แม่เราป่วยมาได้ระยะใหญ่แล้ว ก็จะไอแห้งๆ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งช่วงแรกๆ หมอที่ ร.พ.วินิจฉัยว่าปอดอักเสบ ก็ให้ยาแก้ไอ ยาฆ่าเชื้อมาทาน แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ไออยู่เรื่อยๆ จนกระทั่งผ่านมาประมาณ 1 ปี ซึ่งที่ทำงานจะมีการตรวจร่างกายประจำปี ผลการ X Ray ปรากฏว่าปอดเป็นจุดๆ ขาวๆ ก็คิดว่าสิ่งที่หมอเคยวินิจฉัยว่าปอดอักเสบไม่น่าใช่แล้วล่ะ ก็เลยเปลี่ยน ร.พ. คราวนี้ผลการตรวจแบบละเอียดพบว่า นอกจากปอดจะเป็นจุดแล้ว ยังมีอาการน้ำท่วมปอดด้วย คุณหมอแจ้งกับเราว่า จะต้องมีการตัดชิ้นเนื้อจากปอดไปตรวจ ซึ่งระหว่างนี้แม่เราจะต้องแอดมิดอยู่โรงพยาบาล เพราะต้องเจาะเอาน้ำออกจากปอดทุกวัน แม่เราอารมณ์ดี ไม่ได้แสดงออกว่าเครียดแต่อย่างใด (ปกติแม่เป็นคนใจเย็น)
จนกระทั้งผลตรวจออกมา ระบุว่าแม่เราป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะ 3.5 แล้ว โดยหมอแจ้งให้เราทราบก่อน แต่หมอยังไม่ได้บอกแม่เรา ตอนนั้นที่เรารู้ผลตรวจ เรารู้สึกเศร้าและเสียใจมาก ระหว่างเดินทางกลับบ้านน้ำตามันก็ไหลออกมา กินข้าวก็น้ำตาไหล นอนก็นอนไม่หลับคิดวนเวียนอยู่ในหัวว่า จะบอกแม่อย่างไรดี ??? เพื่อให้แม่เรามีกำลังใจสู้ต่อไปในกระบวนการรักษา
ตอนนี้ผ่านมา 1 สัปดาห์แล้ว แม่เรายังไม่รู้เลยว่าสรุปแล้วป่วยเป็นอะไร แม่ก็ได้บ่นกับเพื่อนๆ ที่มาเยี่ยมว่าทำไมลูกไม่ยอมบอกสักที แต่แม่ก็ไม่เคยเซ้าซี้ถามเราโดยตรง เวลาที่เราเจอหน้าแม่ เราก็ทำสีหน้าสดใสร่าเริงทั้งๆ ที่ร้องไห้อยู่ในใจ เรารู้ดีว่ายังไงก็ต้องรีบบอก แต่ยังหาโอกาสในการบอกข่าวร้ายนี้ไม่ได้ และไม่รู้ว่าจะเริ่มบอกอย่างไรดี
จึงอยากขอคำแนะจากเพื่อนๆ ในพันทิป ว่าเราควรหาโอกาสบอกตอนไหน และจะเริ่มพูดอย่างไรดี ให้แม่มีกำลังใจมากที่สุด
จะแจ้งข่าวร้ายว่าให้แม่ซึ่งป่วยอยู่ขณะนี้ทราบอย่างไรดีว่า “แม่ป่วยเป็นมะเร็ง” (T.T)
จนกระทั้งผลตรวจออกมา ระบุว่าแม่เราป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะ 3.5 แล้ว โดยหมอแจ้งให้เราทราบก่อน แต่หมอยังไม่ได้บอกแม่เรา ตอนนั้นที่เรารู้ผลตรวจ เรารู้สึกเศร้าและเสียใจมาก ระหว่างเดินทางกลับบ้านน้ำตามันก็ไหลออกมา กินข้าวก็น้ำตาไหล นอนก็นอนไม่หลับคิดวนเวียนอยู่ในหัวว่า จะบอกแม่อย่างไรดี ??? เพื่อให้แม่เรามีกำลังใจสู้ต่อไปในกระบวนการรักษา
ตอนนี้ผ่านมา 1 สัปดาห์แล้ว แม่เรายังไม่รู้เลยว่าสรุปแล้วป่วยเป็นอะไร แม่ก็ได้บ่นกับเพื่อนๆ ที่มาเยี่ยมว่าทำไมลูกไม่ยอมบอกสักที แต่แม่ก็ไม่เคยเซ้าซี้ถามเราโดยตรง เวลาที่เราเจอหน้าแม่ เราก็ทำสีหน้าสดใสร่าเริงทั้งๆ ที่ร้องไห้อยู่ในใจ เรารู้ดีว่ายังไงก็ต้องรีบบอก แต่ยังหาโอกาสในการบอกข่าวร้ายนี้ไม่ได้ และไม่รู้ว่าจะเริ่มบอกอย่างไรดี
จึงอยากขอคำแนะจากเพื่อนๆ ในพันทิป ว่าเราควรหาโอกาสบอกตอนไหน และจะเริ่มพูดอย่างไรดี ให้แม่มีกำลังใจมากที่สุด