สวัสดีค่ะ

กระทู้นี้ไม่ได้มารีวิวการท่องเที่ยวเหมือนที่เคยแต่อย่างใด 

แต่จะมาแชร์ประสบการณ์การป่วยของคุณแฟน ด้วยโรคนิ่วในถุงน้ำดี (Gallstones) จนถุงน้ำดีอักเสบ ไปจนการผ่าตัดถุงน้ำดี
เรา 2 คนตั้งใจเก็บข้อมูลระหว่างรักษาตัว  เพื่อมาแชร์ประสบการณ์สำหรับคนที่กำลังป่วยโรคนี้ หรือคนที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคนิ่วในถุงน้ำดี

ตอนที่แฟนป่วย เรา 2 คนวนเวียนอ่านเกือบทุกกระทู้ในพันทิปที่เกี่ยวกับโรคนิ่วในถุงน้ำดี อ่านซ้ำไปซ้ำมา
เลยขอมาแชร์ประสบการณ์ที่พบเจอ สำหรับการรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดี ฉบับอัพเดทปี 2566 

จากเดิมคิดว่าจะได้มารีวิว หลังผ่าตัดเสร็จสิ้นเมื่อ 2-3 เดือนที่แล้ว
แต่เนื่องจากเคสแฟน  คุณหมอบอกว่าเป็นเคส rare ที่เกิดขึ้นไม่บ่อย
เลยใช้เวลารักษาตัว ส่องกล้อง รอจนผ่าตัด จนกว่าจะได้ผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย ใช้เวลาไป  5 เดือน 
 
โดยแฟนเริ่มปวดท้องหนักจนแอดมิดนอนโรงพยาบาล รักษาตัวตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2566 
นอนโรงบาลอยู่ 2 รอบ ตอนเดือนพฤษาคม 8 วัน และเดือนมิถุนายน  23  วัน 
หลังผ่าตัด รอตัดไหม ตรวจเลือด ส่องกล้องตรวจอีกรอบ เสร็จสิ้นเมื่อกลางเดือนกันยายน 2566 ที่ผ่านมานี่เอง  
และพวกเรารอดูอาการหลังไม่มีถุงน้ำดีมา 2 เดือนกว่าๆ  จนคิดว่าสามารถมารีวิวเบื้องต้นได้แล้ว 

โดยเราจะรีวิวตั้งแต่อาการที่เจอ การรักษา อาการที่อาจเจอ
รีวิวการใช้ชีวิตอยู่กับสายเดรนเป็นเวลา 2 เดือน  ไปจนถึงการผ่าตัด หลังผ่าตัด
และค่าใช้จ่ายในการรักษาโดยการใช้สิทธิ์ประกันสังคม 

และหลังจากเขียนกระทู้นี้เสร็จ เราจะกลับมาอัพเดทอาการเรื่อยๆ นะคะ 

 ขอพูดถึงโรคนิ่วถุงน้ำดี (Gallstones) แบบคร่าวๆ

ซึ่งเป็นข้อมูลที่เราได้อ่าน และได้เจอ และได้คุยกับหมอระหว่างเข้ารักษาตัว 

โดยข้อมูลอาการ ตัวต้นเหตุในการเกิดนิ่ว การรักษาเกี่ยวกับโรคโรคนิ่วถุงน้ำดี หรือ Gallstones
สามารถอ่านได้ตามเวปไซต์ของโรงพยาบาลต่างๆ  ซึ่งมีเยอะและละเอียดมากๆ  เรานี่วนอ่านของหลายโรงพยาบาลเลย

ส่วนตัวพวกเรา 2 คน ให้นิยามโรคนิ่วถุงน้ำดีกันเองว่าเหมือน กล่องสุ่ม 

โดยโรคนิ่วในถุงน้ำดี อาจจะเกิดจากคนที่มีอาการป่วยด้วยโรค เช่น  โลหิตจาง ธาลัสซีเมีย เบาหวาน ตับแข็ง
หรือเกิดจากคอเรสตอรอล ที่มาจากพฤติกรรมการกิน เช่น กินของมันของทอด  หมูกะทะและบุฟเฟ่ต์ถี่ๆ กินหนัก กินพวกไขมันเยอะ

แต่ก็ไม่ได้ว่าหมายความว่าคนกินเยอะ กินหมูกะทะและบุฟเฟ่ต์บ่อยๆ ทุกคนจะเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีนะคะ 
หรือบางคนอาจกินน้อย แต่กินไขมันเยอะ ก็มีสิทธิ์เป็น 
คนที่ดูอ้วนอาจไม่เป็น แต่คนรูปร่างผอมกลับเป็น  เนี่ยมันกล่องสุ่มชัดๆ!  

หรือคนที่ลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร และหักโหมลดน้ำหนักเร็วเกินไป ก็มีโอกาสเป็นได้  
และถึงแม้จะมีกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสสูงกว่าที่จะเป็น แต่ก็มีโอกาสที่เกิดได้กับทุกคน ตั้งแต่เด็กไปจนผู้สูงอายุ

บางคนที่มีนิ่วในถุงน้ำดี อาจจะไม่มีอาการใดๆ เลย  แต่ตรวจเจอตอนตรวจสุขภาพด้วยการอัลตราซาวด์  
ซึ่งเคสที่ยังไม่มีอาการ อาจไม่ต้องรักษาเลยก็ได้ แค่ลดของมัน  ไขมัน เพื่อไม่เพิ่มก้อนนิ่ว หรือไม่ไปเพิ่มการทำงานของถุงน้ำดี
เช่น คนไข้เตียงตรงข้ามแฟน ก็เล่าให้ฟังว่าเจอนิ่วในถุงน้ำดี เพราะตรวจสุขภาพ แต่ก็ไม่เคยมีอาการอะไรเลยมาเป็น 10  ปีแล้ว 

บางคนรอจนนิ่วเยอะถึงจะแสดงอาการ  
บางคนก็มีก้อนนิ่วน้อย แบบ 1-2 ก้อน แต่หลุดไปอุดตันท่อน้ำดีก็ต้องเข้ารักษาตัว ผ่าถุงน้ำดีออกเลยก็มี 
หรืออย่างแฟนเราคือ นิ่วเยอะ และหลุดมาอุดตันแล้วอุดตันอีก จนถุงน้ำดีแตก เกือบติดเชื้อในกระแสเลือด

แต่ไม่ว่าจะเป็นหรือไม่เป็นนิ่วในถุงน้ำดี การลด ละ เลิกของมัน ของทอด ของที่ไขมันสูงก็เป็นผลดีต่อร่างกายทั้งนั้นค่ะ 

ในส่วนของแนวทางการรักษาอย่างของแฟน คือ ต้องส่องกล้องคล้องนิ่วบางส่วนที่ล้นออกมา หรือนิ่วที่ไปอุดตันตรงท่อน้ำดีออก (ERCP) 
หลังจากส่องกล้องคล้องนิ่ว เคลียร์ที่อุดตันออก ก็จะนัดผ่าเอาถุงน้ำดีออก ด้วยวิธีการส่องกล้อง (LC) หรือผ่าแบบเปิดหน้าท้อง 

คิดว่าตอนนี้หลายโรงพยาบาลน่าจะเป็นผ่าแบบส่องกล้อง (LC)  กันหมด  เพราะใช้เวลาพักฝื้นน้อย ร่างกายฟื้นตัวเร็ว
ถ้าผู้ป่วยอยู่ในอาการที่พร้อมผ่าตัด ไม่มีการปวดท้อง หรืออักเสบใดๆ แล้ว ส่วนมากจะผ่าด้วยการส่องกล้อง 

แต่หากเคสยาก เช่น ผ่าแบบส่องกล้องไม่สำเร็จ เพราะว่าผังผืดหนา หรือถุงน้ำดีอักเสบอยู่
หมอก็จะอาจเปลี่ยนเป็นผ่าเปิดท้องแทน ซึ่งอาจใช้เวลานานกว่าในการฟื้นตัว  

บางโรงพยาบาลและบางเคส ที่อ่านเจอสามารถส่องกล้องคล้องนิ่วและผ่าเอาถุงน้ำดีได้ในครั้งเดียวเลย
แต่เท่าที่อ่านรีวิวของหลายๆท่าน ส่วนมากจะส่องกล้องเอานิ่วออก และค่อยนัดผ่าตัด  
ที่ไม่สามารถทำที่เดียวได้ อาจจะเพราะต้องเคลียร์นิ่วให้หมดจากในท่อน้ำดี ไม่ให้อุดตัน รอให้หายอักเสบ หรือรอคิวห้องผ่าตัด

หลายคนอาจตกใจที่ต้องผ่าเอาถุงน้ำดีออกเลยหรอ ไม่ผ่าได้ไหม
พวกเราก็เป็น 1 ในนั้นค่ะ ที่ถามคุณหมอว่าไม่ผ่าได้ไหม การผ่าตัดจะอันตรายไหม ไม่มีถุงน้ำดีแล้วจะมีผลต่อการใช้ชีวิตไหม

คุณหมอบอกว่าเคสแฟนคือ ต้องผ่า! เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำในอนาคต 
และการอักเสบบ่อยๆ ทั้งที่ผ่านมาและในอนาคต ถุงน้ำดีอาจพัฒนาเป็นเนื้อร้าย มะเร็งในอนาคตได้

คุณหมอว่า  การผ่าตัดไม่อันตราย เหมือนผ่าตัดใส้ติ่ง ผ่ากันเดือนละหลายร้อยเคส  ไม่มีถุงน้ำดีก็ใช้ชีวิตได้ตามปกติ 
แค่ระวังเรื่องของกิน  ประสิทธิภาพในการย่อยไขมันจะลดลง  เพราะไม่มีที่เก็บน้ำดีแล้ว น้ำดีจากตับจะส่งตรงไปที่ลำใส้  กระเพาะเลยประมาณนี้
เวลากินของมัน ไขมันอาจะท้องอืด ท้องเสียบ้าง แต่ไม่นานร่างกายจะสามารถปรับตัวได้เอง เพราะงั้นไม่มีอะไรน่ากังวล
และหากปล่อยไว้นานๆ ปวดบ่อยๆ ไม่รักษา ก็อาจจะถุงน้ำดีอักเสบจนแตกแบบแฟนเราก็เป็นได้ 

ซึ่งเท่าที่ถามแฟนมา  ตอนที่รักษาตัว ส่องกล้อง ดึงสายเดรน ผ่าตัด หลังผ่าตัด ทุกอย่างสบายมาก  เจ็บในระดับที่พอทนไหว
ยกเว้นตอนเข้าโรงพยาบาลรอบสองที่กว่าจะหาสาเหตุเจอ อันนั้นออกแนวทรมาณใจ ว่าป่วยเป็นอะไรกันแน่

เขาบอกที่ทรมาณสุดในการป่วยโรคนี้ คือตอนที่ปวดท้อง อืดท้องทีละหลายชั่วโมงก่อนจะเข้ารักษาตัวนี่แหล่ะค่ะ

นอกจากผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยด้วยโรคอื่น หรือผู้ที่ไม่สามารถผ่าตัด  คุณหมออาจจะพิจารณารักษาด้วยวิธีอื่น

ซึ่งไม่ว่าจะผ่าหรือไม่ผ่า ถ้าพบว่าเป็นนิ่วในถุงน้ำดี และมีอักเสบ ปวดท้องแล้ว ควรเข้าไปพบหมอ และรักษาอย่างต่อเนื่อง 
เพราะมันอาจมีการแทรกซ้อน หรืออักเสบลามไปที่ส่วนของร่างกาย เช่น ตับ ตับอ่อน ท่อน้ำดี หากปล่อยไว้อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ 

เและนิ่วในถุงน้ำดีจะไม่เหมือนนิ่วประเภทอื่น ที่อาจจะกินยาให้ละลายหรือขับออกมาเองได้ 
คือนิ่วมันโอกาสหลุดออกมาเองได้แหล่ะ แต่มันอาจะไปตกค้าง อุดตันตรงจุดอื่น ปล่อยไว้ก็จะอันตราย  
และไม่สามารถกินยาทั้งแบบแพทย์แผนปัจจุบันและโบราณ สมุนไพรใดๆ ให้ละลาย และขับก้อนนิ่วออกมาได้ ต้องส่องกล้องเอาออกเท่านั้น!

และหากระหว่างป่วยโรคนิ่วในถุงน้ำดี แล้วนิ่วไปอุดตันท่อน้ำดี  ซึ่งอาจทำให้ค่าตับตอนนั้นสูง
การกินยาหรือสมุนไพร อาจส่งผลให้ตับทำงานหนัก ค่าตับอาจขึ้นสูง ก็จะเสี่ยงมีเรื่องตับเพิ่มอีก 
ถึงจะมียาละลายนิ่วที่หมอจ่ายให้กินระหว่างรักษา  ซึ่งหมอบอกว่ามันอาจช่วยชะลออาการเท่านั้นค่ะ 
ยังไงก็ต้องส่องกล้องเอานิ่วออก หรือผ่าตัด หรือรักษาตามดุลพินิจและแนวทางของแพทย์

รู้จักโรคนิ่วในถุงน้ำดีแบบคร่าว ๆ แล้ว  ต่อไปเราจะแชร์ประสบการณ์
โดยจะขอแบ่งเป็นเดือนๆ นะคะ ว่าแต่ละเดือนอาการเป็นยังไงบ้าง