คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
อืมม คือไงดี อธิบายแบบนี้แล้วกัน
เอาคนที่ร่างกายมีระบบเผาผลาญที่ยืดหยุ่นนะ คนกลุ่มนี้ คือใช้พลังงานได้ทั้งจากน้ำตาล และไขมัน ลักษณะคือ กินใช้จากที่กิน ไม่กิน ใช้จากไขมันสะสม(ซึ่งเก็บสะสมไว้เพียงพอ ไม่น้อยไป หรือมากไป) พวกนี้มักจะไม่หิวบ่อย เพราะร่างกายดึงไขมันสะสมมาใช้ได้อย่างดี หรือที่เรียกว่า Fat adapted อย่างกินวันละมื้อ ข้ามวันก็ยังได้ จะเริ่มหิวก็ต่อเมื่อร่างกายต้องการสารอาหารเพิ่ม สารอาหารในที่นี้คือพวก โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ฯต่างๆ ร่างกายมันจะบอกเราเอง ก็คือเริ่มหิว เริ่มแรงตก เพลีย เนื่องจากขาดโปรตีน กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการสร้างซ่อมเสริมฯต่างๆ
แต่คนที่มีระบบเผาผลาญที่ไม่ยืดหยุ่น จะแตกต่างอย่างสิ้นเชิง มักใช้ได้แต่จากน้ำตาลเท่านั้น ใชไขมันแทบไม่เป็น กินใช้จากที่กิน พอไม่กิน ใช้ไขมันไม่ได้ พลังงานหมด จึงหิว โหย เพลีย สมองเบลอ คิดอะไรไม่ออก หงุดหงิด อารมณ์เสีย ที่สุดทนฝืนไม่ไหว ก็กินต่อ และที่ชอบกินที่สุด ก็คือ ข้าว แป้ง น้ำตาล...
ยกตัวอย่าง ตัวผมเอง อายุ50 ก็กินวันละมื้อ แต่สะดวกมื้อเย็นเท่านั้น เช้า กลางวันไม่สะดวก เนื่องจากจะทำกินเอง และใช้เวลากินนานเป็นชั่วโมงๆ จะกินจนกว่าจะอิ่ม จนพอใจ ผมก็ออกกำลังกายก่อนกินมื้อเย็น แต่จะออกฯเฉพาะจันทร์ พุธ ศุกร์ รูปแบบไม่ใช้ออกซิเจนเท่านั้น คือ พวกใช้แรงต้าน HIIT แบบเข้มข้นไม่มีหยุด 25-30 นาที เหนื่อยมาก แต่หลังจากออกเสร็จ พักหายใจสักครู่ ก็ยังโอเคดี ไม่เพลีย ไม่โหย ไม่หิว จริงๆก็อดต่อข้ามวันได้ ซึ่งปกติทุกๆ 2 สัปดาห์บางทีผมก็อดข้ามวันไปเลย ทำ 36/12 หรืออด 45 ชม.ไปเลยก็มีครับ มันอยู่ที่จุดประสงค์เราด้วยนะ เพราะบางทีเราก็รู้สึกว่าเรากินอาหารแย่ๆ เพราะเข้าสังคม กินกับที่ทำงาน ที่บ้านญาติๆมา กินมากไป เก็บไว้มากไป ก็อยากพัก ดึงมันออกมาใช้ อีกอันก็คือต้องการ autophagy สูงขึ้นอีก
เอาคนที่ร่างกายมีระบบเผาผลาญที่ยืดหยุ่นนะ คนกลุ่มนี้ คือใช้พลังงานได้ทั้งจากน้ำตาล และไขมัน ลักษณะคือ กินใช้จากที่กิน ไม่กิน ใช้จากไขมันสะสม(ซึ่งเก็บสะสมไว้เพียงพอ ไม่น้อยไป หรือมากไป) พวกนี้มักจะไม่หิวบ่อย เพราะร่างกายดึงไขมันสะสมมาใช้ได้อย่างดี หรือที่เรียกว่า Fat adapted อย่างกินวันละมื้อ ข้ามวันก็ยังได้ จะเริ่มหิวก็ต่อเมื่อร่างกายต้องการสารอาหารเพิ่ม สารอาหารในที่นี้คือพวก โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ฯต่างๆ ร่างกายมันจะบอกเราเอง ก็คือเริ่มหิว เริ่มแรงตก เพลีย เนื่องจากขาดโปรตีน กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการสร้างซ่อมเสริมฯต่างๆ
แต่คนที่มีระบบเผาผลาญที่ไม่ยืดหยุ่น จะแตกต่างอย่างสิ้นเชิง มักใช้ได้แต่จากน้ำตาลเท่านั้น ใชไขมันแทบไม่เป็น กินใช้จากที่กิน พอไม่กิน ใช้ไขมันไม่ได้ พลังงานหมด จึงหิว โหย เพลีย สมองเบลอ คิดอะไรไม่ออก หงุดหงิด อารมณ์เสีย ที่สุดทนฝืนไม่ไหว ก็กินต่อ และที่ชอบกินที่สุด ก็คือ ข้าว แป้ง น้ำตาล...
ยกตัวอย่าง ตัวผมเอง อายุ50 ก็กินวันละมื้อ แต่สะดวกมื้อเย็นเท่านั้น เช้า กลางวันไม่สะดวก เนื่องจากจะทำกินเอง และใช้เวลากินนานเป็นชั่วโมงๆ จะกินจนกว่าจะอิ่ม จนพอใจ ผมก็ออกกำลังกายก่อนกินมื้อเย็น แต่จะออกฯเฉพาะจันทร์ พุธ ศุกร์ รูปแบบไม่ใช้ออกซิเจนเท่านั้น คือ พวกใช้แรงต้าน HIIT แบบเข้มข้นไม่มีหยุด 25-30 นาที เหนื่อยมาก แต่หลังจากออกเสร็จ พักหายใจสักครู่ ก็ยังโอเคดี ไม่เพลีย ไม่โหย ไม่หิว จริงๆก็อดต่อข้ามวันได้ ซึ่งปกติทุกๆ 2 สัปดาห์บางทีผมก็อดข้ามวันไปเลย ทำ 36/12 หรืออด 45 ชม.ไปเลยก็มีครับ มันอยู่ที่จุดประสงค์เราด้วยนะ เพราะบางทีเราก็รู้สึกว่าเรากินอาหารแย่ๆ เพราะเข้าสังคม กินกับที่ทำงาน ที่บ้านญาติๆมา กินมากไป เก็บไว้มากไป ก็อยากพัก ดึงมันออกมาใช้ อีกอันก็คือต้องการ autophagy สูงขึ้นอีก
แสดงความคิดเห็น
มีใครที่ทำไอเอฟจนไม่รู้สึกหิวเลยบ้างไหม ? สามารถอดได้ต่อเรื่อยๆ แต่ก็ต้องกินเพราะถ้าไม่กินจะขาดสารอาหาร
ตัวอย่างเช่น คนที่กินวันละมื้อ มีแรงออกกำลังกายได้ปกติ แล้วก็ถึงจะออกกำลังกายยังไงก็ไม่หิว กินนิดเดียวก็อิ่ม กินปริมาณเท่ากับ 1/3 ของคนที่กิน 3 มื้อ ถ้ากินมากกว่านี้จะจุกไป