กรณีที่ประธานที่ปรึกษานายกฯ และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคด้านเศรษฐกิจ ของพรรคพ.ท.
โพสต์เฟซบุ๊คว่า..(โดยย่อ)..
"..ประชาชน ชาวฮ่องกงทุกคน ได้รับเงิน 5,000 เหรียญฮ่องกง หรือประมาณคนละ 23,000 บาท
โดยรับเงินผ่านดิจิทัล วอลเล็ต เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2566 จำนวน 3,000 เหรียญฯ
และหากใช้จนหมดภายในวันที่ 30 มิ.ย. ก็ได้รับ อีก 2,000 เหรียญฯ ที่เหลือตามสิทธิ์เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2566
นอกจากนั้น นักเรียน หรือผู้มาทำงานระยะยาว ก็ได้รับเงินครึ่งหนึ่งหรือ 2,500 เหรียญฮ่องกง.."
ที่มา : bangkokbiznews.com
______________________________
( สรุปโดยย่อ..)
นโยบายแจกเงินดิจิตอลของฮ่องกง..
•ชื่อโครงการ : โครงการเงินกำนัลเพื่อการอุปโภคบริโภค
(Consumption Voucher Scheme : CVS)
•ทำมาแล้ว 3 ปี. : ตั้งแต่ 2021 - 2023
•วัตถุประสงค์. : เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบ
จากการระบาดของ โรคโควิด-19
•การคาดการณ์. : เพิ่ม GDP 0.6%
• กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับแจกเงิน :
1.ประชาชนฮ่องกง(ผู้ที่พำนักถาวรในฮ่องกง / ผู้พำนักในฮ่องกงที่มีเอกสารยืนยัน/
ผู้ที่มีบัตรประชาชนฮ่องกง) ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทุกคน ..
ได้รับแจก 5,000 HK$( ราว 23,000 ฿)
2.ผู้ที่อยู่ในฮ่องกงชั่วคราวด้วยเหตุผลอื่น
(เช่น ประกอบธุรกิจ/ มาทำงาน/ มาเรียน ฯลฯ)..
ได้รับแจก 2,500 HK$(ราว 11,000฿)
• ปี 2021. : จ่ายก้อนเดียว
• ปี 2022 & 2023 : จ่ายสองงวด /แต่ละงวดมีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน
•ช่องทาง : ใช้ผ่านแพลตฟอร์มการเงินต่างๆที่ลงทะเบียนไว้ และบัตร Octopus
•เงื่อนไข : ผู้ที่ใช้บัตร Octopus ถ้าใช้งวดแรกไม่หมดภายในกำหนด จะไม่มีสิทธิ์รับงวดที่สอง
•ผลที่ได้ : เมื่อปลาย พ.ค.23 รมต.คลังฯ ฮ่องกง เปิดเผยว่า..
หลังจากแจกเงินงวดแรก เห็นสภาวะตลาดที่เพิ่มขึน โดยเฉพาะภาคร้านอาหาร
แต่การค้าปลีกยังซบเซา
มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า..การแจกเงินไม่สามารถช่วยธุรกิจขนาดเล็กได้เท่าที่ควร
• การดำเนินการต่อไป : การแจกเงินซ้ำๆคงเป็นเรื่องยาก
เพราะเป็นนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเวลาพิเศษ เช่น การแพร่ระบาดเท่านั้น
และตอนนี้ ฮ่องกงกำลังอยู่ในภาวะฟื้นตัวแล้ว
ที่มา : PPTV
________________________________
ที่สังเกตได้คือ..
1.หมอวรงค์ให้สัมภาษณ์ว่า..ฮ่องกงแจกเป็นเงินสด ไม่ใช่พวกโทเคน
2. แจกเพราะมีสถานการณ์พิเศษโควิด-19
3. การคาดการณ์เพิ่ม GDP 0.6% ไม่สูงเกินไป
4. ใช้แพลตฟอร์มเดิมที่มีอยู่แล้ว ไม่ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่
5. มีการปรับแผนมาเป็นทยอยจ่ายสองงวด
6. กระตุ้นได้ในภาคร้านอาหาร ส่วนภาคอื่นไม่ประสบผลสำเร็จ
7. มีแนวโน้มจะเลิกแจกต่อไป เพราะเศรษฐกิจอยู่ในช่วงกำลังฟื้น เหมือนประเทศไทย
______________________________________________________
ประชาชนที่ฮ่องกงเขาได้รับเป็นเงินสด คล้ายเป๋าตัง
ไม่เหมือนนโยบายสิบพันไม่ใช่หรือครับ?
วิธีการแจก..แพลตฟอร์มที่ใช้,.ผลที่ได้รับทางเศรษฐกิจ
ท่านก็ไม่พูดถึง
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง..
ท่านออกมาพูดแบบนี้ ก็จะทำให้คนเข้าใจผิดอีกแล้ว
แล้วใครเชื่อคำพูดของคนระดับท่านอีกล่ะครับ
มี White Lie 1 ไปแล้ว
ถ้ายังมี White Lie 2 อีก
ในอนาคตก็คงจะมี White Lie 3 ตามมา..
ไว้ลาย vs White Lie
มันต่างกันเยอะครับ..
________________________________
นอกจากนี้ ท่านยังพูดว่า..
"..โครงการนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการหลุดพ้นจากกับดักของความเขลา ที่มักอ้างวินัยการเงิน.."
".. ส่วนจะส่งผลแรงขึ้นหรือมากรอบกว่าที่ นักโบราณคดีทางเศรษฐมิติ ปรามาสไว้เพียงใด.."
ที่มา : Suthichai Live
_________________________________
แค่สงสัยว่า ..
ท่านหมายถึงใคร?
ที่มักอ้างวินัยการเงิน
และที่เป็นนักโบราณคดีทางเศรษฐมิติ
ทำไมไม่ระบุมาตรงๆ ต้องมาแซะอ้อมๆแบบนี้ มันดูกระไรอยู่ไปหน่อยไหม?
ท่านกล่าวหาว่า..มีคนด้อยค่าเงินดิจิตอล
แต่ท่านเองก็กำลังด้อยค่า ผู้ที่แสดงความเห็นต่างไปจากนโยบายของท่าน
แทนที่จะแซะ จะชกใต้เข็มขัดกันอย่างนี้
ทำไมไม่จัดดีเบตกันไปเลยครับ?
จะได้จบๆกันไปเสียที่กับความอึมครึมๆๆนี้สักที..
แค่สงสัย...ดิจิตอลไทย vs ดิจิตอลฮ่องกง เหมือนกันจริงหรือ?
โพสต์เฟซบุ๊คว่า..(โดยย่อ)..
"..ประชาชน ชาวฮ่องกงทุกคน ได้รับเงิน 5,000 เหรียญฮ่องกง หรือประมาณคนละ 23,000 บาท
โดยรับเงินผ่านดิจิทัล วอลเล็ต เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2566 จำนวน 3,000 เหรียญฯ
และหากใช้จนหมดภายในวันที่ 30 มิ.ย. ก็ได้รับ อีก 2,000 เหรียญฯ ที่เหลือตามสิทธิ์เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2566
นอกจากนั้น นักเรียน หรือผู้มาทำงานระยะยาว ก็ได้รับเงินครึ่งหนึ่งหรือ 2,500 เหรียญฮ่องกง.."
ที่มา : bangkokbiznews.com
______________________________
( สรุปโดยย่อ..)
นโยบายแจกเงินดิจิตอลของฮ่องกง..
•ชื่อโครงการ : โครงการเงินกำนัลเพื่อการอุปโภคบริโภค
(Consumption Voucher Scheme : CVS)
•ทำมาแล้ว 3 ปี. : ตั้งแต่ 2021 - 2023
•วัตถุประสงค์. : เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบ
จากการระบาดของ โรคโควิด-19
•การคาดการณ์. : เพิ่ม GDP 0.6%
• กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับแจกเงิน :
1.ประชาชนฮ่องกง(ผู้ที่พำนักถาวรในฮ่องกง / ผู้พำนักในฮ่องกงที่มีเอกสารยืนยัน/
ผู้ที่มีบัตรประชาชนฮ่องกง) ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทุกคน ..
ได้รับแจก 5,000 HK$( ราว 23,000 ฿)
2.ผู้ที่อยู่ในฮ่องกงชั่วคราวด้วยเหตุผลอื่น
(เช่น ประกอบธุรกิจ/ มาทำงาน/ มาเรียน ฯลฯ)..
ได้รับแจก 2,500 HK$(ราว 11,000฿)
• ปี 2021. : จ่ายก้อนเดียว
• ปี 2022 & 2023 : จ่ายสองงวด /แต่ละงวดมีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน
•ช่องทาง : ใช้ผ่านแพลตฟอร์มการเงินต่างๆที่ลงทะเบียนไว้ และบัตร Octopus
•เงื่อนไข : ผู้ที่ใช้บัตร Octopus ถ้าใช้งวดแรกไม่หมดภายในกำหนด จะไม่มีสิทธิ์รับงวดที่สอง
•ผลที่ได้ : เมื่อปลาย พ.ค.23 รมต.คลังฯ ฮ่องกง เปิดเผยว่า..
หลังจากแจกเงินงวดแรก เห็นสภาวะตลาดที่เพิ่มขึน โดยเฉพาะภาคร้านอาหาร
แต่การค้าปลีกยังซบเซา
มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า..การแจกเงินไม่สามารถช่วยธุรกิจขนาดเล็กได้เท่าที่ควร
• การดำเนินการต่อไป : การแจกเงินซ้ำๆคงเป็นเรื่องยาก
เพราะเป็นนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเวลาพิเศษ เช่น การแพร่ระบาดเท่านั้น
และตอนนี้ ฮ่องกงกำลังอยู่ในภาวะฟื้นตัวแล้ว
ที่มา : PPTV
________________________________
ที่สังเกตได้คือ..
1.หมอวรงค์ให้สัมภาษณ์ว่า..ฮ่องกงแจกเป็นเงินสด ไม่ใช่พวกโทเคน
2. แจกเพราะมีสถานการณ์พิเศษโควิด-19
3. การคาดการณ์เพิ่ม GDP 0.6% ไม่สูงเกินไป
4. ใช้แพลตฟอร์มเดิมที่มีอยู่แล้ว ไม่ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่
5. มีการปรับแผนมาเป็นทยอยจ่ายสองงวด
6. กระตุ้นได้ในภาคร้านอาหาร ส่วนภาคอื่นไม่ประสบผลสำเร็จ
7. มีแนวโน้มจะเลิกแจกต่อไป เพราะเศรษฐกิจอยู่ในช่วงกำลังฟื้น เหมือนประเทศไทย
______________________________________________________
ประชาชนที่ฮ่องกงเขาได้รับเป็นเงินสด คล้ายเป๋าตัง
ไม่เหมือนนโยบายสิบพันไม่ใช่หรือครับ?
วิธีการแจก..แพลตฟอร์มที่ใช้,.ผลที่ได้รับทางเศรษฐกิจ
ท่านก็ไม่พูดถึง
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง..
ท่านออกมาพูดแบบนี้ ก็จะทำให้คนเข้าใจผิดอีกแล้ว
แล้วใครเชื่อคำพูดของคนระดับท่านอีกล่ะครับ
มี White Lie 1 ไปแล้ว
ถ้ายังมี White Lie 2 อีก
ในอนาคตก็คงจะมี White Lie 3 ตามมา..
ไว้ลาย vs White Lie
มันต่างกันเยอะครับ..
________________________________
นอกจากนี้ ท่านยังพูดว่า..
"..โครงการนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการหลุดพ้นจากกับดักของความเขลา ที่มักอ้างวินัยการเงิน.."
".. ส่วนจะส่งผลแรงขึ้นหรือมากรอบกว่าที่ นักโบราณคดีทางเศรษฐมิติ ปรามาสไว้เพียงใด.."
ที่มา : Suthichai Live
_________________________________
แค่สงสัยว่า ..
ท่านหมายถึงใคร?
ที่มักอ้างวินัยการเงิน
และที่เป็นนักโบราณคดีทางเศรษฐมิติ
ทำไมไม่ระบุมาตรงๆ ต้องมาแซะอ้อมๆแบบนี้ มันดูกระไรอยู่ไปหน่อยไหม?
ท่านกล่าวหาว่า..มีคนด้อยค่าเงินดิจิตอล
แต่ท่านเองก็กำลังด้อยค่า ผู้ที่แสดงความเห็นต่างไปจากนโยบายของท่าน
แทนที่จะแซะ จะชกใต้เข็มขัดกันอย่างนี้
ทำไมไม่จัดดีเบตกันไปเลยครับ?
จะได้จบๆกันไปเสียที่กับความอึมครึมๆๆนี้สักที..