ชื่อเรื่อง เด็กเทพวัดไผ่ตัน THE HERO FROM PHAITAN TEMPLE
นามปากกา Dr.One
เรื่องย่อ
“หนึ่ง”(พระเอก) เด็กหนุ่มบ้านนอกจาก จ.ลำพูน ภาคเหนือของประเทศไทยเป็นลูกคนเดียวของพ่อ-แม่ หลังจากเรียนจบ ม.6 แล้วได้สอบเข้าเรียนต่อในสถานศึกษาของรัฐแห่งหนึ่งมีชื่อว่า โรงเรียนสัตวแพทย์กรมปศุสัตว์หลักสูตร 2 ปี จึงต้องเข้ามาศึกษาต่อที่กรุงเทพฯโดยมีญาติผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่งนำหนึ่งและเพื่อนไปฝากให้เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อสุพินแห่งวัดไผ่ตันย่านสะพานควาย ให้คอยปรนนิบัติและให้หลวงพ่อคอยอบรมสั่งสอนเรื่อยมาในช่วงที่เรียนอยู่ในกรุงเทพฯ หนึ่งมีความสามารถพิเศษอยู่อย่างหนึ่งคือเขาสามารถสื่อสารกับวิญญาณของพี่ชายฝาแฝดของเขาได้ชื่อว่า “สติ” ที่คอยติดตามคุ้มครองและเป็นที่ปรึกษาให้กับหนึ่งมาโดยตลอดสตินั้นมีบทบาทในชีวิตของหนึ่งเป็นอย่างมาก จนกระทั่งหนึ่งเรียนจบหนึ่งต้องหางานทำ แล้วหนึ่งก็ได้รับการติดต่อจากบริษัทผลิตอาหารสัตว์แห่งหนึ่งชื่อ “บริษัท อาหารสัตว์ไทย (มหาชน) จำกัด” ที่เคยยื่นใบสมัครงานไว้ให้เข้าไปสัมภาษณ์งานในตำแหน่งสัตวบาลส่งเสริการตลาดหนึ่งดีใจมาก หนึ่งถูกส่งให้ไปทำงานที่สาขาของบริษัทฯที่ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์
จากนั้นหนึ่งก็ได้รู้จักกับ “ปุ๊”(นางเอก)สาวสวยประจำสำนักงานทั้งสองก็เลยเกิดอาการที่เรียกว่ารักแรกพบในทันทีตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาความสัมพันธ์ของสองหนุ่มสาวก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆจากเพื่อนร่วมงานเป็นเพื่อนสนิทและในที่สุดเมื่อความรักสุขงอมเต็มที่แล้วหนึ่งจึงขอปุ๊เป็นแฟนหนึ่งสัญญากับปุ๊ว่าจะคอยดูแลและปกต้องปุ๊ไปตลอดชีวิตปุ๊ตอบรับอย่างดีใจมากหลังจากนั้นทั้งสองก็คบหากันอย่างเปิดเผยทุกคนภายในสำนักงานต่างๆก็ยินดีกับทั้งสองคนด้วยแต่คนที่ดีใจและชื่นชอบในตัวหนึ่งมากที่สุดนั้นก็คือ “แม่น้อย”(แม่ของปุ๊)นั่นเองถึงกับประกาศว่าจะยกปุ๊ให้แต่งงานด้วยเลยทีเดียว หนึ่งมีศัตรูหัวใจตัวฉกาจอยู่คนหนึ่งนั่นก็คือ“ผู้จัดการใหญ่เอกชัยหรือไอ้เจ็คหนวดจิ๋ม” (ศัตรูคู่อาฆาตของหนึ่ง)จอมเจ้าเล่ห์ซึ่งมันเกรียดหนึ่งยิ่งว่าขี้ซะอีก มันชอบมาเกาะแกะกับปุ๊เป็นประจำตอนหนึ่งออกไปทำงานข้างนอก แถมยังชอบชวนปุ๊ออกไปข้างนอกกับมันบ่อยๆอ้างว่าให้ไปเป็นเลขาฯตอนออกไปเยี่ยมลูกค้าเวลาออกไปกับมัน...มันชอบพูดจาแทะโลมต่างๆนานาว่าชอบปุ๊อย่างนั้นอย่างนี้ถ้าได้อยู่กับมันแล้วจะสบายทั้งครอบครัวเลยแต่ปุ๊ไม่ชอบมันเลย ผู้ชายอะไรลูกเมียก็มีอยู่แล้วยังคิดจะเอาปุ๊ไปเป็นเมียน้อยอีกไม่มีทางฝันไปเถอะปุ๊มักจะมาคอยปรับทุกข์กับหนึ่งอยู่เสมอและหนึ่งก็คอยปลอบใจปุ๊เสมอเช่นกัน และแล้วข่าวของหนึ่งกับปุ๊ก็ล่วงรู้ไปถึงหูไอ้เจ็คหนวดจิ๋มจนได้มันโกรธและอาฆาตแค้นหนึ่งเป็นอย่างมากถึงขั้นว่าจะกำจัดหนึ่งให้ได้โทษฐานที่บังอาจมาแย่งคนที่มันหมายปองจะเอามาเป็นเมียน้อย หนึ่งรู้เรื่องนี้ดีจึงต้องคอยระวังตัวอยู่ตลอดเวลา
ในส่วนเรื่องของการทำงานนั้นหนึ่งทำผลงานได้โดดเด่นมากเพราะเป็นคนที่ฉลาดมีไหวพริบดีและชอบคิดต่างจากคนอื่นๆจึงทำให้สามารถใช้ปัญญาช่วยแก้ไขปัญหาของบริษัทฯได้ดีมาโดยตลอด เป็นที่ชื่นชมและพึงพอใจแก่คณะผู้บริหารบริษัทฯเป็นอย่างมากโดยเฉพาะ “พี่ทศหรือทศพร” ผู้จัดการเขตภาคอีสานตอนกลางและ “ท่านหญิงพิสมัย” ประธานคณะกรรมการใหญ่ ของบริษัท อาหารสัตว์ไทย (มหาชน) จำกัด หนึ่งจึงเป็นที่ไว้วางใจของท่านหญิงมาก วันหนึ่งท่านได้มอบหมายงานที่สำคัญให้หนึ่งทำโดยให้หนึ่งเป็นผู้นำทีมไปบุกเบิกเพื่อเปิดสาขาแห่งใหม่ที่ จ.ยโสธรให้ได้ โดยมี “บุญถม” เป็นผู้ช่วยฯโดยให้อยู่ในการควบคุมของพี่ทศพร แต่หนึ่งมีข้อแม้ว่าจะต้องให้ปุ๊กับ “พี่มด”(เลขาฯของท่านหญิง)ไปร่วมงานด้วยเป็นการชั่วคราวเพื่อความสำเร็จของงานโดยหนึ่งได้เขียนแผนงานการปฏิบัติงานอย่างละเอียดมาเสนอต่อท่านหญิง...ท่านอนุญาตตามที่หนึ่งขอ(แต่ท่านหารู้ไม่ว่านี่เป็นแผนการที่หนึ่งจะได้อยู่กับปุ๊เพื่อจะได้ให้ปุ๊อยู่ห่างๆจากไอ้เจ็คหนวดจิ๋มนั่นเอง) และแล้วการดำเนินงานทุกอย่างก็เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของแผนงานที่วางเอาทุกอย่างด้วยความร่วมมือของทุกคนและการแก้ไขสถานการณ์อันชาญฉลาดของหนึ่งงานจึงสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีโดยสาขาแห่งใหม่แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร หลังจากเปิดสาขาแห่งใหม่ได้แล้วหนึ่งได้ปรึกษากับพี่ทศว่าควรจะขออนุญาตจากท่านหญิงให้พวกเราได้ลาหยุดพักผ่อนกันบ้างเป็นเวลา 5 วันหลังจากเหนื่อยกับการทำงานอย่างหนักมานานทุกคนเห็นด้วยแล้วพี่ทศก็อาสาจะเป็นคนเจรจากับท่านหญิงให้เองท่านหญิงอนุญาตตามที่ขอทุกคนดีใจกันมาก
หนึ่งมีแผนจะพาปุ๊ไปเที่ยวที่ลำพูนบ้านเกิดเพื่อให้พ่อ-แม่ได้รู้จักกับว่าที่ลูกสะใภ้เพื่อจะขออนุญาตจากพ่อ-แม่แต่งงานกับปุ๊อีกด้วย...ปุ๊ดีใจมากทั้งสองคนตกลงกันว่าจะกลับลำพูทางรถทัวร์แต่ในระหว่างที่กำลังรอจะขึ้นรถทัวร์นั้นเองหนึ่งได้รับการสื่อสารจากสติว่ารถทัวร์คันที่หนึ่งกับปุ๊จะโดยสารกลับลำพูนนั้นจะถูกวางระเบิดโดยพวกมันจะทำให้เหมือนกับเป็นอุบัติเหตุซึ่งเป้าหมายของพวกมันก็คือต้องการที่จะเอาชีวิตของหนึ่งแล้วคนบงการนั้นก็คือไอ้เจ็คหนวดจิ๋มนั่นเองพอหนึ่งรู้ก็โกรธมากจึงร่วมกันกับสติวางแผนด้วยความชาญฉลาดของหนึ่งจนสามารถเอาตัวรอดมาได้และตำรวจยังจับคนร้ายได้แถมยังรู้ตัวคนบงการอีกด้วย หนึ่งแค้นไอ้เจ็คหนวดจิ๋มมากจึงวางแผนเอาคืนมันบ้างโดยการเปิดโปงแผนการฉ้อโกงบริษัทฯของมันให้ท่านหญิงได้รับทราบเพื่อเป็นการแก้แค้น หนึ่งคิดว่าคงจะกลับลำพูนไม่ได้แล้วแต่สติก็บอกกับหนึ่งว่าตนสามารถพาทั้งสองคนกลับลำพูนได้สติจึงพาทั้งสองคนเหาะมาเป็นความมหัศจรรย์แบบอึ้ง ทึ่ง เสียวมาก วันในรุ่งขึ้นหนึ่งก็พาปุ๊มาแนะนำให้พ่อ-แม่ได้รู้จักและหนึ่งยังได้ขออนุญาตจากพ่อ-แม่ว่าจะขอแต่งงานกับปุ๊ได้หรือไม่ซึ่งพ่อ-แม่ก็ไม่ว่าอะไรแต่ต้องปรึกษาหารือกันก่อน ในระหว่างใช้ชีวิตที่ลำพูนเป็นเวลา 2 วันนั้นปุ๊ปฏิบัติตนเป็นที่ถูกใจพ่อ-แม่เป็นอย่างมากเป็นทั้งแม่ศรีเรือน กริยามารยาทก็เรียบร้อยพูดจาไพเราะเข้ากับผู้หลักผู้ใหญ่ได้ดีซึ่งก็เป็นนิสัยของปุ๊เองอยู่แล้ว หนึ่งพาปุ๊ไปเที่ยวในสถานที่สำคัญๆต่างๆของ จ.ลำพูนจนทั่วสร้างความประทับใจให้กับปุ๊เป็นอันมากและแล้วก็ถึงเวลาต้องกลับยโสธรแล้วก่อนกลับพ่อ-แม่บอกกับหนุ่มสาวทั้งสองว่าพ่อกับแม่หารือกันแล้วจึงอนุญาตให้ทั้งคู่แต่งงานกันได้ส่วนฤกษ์ยามนั้นพ่อจะแจ้งให้ในภายหลังสร้างความปีติยินดีกับทั้งคู่เป็นอย่างมาก ในวันเดินทางกลับทั้งคู่ตัดสินใจว่าจะกลับทางรถไฟระหว่างเดินทางกลับนั้นหนึ่งมีลางสังหรณ์บางอย่างว่าตนกำลังจะมีภัยจึงเรียกสติมาเพื่อให้ไปสืบหาความจริงแล้วเหตุการณ์ก็เป็นไปตามที่หนึ่งสังหรณ์เมื่อสติกลับมารายงานว่าไอ้เจ็คหนวดจิ๋มมันได้รับการประกันตัวออกมาจากคุกแล้วและยังวางแผนลอบสังหารหนึ่งที่สถานีรถไฟลำปางอีกด้วย หนึ่งโกธรมากถึงกับออกปากว่าดูซิว่าใครมันจะตายก่อนกัน “กูมันเด็กเทพวัดไผ่ตันโว้ย!!!” จากนั้นหนึ่งกับสติก็ได้ร่วมกันวางแผนการรับมือกับศัตรูคู่อาฆาตเป็นครั้งที่สองอย่างแยบยลและชาญฉลาดของหนึ่ง จนสามารถเอาตัวรอดมาได้แต่หนึ่งก็บาดเจ็บสาหัสปางตายเหมือนกันส่วนคนที่ตายนั้นกลับกลายเป็นไอ้เจ็คหนวดจิ๋มที่มันดันไปยิงต่อสู้กับตำรวจเพื่อเปิดทางหลบหนีจึงโดนตำรวจวิสามัญตายคาที่
หนึ่งต้องนอนรักษาตัวเป็นอาทิตย์ หนึ่งคิดว่าตนกับปุ๊นั้นคงหมดเคราะห์กรรมเสียทีในเมื่อศัตรูตายไปแล้วแต่ทั้งคู่หารู้ไม่ว่าเวรกรรมยังไม่จบสิ้นนั่นก็เพราะเวรกรรมแต่ชาติปางก่อนส่งผลให้ต้องมาชดใช้และสะสางกันในชาตินี้ หลังจากกลับมาที่ยางตลาดได้ไม่นานหนึ่งก็ได้รับจดหมายจากพ่อบอกว่าได้ฤกษ์การสู่ขอและงานแต่งงานแล้วทั้งสองหนุ่มสาวดีใจกันมากรีบช่วยกันเตรียมงานในทันทีแต่อนิจจาเวรกรรมมีจริงในวันสู่ขอและหมั้นหมายนั้นเองสติมารายงานกับหนึ่งว่าวิญญาณอาฆาตของไอ้เจ็คหนวดจิ๋มมันจะมาทำลายงานหมั้นของหนึ่งกับปุ๊เพื่อจะเอาชีวิตของหนึ่งและปุ๊ เพื่อปกป้องคนรักแล้วหนึ่งยอมทำทุกอย่างจากนั้นสองพี่น้องต่างภพก็ได้วางแผนการร่วมกันในการรับมือกับวิญญาณอาฆาตเป็นครั้งที่สาม แล้วการต่อสู้ระหว่างคนกับผีก็เกิดขึ้นจริงทำเอางานหมั้นเกือบจะล่มแต่แล้วด้วยร่วมมือระหว่างสองพี่น้องต่างภพก็เป็นผลสำเร็จเมื่อสติสามารถจับตัวไอ้วิญญาณอาฆาตส่งไปยมโลกได้ตามแผนการ
หลังจากเหตุการณ์ในวันสู่ขอแล้วหนึ่งกับปุ๊ก็เลยอยากจะไปทำบุญถวายสังฆทานกับพระสงฆ์บ้างเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์พร้อมกับจะได้ทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร พ่อแก้วแม่แก้วตลอดจนสัมภเวสีต่างๆโดยเฉพาะวิญญาณอาฆาตของไอ้เจ็คหนวดจิ๋มนั่นที่ยมโลกอีกด้วย หลังจากเตรียมสังฆทานเสร็จแล้วทั้งสองก็เดินทางไปที่วัดยางตลาดเพื่อถวายสังฆทานแก่ท่านสมภารเมื่อได้พบกับท่านแล้ว ท่านสมภารได้ทักกับหนึ่งกับปุ๊ว่าเวรกรรมของทั้งสองคนยังไม่จบสิ้นโดยวิญญาณอาฆาตตนนั้นบัดนี้สามารถหลบหนีออกมาจากยมโลกออกมาได้แล้วแถมยังมีอิทธิฤทธิ์และบริวารตามมาอีกด้วยเพื่อจะมากำจัดพวกเขาทั้งสองซึ่งเวรกรรมอันนี้เป็นผลพวงมาจากชาติปางก่อนที่กระทำร่วมกันมาจึงต้องมาสะสางกันในชาตินี้ซึ่งท่านสมภารก็ได้เล่าถึงอดีตชาติของทั้งสามคนนั่นก็คือหนึ่ง ปุ๊ และผู้จัดการใหญ่เอกชัยเมื่อชาติปางก่อนให้ได้รับรู้ว่ามีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรทำไมถึงต้องมาอาฆาตจองเวรจองกรรมกันมาถึงในชาตินี้เมื่อหนึ่งได้รับทราบและเข้าใจเรื่องราวในอดีตชาติของตนกับปุ๊แล้วก่อนที่จะถวายสังฆทานนั้นท่านสมภารได้มอบดาบโบราณหนึ่งเล่มและตะกรุดอีกหนึ่งอันแล้วบอกว่าดาบเล่มนี้เป็นอาวุธประจำกายของหนึ่งในอดีตชาติมีอิทธิฤทธิ์มากให้นำไปปราบศัตรูส่วนตะกรุดเหล็กไหลอันนี้เป็นของวิเศษทำให้อยู่ยงคงกระพันฟันแทงไม่เข้าและยังมีตำราคาถาอาคมอีกหนึ่งเล่มมามอบให้ท่านบอกว่าให้ท่องจำให้ขึ้นใจหลังจากปราบวิญญาณร้ายได้แล้วให้ท่องคาถาสะกดวิญญาณตนนั้นให้เข้ามาสถิตในตะกรุดอันนี้แล้วนำมาคืนให้ท่านหนึ่งเข้าใจตามนั้นแล้วจึงทำพิธีถวายสังฆทานเสร็จแล้วก็กราบลาท่านกลับบ้าน หนึ่งพยายามเรียกหาสติแต่ไม่มีการตอบรับจากสติมีเพียงเสียงจากบริวารของสติมาบอกว่าสติไปจุติอยู่ในครรภ์ของปุ๊แล้วซึ่งก็จะมาเกิดเป็นลูกของหนึ่งกับปุ๊นั่นเองหนึ่งได้ยินดังนั้นแล้วก็ทั้งดีใจและเศร้าใจไปพร้อมๆกันเพราะจากนี้ไปจะไม่มีพี่ชายมาคอยช่วยเหลืออีกแล้ว หนึ่งหันไปหยิบดาบขึ้นมาพิจารณาแล้วชักดาบออกมาทันใดนั้นก็มีเสียงเข้ามาในจิตของเขาเป็นเสียงจากดาบนั่นเอง จากนั้นคนกับดาบก็สนทนากันจนรู้ถึงที่มาที่ไปและความผูกพันของกันและกันในอดีตชาติและยังรู้ถึงอิทธิฤทธิ์ของดาบวิเศษที่สามารถเรียกสายฟ้าและเรียกเพลิงได้อีกด้วยหนึ่งจึงขอทดสอบดูก็ปรากฏว่าเป็นจริงอย่างที่ดาบบอกทุกอย่างหนึ่งจึงตั้งชื่อให้ดาบเล่มนี้ว่า “ดาบเทพไผ่ตัน” จากนั้นเป็นต้นมาคนกับดาบก็ได้ร่วมกันฝึกซ้อมกันอย่างหนักหน่วงพร้อมกับท่องจำคาถาได้จนขึ้นใจหนึ่งจึงมั่นใจว่าจะรับมือกับศัตรูได้
และแล้ววันแต่งงานก็มาถึงงานพิธีช่วงเช้าผ่านไปด้วยดีหลังพิธีผูกข้อมือเสร็จแล้วเจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็ออกมาเดินต้อนรับแขกที่มาร่วมงานแล้วหนึ่งก็บังเอิญไปเจอกับเพื่อนเก่าสมัยเรียนสัตวแพทย์ด้วยกันก็มาร่วมงานนี้ด้วยหนึ่งดีใจมากแล้วก็เลยคิดแผนการปราบปีศาจได้โดยคิดจะขอความร่วมมือจากเพื่อนเก่าทั้งสองคนคือ “แขกและเหน่ง” สองพี่น้องจอมห้าวแห่งเมืองอุบลฯ ให้ช่วยปราบปีศาจด้วยกันหนึ่งจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แขกกับเหน่งฟัง ตอนแรกเพื่อนๆหาว่าหนึ่งเพี้ยนไปแล้วแน่ๆหนึ่งจึงแสดงอิทธิฤทธิ์ของดาบให้ดูเพื่อนๆจึงเชื่อแล้วทั้งสามคนก็ได้ร่วมกันวางแผนการรับมือศัตรูอย่างแยบยลเป็นครั้งที่สี่ และแล้วสงครามระหว่างคนกับปีศาจก็เกิดขึ้นในช่วงเวลาพลบค่ำกองทัพปีศาจก็บุกเข้ามาหนึ่งกับผองเพื่อนก็สู้กันจนสุดฤทธิ์มีทั้งเสียงปืน เสียงฟ้าผ่าและเสียงผู้คนในงานหวิดร้องแตกตื่นกันชุลมุนวุ่นวายกันไปหมดแล้วในที่สุดหนึ่งและผองเพื่อนก็เป็นฝ่ายมีชัย หนึ่งสามารถสะกดวิญญาณหัวหน้าปีศาจร้ายเข้าไปในตะกรุดได้เป็นผลสำเร็จแล้วเหล่าวิญญาณผีดิบบริวารของมันก็สูญสลายกลายเป็นควันกันทั้งหมด เมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างสงบลงทุกคนหายตกใจกันแล้วก็มีพระธุดงค์รูปหนึ่งปรากฏตัวขึ้นเข้ามาถามหาตัวหนึ่ง...หนึ่
นิยายอิงประสบการณ์จริงแล้วเพิ่มเติมสีสันที่น่าอัศจรรย์เข้าไปเพื่อความบันเทิง เรื่อง เด็กเทพวัดไผ่ตัน โดย Dr.One
นามปากกา Dr.One
เรื่องย่อ
“หนึ่ง”(พระเอก) เด็กหนุ่มบ้านนอกจาก จ.ลำพูน ภาคเหนือของประเทศไทยเป็นลูกคนเดียวของพ่อ-แม่ หลังจากเรียนจบ ม.6 แล้วได้สอบเข้าเรียนต่อในสถานศึกษาของรัฐแห่งหนึ่งมีชื่อว่า โรงเรียนสัตวแพทย์กรมปศุสัตว์หลักสูตร 2 ปี จึงต้องเข้ามาศึกษาต่อที่กรุงเทพฯโดยมีญาติผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่งนำหนึ่งและเพื่อนไปฝากให้เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อสุพินแห่งวัดไผ่ตันย่านสะพานควาย ให้คอยปรนนิบัติและให้หลวงพ่อคอยอบรมสั่งสอนเรื่อยมาในช่วงที่เรียนอยู่ในกรุงเทพฯ หนึ่งมีความสามารถพิเศษอยู่อย่างหนึ่งคือเขาสามารถสื่อสารกับวิญญาณของพี่ชายฝาแฝดของเขาได้ชื่อว่า “สติ” ที่คอยติดตามคุ้มครองและเป็นที่ปรึกษาให้กับหนึ่งมาโดยตลอดสตินั้นมีบทบาทในชีวิตของหนึ่งเป็นอย่างมาก จนกระทั่งหนึ่งเรียนจบหนึ่งต้องหางานทำ แล้วหนึ่งก็ได้รับการติดต่อจากบริษัทผลิตอาหารสัตว์แห่งหนึ่งชื่อ “บริษัท อาหารสัตว์ไทย (มหาชน) จำกัด” ที่เคยยื่นใบสมัครงานไว้ให้เข้าไปสัมภาษณ์งานในตำแหน่งสัตวบาลส่งเสริการตลาดหนึ่งดีใจมาก หนึ่งถูกส่งให้ไปทำงานที่สาขาของบริษัทฯที่ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์
จากนั้นหนึ่งก็ได้รู้จักกับ “ปุ๊”(นางเอก)สาวสวยประจำสำนักงานทั้งสองก็เลยเกิดอาการที่เรียกว่ารักแรกพบในทันทีตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาความสัมพันธ์ของสองหนุ่มสาวก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆจากเพื่อนร่วมงานเป็นเพื่อนสนิทและในที่สุดเมื่อความรักสุขงอมเต็มที่แล้วหนึ่งจึงขอปุ๊เป็นแฟนหนึ่งสัญญากับปุ๊ว่าจะคอยดูแลและปกต้องปุ๊ไปตลอดชีวิตปุ๊ตอบรับอย่างดีใจมากหลังจากนั้นทั้งสองก็คบหากันอย่างเปิดเผยทุกคนภายในสำนักงานต่างๆก็ยินดีกับทั้งสองคนด้วยแต่คนที่ดีใจและชื่นชอบในตัวหนึ่งมากที่สุดนั้นก็คือ “แม่น้อย”(แม่ของปุ๊)นั่นเองถึงกับประกาศว่าจะยกปุ๊ให้แต่งงานด้วยเลยทีเดียว หนึ่งมีศัตรูหัวใจตัวฉกาจอยู่คนหนึ่งนั่นก็คือ“ผู้จัดการใหญ่เอกชัยหรือไอ้เจ็คหนวดจิ๋ม” (ศัตรูคู่อาฆาตของหนึ่ง)จอมเจ้าเล่ห์ซึ่งมันเกรียดหนึ่งยิ่งว่าขี้ซะอีก มันชอบมาเกาะแกะกับปุ๊เป็นประจำตอนหนึ่งออกไปทำงานข้างนอก แถมยังชอบชวนปุ๊ออกไปข้างนอกกับมันบ่อยๆอ้างว่าให้ไปเป็นเลขาฯตอนออกไปเยี่ยมลูกค้าเวลาออกไปกับมัน...มันชอบพูดจาแทะโลมต่างๆนานาว่าชอบปุ๊อย่างนั้นอย่างนี้ถ้าได้อยู่กับมันแล้วจะสบายทั้งครอบครัวเลยแต่ปุ๊ไม่ชอบมันเลย ผู้ชายอะไรลูกเมียก็มีอยู่แล้วยังคิดจะเอาปุ๊ไปเป็นเมียน้อยอีกไม่มีทางฝันไปเถอะปุ๊มักจะมาคอยปรับทุกข์กับหนึ่งอยู่เสมอและหนึ่งก็คอยปลอบใจปุ๊เสมอเช่นกัน และแล้วข่าวของหนึ่งกับปุ๊ก็ล่วงรู้ไปถึงหูไอ้เจ็คหนวดจิ๋มจนได้มันโกรธและอาฆาตแค้นหนึ่งเป็นอย่างมากถึงขั้นว่าจะกำจัดหนึ่งให้ได้โทษฐานที่บังอาจมาแย่งคนที่มันหมายปองจะเอามาเป็นเมียน้อย หนึ่งรู้เรื่องนี้ดีจึงต้องคอยระวังตัวอยู่ตลอดเวลา
ในส่วนเรื่องของการทำงานนั้นหนึ่งทำผลงานได้โดดเด่นมากเพราะเป็นคนที่ฉลาดมีไหวพริบดีและชอบคิดต่างจากคนอื่นๆจึงทำให้สามารถใช้ปัญญาช่วยแก้ไขปัญหาของบริษัทฯได้ดีมาโดยตลอด เป็นที่ชื่นชมและพึงพอใจแก่คณะผู้บริหารบริษัทฯเป็นอย่างมากโดยเฉพาะ “พี่ทศหรือทศพร” ผู้จัดการเขตภาคอีสานตอนกลางและ “ท่านหญิงพิสมัย” ประธานคณะกรรมการใหญ่ ของบริษัท อาหารสัตว์ไทย (มหาชน) จำกัด หนึ่งจึงเป็นที่ไว้วางใจของท่านหญิงมาก วันหนึ่งท่านได้มอบหมายงานที่สำคัญให้หนึ่งทำโดยให้หนึ่งเป็นผู้นำทีมไปบุกเบิกเพื่อเปิดสาขาแห่งใหม่ที่ จ.ยโสธรให้ได้ โดยมี “บุญถม” เป็นผู้ช่วยฯโดยให้อยู่ในการควบคุมของพี่ทศพร แต่หนึ่งมีข้อแม้ว่าจะต้องให้ปุ๊กับ “พี่มด”(เลขาฯของท่านหญิง)ไปร่วมงานด้วยเป็นการชั่วคราวเพื่อความสำเร็จของงานโดยหนึ่งได้เขียนแผนงานการปฏิบัติงานอย่างละเอียดมาเสนอต่อท่านหญิง...ท่านอนุญาตตามที่หนึ่งขอ(แต่ท่านหารู้ไม่ว่านี่เป็นแผนการที่หนึ่งจะได้อยู่กับปุ๊เพื่อจะได้ให้ปุ๊อยู่ห่างๆจากไอ้เจ็คหนวดจิ๋มนั่นเอง) และแล้วการดำเนินงานทุกอย่างก็เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของแผนงานที่วางเอาทุกอย่างด้วยความร่วมมือของทุกคนและการแก้ไขสถานการณ์อันชาญฉลาดของหนึ่งงานจึงสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีโดยสาขาแห่งใหม่แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร หลังจากเปิดสาขาแห่งใหม่ได้แล้วหนึ่งได้ปรึกษากับพี่ทศว่าควรจะขออนุญาตจากท่านหญิงให้พวกเราได้ลาหยุดพักผ่อนกันบ้างเป็นเวลา 5 วันหลังจากเหนื่อยกับการทำงานอย่างหนักมานานทุกคนเห็นด้วยแล้วพี่ทศก็อาสาจะเป็นคนเจรจากับท่านหญิงให้เองท่านหญิงอนุญาตตามที่ขอทุกคนดีใจกันมาก
หนึ่งมีแผนจะพาปุ๊ไปเที่ยวที่ลำพูนบ้านเกิดเพื่อให้พ่อ-แม่ได้รู้จักกับว่าที่ลูกสะใภ้เพื่อจะขออนุญาตจากพ่อ-แม่แต่งงานกับปุ๊อีกด้วย...ปุ๊ดีใจมากทั้งสองคนตกลงกันว่าจะกลับลำพูทางรถทัวร์แต่ในระหว่างที่กำลังรอจะขึ้นรถทัวร์นั้นเองหนึ่งได้รับการสื่อสารจากสติว่ารถทัวร์คันที่หนึ่งกับปุ๊จะโดยสารกลับลำพูนนั้นจะถูกวางระเบิดโดยพวกมันจะทำให้เหมือนกับเป็นอุบัติเหตุซึ่งเป้าหมายของพวกมันก็คือต้องการที่จะเอาชีวิตของหนึ่งแล้วคนบงการนั้นก็คือไอ้เจ็คหนวดจิ๋มนั่นเองพอหนึ่งรู้ก็โกรธมากจึงร่วมกันกับสติวางแผนด้วยความชาญฉลาดของหนึ่งจนสามารถเอาตัวรอดมาได้และตำรวจยังจับคนร้ายได้แถมยังรู้ตัวคนบงการอีกด้วย หนึ่งแค้นไอ้เจ็คหนวดจิ๋มมากจึงวางแผนเอาคืนมันบ้างโดยการเปิดโปงแผนการฉ้อโกงบริษัทฯของมันให้ท่านหญิงได้รับทราบเพื่อเป็นการแก้แค้น หนึ่งคิดว่าคงจะกลับลำพูนไม่ได้แล้วแต่สติก็บอกกับหนึ่งว่าตนสามารถพาทั้งสองคนกลับลำพูนได้สติจึงพาทั้งสองคนเหาะมาเป็นความมหัศจรรย์แบบอึ้ง ทึ่ง เสียวมาก วันในรุ่งขึ้นหนึ่งก็พาปุ๊มาแนะนำให้พ่อ-แม่ได้รู้จักและหนึ่งยังได้ขออนุญาตจากพ่อ-แม่ว่าจะขอแต่งงานกับปุ๊ได้หรือไม่ซึ่งพ่อ-แม่ก็ไม่ว่าอะไรแต่ต้องปรึกษาหารือกันก่อน ในระหว่างใช้ชีวิตที่ลำพูนเป็นเวลา 2 วันนั้นปุ๊ปฏิบัติตนเป็นที่ถูกใจพ่อ-แม่เป็นอย่างมากเป็นทั้งแม่ศรีเรือน กริยามารยาทก็เรียบร้อยพูดจาไพเราะเข้ากับผู้หลักผู้ใหญ่ได้ดีซึ่งก็เป็นนิสัยของปุ๊เองอยู่แล้ว หนึ่งพาปุ๊ไปเที่ยวในสถานที่สำคัญๆต่างๆของ จ.ลำพูนจนทั่วสร้างความประทับใจให้กับปุ๊เป็นอันมากและแล้วก็ถึงเวลาต้องกลับยโสธรแล้วก่อนกลับพ่อ-แม่บอกกับหนุ่มสาวทั้งสองว่าพ่อกับแม่หารือกันแล้วจึงอนุญาตให้ทั้งคู่แต่งงานกันได้ส่วนฤกษ์ยามนั้นพ่อจะแจ้งให้ในภายหลังสร้างความปีติยินดีกับทั้งคู่เป็นอย่างมาก ในวันเดินทางกลับทั้งคู่ตัดสินใจว่าจะกลับทางรถไฟระหว่างเดินทางกลับนั้นหนึ่งมีลางสังหรณ์บางอย่างว่าตนกำลังจะมีภัยจึงเรียกสติมาเพื่อให้ไปสืบหาความจริงแล้วเหตุการณ์ก็เป็นไปตามที่หนึ่งสังหรณ์เมื่อสติกลับมารายงานว่าไอ้เจ็คหนวดจิ๋มมันได้รับการประกันตัวออกมาจากคุกแล้วและยังวางแผนลอบสังหารหนึ่งที่สถานีรถไฟลำปางอีกด้วย หนึ่งโกธรมากถึงกับออกปากว่าดูซิว่าใครมันจะตายก่อนกัน “กูมันเด็กเทพวัดไผ่ตันโว้ย!!!” จากนั้นหนึ่งกับสติก็ได้ร่วมกันวางแผนการรับมือกับศัตรูคู่อาฆาตเป็นครั้งที่สองอย่างแยบยลและชาญฉลาดของหนึ่ง จนสามารถเอาตัวรอดมาได้แต่หนึ่งก็บาดเจ็บสาหัสปางตายเหมือนกันส่วนคนที่ตายนั้นกลับกลายเป็นไอ้เจ็คหนวดจิ๋มที่มันดันไปยิงต่อสู้กับตำรวจเพื่อเปิดทางหลบหนีจึงโดนตำรวจวิสามัญตายคาที่
หนึ่งต้องนอนรักษาตัวเป็นอาทิตย์ หนึ่งคิดว่าตนกับปุ๊นั้นคงหมดเคราะห์กรรมเสียทีในเมื่อศัตรูตายไปแล้วแต่ทั้งคู่หารู้ไม่ว่าเวรกรรมยังไม่จบสิ้นนั่นก็เพราะเวรกรรมแต่ชาติปางก่อนส่งผลให้ต้องมาชดใช้และสะสางกันในชาตินี้ หลังจากกลับมาที่ยางตลาดได้ไม่นานหนึ่งก็ได้รับจดหมายจากพ่อบอกว่าได้ฤกษ์การสู่ขอและงานแต่งงานแล้วทั้งสองหนุ่มสาวดีใจกันมากรีบช่วยกันเตรียมงานในทันทีแต่อนิจจาเวรกรรมมีจริงในวันสู่ขอและหมั้นหมายนั้นเองสติมารายงานกับหนึ่งว่าวิญญาณอาฆาตของไอ้เจ็คหนวดจิ๋มมันจะมาทำลายงานหมั้นของหนึ่งกับปุ๊เพื่อจะเอาชีวิตของหนึ่งและปุ๊ เพื่อปกป้องคนรักแล้วหนึ่งยอมทำทุกอย่างจากนั้นสองพี่น้องต่างภพก็ได้วางแผนการร่วมกันในการรับมือกับวิญญาณอาฆาตเป็นครั้งที่สาม แล้วการต่อสู้ระหว่างคนกับผีก็เกิดขึ้นจริงทำเอางานหมั้นเกือบจะล่มแต่แล้วด้วยร่วมมือระหว่างสองพี่น้องต่างภพก็เป็นผลสำเร็จเมื่อสติสามารถจับตัวไอ้วิญญาณอาฆาตส่งไปยมโลกได้ตามแผนการ
หลังจากเหตุการณ์ในวันสู่ขอแล้วหนึ่งกับปุ๊ก็เลยอยากจะไปทำบุญถวายสังฆทานกับพระสงฆ์บ้างเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์พร้อมกับจะได้ทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร พ่อแก้วแม่แก้วตลอดจนสัมภเวสีต่างๆโดยเฉพาะวิญญาณอาฆาตของไอ้เจ็คหนวดจิ๋มนั่นที่ยมโลกอีกด้วย หลังจากเตรียมสังฆทานเสร็จแล้วทั้งสองก็เดินทางไปที่วัดยางตลาดเพื่อถวายสังฆทานแก่ท่านสมภารเมื่อได้พบกับท่านแล้ว ท่านสมภารได้ทักกับหนึ่งกับปุ๊ว่าเวรกรรมของทั้งสองคนยังไม่จบสิ้นโดยวิญญาณอาฆาตตนนั้นบัดนี้สามารถหลบหนีออกมาจากยมโลกออกมาได้แล้วแถมยังมีอิทธิฤทธิ์และบริวารตามมาอีกด้วยเพื่อจะมากำจัดพวกเขาทั้งสองซึ่งเวรกรรมอันนี้เป็นผลพวงมาจากชาติปางก่อนที่กระทำร่วมกันมาจึงต้องมาสะสางกันในชาตินี้ซึ่งท่านสมภารก็ได้เล่าถึงอดีตชาติของทั้งสามคนนั่นก็คือหนึ่ง ปุ๊ และผู้จัดการใหญ่เอกชัยเมื่อชาติปางก่อนให้ได้รับรู้ว่ามีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรทำไมถึงต้องมาอาฆาตจองเวรจองกรรมกันมาถึงในชาตินี้เมื่อหนึ่งได้รับทราบและเข้าใจเรื่องราวในอดีตชาติของตนกับปุ๊แล้วก่อนที่จะถวายสังฆทานนั้นท่านสมภารได้มอบดาบโบราณหนึ่งเล่มและตะกรุดอีกหนึ่งอันแล้วบอกว่าดาบเล่มนี้เป็นอาวุธประจำกายของหนึ่งในอดีตชาติมีอิทธิฤทธิ์มากให้นำไปปราบศัตรูส่วนตะกรุดเหล็กไหลอันนี้เป็นของวิเศษทำให้อยู่ยงคงกระพันฟันแทงไม่เข้าและยังมีตำราคาถาอาคมอีกหนึ่งเล่มมามอบให้ท่านบอกว่าให้ท่องจำให้ขึ้นใจหลังจากปราบวิญญาณร้ายได้แล้วให้ท่องคาถาสะกดวิญญาณตนนั้นให้เข้ามาสถิตในตะกรุดอันนี้แล้วนำมาคืนให้ท่านหนึ่งเข้าใจตามนั้นแล้วจึงทำพิธีถวายสังฆทานเสร็จแล้วก็กราบลาท่านกลับบ้าน หนึ่งพยายามเรียกหาสติแต่ไม่มีการตอบรับจากสติมีเพียงเสียงจากบริวารของสติมาบอกว่าสติไปจุติอยู่ในครรภ์ของปุ๊แล้วซึ่งก็จะมาเกิดเป็นลูกของหนึ่งกับปุ๊นั่นเองหนึ่งได้ยินดังนั้นแล้วก็ทั้งดีใจและเศร้าใจไปพร้อมๆกันเพราะจากนี้ไปจะไม่มีพี่ชายมาคอยช่วยเหลืออีกแล้ว หนึ่งหันไปหยิบดาบขึ้นมาพิจารณาแล้วชักดาบออกมาทันใดนั้นก็มีเสียงเข้ามาในจิตของเขาเป็นเสียงจากดาบนั่นเอง จากนั้นคนกับดาบก็สนทนากันจนรู้ถึงที่มาที่ไปและความผูกพันของกันและกันในอดีตชาติและยังรู้ถึงอิทธิฤทธิ์ของดาบวิเศษที่สามารถเรียกสายฟ้าและเรียกเพลิงได้อีกด้วยหนึ่งจึงขอทดสอบดูก็ปรากฏว่าเป็นจริงอย่างที่ดาบบอกทุกอย่างหนึ่งจึงตั้งชื่อให้ดาบเล่มนี้ว่า “ดาบเทพไผ่ตัน” จากนั้นเป็นต้นมาคนกับดาบก็ได้ร่วมกันฝึกซ้อมกันอย่างหนักหน่วงพร้อมกับท่องจำคาถาได้จนขึ้นใจหนึ่งจึงมั่นใจว่าจะรับมือกับศัตรูได้
และแล้ววันแต่งงานก็มาถึงงานพิธีช่วงเช้าผ่านไปด้วยดีหลังพิธีผูกข้อมือเสร็จแล้วเจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็ออกมาเดินต้อนรับแขกที่มาร่วมงานแล้วหนึ่งก็บังเอิญไปเจอกับเพื่อนเก่าสมัยเรียนสัตวแพทย์ด้วยกันก็มาร่วมงานนี้ด้วยหนึ่งดีใจมากแล้วก็เลยคิดแผนการปราบปีศาจได้โดยคิดจะขอความร่วมมือจากเพื่อนเก่าทั้งสองคนคือ “แขกและเหน่ง” สองพี่น้องจอมห้าวแห่งเมืองอุบลฯ ให้ช่วยปราบปีศาจด้วยกันหนึ่งจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แขกกับเหน่งฟัง ตอนแรกเพื่อนๆหาว่าหนึ่งเพี้ยนไปแล้วแน่ๆหนึ่งจึงแสดงอิทธิฤทธิ์ของดาบให้ดูเพื่อนๆจึงเชื่อแล้วทั้งสามคนก็ได้ร่วมกันวางแผนการรับมือศัตรูอย่างแยบยลเป็นครั้งที่สี่ และแล้วสงครามระหว่างคนกับปีศาจก็เกิดขึ้นในช่วงเวลาพลบค่ำกองทัพปีศาจก็บุกเข้ามาหนึ่งกับผองเพื่อนก็สู้กันจนสุดฤทธิ์มีทั้งเสียงปืน เสียงฟ้าผ่าและเสียงผู้คนในงานหวิดร้องแตกตื่นกันชุลมุนวุ่นวายกันไปหมดแล้วในที่สุดหนึ่งและผองเพื่อนก็เป็นฝ่ายมีชัย หนึ่งสามารถสะกดวิญญาณหัวหน้าปีศาจร้ายเข้าไปในตะกรุดได้เป็นผลสำเร็จแล้วเหล่าวิญญาณผีดิบบริวารของมันก็สูญสลายกลายเป็นควันกันทั้งหมด เมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างสงบลงทุกคนหายตกใจกันแล้วก็มีพระธุดงค์รูปหนึ่งปรากฏตัวขึ้นเข้ามาถามหาตัวหนึ่ง...หนึ่