JJNY : รพ.อัล-ชิฟา“วิกฤตหนัก”│ฝ่ายต่อต้านบุกยึดเมืองยุทธศาสตร์ ‘มินออ่องหล่าย’│วิโรจน์เปิดแชต อสม.│ตลาดการเงินไทยป่วน

รพ.อัล-ชิฟา “วิกฤตหนัก” 2,300 ชีวิตเสี่ยงตาย ไร้ไฟฟ้า-ขาดอาหาร-ทารกดับแล้ว 5
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7960122
 
 
รพ.อัล-ชิฟา “วิกฤตหนัก” –  บีบีซี รายงานวันที่ 13 พ.ย. ว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงเตือนว่าสถานการณ์ที่ โรงพยาบาลอัล-ชิฟา โรงพยาบาลหลักในพื้นที่ฉนวนกาซ่า “กำลังเลวร้ายและเต็มไปด้วยอันตราย” หลังถูกโจมตีอย่างหนักจนไม่มีไฟฟ้าใช้ ซ้ำร้ายยังขาดแคลนอาหารและน้ำด้วย
 
ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า “การยิงปืนและวางระเบิดอย่างต่อเนื่องในพื้นที่รอบๆ โรงพยาบาลทำให้สถานการณ์ที่วิกฤตอยู่แล้วยิ่งเลวร้ายลง โรงพยาบาลอัล-ชิฟาไม่สามารถเป็นโรงพยาบาลได้อีกต่อไป” และเรียกร้องให้ยุติการโจมตีพลเรือนในทันที
 
ด้านกองทัพอิสราเอลแถลงว่าพร้อมจะช่วยเหลืออพยพทารกแรกเกิดหลายสิบคนจากโรงพยาบาลอัล-ชิฟาไปยังโรงพยาบาลอื่น ภายหลังยืนยันหนักแน่นว่าไม่ได้โจมตีโรงพยาบาล แต่ยอมรับว่ามีการปะทะในพื้นที่โดยรอบ
 
ขณะที่ นายแพทย์มาร์วาน อาบู ซาอาดา หัวหน้าศัลยแพทย์ที่โรงพยาบาลอัล-ชิฟา เปิดเผยว่าทารกแรกเกิดคนที่ 3 เสียชีวิตลงแล้วเนื่องจากโรงพยาบาลไม่มีไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์พยุงชีพ ตอนนี้ทารกแรกเกิดอีกหลายสิบคนไม่ได้รับการดูแลอย่างที่ควรจะเป็น “น่ากลัวว่าเราจะสูญเสียชีวิตของทารกทั้งหมด
 
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดี ไอแซก เฮอร์ซ็อก แห่งอิสราเอลกล่าวหาว่ากองกำลังฮามาสมีสำนักงานใหญ่อยู่ภายใต้พื้นที่โรงพยาบาลอัล-ชิฟา ฝ่ายกองกำลังฮามาสปฏิเสธว่าใช้โรงพยาบาลเพื่อจุดประสงค์ทางการทหาร
 
นพ.อาบู ซาดาอา กล่าวด้วยว่าการครหาของอิสราเอลเป็น “การโกหกครั้งใหญ่” และเชื้อเชิญให้เข้ามาตรวจสอบอาคารของโรงพยาบาลว่าไม่ได้เป็นที่ซ่องสุมของฮามาสอย่างแน่นอน
 
วันเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขที่ดำเนินการโดยกองกำลังฮามาสเปิดเผยข้อมูลที่โรงพยาบาลอัล-ชิฟาว่า ยังมีผู้คนอย่างน้อย 2,300 คนอยู่ในโรงพยาบาลแห่งนี้ เป็นผู้ป่วยราว 600-650 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 200-500 คน และผู้พลัดถิ่นประมาณ 1,500 คนที่หนีตายมาพักพิงในโรงพยาบาล
 
นอกจากนี้ยังระบุว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 พ.ย. มีทารกคลอดก่อนกำหนด 5 คน และผู้ป่วยอาการสาหัส 7 คนเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอัล-ชิฟา “เราเกรงว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีกในตอนเช้า” นายยูสเซฟ อาบู ริช รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุขในฉนวนกาซ่ากล่าว



ฝ่ายต่อต้านบุกยึดเมืองยุทธศาสตร์ ‘มินออ่องหล่าย’ สั่งทั่วประเทศเตรียมพร้อม
https://www.matichon.co.th/region/news_4279690

ฝ่ายต่อต้านบุกยึดเมืองยุทธศาสตร์ ‘มินออ่องหล่าย’ สั่งทั่วประเทศเตรียมพร้อม

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานจากชายแดนจังหวัดตาก ว่า ทหารเมียนมาตามแนวชายแดน และจังหวัดตากๆ ได้รับคำสั่งจากหน่วยเหนือให้เตรียมพร้อมทุกพื้นที่ และให้รักษาที่มั่น และค่ายทหาร รวมทั้งสถานที่ทางทหารที่สำคัญทั้งหมด ทั้งนี้เพื่อป้องกันการถูกโจมตีจากฝ่ายต่อต้านทหารเมียนมา ซึ่งมีทั้งชนกลุ่มน้อย และกลุ่มกองกำลังปกป้องประชาชน (พีดีเอฟ.) ทั้งนี้หลังจากฝ่ายต่อต้านทหารเมียนมา หรือ ฝ่ายพันธ์มิตร 3 เหนือ ซึ่งประกอบไปด้วย ทหารโกก้าง ทหารปะลอง และกองกำลังเอเอ หรือ กองทัพอาระกัน อาร์มี่ เข้าไปยึดเมืองกวางโหลง ซึ่งเป็นเมืองยุทธศาสตร์ ตั้งอยู่ระหว่างเมืองมัณฑเลย์ กับ เมืองลาซู เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
 
โฆษกกองทัพโกก้าง แจ้งว่า ทหารเมียนมาเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก จากการถูกโจมตี ขณะที่ฝ่ายพันธมิตรเหนือ ได้ยึดคลังแสง ค่ายทหาร รถถัง และสถานที่ราชการทั้งหมด และยังควบคุมพื้นที่จนถึงวันนี้ ( 13 พ.ย. 66 )
 

 
วิโรจน์ เปิดแชต อสม.ในลำพูน ถูกบังคับซื้อเสื้อ ถ้าไม่ร่วมมือจะส่งชื่อให้หมอ จ่อให้ ส.ส.พื้นที่เคลียร์
https://www.matichon.co.th/politics/news_4279727

วิโรจน์ เปิดแชต อสม.ในลำพูน โดนบังคับซื้อเสื้อ ตัวละ 250 ขู่ถ้าไม่ให้ความร่วมมือจะส่งชื่อให้หมอ จ่อประสาน ส.ส.พื้นที่บี้ สสจ.ชี้แจง
 
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เปิดเผยแชตที่เผยให้เห็น การบังคับ อสม.ซื้อเสื้อ ราคา 250 บาท โดยอ้าง “คำขอร้อง” และ “ความร่วมมือ” จากสาธารณสุขอำเภอ ทั้งนี้ หากใครไม่ให้ความร่วมมือจะส่งรายชื่อให้หมอ
 
นายวิโรจน์ระบุว่า บังคับ อสม.ต้องซื้อเสื้อจริงหรือ? คนในสังคมทราบดีว่า อสม.เป็นงานอาสาสมัครที่ต้องทำด้วยใจเป็นหลัก ค่าตอบแทนที่ได้ก็ได้รับเพียงค่าป่วยการเดือนละ 2,000 บาทเท่านั้น เหมือนกับเป็นการช่วยแบ่งเบาค่าน้ำมันรถ ค่าโทรศัพท์เล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นเอง
 
ผมได้รับข้อร้องเรียน น่าจะมาจาก อสม. อ.แม่ทา จ.ลำพูน ว่ามีการบังคับให้ซื้อเสื้อราคาตัวละ 250 บาท คิดเป็น 12.5% ของค่าตอบแทนรายเดือน ถือว่าสูงมากครับ
 
ผมอ่านจากแชตใน LINE ยังคงไม่แน่ใจว่าจะเป็นการบังคับจริงหรือเปล่า เพราะประโยคที่สื่อสารมันดูขัดกันเอง ประโยคท่อนแรกพิมพ์ว่า “อสม.ทุกท่านต้องซื้อ…” อันนี้เป็นประโยคคำสั่ง เป็นการบังคับอย่างแน่นอน แต่พอมาพิจารณาประโยคต่อมาที่พิมพ์ว่า “…สาธารณสุขอำเภอขอร้อง และขอความร่วมมือ” มันก็ไม่ได้เป็นการบังคับนี่ครับ ถ้าตีความเฉพาะประโยคหลังก็คือจะซื้อ หรือไม่ซื้อก็ได้ แล้วแต่ความสมัครใจ
 
แต่พอมาดูอีกประโยคที่พิมพ์ว่า “ใครไม่ให้ความร่วมมือต้องส่งรายชื่อให้หมอ” ประโยคนี้อ่านดูเหมือนประโยคข่มขู่ แต่ก็ไม่ได้ระบุต่อว่าส่งให้หมอ แล้วหมอจะทำอะไร ให้คุณให้โทษอย่างไร
 
นายวิโรจน์กล่าวด้วยว่า ถ้ายังมีการบังคับให้ซื้ออีก ให้ประสานมาอีกครั้ง จะได้ประสานให้ นายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก ส.ส.ลำพูนของพรรคก้าวไกลตรวจสอบ และสอบถามไปยังสาธารณสุขจังหวัดลำพูนให้รู้แน่ชัดว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เป็นชุดเครื่อแบบที่ต้องบังคับซื้อหรือไม่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่