ศาสตรา มหาเวทย์ ตอนที่ 4

กระทู้สนทนา
ตอนที่  4  ปีศาจร้ายในคืนเดือนดับ

            เมื่อเห็นดาบแสงถนัดตา  ปีศาจร้ายก็อดตื่นตะลึงไม่ได้ เพราะมันเป็นมหาเวทย์ฟื้นฟ้าจริงๆ....
ดาบที่ฟันลงมาปะทะกับเกราะลูกแก้วจนดวงแก้วแตกสลาย พลอยศรีเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็ว
หลบคมดาบแสงอย่างหวุดหวิดคมดาบแสงปะทะร่างนักเรียนหญิง ถึงสี่คน กรีดร้องอย่างเจ็บปวดล้มลง
สิ้นสติทันที  เด็กหญิงที่ถูกดาบต่างล้มลง เพราะมนต์สะกดได้ถูกทำลาย แต่เวทย์แห่งดาบฟื้นฟ้า ทำให้
ร่างกายของเด็กหญิง เกิดเป็นแนวไหม้เหมือนโดนฟาดด้วยไม้เรียวหวายอย่างรุนแรง  ปีศาจผาดในร่าง
พลอยศรี อดหวาดหวั่นในศาสตราวุธของศัตรูผู้นี้ไม่ได้  เพราะตอนนี้เขาเองก็ยังไม่มีอาวุธที่จะ
ต้านทาน  น้อยในร่างชายหนุ่มแกว่งดาบเป็นวง เหยียดยิ้มอย่างอหังการ์ กล่าวยั่วให้ปีศาจรู้สึก...

"หนีไปโน้นเลย!!...หึๆๆๆ...ทำไมแกไม่ลองรับฟื้นฟ้าดูละ  ข้าจะได้ไม่เสียเวลากับแก...ไอ้ผีร้าย"

ปีศาจร้าย ไม่แสดงอาการโกรธแต่อย่างใด  พลอยศรีเพียงยิ้มออกมา บางๆ...ดวงตาที่มองมายังน้อย นั้น
เรียบเฉย  ทั้งที่ปีศาจเพิ่งรอดพ้นจากดวงจิตแตกสลาย  นั้นเพราะปีศาจรู้ดีว่า   ร่างจำแลงของเด็กชาย
จะไม่คงอยู่ตลอด  เพียงเวลาผ่านไป เด็กชายต้องคืนสู่สภาพเดิม  ตอนนี้มันต้องการให้น้อยใช้แรงให้
มากที่สุด.....แล้วปีศาจก็คิดได้.......

"ถ้าแกอยากฆ่านักละก็  ข้าจะส่งเสริมให้แก...ฆ่าคน...ให้เยอะๆ....ข้าก็อยากจะรู้ว่า...
แกจะช่วย...นังเด็กพวกนี้...ทั้งหมด....ได้ยังไง....หึๆๆๆ..."

ทันใด เด็กหญิงที่อยู่ในห้องก็ทยอยเดินออกมา  มายืนหน้าระเบียง  น้อยใจหาย เพราะสิ่งที่ปีศาจ
ต้องการก็คือ   ให้เด็กหญิงที่ต้องมนต์สะกด กระโดดลงจากชั้น 4 ไปพื้นด้านล่าง  นั้นก็คือวิธี ฆ่า
ตัวตายหมู่ น้อยคำรามออกมา อย่างโกรธสุดขีด

"ไอ้ผีนรก...นี่แกคิดจะฆ่าเด็กพวกนี้ทั้งหมดเลยหรือ...แกมันเลวที่สุด..."

"หึๆๆ...ไม่มีศึกครั้งไหนไม่เคย มีการสูญเสีย..."

เด็กหญิงต่างไปยืนที่ระเบียงเตรียมตัวที่จะกระโดดลงมา  น้อยตะโกนออกมาเพื่อเป็นการต่อรอง
กับปีศาจร้าย ทั้งที่รู้ว่ามีโอกาสน้อยนิด...เหลือเกิน

"เดี๊ยว!!...ข้ายอมแกแล้ว...ถ้าจะต้องมีคนตาย...ให้ข้าตายคนเดียวก็พอ....
ปล่อยเด็กพวกนี้ไปเถอะ!!!..."

ปีศาจผาดนั้น  อดประหลาดใจในความคิดของน้อยไม่ได้  ในโลกนี้ จะมีคนแบบนี้จริงๆหรือ มันจึงทำให้
ปีศาจอยากจะรู้ความจริงว่า  น้อยจะทำอย่างที่ตนพูดได้หรือไม่

"อืม!!...น่าสนใจ ชีวิตของนังเด็กพวกนี้ทั้งหมด...แลกกลับวิญญาณผู้มีอาคมแก่กล้า
มันน่าสนใจ...ไม่ใช่น้อย...งั้นแกต้องแสดงให้ข้าเห็น  ด้วยการ....โยนดาบอาคม
มาให้ข้า  เพื่อเป็นการแสดงความตั้งใจจริง...แกทำได้ไหม..."

น้อยมองดาบในมือด้วยสีหน้าวิตกกังวล.... ก่อนจะถอนหายใจออกมา  แล้วเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเข้ม

"ข้าก็หวังว่า...แกคงไม่พูดออกมาว่า....ไม่มีสัจจะในหมู่โจร เหมือนพี่ของแก
ใช่ไหม!!!...เพราะแกดูมีความน่าเชื่อถือกว่าพี่ของแกมาก..."

"พี่.ก็ส่วนพี่..ข้าก็คือข้า  จะมาเปรียบกันได้ยังไง...ว่ายังไง...แกตกลงใช่ไหม..."

น้อยในร่างชายหนุ่ม มองดาบในมือ ก่อนยกมือขึ้นไหว้เหนือศีรษะ  แล้วดาบอาคมที่เป็นลำแสงก็หายไป
จากนั้นเขาก็กลิ้งไปบนพื้นตรงไปยังแทบเท้าของ พลอยศรี ก่อนถึงตัวพลอยศรี สะบัดมือจนเกิดกำลัง
หอบเอาด้ามดาบหายลับตาไป  แล้วพลอยศรีก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง  กล่าวออกมาแบบหน้าตาเฉย

"ขอบใจนะ!!!...ที่แกมองว่าข้า น่าเชื่อถือกว่าพี่..แต่ข้าว่า...สงสัยแกคงจะมองผิดอีกครั้ง
เหอๆๆๆ.... เพราะคำว่า ไม่มีสัจจะในหมู่โจร...มันคือความจริง...ยิ่งกว่าจริง..."

พลอยศรียกมือขึ้นมาข้างหน้า เตรียมปล่อยพลัง อัดกระแทกใส่น้อยอีกครั้ง  น้อยในร่างชายหนุ่ม
มีสีหน้าปกติ เหมือนไม่แปลกใจ ในความกลับกลอกของปีศาจร้าย  ความลังเลจึงเกิดขึ้น  เพราะถ้า
ปกติคนที่หลงกล สิ่งหนึ่งที่ปรากฎบนใบหน้า ก็คือความโกรธแค้น หรือไม่ก็แตกตื่นจนลนลาน ปีศาจ
ผาดจึงร้องถาม ด้วยความสงสัย

"นี่แก  ไม่ตกใจอะไรบ้างเลยหรือ...หรือแกจะทำเป็นใจดีสู้เสือ"

"จะตกใจทำไม...ก็เพราะแกมันไม่มีทางสู้ข้าได้...แกก็เหมือนพี่ของแกคือ...ลืม...ความสำคัญของการ
รักษาคำสัตย์ ไม่ว่าจะเป็นวิชามนต์ดำที่ชั่วร้ายขนาดไหน
หากไม่รักษาคำสัตย์ ต่อศัตรู ถึงพลังโจมตีจะรุนแรง...แต่ที่แกสูญเสียไป
คือพลังที่จะปกปักษ์รักษาตนเอง  ดังนั้นแก...แพ้แล้ว...ไอ้...เสือ...ผาด!!!..."

ขาดคำวิญญาณของ เสือผาดก็เหมือนถูก กำลังมหาศาลดึงออกมาจากร่างของพลอยศรี ปีศาจ
ร้องคำรามออกมา อย่างคลั่งแค้น เพราะตนหลงกลง่ายๆ เหมือนที่พี่ชายหลงกลไปก่อน  แต่ตนเอง
ก็กลับหลงกลแบบเดิม แล้ววิญญาณร้ายก็ถูกดูดมาอยู่ในมือของน้อยเหมือนตุ๊กตาตัวเล็กที่มีชีวิต
น้อยจับวิญญาณร้ายลงขวดสีดำแล้วปิดจุกก๊อก เด็กหญิงที่ต้องมนต์ทั้งหมดล้มลงไปกองบนพื้น
น้อยหลับตาท่องคาถาย้อนคืน ด้ามดาบก็หมุนย้อนกลับมาเข้ามือของน้อย ซึ่งกลายร่างเป็นเด็กชาย
อีกครั้ง...น้อยมองไปยังทิศของห้องประชุม  พรึมพรำออกมา....

"ยังเหลืออีกตน...ปีศาจน้องสุดท้อง...ที่สิงในร่างของ...วรรณ...หวังว่าแผนที่วางไว้
มันน่าจะได้ผล..."
.......................................

          วรรณยืนมองเหล่าบริวารที่ต้องมนต์สะกด กำลังลากสายยางมาเพื่อฉีดใส่วงกลมกำแพง
เวทย์เพื่อชะล้างออก นักเรียนหญิงและคุณครูต่างกอดกันอย่างหวาดกลัว เพราะไม่ใครกล้าเข้าไป
ป้องกัน ตามที่น้อยสั่งไว้  ต่างคนต่างถอยร่นไปที่ตรงกลางวงอย่างหนาแน่น  แล้วเส้นอาณาเขตที่
น้อยเขียนไว้ก็ถูกลบออกเป็นช่อง เพื่อให้เหล่าลูกสมุนเข้าไปภายในวงแล้วคนในวงก็ถูก ปีศาจสาวใช้
คาถาสะกดจิตควบคุมไว้ทั้งหมด สายสิญจน์ที่อยู่ที่ข้อมือของทุกคนต่างร่วงลงพื้นแล้วลุกไหม้  วรรณ
หันหลังกลับมองไปยังอาคารเรียน สายตานั้นเรียบเฉยไม่บ่งบอกความรู้สึกใดๆ...พลังอำนาจของเธอนั้น
มากมายยิ่งนัก เพราะเธอได้พลังจาก....คืนจันทร์ดับ....พลังจิตของเธอนั้น มีมากกว่าพี่ชายทั้งสองตน
อย่างเทียบกันไม่ได้...แล้วเธอกำลังจะทดสอบพลังของเธอกับจอมขมังเวทย์...เช่นน้อย......

น้อยส่งสัญญาณเสียงลงไปเพื่อรับรู้ความเป็นไปของห้องประชุม  ในตอนนั้นมีแต่เสียงกรีดร้องดังระงม
จนฟังไม่ได้ศัพท์  แล้วสิ่งที่น้อยไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น  เด็กหญิงที่เพิ่งถูกถอนมนต์สะกด กับถูกสะกด
อีกครั้ง  คราวนี้ทุกคนลุกขึ้นยืน แล้วยกนิ้วข้ึนชี้มายังน้อย   แล้วชี้ลงไปข้างล่าง เพื่อให้น้อยมองตาม
วรรณเด็กหญิงที่ถูกปีศาจร้ายสิงร่าง  ยืนอยู่กลางสนามบาสเก็ตบอล เธอเงยขึ้นมา ลมที่พัดทำให้เส้นผม
ของเธอปลิวสยายกับสายลม  เธอใช้โทรจิตติดต่อน้อยโดยไม่ต้องเอ่ยคำ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่