ด้วยว่ามีประกันสุขภาพของ AIA ที่ได้ซื้อให้แม่ไว้
ตั้งแต่เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว
เป็นประกันแบบโบราณที่ยังไม่มีแบบเหมาจ่าย
แต่เป็นแบบประกันที่คิดค่ารักษา เป็นเปอร์เซนต์ของทุนประกัน
ตามชนิดของการรักษา และตำแหน่งของโรค
เมื่อคุณแม่ตรวจพบมะเร็งปากมดลูกระยะสุดท้าย
เราจึงตัดสินใจรักษาแบบจ่ายเอง ที่ รพ.จุฬา คลีนิกพิเศษ
เพราะดูแล้วค่ารักษาจากประกันน่าจะครอบคลุม
และการจ่ายเองน่าจะได้ตรวจรักษาต่างๆเร็วกว่า สะดวกกว่า การใช้สิทธิ์ 30 บาท
คุณหมอได้นัดแม่เราฉายแสง และต่อด้วยการทำคีโม
เราได้โทรไปถามตัวแทนว่า
แม่เป็นมะเร็ง ต้องฉายแสง และทำคีโม เบิกได้ใช่ใหม
ตัวแทนตอบว่า เบิกได้แต่กรณีแอดมิทผู้ป่วยในเท่านั้น
อีกคำถามที่ถามตัวแทน คือ ถ้าเบิกเคลมค่าฉายแสง ทำคีโมไปแล้ว
อาการกำเริบอีก ต้องไปทำคีโมฉายแสงอีกจะเบิกได้อีกใหม
ตัวแทนก็บอกว่าโรคหนึ่งๆ เบิกค่ารักษาได้ครั้งเดียวจบ
เรารู้สึกว่ามันไม่สมเหตสมผล ยังไม่อยากเชื่อตัวแทน
เลยไปเอาเล่มกรมธรรม์มาอ่านรายละเอียด
ส่วนที่เป็นข้อกำหนดและข้อยกเว้นต่างๆ ในการเบิกเคลม
ก็พบว่า ทั้งหมดที่เราถามไปเบิกได้ทั้งสิ้น
1.ในส่วนของรังสีรักษา มีข้อยกเว้นไม่ต้องเป็นผู้ป่วยใน
เป็นผู้ป่วยนอกก็เบิกได้
และเบิกได้เสมือนทำหัตถการผ่าตัด
2. การรับคีโม ถ้านอนเกิน 6 ชม. ก็เบิกได้โดยไม่ต้องเป็นผู้ป่วยในเช่นกัน
3.โรคเดียวกัน ถ้าแอดมิทหลังจากครั้งก่อนหน้าเกิน 90 วัน
สามารถเบิกได้เสมือนหนึ่งเป็นการรักษาคนละครั้ง
4.การตรวจโรค เช่น mri ctscan ตรวจเลือด ภายในเวลา 30 วันก่อนการรักษาที่เบิกเคลม
และผลตรวจทำให้เกิดการรักษานั้น ก็เบิกเคลมได้ด้วย แต่รวมแล้วไม่เกินวงเงินที่ทำไว้
นั่นก็คือ เราเบิกได้แทบทั้งหมด ค่าตรวจมะเร็ง ค่า lab ctscan mri
รวมถึง คีโม ฉายแสง และหลังจากนั้นอีก 90 วันถัดมา
ถ้าต้องคีโมฉายแสงอีก ก็สามารถจะเบิกค่ารักษาได้เสมือนเริ่มต้นใหม่
หลังจากทำการรักษาที่จุฬาเสร็จแต่ละคอร์ส
ทางรพ. ไม่มีบริการจุฬาแฟกซ์เคลม
เราจึงสำรองจ่ายไปก่อน
และเราได้ส่งเอกสารเบิกคืนกับ AIA
ได้รับเงินค่ารักษาครบถ้วนตามรายละเอียดในกรมธรรม์
เป๊ะๆ ทุกประการอย่างรวดเร็วและไร้ปัญหาใดๆ
ก็อยากจะฝากทุกคนสละเวลา
อ่านกรมธรรม์ให้ละเอียด
เพื่อจัได้ใช้ประโยชน์จากประกันที่เรามีให้คุ้มที่สุด
เพราตัวแทนก็อาจไม่ได้รู้ลึกมากดังกรณีของเรา
[CR] ตัวแทนประกัน อธิบายสิทธิ์เบิกเคลม ไม่ตรงกับกรมธรรม์
ตั้งแต่เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว
เป็นประกันแบบโบราณที่ยังไม่มีแบบเหมาจ่าย
แต่เป็นแบบประกันที่คิดค่ารักษา เป็นเปอร์เซนต์ของทุนประกัน
ตามชนิดของการรักษา และตำแหน่งของโรค
เมื่อคุณแม่ตรวจพบมะเร็งปากมดลูกระยะสุดท้าย
เราจึงตัดสินใจรักษาแบบจ่ายเอง ที่ รพ.จุฬา คลีนิกพิเศษ
เพราะดูแล้วค่ารักษาจากประกันน่าจะครอบคลุม
และการจ่ายเองน่าจะได้ตรวจรักษาต่างๆเร็วกว่า สะดวกกว่า การใช้สิทธิ์ 30 บาท
คุณหมอได้นัดแม่เราฉายแสง และต่อด้วยการทำคีโม
เราได้โทรไปถามตัวแทนว่า
แม่เป็นมะเร็ง ต้องฉายแสง และทำคีโม เบิกได้ใช่ใหม
ตัวแทนตอบว่า เบิกได้แต่กรณีแอดมิทผู้ป่วยในเท่านั้น
อีกคำถามที่ถามตัวแทน คือ ถ้าเบิกเคลมค่าฉายแสง ทำคีโมไปแล้ว
อาการกำเริบอีก ต้องไปทำคีโมฉายแสงอีกจะเบิกได้อีกใหม
ตัวแทนก็บอกว่าโรคหนึ่งๆ เบิกค่ารักษาได้ครั้งเดียวจบ
เรารู้สึกว่ามันไม่สมเหตสมผล ยังไม่อยากเชื่อตัวแทน
เลยไปเอาเล่มกรมธรรม์มาอ่านรายละเอียด
ส่วนที่เป็นข้อกำหนดและข้อยกเว้นต่างๆ ในการเบิกเคลม
ก็พบว่า ทั้งหมดที่เราถามไปเบิกได้ทั้งสิ้น
1.ในส่วนของรังสีรักษา มีข้อยกเว้นไม่ต้องเป็นผู้ป่วยใน
เป็นผู้ป่วยนอกก็เบิกได้
และเบิกได้เสมือนทำหัตถการผ่าตัด
2. การรับคีโม ถ้านอนเกิน 6 ชม. ก็เบิกได้โดยไม่ต้องเป็นผู้ป่วยในเช่นกัน
3.โรคเดียวกัน ถ้าแอดมิทหลังจากครั้งก่อนหน้าเกิน 90 วัน
สามารถเบิกได้เสมือนหนึ่งเป็นการรักษาคนละครั้ง
4.การตรวจโรค เช่น mri ctscan ตรวจเลือด ภายในเวลา 30 วันก่อนการรักษาที่เบิกเคลม
และผลตรวจทำให้เกิดการรักษานั้น ก็เบิกเคลมได้ด้วย แต่รวมแล้วไม่เกินวงเงินที่ทำไว้
นั่นก็คือ เราเบิกได้แทบทั้งหมด ค่าตรวจมะเร็ง ค่า lab ctscan mri
รวมถึง คีโม ฉายแสง และหลังจากนั้นอีก 90 วันถัดมา
ถ้าต้องคีโมฉายแสงอีก ก็สามารถจะเบิกค่ารักษาได้เสมือนเริ่มต้นใหม่
หลังจากทำการรักษาที่จุฬาเสร็จแต่ละคอร์ส
ทางรพ. ไม่มีบริการจุฬาแฟกซ์เคลม
เราจึงสำรองจ่ายไปก่อน
และเราได้ส่งเอกสารเบิกคืนกับ AIA
ได้รับเงินค่ารักษาครบถ้วนตามรายละเอียดในกรมธรรม์
เป๊ะๆ ทุกประการอย่างรวดเร็วและไร้ปัญหาใดๆ
ก็อยากจะฝากทุกคนสละเวลา
อ่านกรมธรรม์ให้ละเอียด
เพื่อจัได้ใช้ประโยชน์จากประกันที่เรามีให้คุ้มที่สุด
เพราตัวแทนก็อาจไม่ได้รู้ลึกมากดังกรณีของเรา
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้