทางฟรี ได้เงินเดือนละ
800 บาท
พอตกงานก็เข้าไปฟื้นฟูด้านจิตเวชที่หน่วยงานคนพิการทางจิตอยู่ที่นึง พอฟื้นฟูจบ
เค้ารับเข้าทำงาน ทำงานมาได้ 3 ปี ได้บำบัดทางจิตจนเข้าใจอะไรชีวิตมากขึ้น
และสามารถปรับตัวกับสังคมได้. หาตัวเองเจอว่าอยากทำอะไรในชีวิต
แต่............พอปรึกษาพ่อแม่ว่าจะขอออกจากงานนี้ พ่อแม่เราก็หงุดหงิด ว่า เราว่าเราเป็นคนไม่มีความคิด
เราบอกว่า เราอยากเรียนจริงๆ. และจะไปทำงานพาร์ทไทม หรือทำ
ปั๊ปขาย ที่บ้านเรามีสูตรยายเรา
มีแต่คนเชียร์ให้ทำ เพราะรสชาติดีมาก
เราคิดว่า เราก็เกิดมา อยู่บนโลกไม่ได้ตลอดไป ในเมื่อรู้ว่าชีวิตเราสนใจอะไร อยากเรียนอะไร
ก็มุ่งมั่นไปทางนั้น
เราอยากเรียนด้านเสื้อผ้าค่ะ เราเป็นคนชอบสิ่งสวยงาม เราค้นพบว่า เรามีความคิดสร้างสรรค์ด้านนี้
และเราอยู่กับมันได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ เราเรียนที่ฝึกอาชีพค่ะมาค่ะเลยค้นพบตัวเอง
สรุป เราอายุ 39 ปี เราอยากกลับไปเรียน ป,ตรี คหกรรม เพราะเราสนใจด้านนี้ ไม่ว่า จะทำอาหาร
จัดดอกไม้ ทำทำเสื้อผ้า เราคิดว่าอันนี้มันใช่ตัวเรามากๆ แล้ว
แต่.... ที่ไม่มั่นใจ คือเสียงว่า ของพ่อแม่เรา ที่บอกว่า หวังดีกับเรา บอกว่าไม่อยากให้เราเดินทางผิด
แล้วแสดงอาการหงุดหวิด ตัดพ้อ พูดประชด ทำให้เราไม่กล้าเดินออกจาก confort zone
อายุจะ 40 ปี. มีใครเค้าไปเรียน มีแต่คนเค้าหาอาชีพ หางานทำ
ปัจจุบัน จขก. ได้เงินเดือน 9800 บาท. ไม่มีสวัสดิการอะไร นอกจากสิทธิ์บัตรคนพิการที่มีอยู่
เราแค่อยากทำสิ่งที่เราชอบในชีวิตของเราที่ยังมีเวลาอยู่ซัก 30 ปี ข้างหน้า
แต่เราแค่เจ็บปวดกับสิ่งที่พ่อแม่คอยว่าเรา มาโดยตลอด
คุณว่า ฉันคิดผิดหรือเปล่า อายุปีหน้าก็ 39 ปี ยังไม่มีอาชีพหมั่นคง แต่ถ้าเลือกตามพ่อแม่
เราก็ไม่มีความสุขในชีวิตเราอะค่ะ
อายุ 39 อยากเลือกทางเดินชีวิตเองค่ะ พ่อแม่เราหงุดหวิดว่าเรา จนไม่เป็นตัวของตัวเอง
เราขอแม่เราว่าเราอยากเรียน ม.ราม เอกคหกรรม แต่เราต้องออกจากงานที่ทำ
ซึ่งเงินเดือน 9800 บาท เราบอกที่บ้านว่า เราจะหางานพาร์ทไทมทำ กับเรียนไป ด้วย
หรือไม่ก็ทำขนมขายค่ะ
พ่อแม่ว่าเราว่า อายุจะ 40 จะกลับไปเรียน จบออกมาใครเค้าจะรับเข้าทำงาน
มีสมองคิดดูบ้างไหม แล้วก็ว่าเราไม่หยุด ถ้าพ่อเป็นอะไรแล้วถ้าแม่ป่วยขึ้นมา
ไม่มีเงินแล้วจะทำยังไง ทำไมชีวิตฉันมันต้องลำบากแบบนี้ แม่พูด
ชีวิตเรามันวางแผนพลาดมาหลายอย่างค่ะ
ตอน ม.ต้น ถึง ม.ปลาย. เราไม่มีความสุขค่ะ เราโดนเพื่อนบูลี่ค่ะ เจ็บป่วดที่สุด
พอเข้ามหาลัยเรียนตามเพื่อนค่ะ เอกภาษาอังกฤษ เป็นคณะที่เราไม่ค่อยอยากเรียนค่ะ
กลัวไม่มีเพื่อนค่ะ
จบออกมาทำงาน. พ่อฝากเข้าทำงานเป็นพนักงานราชการค่ะ ลูกจ้างรัฐรายปี เงินเดือน
15000 บาท เราทำงานมา 7 ปี แทบไม่มีประสบการณทำงาน งานรูทีนเดิมๆมมาตลอด
เราเบื่อมาก แต่พ่อแม่เราอยากให้เราสอบราชการได้. เราก็พยายามสอบ กพ. ให้ติด
เราสอบถึง 10 ครั้งก็ไม่ผ่านค่ะ. เราโชคร้ายค่ะเจอหัวหน้างานที่ไม่ดี. เป็นคนค่อนข้างบ้าอำนาจ
ทำเรื่องบีบให้เราออกเพื่อที่จะให้เราไปอ้อนวอนเค้าให้อยู่ต่อ. เราตัดสินใจออกเลยค่ะ
รู้สึกดีเหมือนยกภูเขาออกจากอก. แม่เราว่าเราใหญ่เลย ทำไมไม่ทำตัวน่าสงสารไปขอร้องเค้า
พอลาออกก็ตกงานค่ะ.ลองไปหางานทำค่ะ. อายุเยอะหางานลำบาก ประสบการณ์น้อยมาก
ถึงแม้จะทำงานมา 7 ปี. ตกงานมา 3 ปี บวกกับ ป่วยเป็นทางจิตเวชค่ะ ก็หาหมอด้วย
ทำบัตรคนพิการเพื่อจะใช้สิทธิ์รักษาพยาบาลฟรี. รฟฟ.เดินทางฟรี ได้เงินเดือนละ
800 บาท
พอตกงานก็เข้าไปฟื้นฟูด้านจิตเวชที่หน่วยงานคนพิการทางจิตอยู่ที่นึง พอฟื้นฟูจบ
เค้ารับเข้าทำงาน ทำงานมาได้ 3 ปี ได้บำบัดทางจิตจนเข้าใจอะไรชีวิตมากขึ้น
และสามารถปรับตัวกับสังคมได้. หาตัวเองเจอว่าอยากทำอะไรในชีวิต
แต่............พอปรึกษาพ่อแม่ว่าจะขอออกจากงานนี้ พ่อแม่เราก็หงุดหงิด ว่า เราว่าเราเป็นคนไม่มีความคิด
เราบอกว่า เราอยากเรียนจริงๆ. และจะไปทำงานพาร์ทไทม หรือทำปั๊ปขาย ที่บ้านเรามีสูตรยายเรา
มีแต่คนเชียร์ให้ทำ เพราะรสชาติดีมาก
เราคิดว่า เราก็เกิดมา อยู่บนโลกไม่ได้ตลอดไป ในเมื่อรู้ว่าชีวิตเราสนใจอะไร อยากเรียนอะไร
ก็มุ่งมั่นไปทางนั้น
เราอยากเรียนด้านเสื้อผ้าค่ะ เราเป็นคนชอบสิ่งสวยงาม เราค้นพบว่า เรามีความคิดสร้างสรรค์ด้านนี้
และเราอยู่กับมันได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ เราเรียนที่ฝึกอาชีพค่ะมาค่ะเลยค้นพบตัวเอง
สรุป เราอายุ 39 ปี เราอยากกลับไปเรียน ป,ตรี คหกรรม เพราะเราสนใจด้านนี้ ไม่ว่า จะทำอาหาร
จัดดอกไม้ ทำทำเสื้อผ้า เราคิดว่าอันนี้มันใช่ตัวเรามากๆ แล้ว
แต่.... ที่ไม่มั่นใจ คือเสียงว่า ของพ่อแม่เรา ที่บอกว่า หวังดีกับเรา บอกว่าไม่อยากให้เราเดินทางผิด
แล้วแสดงอาการหงุดหวิด ตัดพ้อ พูดประชด ทำให้เราไม่กล้าเดินออกจาก confort zone
อายุจะ 40 ปี. มีใครเค้าไปเรียน มีแต่คนเค้าหาอาชีพ หางานทำ
ปัจจุบัน จขก. ได้เงินเดือน 9800 บาท. ไม่มีสวัสดิการอะไร นอกจากสิทธิ์บัตรคนพิการที่มีอยู่
เราแค่อยากทำสิ่งที่เราชอบในชีวิตของเราที่ยังมีเวลาอยู่ซัก 30 ปี ข้างหน้า
แต่เราแค่เจ็บปวดกับสิ่งที่พ่อแม่คอยว่าเรา มาโดยตลอด
คุณว่า ฉันคิดผิดหรือเปล่า อายุปีหน้าก็ 39 ปี ยังไม่มีอาชีพหมั่นคง แต่ถ้าเลือกตามพ่อแม่
เราก็ไม่มีความสุขในชีวิตเราอะค่ะ