ผมอาจจะอยากแค่ระบาย

ผมเป็นโรคซึมเศร้า แพนิก ไบโพล่าเป็นมา
นานมากๆเป็น 10 ปี แต่เพิ่งไปหาหมอเมื่อ 3 ปีที่แล้วจนสู้ค่าหมอไม่ไหว ไปหาเดือนละ 2 รอบ รอบละ ~3000 ค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนก็เยอะแยะเหลือเกิน ผมเลยเริ่มเจอสมดุลในชีวิต ออกกำลังกาย เล่นเกม ดูหนัง แล้วสมดุลมันก็เริ่มพังลงเพราะปวดหลัง ใช่เลยอ่านไม่ผิด อาการโรคทางจิตกลับมาเพราะปวดหลัง ด้วยการที่ทำงานต้องนั่งนาน บวกกับออกกำลังกายด้วยการตีแบด ทำให้ปวดหลังเรื้อรังปวดๆหายๆ พักการตีแบดไปโดยปริยาย
แค่ขยับตัวยังลำบาก ไม่ได้เจอเพิ่อนที่คอร์ด นั่งดูหนังที่ชอบไม่ได้ เพราะนั่งแล้วปวดหลัง เริ่มหงุดหงิดง่ายขึ้นมาก เล่นเกมไม่ได้ คราวซวยจังหวะชีวิต การเงินเริ่มติดขัด รายได้เท่าเดิม แต่รายจ่ายเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และกำลังจะต้องออกจากงาน ผมเริ่มเงียบขึ้นเรื่อยๆ เริ่มกลับมาร้องไห้และร้องไห้บ่อยขึ้น เคยระบายให้แฟนฟัง แต่รู้สึกว่าเขาไม่เข้าใจเรา และได้รับคำพูดว่า
“มีคนอื่นลำบากกว่าเราตั้งเยอะ” คำพูดยอดฮิตที่เคยได้ยินตอนระบายให้ครอบครัวฟัง หลายๆคนอาจจะรู้หรือไม่รู้ว่าการเลือกคำพูดในการพูดกับคน depressed มันไม่เหมือนการปลอบคนเศร้าเสียใจธรรมดา คำพูดที่ดูจะไม่มีอะไรกลับกลายเป็นคำที่ทิ่มแทงซ้ำ ทั้งๆที่สิ่งที่เราต้องการก็แค่รับฟัง จนเริ่มแอบร้องไห้คนเดียว เก็บทุกอย่างไว้คนเดียว เริ่มร้องไห้บ่อยขึ้น ไม่อยากอาหาร นอนไม่หลับ สมองเริ่มช้าคิดอะไรไม่ออก ทุกอย่างที่เคยหายไปมันกลับมาเป็นอีกครั้ง ราวกับมันแค่ซ่อนอยู่ในใจเราลึกๆและรอออกมาตอนเราอ่อนแอ
ทั้งหมดทั้งมวลแค่อยากระบาย
ไม่ต้องมีใครอ่านก็ได้
คนที่อ่านแล้วเข้าใจก็ขอบคุณ
คนที่อ่านแล้วจะคิดแบบเดียวกับครอบครัวผมก็ไม่เป็นไร
หวังว่าผมจะไม่ยอมแพ้ไปซะก่อน ใครที่กำลังเจออะไรแย่ๆก็สู้ๆนะครับ ผมขอให้คุณได้รับในสิ่งที่คุณคาดหวัง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่