ก่อนที่จะคุยกันเรื่องนี้
มีสองเรื่องที่คุณต้องทำความเข้าใจ
1.ทั้งฮามาสและ อิสราเอล อยากจะรบกัน เป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายพอใจจะรบกัน เราจะไม่ยุ่ง
2.ส่วนที่สองคือ ฮามาส และอิสราเอล ใช้ความรุนแรงเกินขอบเขตต่อพลเรือนทั้งคู่
3.ส่วนทีสาม ฮามาส รบโดยอาจละเมิดหลักการศาสนาอิสลาม นั่นคือ การทำร้ายเหยื่อ เด็ก ผู้หญิง และอื่นๆ
(เช่นเดียวกับอิสราเอล) เรื่องนี้เป็นเรื่องดินแดน ไม่ใช่ ศาสนา

Note เพื่อให้ ตามทันเนื้อหาทีอาจจะหนัก ขอให้อ่านกระทู้นี้ก่อนครับ https://ppantip.com/topic/42288281

มาเข้าเรื่อง

ถ้ามองอีกมุมหนึ่งในมุมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ผมมองว่าฮามาสใจดีกับประเทศไทยมากนะครับ
อาจเพราะความสัมพันธ์กับอิหร่านและอาหรับเราวางตัวค่อนข้างดี
เลยทำให้เค้าเกรงใจมาตลอดทำไมถึงบอกว่าใจดี

เพราะ

ฮามาสกับอิสราเอลรบกันมาตลอด ย้ำว่าตลอดเวลา ไม่ใช่แค่ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
เราเอาคนของเราเข้าไปอยู่ติดกำแพงฮามาส (เซ็นต์สัญญาระหว่างยุค อภิสิทธิ์-ยิ่งลักษณ์)
และ เอาคนของเราไปช่วยอิสราเอลสร้างบ้าน สร้างอาหาร รุกดินแดนที่ ปาเลสไตน์ต่อสู้ให้ได้กลับมา
เราเอาคนของเราไปช่วยคู่ขัดแย้งเค้านั่นแหละ 
และช่วยตั้งแต่ปี 2012

 

ยังไม่พอนะ ประเทศไทยเรายังไปทำสัญญาทางทหารกับอิสราเอลอีก
ว่าจะเก็บความลับทางทหารระหว่างกัน (ยุครัฐบาลยิ่งรักษ์)
แทบจะทันที่ที่เราส่ง แรงงาน ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ไปติดกับผนังของกาซ่า
กลายเป็นประเทศไทยไปเสริมด้านทหารความสัมพันธ์ทางทหารกับอิสราเอล

นอกจากนี้ อิสราเอลเป็นประเทศที่ สามารถจ้างทหารรับจ้างได้
เพราะไม่ยอมเซ็นต์ สัญญาเลิกใช้ทหารรับจ้างที่ ทั่วโลกร่วมกันทำ
นึกภาพออกไหมครับ คนไทยที่มาผลิตทรัยากรให้คู่ขัดแย้ง
แถมทำสัญญาทางทหาร ไม่รุ้ว่าจะมีอะไรปะปนมาบ้าง
อยู่ติดกับแพงและกำลังช่วยคู่ต่อสู้รุกดินแดนเค้า
แน่นอนว่าร่วมสิบปี

ที่น่าสนใจคือ สถานการณ์แบบนี้ยาวมาร่วมสิบปี พึ่งมาเกิดเหตุปะทะรุนแรง
ที่ผ่านมาไม่เคยมีข่าวคนไทยถูกโจมตีในลักษณะนี้
และ คนที่อยู่ที่นั่นก็ออกคลิปว่าปกติเค้าจะไม่ยุ่งกับคนไทย
ซึ่งจริงๆนั้นผิดปกติ



ในสถานการณ์ปกติ ถ้าว่ากันด้านยุทธศาสตร์การทหาร
เราต้องโดนโจมตีตั้งแต่ปี 2012 แล้ว
ประชิดชายแดน ทำสัญญาทางทหาร ช่วยคู่ขัดแย้งรุกดินแดน มีเหตุอะไรจะไม่โจมตี
เพราะรัฐบาลไทยและอิสราเอล เอาคนของเราไปอยู่ตรงนั้นตั้งแต่ตอนนั้นในที่ๆไม่ควรอยู่

ถึงบอกว่า บางครั้ง เดาว่า ฮามาสเองก็คงไว้หน้า ความสัมพันธ์ของไทยเรามาหลายปี
เรื่องนี้แรงงานไม่ผิด  มองในเรื่องยุทธศาสตร์ทางทหาร
ผมมองว่าฮามาสโจมตีกลับเป็นเรื่องปกติของสงคราม
เพราะเราไปอยู่ติดพรมแดนและทำสัญญาทางทหารกับอิสราเอล

แต่คนที่ต้องรับผิดชอบจริงๆคือคนที่เลือกเดินหมากตานี้
ให้เกิดขึ้น นั้นคือรัฐบาลอิสราเอล ร่วมกับรัฐบาลไทย

ที่น่าสนใจคือ กรณีนี้อิสราเอลได้เต็มๆ ไม่ว่าจะขึ้นหรือล่อง
ถ้าฮามาสโจมตีแรงงานไทย ความสัมพันธ์ไทยปาเลสไตน์แย่ลงทันที
ความสัมพันธ์พุทธ มุสลิมแย่ลงทันที
อิสราเอลได้ กำแพงกันชนก่อนเข้าไปถึงพลเรือนเค้า
และได้แรงงานทำงานในพื้นที่เสี่ยง
และความสัมพันธ์ไทย อาหรับที่แย่ลง
ก็เป็นผลดีโดยตรงต่อความสัมพันธ์ไทย อเมริกาา อิสราเอล
ถูกแล้วที่เค้าว่ายิวฉลาด
 
ที่งงคือ หมากตานี้ รัฐบาลไทยได้อะไร?
เพราะ ทันทีที่ฮามาสโจมตี 
ความสัมพันธ์กับโลกอาหรับเราเสีย
เราถูกบังคับให้เลือกข้าง
แรงงานเราเสียชีวิต
แล้วเราได้อะไร เงิน? 
แลกกับความเสี่ยง ที่ให้พลเรือนไปอยู่ในตำแหน่งที่ทหารควรอยู่?
เราจะได้รับความเสียหายทันทีแค่รอว่าเมื่อไหร่ปัญหาจะเกิด

ถ้าได้ไปอ่านเอกสารเกี่ยวกับการรับสมัครจะรู้ว่า
ไม่มีอะไรที่จะเตือนได้เลยว่า ที่ๆเค้ากำลังจะไปร้ายแรงขนาดไหน

จริงๆแล้วฮามาส อาจใจดีกับคนไทยมากกว่า อิสราเอลที่เอาแรงงานเราไปในที่แบบนั้นนะครับ
มองในแง่ยุทธศาสตร์การทหาร มาตั้งโจทย์ให้วิเคราะห์กันนะครับ

บทสรุป
ถ้ารัฐมีหน้าที่ต้องปกป้องพลเรือนของตัวเอง
และมองในบทบาทหน้าที่ของรัฐบาลต่อพลเรือน

รัฐบาลไทยกับ รัฐบาลอิสราเอล อาจให้ความสำคัญต่อชีวิตพลเรือนไทยต่ำกว่าที่คิด
รัฐบาลอิสราเอลเป็นคนอื่น แต่รัฐบาลไทย ต้องทบทวนบทบาท
และหน้าที่ ที่ต้องปกป้องพลเรือนของตัวเองอย่างจริงจังมากกว่านี้
นะครับ
 
แรงงานไทย ถ้าวางแผนจะไปทำงานอิสราเอลก็ขอให้ทำงาน ห่างๆจากฉนวนกาซ่าสักหน่อย
และ อย่าเข้าไปรับงานในเขตเวสแบงคืนะครับอันนั้นผิดกฏหมายระหว่างประเทศ อย่าให้นายจ้างเอาเปรียบเอาได้ครับ