“หลอดเลือดสมอง” รู้เร็ว รักษาทัน ลดเสี่ยงอัมพฤกษ์ อัมพาต

“หลอดเลือดสมอง”  รู้เร็ว รักษาทัน ลดเสี่ยงอัมพฤกษ์ อัมพาต

          นายแพทย์พงศกร พงศาพาสประสาทศัลยแพทย์  โรงพยาบาลเวชธานี อธิบายว่า โรคหลอดเลือดสมอง (Stoke) เกิดจากการหลอดเลือดสมองมีการอุดตัน ตีบ หรือแตก ส่งผลให้สมองบริเวณดังกล่าวเกิดการบาดเจ็บ หรือขาดเลือดไปเลี้ยง ทำให้เซลล์สมองเสียหาย ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการ เช่น ปากเบี้ยวหน้าเบี้ยว พูดไม่ชัดหรือพูดไม่ได้ ตาพร่ามัวมองเห็นภาพซ้อน แขนขาอ่อนแรง ชาครึ่งซีก หรือเดินเซ  เป็นต้น โดยสามารถเกิดในกลุ่มวัยกลางคนขึ้นไป และพบได้มากในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เนื่องจากหลอดเลือดเสื่อมตามวัยและหลายปัจจัย

โรคหลอดเลือดสมองแบ่งเป็น 2  ประเภท ได้แก่
       1. หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน เกิดจากหลอดเลือดสมองตีบ จากการสะสมของไขมันในผนังหลอดเลือด  หรือเกิดจากการมีลิ่มเลือดจากหัวใจไปอุดตันหลอดเลือดสมอง ซึ่งทั้งสองแบบทำให้การไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมองเสียไป เกิดสมองภาวะขาดเลือดแบบเฉียบพลัน และเนื้อสมองตายขึ้น

      2.หลอดเลือดสมองแตกหรือฉีกขาด  เกิดจากหลอดเลือดมีความเปราะบางจากภาวะความดันเลือดสูง หรือหลอดเลือดเสียความยืดหยุ่น จากความเสื่อมของหลอดเลือด ทำให้แตกง่าย ส่งผลทำให้เกิดเลือดออกในสมอง และมีภาวะเนื้อสมองบริเวณดังกล่าวบาดเจ็บ

▶ ปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง
คือคนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง, โรคเบาหวาน, โรคหัวใจ, โรคไขมันโลหิตสูง, โรคอ้วน รวมไปถึงการสูบบุหรี่ 
และดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก 

▶การวินิจฉัยโรคหลอดเลือดสมอง
สามารถวินิจฉัยได้จากการตรวจสมองด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan), หรือการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI ) จะช่วยให้แพทย์เห็นภาพความละเอียดของเส้นเลือดและเส้นประสาทที่ชัดมากกว่า โดยที่โรงพยาบาลเวชธานี มีเครื่องตรวจด้วย MRI รุ่นใหม่ ที่มีขนาดอุโมงค์ใหญ่กว่าเดิม,เสียงรบกวนลดน้อยลง, มีเทคโนโลยี Free Breathing ไม่ต้องกลั้นหายใจนานเท่าเดิม จึงทำให้คนไข้ไม่รู้สึกอัดอัดขณะตรวจ และให้การตรวจสามารถวินิจฉัยได้อย่างรวดเร็ว

              ปัจจุบันมีห้องผ่าตัดไฮบริด (Hybrid Operating Room)  ที่ช่วยให้แพทย์สามารถรักษาโรคหลอดเลือดสมองได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นห้องผ่าตัดที่รวมอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยไว้ด้วยกัน เช่น เครื่องเอกซเรย์หลอดเลือด ระบบนำทางด้วยคอมพิวเตอร์ และเครื่องมือผ่าตัดส่องกล้อง  

            โดยเทคโนโลยีการรักษาด้วยเครื่องเอกซเรย์สำหรับตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคหลอดเลือดชนิดสองระนาบ  Biplane Digital Subtraction Angiography หรือ Biplane DSA สามารถถ่ายภาพหลอดเลือดได้สองระนาบในเวลาเดียวกัน คือ ด้านหน้า และด้านข้าง ภาพที่ได้ออกมาจึงมีความคมชัดช่วยให้แพทย์มองเห็นสายสวนหลอดเลือดที่ขนาดเล็กมากได้อย่างชัดเจน เปรียบเสมือนเห็นภาพเป็น 3 มิติ โดยสามารถทำการวัด คำนวณ และประเมินตำแหน่งที่เกิดความผิดปกติของหลอดเลือด ช่วยลดปริมาณสารทึบรังสีที่ผู้ป่วยจะได้รับ 
ลดเวลาที่ใช้ในการรักษา และลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้มากขึ้นอ่านข้อมูลทั้งหมดคลิก 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่