สอบเป็นข้าราชการไม่ยากอย่างที่คิด สำหรับคนขี้เกียจอ่านหนังสือ เพิ่งจะมารู้ก็ปล่อยตัวเองให้เสียเวลามาตั้ง 10 ปี

ขอให้กำลังใจคนที่จะสอบแต่ไม่ติดเป็นข้าราชการสักทีนะคะ ป้าเองก็เพิ่งจะบรรจุเป็นข้าราชการก็ตอน 40 นี่เองค่ะ
95% ข้าราชการไม่มีเส้นนะคะ ใครสนใจสอบอย่างเดียวเลยค่ะ
สำหรับคนหัวอ่อน ไปถึงกลางๆ ถ้าคนที่เก่งอยู่แล้ว ไม่ต้องนะคะ สอบอะไรก็ติดหมดค่ะเพี้ยนขำหนักมาก
เผื่อใครท้อแท้ สอบเท่าไหร่ก็ไม่ผ่านสักที ป้าก็เคยเป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ค่ะ
ปล.ป้าเป็นคนขี้เกียจอ่านหนังสือ บางทีก็ท้อเห็นคนที่สอบผ่านบางคนบอกว่า แบ่งเวลา ตื่นมาอ่านหนังสือตอนเช้าทุกวัน ซึ่งป้าไม่ทำอยุ่แล้ว 
ท้าวความก่อนนะคะ

ภาค ก. ป้าเคยสอบแรก แต่ไม่ผ่าน เพราะมัวแต่ไปอ่านช้อยที่เขาขายๆ กัน อีกอย่างไปลองข้อสอบด้วย เลยไปถามคนที่ผ่าน
เขาเลยแนะนำให้อ่านเนื้อหาเล่มหนาๆ 200-300หน้าไปเลย 2 รอบ  สำนักไหนก็ได้ค่ะ เพราะมันรวมทุกวิชา ก็เลยได้ผ่าน ภาค ก ในปีที่ 2

ภาค ข. หลังจากที่ผ่าน ภาค ก ป้าก็ไปหาสอบภาค ข ไปเรื่อย ตำแหน่งไหนเปิด ที่วุฒิเราลงได้ป้าก็สอบ ป้าเรียนบริหารธุรกิจ บัญชีมาค่ะ
ก็ลงได้สายสนับสนุน นักตรวจสอบภาษี นักสรรพากร นักจัดการงานทั่วไป บลาๆ สอบไม่ซ้ำจำไม่ได้เยอะเหมือนกัน แต่ก็ไม่ผ่านสักที จนท้อ

แตกประเด็น ว่าเราทำไมถึงยังสอบไม่ได้เหมือนคนอื่น ตอนนั้นคิด หรือว่าสอบราชการมันต้องคนเก่งๆ จริงๆ นะ เราคงโง่ ขี้เกียจอ่านหนังสือด้วย
คงไม่ได้แบบเค้าหรอก  แต่จริงๆแล้ว มันมีโอกาสอยู่เด้อ 
1. ตำแหน่งไหนที่เราอยากจะทำ ให้สอบแต่ตำแหน่งนั้นแค่ตำแหน่งเดียวค่ะ จนกว่าจะได้ แค่นั้นเลยค่ะ ไม่มีอะไรอีกแล้ว
    เพราะสอบตำแหน่งเดิม ข้อสอบมันก็จะออกซ้ำๆ ไม่หนีไปไหนมาก เราก็จะรู้แนว แต่ตัวป้ามัวแต่ไปสอบตำแหน่งใหม่อยู่เรื่อยๆ
    เพราะคิดว่ามันยากไป ไปหาตำแหน่งที่ง่ายดีกว่า สรุปคือ มันก็ยังยากอยู่ดี เพราะเราต้องอ่านใหม่ทั้งหมด และเราก็ต้องทำความเข้าใจในตำแหน่งนั้นอีก
    จึงไม่เข้าใจเนื้องานมัน ปล.แต่ละที่ ข้อสอบจะยาก และ ง่ายไม่เหมือนกัน ลองสัก 3 ครั้ง ถ้าไม่ผ่าน ข. แล้วค่อยเปลี่ยนตำแหน่งสอบก็ได้ค่ะ
    ส่วนตัว 2 ครั้ง ก็ผ่านแล้วค่ะ
2. ถ้ามีโอกาส สอบเข้าไปเป็นพนักงานธรรมดา ลูกจ้าง ในหน่วยงานที่เราอยากจะสอบก่อนก็จะได้เปรียบกว่า จะได้รู้ด้วยว่า งานนี้เราชอบไหม
    และจะได้ช่วยเพิ่มคะแนนสัมภาษณ์ 100 คะแนนด้วยค่ะ เรื่องประสบการณ์ หากคิดว่าเราทำคะแนนภาค ข ไม่ดีน่ะค่ะ
   (คนที่ทำงานในนั้นมาก่อน ตอนสอบแทบจะไม่ช่วยเลยค่ะ อ่านหนังสือล้วนๆ)
3. ที่ผ่านมา ป้าซื้ออ่านหนังสือ ซื้อข้อสอบ แต่ก็สอบไม่ผ่าน เพราะเนื้อหามันเยอะไปหมด อ่านไม่ทัน จำไม่หมด น้องที่สอบผ่านเลยบอกมาว่า
    ดูคลิปในยูทูปฟรีเลยพี่ ค้นหาเนื้อหา พรบ. ที่เราจะสอบ มันก็จะขึ้นให้เลย ฟรี หลายสำนัก หลายอาจารย์ สรุป มันใช้ได้จริง
    ของป้าฟังแบบคนไม่มีเวลาฟังคือ ความเร็ว 1.5 ไปเลย และจดชอตโน๊ต ฟังแค่รอบเดียวนะคะ ก่อนสอบ 3-4 วัน ใช้เวลา 2-3 ชม
    ในใจคิดแค่ว่า ไม่หวังผ่าน หวังแค่ไปลองข้อสอบเพื่อสนามหน้าจะได้รู้แนว
4. หาข้อสอบเก่ามาทำ อันนี้ช่วยได้ 30% ฟรีก็ได้ แต่ป้าหาในเฟสบุค 1000 ข้อ 180 บาท เคยซื้อ 399,499,600 บ. ไม่ช่วยเลย ข้อสอบบางข้อก็มั่ว ซ้ำอีก
5. สุดท้าย ช่วยได้นิดหน่อยนะ ตอนประกาศผลผู้มีสิทธิ์สอบ ตอนจ่ายเงินสมัครแล้ว ถ้าคนสมัครเยอะ ป้าว่าแข่งกับคนเยอะเราคงไม่น่ารอด
    แต่อันนี้ของป้าคนสอบแค่ 90 คน เลยประเมินว่า อาจจะมีสิทธิ์
6. เมื่อก่อนอ่านหนังสือ คือสุดท้ายก่อนสอบ ไม่ช่วยอะไรเลยค่ะ สมองเบลอด้วย พักผ่อนไม่เพียงพอ ป้าว่าไม่ต้องเก็บเป็นเดือนๆก็น่าจะสอบได้ค่ะ
   ผ่านได้แต่คะแนนไม่ค่อยดีค่ะเหมือนป้าค่ะ คิดว่ามีชื่อหลุดเข้าไป ภาค ค. ก็พอแล้ว
7. สุดท้าย สำคัญเลย ในเมื่อสมัครแล้ว พาร่างไปสอบให้ได้ หลายครั้งที่คิดว่าไม่อยากไป เพราะเรายังไม่เต็มที่ ไปเถอะค่ะ คิดหลักการสถิติ
    สอบมากย่อมมีสิทธิ์ผ่าน50-50 มากกว่า คนที่ไม่สอบ อันนี้ไม่ผ่าน 100% ค่ะ
 
     * พอผ่านทำให้ได้รู้ว่า เห้ย มันก็ไม่ได้ยากเกินไปหนิ แต่เมื่อก่อนเราทำไม่ตรงจุดต่างหาก อย่าท้อเหมือนป้า ที่พอสอบไม่ผ่าน ก็พลานไม่อยากไปสอบ ก็เลยปล่อยเวลาทิ้งเปล่าตั้ง 10กว่าปี รอบนี้ที่สอบได้ เพราะ น้องที่ผ่านยุให้สอบ นางบอกว่า ทำข้อสอบให้ผ่าน แค่เกรด 2 เอง (60 คะแนนขึ้น) ตอนเรียน คุณอาจจะได้มากว่า เกรด 2 ได้เกรด4ด้วยซ้ำไป
ขอให้โชคดีนะคะ สำคัญ ไฟอย่ามอดค่ะ ใครที่ิ่อ่านมาเจอ คุณต้องได้เป็นข้าราชการคนต่อไปแน่ๆค่ะ
ขอโทษนะคะ เขียนรีบๆค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่