Negative Harmony มันประยุกต์ใช้งานอะไรได้ ทั้ง ๆ ที่ Undertone Series มันไม่ได้มีอยู่จริงในธรรมชาติ

กระทู้คำุถามนี้ เป็นกระทู้แรกของผมนะครับ ผมจะค่อย ๆ เกริ่นแต่ละเรื่องก่อน เผื่อบางคนไม่รู้ว่ามันคืออะไร แล้วค่อยจบที่คำถาม

Overtone series ก็คือ ยกตัวอย่างดีดสายกีตาร์ที่เฟร็ตโน้ต A2 ความถี่ 110 Hz สิ่งที่สายกีตาร์จะผลิตเสียงมันจะไม่ใช่แค่ 110 Hz แต่มันจะเป็น 220 Hz, 330 Hz, 440 Hz, 550 Hz, ... ไปเรื่อย ๆ ซึ่งสิ่งพวกนี้เรียกว่า partial หรือก็คือ จะเกิด partial 110*N Hz ไปเรื่อย ๆ นั่นเอง Overtone series เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงได้ในธรรมชาติ ซึ่งเครื่องดนตรีแต่ละชนิด จะสร้าง partial ที่มีขนาดแตกต่างกัน นั่นทำให้เครื่องดนตรีแต่ละชนิดมีสีสันเสียงที่แตกต่างกัน

ในขณะที่ Undertone series จะตรงกันข้ามกับ Overtone series สมมติดีดสายกีตาร์ Alien โน้ต A4 ความถี่ 440 Hz สิ่งที่สายกีตาร์นั้น ซึ่งมันไม่มีอยู่จริงบนโลก จะไม่ได้สร้างเสียงแค่ 440 Hz แต่จะสร้าง 220 Hz, 147 Hz, 110 Hz, ... ไปเรื่อย ๆ หรือก็คือจะเกิด partial 440/N Hz ไปเรื่อย ๆ ไม่มีเครื่องดนตรีใด เว้นแต่จะสังเคราะห์เสียง ที่สามารถสร้าง Undertone series ได้เลย

จบที่ฟิสิกส์ มาต่อที่ดนตรี ซึ่งต้องรู้จักโน้ต 2 ตัว ก่อน โน้ตโทนิก (Tonic) กับโน้ตโดมินันท์ (Dominant)

โน้ตโทนิก คือ โน้ตที่สำคัญมากที่สุดในระบบอิงกุญแจเสียง (Tonality) เพลงแทบจะ 90% ใช้ระบบนี้ ก็คือ จะมีโน้ตเพียงตัวเดียวหรือโน้ตโทนิก ที่สำคัญที่สุด และทำนองเพลงจะต้องให้ความสำคัญกับโน้ตนั้น ๆ มากที่สุด หรือจะ indy ไม่ทำก็ได้ แต่ทำนองจะมีกุญแจเสียงที่กำกวม อย่างถ้าทำนองเพลงกุญแจเสียง C เมเจอร์ โน้ตโทนิกก็จะเป็น C ในขณะที่ถ้าทำนองเพลงกุญแจเสียง A ไมเนอร์ โน้ตโทนิกก็จะเป็น A

ต่อมาคือโน้ตโดมินันท์ ซึ่งก็เป็นโน้ตที่สำคัญรองลงมาจากโน้ตโทนิก มีระยะห่างจากโน้ตโทนิกขึ้นไป 7 ครึ่งเสียง (Semitone) อย่างถ้าโน้ตโทนิกคือ C โน้ตโดมินันท์ก็จะเป็น G ซึ่งก็นับจาก (C->D♭->D->E♭->E->F->G♭->G) ซึ่งได้ 7 ขั้น สาเหตุที่โน้ตโดมินันท์มีความสำคัญรองลงมาจากโน้ตโทนิกก็เพราะ โน้ตโทนิกสร้าง Overtone series เกือบตรงกับโน้ตโดมินันท์ในหลาย partial แม้โน้ตโดมินันท์จะสำคัญ แต่สุดท้ายถ้าอยากให้ทำนองจบแบบสมบูรณ์ ก็จะต้องเกลาไปยังโน้ตโทนิก

ทีนี้ก็จะได้อธิบายเรื่อง Negative Harmony สักที ให้จินตนาการว่ามีโน้ตโทนิกกับโน้ตโดมินันท์อยู่ห่าง ๆ กัน แล้วมีกระจกสะท้อนคั่นตรงกลางระหว่างโน้ตโทนิกกับโน้ตโดมินันท์ อย่างถ้าในกุญแจเสียง C เมเจอร์ ซึ่งมีโน้ตโทนิกเป็น C และโน้ตโดมินันท์เป็น G จะมีแกนสะท้อนอยู่ระหว่างโน้ต E♭ กับ E แล้วเพื่อสร้าง Negative Harmony ก็ให้สะท้อนโน้ตทุกตัวตามแกนสะท้อน ยกตัวอย่างให้เข้าใจ ถ้าทำนองเป็นกุญแจเสียง C เมเจอร์ ก็คือ
C -> G, D♭ -> G♭, D -> F, E♭ -> E, ...

หลักการของ Negative Harmony ก็คือ โน้ตและคอร์ดจะมีแนวโน้มการเกลาเหมือนกัน แค่กลับทิศทางตรงกันข้าม ยกตัวอย่างอาทิ เคเดนซ์ปิด (V-I) ที่คอร์ด V มีโน้ตลีดดิง (7) ที่เกลาไปยังโน้ตโทนิก (1) ของคอร์ด I พอสร้าง Negative Harmony จะกลายเป็นเคเดนซ์ที่มีคอร์ดเป็น iv-i แล้วโน้ตที่มีหน้าที่เกลาจะเปลี่ยนจากโน้ตลีดดิง (7) เป็นโน้ตซับมีเดียน (♭6) ที่จะเกลาไปยังโน้ตโดมินันท์ (5) แบบนี้
V (5-7-2) -> I (1-3-5) โน้ต 7 เกลาขึ้นไป 1
iv (4-♭6-1) -> i (1-♭3-5) โน้ต ♭6 เกลาลงไป 5
สังเกตว่ามีโน้ตที่เกลาเหมือนกัน แต่ทิศทางแค่ตรงกันข้าม

แล้วปัญหาก็คือตรงนี้ สาเหตุที่โน้ตหนึ่ง ๆ หรือคอร์ดหนึ่ง ๆ มันจะมั่นคง ยืนหยัดอยู่ได้ด้วยตัวเอง หรือไม่ก็ต้องเกลา มันขึ้นอยู่กับ Overtone series อย่างคอร์ด Major ที่มันมั่นคง ก็เพราะโน้ตพื้นต้นของคอร์ด สร้าง Overtone series ที่มี partial ตรงหรือใกล้เคียงกับโน้ตลำดับที่ 2 กับ 3 ของคอร์ด และการที่โน้ตลีดดิง (7) มันต้องเกลาไปโทนิก (1) ก็เพราะโน้ตโทนิก ซึ่งสำคัญมากที่สุดในทำนอง อยู่ใกล้กับโน้ตลีดดิงแค่ 1 ครึ่งเสียง อีกทั้งโน้ตโทนิกก็มี Overtone series ที่แทบไม่มี partial ใดที่ตรงกับโน้ตลีดดิงเลย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมโน้ตลีดดิงมีแนวโน้มเกลาไปยังโน้ตโทนิก

พอให้ Negative Harmony กลายเป็นว่าแทนที่จะอาศัยหลักการว่าโน้ตพื้นต้นจะสร้าง Overtone series กลับกลายเป็นโน้ตสูงสุดของคอร์ดหรือทำนอง สร้างชุด Undertone series แล้วเกิด partial ลงมาตรงกับโน้ตล่าง ๆ  อย่างคอร์ด Minor โน้ตลำดับที่ 3 ของคอร์ดจะต้องสร้างชุด Undertone series แล้วมี partial ตรงหรือใกล้เคียงกับโน้ตพื้นต้นหรือลำดับที่ 2 ของคอร์ด แต่เพราะ Undertone series มันไม่มีจริง คอร์ดไมเนอร์ มันก็เลยไม่ได้มั่นคงเท่าคอร์ดเมเจอร์ เพราะถ้า Undertone series มีจริง เสียงของคอร์ดไมเนอร์ มันก็ไม่ควรจะหม่นกว่าเสียงของคอร์ดเมเจอร์ แล้วการเกลาจากโน้ต ♭6 ไป 5 ก็อาศัย Undertone series เหมือนกัน

ผมไม่รู้ว่าจะมีเพื่อน ๆ หรือพี่ ๆ ในพันทิปที่เข้าใจสิ่งที่ผมบอกไหม ถ้ามีคนที่รู้เรื่อง Musicology ผมจะรู้สึกดีใจด้วย เพราะอย่างน้อยก็จะได้มีคนคุยรู้เรื่อง และถ้ามันมีข้อมูลอะไรที่ผิด ก็ทักท้วงได้นะ ดนตรีมันซับซ้อน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่