ตอนนี้เราดูแลคุณแม่แบบfulltimeค่ะ ช่วงต้นปีมานี้แกดูสุขภาพไม่ค่อยดีมาตลอด ก็คอยดูแลกินยาตามอาการมาเรื่อย ไม่ได้พาไปโรงพยาบาลสักทีเพราะไม่ว่าง จนล่าสุด1เดือนที่ผ่านมา เราไปโรงพยาบาลกัน คุณแม่ตรวจพบว่าเป็นไตเสื่อมเรื้อรัง เป็นถึงระยะ4แล้ว

หลังจากวันนั้นคุณแม่ก็อาการทรุดลงเรื่อยๆ เหมือนว่าก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่สเป็นอะไรก็ฝืนใช้ชีวิตไปแบบนั้นแต่พอรู้แล้วเหมือนจิตตกใจมันแตกสลาย แต่เรารับรู้ได้เลยว่าตั้งแต่ไปหาหมอได้ยามากิน ร่างกายคุณแม่ดูดีขึ้น แต่จิตใตแกดูอ่อนแอลงมาก ทำอะไรช้า ไม่มีชีวิตชีวา ช่วง1เดือนมานี้ เราดูแลเต็มที่เรื่องอาหารการกิน การใช้ยา เฝ้าแกแทบ24ชั่วโมง แต่แกทำเมินเฉย ถามอะไรไม่ตอบ ตอบห้วนๆใช้น้ำเสียงรำคาญกับเรา(เราพูดดีและใจเย็นตลอด) ไม่คุยด้วยจนเราท้อใจ เราไม่อยากให้แกเป็นแบบนี้ คิดว่าอาจเกิดจากอาการวัยทองร่วมด้วย คุณแม่50กว่าแล้วก็จริง แต่เราก็รู้สึกว่ายัง50เองจริงๆร่างกายคุณแม่ยังแข็งแรงดี อยากให้สดใสไม่อยากให้การป่วยใจมาทำให้ร่างกายทรุดโทรม

พอจะมีวิธีการพูดคุยหรืออะไรให้คุณแม่ดีขึ้นมั้ยคะ เราเองก็เครียดเรื่องหางานใหม่มากๆ ตอนนี้คุณแม่ก็ยังทำงานอยู่(มีร้านเป็นของตัวเอง แต่ให้พนักงานดูแลตลอด) เราอยากแบ่งเบาค่าใช้จ่าย แต่มันก็แอบไม่มีเวลาให้ท่าน ทั้งนี้ยังไงก็ขอกำลังใจด้วยนะคะเรายอมทิ้งทุกอย่างดูแลท่าน แต่เราก็มีปัญหาทางจิตอยู่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ประวัติเคยเป็นซึมเศร้า
เลยควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ค่อยได้ เจอเหตุการใจร้ายแบบนั้นจากคุณแม่ จะต้องหนีไปร้องไห้ก่อนเสมอ แต่เราอยากช่วยท่านถึงที่สุดค่ะ