ตั้งแต่เด็กจนโตผมถูกละเลยความรู้สึกจากพ่อแม่มาโดยตลอด เขาทำเหมือนผมเป็นหุ่นยนต์หรือคนที่ไม่มีชีวิตจิตใจ เลิกกันไปต่างคนต่างก็มีคนใหม่ พอมีคนใหม่ก็พาผมไปสวัสดีครับ คนแล้วคนเล่า สวัสดีครับ สวัสดีครับผมโตมากับปู่และย่าผมนับถือพวกเขาเปรียบเสมือนพ่อแม่ของผม เพราะพวกเขาเข้าใจผมมากกว่าใครๆ มากกว่าพ่อแม่ของผมสะอีก ย่าของผมป่วยเป็นโรคไต เขาต้องฟอกไต4ครั้ง/วัน เช้ามืดตี5,10:00น. ,15:00น. ,20:00น. ผมต้องดูแลเขามาตลอด9ปีเต็ม จนในที่สุดเขาก็ได้จากโลกนี้ไปเมื่อปี2565ที่ผ่านมา จากไปหลังจากผมเรียนจบและประกาศผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ไม่นาน เขาจากไปด้วยภาวะเลือดออกในสมองจากอุบัติเหตุรถยนต์ ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น1อาทิตย์ ผมไม่ได้อยู่บ้าน ผมอยู่ที่กรุงเทพฯ แม่ผมเขาให้ปู่ข้างบ้านขับรถยนต์พาไปอนามัยแถวบ้านซึ่งก็ใกล้ๆ แต่รถดันเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากคนขับหลับใน แล้วรถพุ่งลงข้างทางเลี้ยวกลับหลังอีกทีนึง สภาพรถที่ผมเห็นตอนแรก ข้างหน้าพังยับ ทุกคนปลอดภัย แต่แปลกที่ถุงลมนิรภัยไม่ทำงานเลยทำให้หัวของแม่กระแทกอย่างเต็มแรง ผมถามแม่ว่า แม่เจ็บตรงไหนไหม เขาบอกเขาปวดหัวนิดหน่อยไม่เป็นอะไรมาก แต่อาทิตย์ถัดมาเขาหมดสติไประหว่างคุยโทรศัพท์กับพ่อผม หลังจากนั้นเขาก็ไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย มีหลายเหตุการณ์มากๆที่ผมต้องเผชิญและรับมือกับมัน ผมรู้ว่าผมโตแล้ว โตตั้งแต่ผมดูแลแม่ พาแม่ไปหาหมอเข้าออกโรงพยาบาลมากกว่าอยู่บ้านสะอีก แม่มีลูกอยู่3คนครับ รวมถึงพ่อผม ทุกคนเป็นผู้ชายหมด แต่ไม่มีสักคนที่อยากมาดูแลแม่ ต่างคนต่างมีงานที่ต้องทำ เกี่ยงกันสารพัดอย่าง สุดท้ายก็มีแค่ผมที่ต้องดูแลแม่อยู่คนเดียว พอแม่เสีย ทุกคนทำเหมือนผมเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ พูดเหมือนผมเป็นคนนอก หมาผมที่ผมตั้งชื่อและเลี้ยงมันมากับมือ อาผมพูดว่า นี่รู้จักหมาตัวนี้ไหม มันชื่อนี้นะ เหมือนเขายอมรับความจริงไม่ได้ว่าทำไมเด็กอายุน้อยกว่าถึงมีความรับผิดชอบมากกว่าตัวเองมั้งครับ เขาถามผมว่านี่ รู้สึกยังไงหรอตอนที่รู้ว่าแม่เข้าโรงพยาบาล คือแบบ มันจี้งอยู่ในอกว่ากล้าพูดดออกมาได้ยังไง ผมเป็นหลาน เขาเลี้ยผมมาผมควรต้องรู้สึกขำหรอหรือยังไงอะ คนที่รู้ข่าวว่าแม่ป่วยเข้าโรงพยาบาลบ่อยครั้งผมคนแรกที่รู้แล้วก็ผมคนแรกที่ถึงโรงพยาบาลก่อนทุกคน แม่ได้นอนโรงพยาบาลบ่อยมากก่อนจะเกิดอุบัติเหตุครับ แกบอกว่าแกเหนื่อย ไม่ค่อยมีแรง หมอให้นอนโรงพยาบาลดูอาการ3-4วันนี่แหละครับ แล้วตอนอาบน้ำศพแม่ คุณรู้ไหมผมได้ยินคำพูดว่าอะไรจากปากอาสะใภ้ เขาพูดว่า ถูแรงๆหน่อย แม่ไม่รู้สึกหรอก นั่นเป็นคำพูดที่ควรพูดจริงๆหรอครับ แล้วเขาก็พูดอีกว่า ทำไมมีนัดไปหาหมอของปู่ถึงไม่พาปู่ไปหาหมอ แล้วคือปู่ผมเป็นหอบหืดนะครับ ผมต้องไปเรียน โรงเรียนผมอยู่ที่กรุงเทพ ผมต้องลาโรงเรียนกลับมาบ้านบ่อยครั้ง แต่แล้วลูกเขาหายไปอยู่ไหน แทนที่จะไปถามพวกเขาคุณกลับมาถามคำถามผม ทำเหมือนผมเป็นคนผิด ผ่านไปไม่นานเขากุเรื่องขึ้นมาว่าของในบ้านเสียครับ อาสะใภ้กับแฟนของเขานั่นแหละ กุว่าตู้เย็นเสีย เตาแก๊สเสีย สุดท้ายพูดว่าจะเอาไปซ่อม ที่ไหนได้ เอาไปใช้ที่บ้านตัวเองหน้าด้านมาก ผมไม่เคยเห็นสะใภ้ที่ไหนเขาไม่มีมารยาทมากขนาดนี้มาก่อนเลย แล้วก็ใส่ร้ายป้านสีผม หาว่าผมติดยา ติดเหล้า เพื่อที่ว่าทุกคนจะได้คิดว่าผมเป็นคนไม่ดีแล้วผลประโยชน์จะไม่ต้องตกเป็นของผม รถยนต์แต่ก่อนเอาไว้ให้แม่ใช้ไปหาหมอเขาก็เอาไปซ่อมแล้วก็เอาไปขี่เฉยเลย แล้วก็มีคำพูดของอาสะใภ้หลุดออกมาเป็นระยะๆว่าเขาพูดถึงผมยังไงบ้าง เขาบอกว่าถ้าอยากได้ก็ให้หาทนายมาคุย หรือหาเงินมาไถ่เอารถคืน รถยน์เป็นชื่อแม่นะครับ แต่อาคนสุดท้องเป็นคนจ่ายค่างวดรถ บ้านก็บอกว่าจะทำใหม่แต่จะสร้างห้องให้ผมก็ต่อเมื่อผมต้องไปขับรถไถช่วย เป็นอะไรที่บ้ามากๆ ผมเพิ่งอายุ20เอง ผมมีความฝันจะเป็นหมอแต่จะมาดับอนาคตคนอื่นเพราะตัวเองไม่มีคนขับรถไถช่วยนี่น่ะหรอ โครตจะปัญญาอ่อน แล้วตัวเองเป็นแค่สะใภ้ ถือวิสาสะอะไรมาตัดสินใจในเรื่องมรดก ในตอนนี้ผ่านมา2ปีแล้วเขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะแบ่งมรดกกันเลยครับ แต่งตั้งผู้จัดการมรดกเป็นอาคนกลางที่เป็นสามีของอาสะใภ้ที่ผมพูดถึง ในแง่ของกฎหมายผมว่าพวกเขาต้องแบ่งเท่าๆกัน เอามรดกมากองรวมกันแล้วแบ่งเท่าๆกัน แต่นี่คนนึงบอกจะสร้างบ้าน ทั้งที่ก็ยังไม่ได้แบ่งมรดกกันเลย เขาคงไม่คิดที่จะแบ่งให้พ่อผมละมั้งครับ ด้วยเหตุที่ว่าพ่อผมมีหนี้สินเยอะ กลัวเขายืดไปหรือกลัวพ่อผมเอาไปขายใช้หนี้ แต่ผมบลัฟพ่อผมไว้แล้วครับ ผมตัดคำขาดไปในหลายๆเรื่องกับพ่อผมเพราะนอกจากหน้าที่พ่อเขาจะทำไม่ได้แล้ว หน้าที่ลูกเองเขาก็ทำไม่ได้เช่นกัน ผมผิดหวังมาก เขาบอกให้ผมปล่อยวางเรื่องมรดก จะให้ผมปล่อยวางอะไรอะ ก็ในเมื่อมันเป็นสิทธิ์ตามกฏหมายอยู่แล้วที่พ่อจะต้องได้รับ จะยอมแพ้ให้คนไม่เอาไหนแล้วผมจะไปอยู่ที่ไหน บ้านผมก็เติบโตมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วพวกเขาลูกคนอื่นๆก็ไม่ได้อยู่ในทะเบียนบ้านแล้ว ในทะเบียนบ้านมีแค่ผม พ่อ แล้วก็ปู่ ถ้ารวมย่าด้วยก็อีกคน เขาย้ายไปนานแล้วด้วย เป็น20ปีแล้ว ผมรู้ว่าทะเบียนบ้านไม่ได้ตัดสินว่าใครจะเป็นผู้รับมรดกแต่ในเมื่อแม่ไม่ได้ทำพินัยกรรมมรดกก็ต้องถูกแบ่งให้ลูกเป็นอันดับแรก ผมรู้ แต่สิ่งที่เขาทำกับพ่อกับแม่ตัวเอง การละเลยต่างๆ การที่ผมต้องมาเห็นแม่ต้องร้องไห้เพราะลูกตัวเองไม่มาดูแล การที่ผมต้องคอยเอาใจใส่แก ซื้อของอร่อยๆมาให้แก แล้วลูกเขาก็มาทำงี้ ตอนแม่เข้าโรงพยาบาลไม่ได้สติ หมอให้กลับบ้านมาเอาน้ำยาล้างช่องท้อง ซึ่งมันมีอยู่3แบบ อาคนกลางมีรถกระบะก็เลยกลับบ้านมาเอา ผมก็มาด้วย ผมบอกเขาไปว่าแม่ใช้น้ำยาล้างช่องท้องได้แค่ตัวเดียว เพราะอันอื่นมันแสบท้อง แม่เคยบอก แต่เขาก็ไม่ฟังผมเลย เขาเอาแต่อวดดี อวดเก่งว่าตัวเองรู้ ไปเปิดดูสมุดจดน้ำยาที่ชั่งเข้า-ออกในแต่ละวันเพื่อหาดูว่าแม่ใช้น้ำยาตัวไหนบ้าง แต่แทนที่เขาจะถามคนที่ใกล้ชิดแม่มากที่สุดคือผม แม่ใช้น้ำยาล้างช่องท้องตัวอื่นไม่ได้เพราะมันแสบท้อง หลายๆเหตุการณ์ที่ผมต้องเจอมันเยอะมากกว่าเด็กคนอื่นทั่วไปมากๆ จนผมมีอาการแย่ เข้าสังคมไม่ได้ เข้าหาคนไม่ได้ ผมเงียบ ผมเก็บกด จนถึงตอนนี้ก็ไม่รู้จะไปเล่าให้ใครฟัง ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคนเราต้องยอมให้คนที่ทำผิดดำเนินเรื่องต่อไปได้ ถ้ามันผิดเราก็ต้องอยู่ฝ่ายความยุติธรรมสิ แต่พ่อผมดันยอมแพ้สะงั้นเพราะไม่อยากมีปัญหากัน มที่เป็นลูกควรทำยังไงดีครับ อยู่เฉยๆดูเขาเอาเปรียบงี้หรอ ในเมื่อแม่ไม่อยู่แล้วสิ่งนึ่งที่ผมเป็นเสมือนลูกของเขา ผมอยากรักษาทุกสิ่งที่เป็นของเขาไว้ดูต่างหน้า มากกว่าทำลายทิ้ง ผมไม่ได้อยากได้สิ่งของมีค่าหรือเงินประกันใดๆ ถ้าเป็นไปได้ผมขอแม่ผมคืนมา
เมื่อไหร่ พ่อกับแม่จะเลิกเป็นงี้