อิสราเอลสั่งอพยพคนออกจากโรงพยาบาลอัล-ชีฟา
https://tna.mcot.net/world-1274744
กาซา ซิตี้ 18 พ.ย. – ทหารอิสราเอลสั่งการให้อพยพประชาชนออกจากโรงพยาบาลอัล-ชีฟา ใน 1 ชั่วโมง ในขณะที่ทหารตรวจค้นโรงพยาบาลเพื่อหาที่ซ่อนของกลุ่มติดอาวุธฮามาส
ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวเอเอฟพี ที่อยู่ในจุดเกิดเหตุที่โรงพยาบาลอัล-ชีฟา กล่าวว่า ทหารอิสรเอลได้ใช้ลำโพงประกาศเรื่องการอพยพในวันนี้
โรงพยาบาลอัล-ขีฟา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซา กลายเป็นสถานที่ที่ถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษในสงครามอิสรเอล-ฮามาสในขณะนี้ ที่ย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 7 แล้วหลังจากที่กลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตอิสราเอลแบบไม่ทันตั้งตัวเมื่อวันที 7 ตุลาคมที่ผ่านมา อิสราเอลอ้างว่า กลุ่มฮามาสมีฐานปฎิบัติการอยู่ใต้โรงพยาบาลอัล-ชีฟา แต่ทางกลุ่มฮามาสปฎิเสธเรื่องนี้
สหประชาชาติประเมินว่ามีคนไข้ พนักงานและชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นที่มาหลบภัยรวมทั้งสื้นประมาณ 2,300 คนอยู่ภายในโรงพยาบาลก่อนที่อิสราเอลจะเคลื่อนกำลังทหารเข้าไปในวันพุธที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขของฮามาสในฉนวนกาซาประกาศว่า มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนในโรงพยาบาล เนื่องจากถูกตัดไฟ ซึ่งเป็นผลมาจากการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงท่ามกลางการสู้รบอย่างดุเดือดระหว่างอิสราเอลกับฮามาส อิสราเอลประกาศเรียกร้องหลายครั้งแล้วว่า ให้อพยพคนออกจากโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่การแพทย์กล่าวว่า ไม่สามารถเคลื่อนย้ายคนไข้ได้
โมฮัมหมัด อาบู ซัลมิยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ทหารอิสราเอลแนะนำให้เขาดำเนินการอพยพคนไข้ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ผู้พลัดถิ่นและบุคลากรทางการแพทย์ และยังแนะนำให้เดินเท้าไปทางแนวชายหาดริมฝั่งทะเล.-สำนักข่าวไทย
ประชาชนหลายร้อยคนเดินเท้าออกจากโรงพยาบาลอัล-ชีฟา
https://tna.mcot.net/world-1274810
กาซา ซิตี้ 18 พ.ย. – สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ประชาชนหลายร้อยคนเริ่มเดินเท้าอพยพออกจากโรงพยาบาลอัล-ชีฟา ในฉนวนกาซาแล้วในวันนี้ หลังจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลกล่าวว่า กองทัพอิสราเอลสั่งการให้อพยพประชาชนออกจากโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซา แห่งนี้
กระทรวงสาธารณสุขที่ดำเนินกิจการโดยกลุ่มฮามาสกล่าวในแถลงการณ์ว่า ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 120 คน ยังคงอยู่ในโรงพยาบาล รวมถึงเด็กทารกที่คลอดก่อนกำหนดไม่ทราบจำนวนด้วยและขณะนี้ทางกระทรวงฯ ได้ติดต่อประสานงานกับสภากาชาดเกี่ยวกับทารกเหล่านี้ เจ้าหน้าที่กล่าวว่า บุคคลกรทางการแพทย์จำนวนเล็กน้อยยังอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อดูแลผู้ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้านอพยพไปได้
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ผู้ป่วยและบาดเจ็บ ซึ่งบางคนพิการ รวมถึงผู้พลัดถิ่นฐาน แพทย์ และพยาบาลเดินเท้าเป็นแถวออกจากโรงพยาบาลมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ริมฝั่งทะเล อย่างไรก็ตาม กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า ไม่ได้สั่งการให้มีการอพยพแต่อย่างใด กองทัพอิสราเอลกล่าวในแถลงการณ์ว่า กองทัพยอมตามคำขอของผู้อำนวยการโรงพยาบาลอัล-ชีฟาห์ เพื่อให้ชาวกาซาที่หลบภัยอยู่ในโรงพยาบาลและต้องการจะอพยพออกไป สามารถเดินทางออกไปได้
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของฮามาสกล่าว่า ผู้ที่บาดเจ็บและคนไข้ที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง 450 คน ไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนได้และรต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องดูแลคนไข้เหล่านี้.-สำนักข่าวไทย
พ.ร.บ.กู้ 5 แสนล้าน “ศิริกัญญา” มองขาด กว่า รบ.?
https://www.innnews.co.th/video/general-news-clips/news_642592/
รัฐบาล “เศรษฐา” ให้คำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเดินหน้า “ดิจิทัลวอลเลต” แจก 1 หมื่น กับคนที่ อายุ 16 ปีขึ้นไป เงินเดือนไม่เกิน 7 หมื่นบาท และมีเงินฝากเกิน 5 แสนบาท
โดยที่มาของเงิน มาจากการออก พรบ.กู้ 5 แสนล้านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในความชัดเจนนั้นกลับตามมาด้วยคำถาม และยังไม่มีคำตอบ ว่าท้ายที่สุดแล้ว นโยบายนี้ประชาชนจะได้รับเงินจริงหรือไม่ เพราะลำพังแค่ การจะออก พรบ.กู้เงิน 5 แสนล้านมาแจกนั้น ก็ถูกวิพากวิจารณ์อย่างหนักจากนักวิชาการ นักการเมืองโดยเฉพาะฝ่ายค้าน ว่านโยบายนี้ไม่ตรงปก หาเสียงมาอีกอย่าง แต่กลับทำอีกอย่างกกต.ต้องตรวจสอบ หรือเสียงจากนักเศรษฐศาสตร์
ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการคลัง ที่บางคนมองว่าการกู้แบบนี้จะขัดต่อกฏหมายวินัยการเงินการคลังของรัฐ แต่ทุกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ก็สู้เสียงของ “
ศิริกัญญา ตันสกุล” จากก้าวไกลไม่ได้เพราะเป็นคนแรกที่ทักท้วงว่า นี่อาจเป็นการหาทางลง หาทางออกตัดจบนโยบายนี้
เพราะอาจ ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 140และขัดต่อ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง มาตรา 53 โยนบาปไปให้สภาคว่ำ แล้วกลายเป็นจำเลยว่า ขวางทางการช่วยเหลือประชาชนเพราะการเลือกออก พรบ.กู้ เป็นเส้นทางที่ยากที่สุด อีกทั้งยังโต้แย้งว่า วันนี้ยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนอะไร ที่จะต้องกู้มาแจก
ซึ่งหลังจากนั้น ทั้งนายกฯ
เศรษฐา ทวีสิน ทั้งรองนายกฯ
ภูมิธรรม เวชยชัย หรือเลขาฯนายกฯ อย่าง
พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดชหรือแม้แต่
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยคลัง ก็ออกมาตอบโต้กับ “
ศิริกัญญา” มาตลอดทั้งสัปดาห์ แต่ก็ยังตอบถำถามของ “
ศิริกัญญา” ที่ว่า พรบ.เงินกู้ 5แสนล้าน ได้ปรึกษากฤษฎีกามาเรียบร้อยแล้ว และทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าจะใช้วิธีการนี้ โดยที่ไม่ผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่
ในทางกลับกัน “รองฯ
ภูมิธรรม” ซึ่งรักษาการอยู่ในช่วงที่ “
เศรษฐา” ไปประชุมเอเปคที่สหรัฐอเมริกาก็ตอบคำถามของ “
ศิริกัญญา” หลายรอบ แต่ก็ไม่อยู่กับร่องกับรอยเท่าใดนัก เพราะวันประชุม ครม.บอก ส่ง พรบ.กู้ ให้กฤษฏีกาตีความแล้ว แต่พอวันศุกร์สุดสัปดาห์ กลับตอบอีกแบบว่า ร่างพรบ.กู้ ยังไม่เรียบร้อย แต่มั่นใจจะได้ข้อสรุปโดยเร็ว
ซึ่งนั่นหมายความว่า ข้อสรุปว่าจะออก พรบ.กู้เงิน 5 แสนล้าน ที่ “
เศรษฐา” แถลงเอาหล่อไปเมื่อสัปดาห์ก่อนนั้นช่างเลื่อนลอยเหลือเกิน และมีความเป็นไปได้มากว่า จะไปต่อไม่ได้ ถูกทำแท้งตั้งแต่กฤษฏีกา ตามที่ “
ศิริกัญญา”ตั้งข้อสังเกตุหรือไม่แต่เหนือสิ่งอื่นใด จุดยืนของ “ศิริกัญญา และ ก้าวไกล”
นั้นก็แค่วิพากษ์วิจารณ์ทักท้วงพอหอมปากหอมคอตามกลไกของสภาเท่านั้น ยังไว้ไมตรีแก่เพื่อไทยและ “
เศรษฐา”อยู่พอสมควร ไม่เหมือนกับบรรดานักร้องคนดัง “
ศรีสุวรรณ จรรยา-สนธิญา สวัสดี-เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ-วรงค์ เดชกิจวิกรม-รสนา โตสิตระกูล” ที่เดินหน้ายื่นองค์กรอิสระ ทั้ง สตง. ผู้ตรวจการแผ่นดิน, กกต.และ ปปช.เพื่อให้เรื่องนี้ถูกตัดสิน ก็จะส่งผลกระทบต่อทิศทางการเมืองในอนาคตเป็นอย่างมาก
เพราะหาก “
ดิจิทัลวอลเลต” ล่มหรือถูกตัดสินว่าขัดรัฐธรรมนูญ หรือผิดกฏหมายพรรคการเมือง ทั้งรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย จะปัดความรับผิดชอบไม่ได้เลยเพราะในอดีตก็เคยมีบทเรียนแล้ว เมื่อครั้งรัฐบาล “ยิ่
งลักษณ์”นั่นเอง
สบตาความขัดแย้ง ถกแก่นปัญหาชายแดนใต้ กับ “รอมฎอน ปันจอร์” สส.ก้าวไกล
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4289009
สนทนากับ “
รอมฎอน ปันจอร์” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อดีตนักกิจกรรม นักข่าว-นักวิจัย สู่เส้นทางการเมือง เปิดบทสนทนาถกใจกลางปัญหาสามจังหวัดชายแดนใต้ มองอนาคตสันติภาพ-ประชาธิปไตยไทย ติดตามชมรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้
JJNY : 5in1 อิสราเอลสั่งอพยพ│ปชช.เดินเท้าออกจากรพ.│“ศิริกัญญา” มองขาด│ถกแก่นปัญหากับ“รอมฎอน”│สศช.เตือนจ่ายเงินชาวนา
https://tna.mcot.net/world-1274744
กาซา ซิตี้ 18 พ.ย. – ทหารอิสราเอลสั่งการให้อพยพประชาชนออกจากโรงพยาบาลอัล-ชีฟา ใน 1 ชั่วโมง ในขณะที่ทหารตรวจค้นโรงพยาบาลเพื่อหาที่ซ่อนของกลุ่มติดอาวุธฮามาส
ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวเอเอฟพี ที่อยู่ในจุดเกิดเหตุที่โรงพยาบาลอัล-ชีฟา กล่าวว่า ทหารอิสรเอลได้ใช้ลำโพงประกาศเรื่องการอพยพในวันนี้
โรงพยาบาลอัล-ขีฟา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซา กลายเป็นสถานที่ที่ถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษในสงครามอิสรเอล-ฮามาสในขณะนี้ ที่ย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 7 แล้วหลังจากที่กลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตอิสราเอลแบบไม่ทันตั้งตัวเมื่อวันที 7 ตุลาคมที่ผ่านมา อิสราเอลอ้างว่า กลุ่มฮามาสมีฐานปฎิบัติการอยู่ใต้โรงพยาบาลอัล-ชีฟา แต่ทางกลุ่มฮามาสปฎิเสธเรื่องนี้
สหประชาชาติประเมินว่ามีคนไข้ พนักงานและชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นที่มาหลบภัยรวมทั้งสื้นประมาณ 2,300 คนอยู่ภายในโรงพยาบาลก่อนที่อิสราเอลจะเคลื่อนกำลังทหารเข้าไปในวันพุธที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขของฮามาสในฉนวนกาซาประกาศว่า มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนในโรงพยาบาล เนื่องจากถูกตัดไฟ ซึ่งเป็นผลมาจากการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงท่ามกลางการสู้รบอย่างดุเดือดระหว่างอิสราเอลกับฮามาส อิสราเอลประกาศเรียกร้องหลายครั้งแล้วว่า ให้อพยพคนออกจากโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่การแพทย์กล่าวว่า ไม่สามารถเคลื่อนย้ายคนไข้ได้
โมฮัมหมัด อาบู ซัลมิยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ทหารอิสราเอลแนะนำให้เขาดำเนินการอพยพคนไข้ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ผู้พลัดถิ่นและบุคลากรทางการแพทย์ และยังแนะนำให้เดินเท้าไปทางแนวชายหาดริมฝั่งทะเล.-สำนักข่าวไทย
ประชาชนหลายร้อยคนเดินเท้าออกจากโรงพยาบาลอัล-ชีฟา
https://tna.mcot.net/world-1274810
กาซา ซิตี้ 18 พ.ย. – สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ประชาชนหลายร้อยคนเริ่มเดินเท้าอพยพออกจากโรงพยาบาลอัล-ชีฟา ในฉนวนกาซาแล้วในวันนี้ หลังจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลกล่าวว่า กองทัพอิสราเอลสั่งการให้อพยพประชาชนออกจากโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซา แห่งนี้
กระทรวงสาธารณสุขที่ดำเนินกิจการโดยกลุ่มฮามาสกล่าวในแถลงการณ์ว่า ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 120 คน ยังคงอยู่ในโรงพยาบาล รวมถึงเด็กทารกที่คลอดก่อนกำหนดไม่ทราบจำนวนด้วยและขณะนี้ทางกระทรวงฯ ได้ติดต่อประสานงานกับสภากาชาดเกี่ยวกับทารกเหล่านี้ เจ้าหน้าที่กล่าวว่า บุคคลกรทางการแพทย์จำนวนเล็กน้อยยังอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อดูแลผู้ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้านอพยพไปได้
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ผู้ป่วยและบาดเจ็บ ซึ่งบางคนพิการ รวมถึงผู้พลัดถิ่นฐาน แพทย์ และพยาบาลเดินเท้าเป็นแถวออกจากโรงพยาบาลมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ริมฝั่งทะเล อย่างไรก็ตาม กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า ไม่ได้สั่งการให้มีการอพยพแต่อย่างใด กองทัพอิสราเอลกล่าวในแถลงการณ์ว่า กองทัพยอมตามคำขอของผู้อำนวยการโรงพยาบาลอัล-ชีฟาห์ เพื่อให้ชาวกาซาที่หลบภัยอยู่ในโรงพยาบาลและต้องการจะอพยพออกไป สามารถเดินทางออกไปได้
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของฮามาสกล่าว่า ผู้ที่บาดเจ็บและคนไข้ที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง 450 คน ไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนได้และรต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องดูแลคนไข้เหล่านี้.-สำนักข่าวไทย
พ.ร.บ.กู้ 5 แสนล้าน “ศิริกัญญา” มองขาด กว่า รบ.?
https://www.innnews.co.th/video/general-news-clips/news_642592/
รัฐบาล “เศรษฐา” ให้คำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเดินหน้า “ดิจิทัลวอลเลต” แจก 1 หมื่น กับคนที่ อายุ 16 ปีขึ้นไป เงินเดือนไม่เกิน 7 หมื่นบาท และมีเงินฝากเกิน 5 แสนบาท
โดยที่มาของเงิน มาจากการออก พรบ.กู้ 5 แสนล้านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในความชัดเจนนั้นกลับตามมาด้วยคำถาม และยังไม่มีคำตอบ ว่าท้ายที่สุดแล้ว นโยบายนี้ประชาชนจะได้รับเงินจริงหรือไม่ เพราะลำพังแค่ การจะออก พรบ.กู้เงิน 5 แสนล้านมาแจกนั้น ก็ถูกวิพากวิจารณ์อย่างหนักจากนักวิชาการ นักการเมืองโดยเฉพาะฝ่ายค้าน ว่านโยบายนี้ไม่ตรงปก หาเสียงมาอีกอย่าง แต่กลับทำอีกอย่างกกต.ต้องตรวจสอบ หรือเสียงจากนักเศรษฐศาสตร์
ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการคลัง ที่บางคนมองว่าการกู้แบบนี้จะขัดต่อกฏหมายวินัยการเงินการคลังของรัฐ แต่ทุกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ก็สู้เสียงของ “ศิริกัญญา ตันสกุล” จากก้าวไกลไม่ได้เพราะเป็นคนแรกที่ทักท้วงว่า นี่อาจเป็นการหาทางลง หาทางออกตัดจบนโยบายนี้
เพราะอาจ ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 140และขัดต่อ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง มาตรา 53 โยนบาปไปให้สภาคว่ำ แล้วกลายเป็นจำเลยว่า ขวางทางการช่วยเหลือประชาชนเพราะการเลือกออก พรบ.กู้ เป็นเส้นทางที่ยากที่สุด อีกทั้งยังโต้แย้งว่า วันนี้ยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนอะไร ที่จะต้องกู้มาแจก
ซึ่งหลังจากนั้น ทั้งนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ทั้งรองนายกฯ ภูมิธรรม เวชยชัย หรือเลขาฯนายกฯ อย่างพรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดชหรือแม้แต่ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยคลัง ก็ออกมาตอบโต้กับ “ศิริกัญญา” มาตลอดทั้งสัปดาห์ แต่ก็ยังตอบถำถามของ “ศิริกัญญา” ที่ว่า พรบ.เงินกู้ 5แสนล้าน ได้ปรึกษากฤษฎีกามาเรียบร้อยแล้ว และทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าจะใช้วิธีการนี้ โดยที่ไม่ผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่
ในทางกลับกัน “รองฯภูมิธรรม” ซึ่งรักษาการอยู่ในช่วงที่ “เศรษฐา” ไปประชุมเอเปคที่สหรัฐอเมริกาก็ตอบคำถามของ “ศิริกัญญา” หลายรอบ แต่ก็ไม่อยู่กับร่องกับรอยเท่าใดนัก เพราะวันประชุม ครม.บอก ส่ง พรบ.กู้ ให้กฤษฏีกาตีความแล้ว แต่พอวันศุกร์สุดสัปดาห์ กลับตอบอีกแบบว่า ร่างพรบ.กู้ ยังไม่เรียบร้อย แต่มั่นใจจะได้ข้อสรุปโดยเร็ว
ซึ่งนั่นหมายความว่า ข้อสรุปว่าจะออก พรบ.กู้เงิน 5 แสนล้าน ที่ “เศรษฐา” แถลงเอาหล่อไปเมื่อสัปดาห์ก่อนนั้นช่างเลื่อนลอยเหลือเกิน และมีความเป็นไปได้มากว่า จะไปต่อไม่ได้ ถูกทำแท้งตั้งแต่กฤษฏีกา ตามที่ “ศิริกัญญา”ตั้งข้อสังเกตุหรือไม่แต่เหนือสิ่งอื่นใด จุดยืนของ “ศิริกัญญา และ ก้าวไกล”
นั้นก็แค่วิพากษ์วิจารณ์ทักท้วงพอหอมปากหอมคอตามกลไกของสภาเท่านั้น ยังไว้ไมตรีแก่เพื่อไทยและ “เศรษฐา”อยู่พอสมควร ไม่เหมือนกับบรรดานักร้องคนดัง “ศรีสุวรรณ จรรยา-สนธิญา สวัสดี-เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ-วรงค์ เดชกิจวิกรม-รสนา โตสิตระกูล” ที่เดินหน้ายื่นองค์กรอิสระ ทั้ง สตง. ผู้ตรวจการแผ่นดิน, กกต.และ ปปช.เพื่อให้เรื่องนี้ถูกตัดสิน ก็จะส่งผลกระทบต่อทิศทางการเมืองในอนาคตเป็นอย่างมาก
เพราะหาก “ดิจิทัลวอลเลต” ล่มหรือถูกตัดสินว่าขัดรัฐธรรมนูญ หรือผิดกฏหมายพรรคการเมือง ทั้งรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย จะปัดความรับผิดชอบไม่ได้เลยเพราะในอดีตก็เคยมีบทเรียนแล้ว เมื่อครั้งรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์”นั่นเอง
สบตาความขัดแย้ง ถกแก่นปัญหาชายแดนใต้ กับ “รอมฎอน ปันจอร์” สส.ก้าวไกล
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4289009
สนทนากับ “รอมฎอน ปันจอร์” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อดีตนักกิจกรรม นักข่าว-นักวิจัย สู่เส้นทางการเมือง เปิดบทสนทนาถกใจกลางปัญหาสามจังหวัดชายแดนใต้ มองอนาคตสันติภาพ-ประชาธิปไตยไทย ติดตามชมรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้