ตามหัวข้อเลยค่ะทุกคน
เราเกือบเสียคุณแม่ไปด้วยโรค หลอดเลือดสมองแตก
โรคนี่เกิดจากที่คุณแม่เป็นโรค เส้นเลือดหัวใจตีบ 3 เส้น ต่องส่งตัวไป รพ.จุฬารัตน์3 เพือทำการสวนหัวใจ
ทำทั้งหมด 3 ครั้ง
ครั้งที่ 1 กลับมาหมดแรง อ่อนเพลียไป 3 วันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
ครั้งที่ 2 กลับมาแข็งแรงมาก ไม่เหนื่อย ไม่หอบ
จนแม่คิดว่า ไปทำครั้งที่ 3 ฉันจะกลับไปขายของ
ครั้งที่ 3 แม่ทำเสร็จโทรมาบอกว่า มึนๆ งงๆ ขอไปนอนก่อน จนเช้า 6โมงครบเวลาต้องกลับบ้าน
พยาบาลไปเรียกไม่รู้สึกตัว ไม่ตอบสนองอะไรเลย
พยาบาลโทรมาแจ้งว่าคนไข้ไม่รู้สึกตัว กำลังช่วยเหลือโดยการใส่ท่อช่วยหายใจและลงไปทำสแกนสมอง
ใจสั่น ขาสั่น พากันร้องไห้
พยาบาลโทรมาแจ้งว่าพบเลือดออกในสมอง(สโตก)
เกิดจากหลอดเลือดสมองแตก เป็นผลข้างเคียงจาก
การทานยาละลายลิ่มเลือด มันทำให้เส้นเปราะบาง + แม่เป็นความดันสูง
คุณหมอให้ตัดสินใจว่าจะทำการผ่าเปิดกะโหลกระบายเลือดไหม มีให้เลือก 2 ทาง
1. ผ่า
มีโอกาศติดเตียง รอดชีวิต
2. ไม่ผ่า
มีโอกาศติดเตียง เสียชีวิตสูง
ต้องมีคนพร้อมดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
ทุกคนลงความเห็นกันโดยไม่รังเลว่า ผ่า
ผ่าเรียบร้อย ก็ยังไม่ฟื้น มันเจ็บปวดหัวใจของคนเป็นลูกที่สุดในชีวิต กลัวจะไม่มีเค้าอยู่อีกแล้ว
คุณหมอแจ้งว่าปลอดภัยแล้วแต่…
ส่วนที่สมองกระทบกระเทือนคือส่วนของ ความทรงจำ ความรู้สึก ฟื้นมาแล้วอาจจะจำเราไม่ได้ จำอะไรไม่ได้ หรือถ้าจำได้ อาจจะอารมณ์แปรปวน ขึ้นๆลงๆ
หลังจากผ่าตัดเสร็จ
แม่ยังไม่ฟื้น ยังไม่รู่สึกตัว จนวันรุ่งขึ้นฟื้นตื่นมา
ดีใจกันมากที่แม่จำทุกคนได้
จากนั้นถูกส่งตัวกลับมารักษาตามสิทธิบัตรทอง ที่ รพ.เมืองสมุทรปู่เจ้าต่อ โดยอยู่ ไอซียู 2 วัน
แม่ยังคงมีอาการจำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูอีกสักพัก
ตอนนี้อาการโดยรวมแม่ดีขึ้นมาก ถึงจะจำได้บ้างไม่ได้บ้าง มือเท้า มีแรงช่วยเหลือตัวเองได้ ดีใจมากสู้ต่อไปค่ะ
วันนี้ 18/01/67 ได้ฝึกเดินวันแรก มีขาอ่อนแรงบ้างต้องใช่เวลากายภาพกันต่อไป
เกือบเสียแม่เพราะหลอดเลือดสมองแตก
เราเกือบเสียคุณแม่ไปด้วยโรค หลอดเลือดสมองแตก
โรคนี่เกิดจากที่คุณแม่เป็นโรค เส้นเลือดหัวใจตีบ 3 เส้น ต่องส่งตัวไป รพ.จุฬารัตน์3 เพือทำการสวนหัวใจ
ทำทั้งหมด 3 ครั้ง
ครั้งที่ 1 กลับมาหมดแรง อ่อนเพลียไป 3 วันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
ครั้งที่ 2 กลับมาแข็งแรงมาก ไม่เหนื่อย ไม่หอบ
จนแม่คิดว่า ไปทำครั้งที่ 3 ฉันจะกลับไปขายของ
ครั้งที่ 3 แม่ทำเสร็จโทรมาบอกว่า มึนๆ งงๆ ขอไปนอนก่อน จนเช้า 6โมงครบเวลาต้องกลับบ้าน
พยาบาลไปเรียกไม่รู้สึกตัว ไม่ตอบสนองอะไรเลย
พยาบาลโทรมาแจ้งว่าคนไข้ไม่รู้สึกตัว กำลังช่วยเหลือโดยการใส่ท่อช่วยหายใจและลงไปทำสแกนสมอง
ใจสั่น ขาสั่น พากันร้องไห้
พยาบาลโทรมาแจ้งว่าพบเลือดออกในสมอง(สโตก)
เกิดจากหลอดเลือดสมองแตก เป็นผลข้างเคียงจาก การทานยาละลายลิ่มเลือด มันทำให้เส้นเปราะบาง + แม่เป็นความดันสูง
คุณหมอให้ตัดสินใจว่าจะทำการผ่าเปิดกะโหลกระบายเลือดไหม มีให้เลือก 2 ทาง
1. ผ่า
มีโอกาศติดเตียง รอดชีวิต
2. ไม่ผ่า
มีโอกาศติดเตียง เสียชีวิตสูง
ต้องมีคนพร้อมดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
ทุกคนลงความเห็นกันโดยไม่รังเลว่า ผ่า
ผ่าเรียบร้อย ก็ยังไม่ฟื้น มันเจ็บปวดหัวใจของคนเป็นลูกที่สุดในชีวิต กลัวจะไม่มีเค้าอยู่อีกแล้ว
คุณหมอแจ้งว่าปลอดภัยแล้วแต่…
ส่วนที่สมองกระทบกระเทือนคือส่วนของ ความทรงจำ ความรู้สึก ฟื้นมาแล้วอาจจะจำเราไม่ได้ จำอะไรไม่ได้ หรือถ้าจำได้ อาจจะอารมณ์แปรปวน ขึ้นๆลงๆ
หลังจากผ่าตัดเสร็จ
แม่ยังไม่ฟื้น ยังไม่รู่สึกตัว จนวันรุ่งขึ้นฟื้นตื่นมา
ดีใจกันมากที่แม่จำทุกคนได้
จากนั้นถูกส่งตัวกลับมารักษาตามสิทธิบัตรทอง ที่ รพ.เมืองสมุทรปู่เจ้าต่อ โดยอยู่ ไอซียู 2 วัน
แม่ยังคงมีอาการจำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูอีกสักพัก
ตอนนี้อาการโดยรวมแม่ดีขึ้นมาก ถึงจะจำได้บ้างไม่ได้บ้าง มือเท้า มีแรงช่วยเหลือตัวเองได้ ดีใจมากสู้ต่อไปค่ะ
วันนี้ 18/01/67 ได้ฝึกเดินวันแรก มีขาอ่อนแรงบ้างต้องใช่เวลากายภาพกันต่อไป