เอาพ่อแม่มาอยู่บ้านในกรุงเทพ​ไม่ถึงปี​​ เบื่อหน่ายพ่อแม่​ บ้านรกไม่อยากกลับบ้าน​ ช่วยผมจัดการกับความรู้สึกแบบนี้ด้วยครับ

เอาพ่อแม่มาอยู่บ้านในกรุงเทพ​ไม่ถึงปี​ ตอนนี้รู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งเนื่องจากบ้านรก​ เบื่อหน่ายพฤติกรรมพ่อแม่​ ไม่อยากกลับไปอยู่บ้าน​ ช่วยผมจัดการกับความรู้สึกแบบนี้หน่อยครับ​ 🙏

พ่อแม่อายุ​ 70+ ครับ​ เดิมอยู่บ้านต่างจังหวัด​ บ้านเดิมไม่ได้มีประตูกระจก​ ข้าวของเยอะ​ รก​ ระเกะระกะ​ มีหนูมียุง​ กลางคืนต้องกางมุ้งนอน​ มุ้งก็สะสมฝุ่น

ปีที่ผ่านมาการงานผมเริ่มอยู่ตัว​ เลยซื้อทาวน์โฮมหลังนึง​ ให้พ่อแม่มาอยู่​ ซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่​ ตกแต่งเป็น​ cozy แบบที่ผมชอบ​ ตั้งใจให้เป็นบ้านที่ไม่รก​ สะอาด​ มีสุขอนามัยที่ดี​ เห็นแล้วสบายตาสบายใจ

ของบางส่วนจากบ้านต่างจังหวัด​ ผมเอาใส่กล่องใส่ลังพลาสติกมา​ ตอนนั้นเพื่อง่ายต่อการขนย้าย​ ของไม่แตก​ ปัจจุบันแม่ผมหวงกล่องหวงลังพวกนี้มาก​ แม่เสียดายของ​ จะทิ้งก็ไม่ได้​ ต้องทะเลาะกันกับผม

ยกตัวอย่างเช่น​ เอาลังพลาสติกมาใส่เสื้อผ้า​ แล้ววางไว้ข้างๆเตียงนอน​ เนื่องจากจะได้ "สะดวก" หยิบ​ ทั้งๆที่ผมมีตู้เสื้อผ้าให้

โซฟา​ห้องนั่งเล่น​ เอาไม้แขวนเสื้อวางเอาไว้​ เพราะ "สะดวก" เวลาเอาผ้าจากเครื่องซักผ้ามาใส่ไม้แขวนตากหน้าบ้าน​ แล้วบนโซฟาก็มีถุงพลาสติกใส่ผ้าขี้ริ้วที่แม่ผมแยกไว้สำหรับถูบ้านชั้น​ 2 ผมถามว่าทำไมเอามาไว้ตรงนี้​ แม่ผมบอก​ "สะดวก" จะได้ถือเดินขึ้นบันได​ใกล้ๆ

ข้างโซฟามีกล่องพลาสติก​ ที่แม่ผมเอาถุงพลาสติกขยำ​ๆ แล้วยัดลงไป​จะเก็บไว้ใช้เป็นถุงขยะ

โต๊ะกินข้าวครึ่งนึงเอาผ้าเช็ดชามมาปู​ เอาหม้อหุงข้าว​ จานชามแก้วคว่ำไว้​ ทั้งๆที่ตรงซิ้งค์ล้างจานก็มีที่คว่ำจาน​ ยังไม่รวมที่ชอบซื้อเครื่องปรุงขวดใหญ่สุดที่มีขาย น้ำปลา​ แม๊กกี้​ ซิอิ๊วขาว​ น้ำจิ้มไก่​ น้ำจิ้มสุกี้​ฯลฯ​ แล้ววางบนโต๊ะกินข้าว​ ผมบอกว่าทำไมถึงไม่เอาไปว่างบนชั้นเครื่องปรุง​ แม่ผมบอกไม่สะดวกใช้​ ทีนี้จะทานข้าวทีต้องคอยเขยิบของ​ ไม่มีที่วางกับข้าว​ ทั้งๆที่โต๊ะทานข้าวก็ใหญ่​ เก้าอี้ทานข้าวก็สรรหาของไปวาง​ ผนักพิงเก้าอี้ก็เอาผ้าขี้ริ้วเช็ดโต๊ะเช็ดชามสีเขียวสีชมพูไปพาดเอาไว้​

อาบน้ำไม่ใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัว​ ใช้วิธีทาแป้งเพื่อให้ตัวแห้ง​ หน้าห้องน้ำเต็มไปด้วยฝุ่นแป้ง

ผ้าปูที่นอนผมซื้ออย่างดีให้​ ชุดละห้าหกพัน​ ตอนซื้อก็เลือกเป็นสีขาวลาย​ grid พ่อผมเป็นคนตระหนี่​ เวลาบ้านร้อนไม่ยอมเปิดแอร์​ และมีความเชื่อว่าการเปิดพักลมทำให้ไอ​ ที่นี้ผ้าปูสีขาวพอเลอะเหงื่อก็กลายเป็นสีเหลือง​ ผมกลับไปบ้านเห็นก็หงุดหงิด​ ก็บอกพ่อแม่ว่าผ้าปูควรซักอาทิตย์ละครั้งหรือจะสองอาทิตย์ครั้งก็ได้​ แต่ถ้าเหลืองขนาดนี้ควรเอาไปซัก​ ต่อมาแม่ผมแก้ปัญหาด้วยการเอาผ้าสีเขียวไปคลุมที่นอน​ แล้วนอนแบบนั้นกลัวผ้าปูเลอะ​ เอาผ้าถุงไปห่อผ้าห่มไว้

แล้วก็แม่ผมชอบถูบ้าน​ ถูวันละ2ครั้งเช้าเย็น​ เน้นรูทีนไม่เน้นสะอาด​เพราะของก็ว่างระเกะระกะบนพื้นอยู่ดี ไม่ทราบว่าคือ​ OCD หรือเปล่าครับ

และอีกหลายอย่างครับ​ ทำให้บ้านไม่​ cozy anymore

ตอนนี้ผมเหนื่อย​ แล้วก็หน่ายครับบ
เคยลองพูดดีๆและเสนอว่าควรเก็บของให้เป็นที่วางของในที่เหมาะสมแล้วแต่ไม่เป็นผล

เคยพูดถึงขั้นว่าพ่อแม่ไม่ได้พิการทุพลภาพ​ ทำไมต้องสุมของทุกอย่างไว้รอบเตียงนอนขนาดนั้น​ ทำไมต้องสะดวกใช้ขนาดนั้น​ ก็ไม่เป็นผล

ผมจะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองยังไงครับ​ ช่วยด้วย​ รู้สึกผิดถ้าต้องทะเลาะกับพ่อแม่​ แต่ไม่ชอบอย่างมากที่ข้าวของไม่เป็นระเบียบ​ ไม่อยากกลับบ้าน​ ทุกครั้งที่เห็นสภาพบ้านในกล้องวงจรปิดก็หงุดหงิด​ เบื่อหน่าย​ ไม่อยากกลับบ้านครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 237
คนแก่ ตจว. เขามีบ้านไว้ใข้งาน
แต่คนรุ่นใหม่ มีบเานใช้งานแล้ว อยากให้บ้านสวยๆ ด้วย
เป็นคนละแนวคิด ถ้าเอาพ่อมมาอยู่ด้วย
มันก็ต้องเป็นแบบนี้

ถ้าอยากให้บ้านสวย ก็ต้องหาวิธีที่สะดวกพ่อแม่ด้วย
ถ้าเขาชอบหยิบเสื้อผ้าจากกล่องพลาสติกข้างเตียง
ลองเปลี่ยนเป็นกล่องไม้เก๋ๆ
ถ้าชอบวางไม่แขวนเสื้อบนโซฟา
ก็หาที่วางไม้แขวนเสื้อสวยๆ มาวางใกล้ๆ โซฟา

เขาชอบตากผ้าเช็ดจานบนโต๊ะ ก็ทำที่แขวนที่ตากให้เขาเลย
ถามเขาว่าสะดวกตรงใหน ติดให้ ตั้งให้
มันก็น่าจะดีขึ้นมาบ้าง

อันนี้คือเราทำกับแฟนเราค่ะ เขาเป็นคน ตจว. ที่วางของตามสะดวก
รกไปหมดทั้งบ้าน เราก็หาตู้ กล่อง ตะกร้าหรือถาด ไสตล์สวยๆ มาให้เขา
ถามเขาเลยว่าจะเอาแบบใหน วางตรงใหน
บางขิ้นไปดูด้วยกันซื้อด้วยกัน
บ้านดูดีขึ้นเยอะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
แยกบ้าน

เท่าที่อ่าน พ่อแม่ก็ไม่ได้ผิดอะไร มันเป็น life style เค้า

แค่คุณอยากให้ทุกอย่างเป็นเหมือนที่คุณคิดและหวังไว้
(แปลง่ายๆ คือบงการชีวิตเค้านั่นแหละ)
ความคิดเห็นที่ 25
จากคนที่เพิ่งเสียแม่ไป...
จะเลอะ จะรก ยังไง ก็ยอม ...ถ้าแลกได้
ความคิดเห็นที่ 17
อีกไม่นานหรอกค่ะ  สไตล์คนแก่อะ  คนไทยส่วนมากด้วย ไม่ค่อยเรียบร้อยไม่สะอาด   ทิ้งไม่ลง หวงของ  อยู่ง่ายๆ
เอาจริงๆ  เหมือนเขาเลี้ยงเราตอนเด็กๆอะ ของเล่นเต็มบ้าน ไม่เก็บ ถอดเสื้อผ้ากองทิ้ง แม่ก็ถูบ้านเก็บกวาดไป  คุณฉี่รดที่นอนก็ซักไป เล่นแป้งเต็มบ้านก็เช็ดไป   ลูกแสนดื้อแสนซน ก็ทะเลาะโมโหกันไปวันๆแต่ก็รัก
ตอนนี้ก็คิดกลับกันค่ะ  ตาคุณบ้าง เลี้ยงเขาเหมือนเลี้ยงเด็กสองคน  ซักผ้าซักที่นอน เก็บของให้เลยค่ะ   กวาดถูพื้นเองทุกสัปดาห์ เหมือนอยู่คนเดียวก็ต้องทำอยู่ดี
เรื่องเสื้อผ้าคงต้องปล่อยใส่กล่องไว้แบบนั้น เพราะถ้าจับเอาเข้าตู้ เดี๋ยวพอซัก ก็มากองกล่องเดิม
ไม่มีใครไปนอนห้องเขา  ไม่ได้มีใครไปดู  ปล่อยเขาใช้ห้องไปค่ะ
ความคิดเห็นที่ 11
จัดการความรู้สึกอย่างไร

ถ้าคุณรักเค้า อยากให้เค้าใช้ชีวิตอยู่กับคุณ ก็ต้องอย่าทำให้เค้าอึดอัด ปกติคนแก่ขี้ใจน้อยอยู่แล้วนะคะ
การปรับตัวตามใจ จขกท. อาจทำให้เค้าไม่คุ้นเคยเอามากๆ จนไม่มีความสุขในบั้นปลายชีวิตค่ะ
ถ้าบ้านโคซี่ แต่ไม่มีเค้าสองคนอยู่ จขกท.คิดว่าโอเคมั๊ย บ้านจะตกแต่งเมื่อไหร่ก็ได้ แต่พ่อกับแม่อยู่กับเราได้ไม่นานหรอกค่ะ

อีกวิธีคือหาแม่บ้านมาคอยตามจัดเก็บของให้เข้าที่ เข้าทาง แล้วก็คอยดูแลคนแก่ไปด้วย
บอกเค้าว่าการวางของไม่เป็นระเบียบจะทำให้เค้าสะดุดล้ม
เราเป็นห่วงสุขภาพของเค้าค่ะ อันนี้คือพบกันครึ่งทางแหละนะ
อมยิ้ม04
ความคิดเห็นที่ 4
เปลี่ยนพ่อแม่ไม่ได้ เปลี่ยนความคิดตัวเองได้ค่ะ
บ้านนี้ตั้งใจให้พ่อแม่อยู่ ก็ต้องตามใจเขาค่ะ คิดได้แบบนี้เราจะสบายใจ

คนเราแตกต่างกัน จะให้ทุกคนถูกใจเราก็คงเป็นไปไม่ได้
ไม่คาดหวัง = ไม่ผิดหวัง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่