สมชายยืนกลางเวทีที่มีเสียงกลองและเสียงคีย์บอร์ดสร้างจังหวะ มือเบสบนเวทีตบสายพร้อมไล่นิ้วตามทางเดินคอร์ด เครื่องดนตรีสามชิ้นนี้กำลังบิ๊วอารมณ์ผู้ชมนับพันข้างล่างเวทีที่กำลังยืนรอจนเหงือกแห้ง พวกเขาเหล่าคนดูชาวร็อคเกอร์ทั้งหลายต่างกำลังรอฟังเสียงโซโล่กีตาร์เทพจากนิ้วเรียวยาวของสมชาย
เมื่อใกล้จะจบท่อนอินโทร สมชายสูดลมหายใจช้า ๆ เข้าไปเต็มปอด และเมื่อถึงจังหวะที่เขาต้องเล่น สมชายกระแทกลมหายใจออกมาพร้อมสะบัดข้อมือให้ปิ๊กกีตาร์กรีดลงไปบนสายเหล็ก มือขวาจับคอร์ดและเปลี่ยนมันอย่างรวดเร็วไปมา แค่การตีพาวเวอร์คอร์ดจังหวะร็อคด้วยความเร็วไปมารวมถึงเสียงสายกีตาร์ที่สะท้านผ่านเอฟเฟคราคาแพง นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้เหล่าสาวกขาไฟต่างโห่ร้องครวญครางกันเต็มฮอลล์แสดง
เสียงร้องโหยหวนชวนสยองจากเหล่าคนดูเหมือนกับว่าพวกเขาและเธอเหล่านั้นคือปีศาจที่เพิ่งจะหลุดออกมาจากขุมนรก โดยมีเสียงสั่นสะเทือนจากสายกีตาร์นั้นมาสะเดาะกุญแจสู่นรกอเวจี ท่อนเวิร์สธรรมดาที่ยังไม่กระชากบาดใจเท่าใดนักอาจจะทำให้เหล่าผู้ชมยังสงวนท่าทีไม่ดิ้นแรงจนพื้นฮอลล์ลุกเป็นไฟ
สมชายเพ่งสายตาดุดันลงไปยังข้างล่างเวที ที่ข้างล่างนั้นเขาเห็นเหล่าสาวกต่างปลุกเร้าใจตัวเองด้วยการดื่มเหล้าเมายา บางคนยกขวดเบียร์เทลงปากรวดเดียวหมดขวด ขี้เหล้าผมยาวใส่ชุดหนังขาด ๆ คนหนึ่งขว้างขวดเบียร์ที่กินหมดแล้วขึ้นเวที ขวดแก้วสีเขียวขุ่นลอยล่องตรงไปยังหัวของมือกลอง แต่ด้วยความเร็วราวปีศาจของมือให้จังหวะประจำวง มือกลองร่างใหญ่ฟาดไม้กลองเหล็กลงไปกลางขวดเบียร์อย่างแม่นยำ เศษแก้วแตกละเอียดพรุ่งกระจายเต็มเวที แก้วเศษเล็กเศษน้อยลอยฟุ้งสะท้อนแสงระยิบระยับ เหมือนกับว่านี่คือเอฟเฟคอย่างหนึ่งของโชว์
มือกลองดูเหมือนจะโกรธแค้นเป็นอย่างยิ่ง เพราะเขารัวกลองเร็วขึ้นเป็นสองเท่าก่อนจะค่อย ๆ เบาลงเมื่อกำลังจะเข้าท่อนพรีคอรัส
สมชายทำสีหน้าเบื่อหน่ายกับความไร้รสนิยมจากแฟนดนตรีของตัวเอง เพลงที่มีแต่จังหวะเร้า ๆ และคอร์ดของเพลงที่วนไปวนมาไม่มีจบสิ้น บางทีสมชายใช้แค่เทคนิคง่าย ๆ ของการดีดกีตาร์ก็เหมือนกับเปลี่ยนบรรยากาศของเพลงให้เปลี่ยนไปบ้าง แต่สำหรับเขานั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่สร้างสรรค์หรือได้ใช้พรสวรรค์ทางดนตรีอะไรเลย สมชายคิดแบบนี้
แฟนเพลงอสูรกายบางคนพ่นควันฟุ้งลอยเต็มอากาศ สมชายคิดว่านั่นคงไม่ใช่แค่ยาสูบธรรมดา ๆ หรอก บางคนสูบฝิ่นสูบกัญชา หรือบางคนอาจจะเตรียมบุหรี่ที่ยัดผงยาบ้าเอาไว้ในใบยาขึ้นมาดูด ภาพหมู่คนที่ถูกรมไปด้วยควันชวนให้นึกถึงฉากการสังหารหมู่คนนับพันด้วยการรมแก๊สพิษให้ตายในครั้งเดียว การตายเพื่อเกิดใหม่หลายพันชีวิตด้วยยาพิษในอากาศแค่ไม่กี่ถัง เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ชวนสยดสยองยิ่งนักสำหรับมือกีตาร์ฮีโร่บนเวทีนี้
เรียวนิ้วยาวเคลื่อนไหวไล่นิ้วไปตามเสกลเพนทาโทนิคด้วยความเร็วเกินกว่าที่หูใครจะทันจับได้ว่าเป็นการดีดกีตาร์ เสียงแผดร้องของสเกลง่ายระดับอนุบาลแต่ความเร็วปานสายฟ้ายิ่งเร้าอารมณ์ของคนดูขึ้นมาหน่อยนึง
เสียงกลองเปลี่ยนจังหวะเพื่อเตรียมเข้าท่อนฮุคสำคัญที่เตรียมจะน็อคเอาท์คนฟังให้สลบใต้เวที สมชายจับจังหวะเล่นลูกสวีปเปอร์กับคอร์ดที่ถูกกำหนดจากมือซ้าย มือขวากวาดปิ๊กกีตาร์ไปมาพร้อมใช้สันมืออุดสายที่ไม่ต้องการออก เสียงกีตาร์ที่ถูกขยายจากแอมปิฟลายเออร์และลำโพงดอกสิบสองนิ้วหลายสิบตัว เสียงพิศดารหว่านล้อมฟิลลิ่งคนฟังให้ฮึกเหิมไปกลับเสียงดนตรี สีหน้านักฟังแทบทุกคนเกือบจะสติแตกไปกับท่อนฮุคสุดโหด
หลายคู่ทนไม่ไหวมีเซ็กส์กันท่ามกลางงานคอนเสิร์ต พวกเขาและเธอเหล่านั้นต่างไม่รู้สึกเขินอายหรือกระดากใจแต่อย่างใด เพราะอารมณ์ทางดนตรีนั้นสูบฉีดให้คนเหล่านั้นขึ้นถึงจุดสุดยอดในความรู้สึก อคติและจริตที่มนุษย์สร้างขึ้นถูกทำลายลงด้วยท่วงทำนองที่แสนวิเศษและมหัศจรรย์ ความฝันและความคาดหวังทุกอย่างของมนุษย์ถูกขัดจังหวะจากเสียงแห่งปัจจุบัน แทบทุกคู่ที่กำลังร่วมรักกันกลางงาน ต่างพร้อมใจกันหน่วงเวลารอท่อนจบของท่อนฮุคเพื่อจะขึ้นถึงสวรรค์พร้อมกันกับท่อนสำคัญของเพลง
เสียงกลองกระทุ้งกระเดื่องคู่รัวจนหัวใจคนฟังแทบหยุดเต้น เสียงจังหวะเร็วรัวรบกวนจังหวะเต้นของหัวใจจนเกือบทำให้ผิดเพี้ยน กระเดื่องเงียบเสียง ทุกอย่างเงียบเหลือแต่เสียงตบสายโซโลเบสหยุดอารมณ์ไว้ชั่วครู่ เสียงคีย์บอร์ดเล่นโน๊ตเพลงที่สลับซับซ้อนก่อนจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นคอร์ดอะเพ็กจิโอที่เรียบง่าย
ทุกอย่างเงียบเหลือแต่เสียงตีคอร์ดจากกีตาร์ไฟฟ้าโดยไม่มีเอฟเฟคใด ๆ มาทำให้เสียงธรรมชาติผิดเพี้ยน และไม่นานทุกอย่างก็เงียบงัน
สมชายถอยรถออกจากลานจอดหลังทำงานเสร็จในคืนนี้ เขาตั้งลำบนถนนหลักและค่อย ๆ เปลี่ยนจากเกียร์ต่ำไปยังเกียร์สูงสุดตามความเร็วที่รถทำได้ และเมื่อสมชายไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเกียร์เพิ่มอีกแล้ว เขาจึงเลื่อนมือซ้ายไปหยิบแผ่นซีดีหนึ่งแผ่นออกจากซองที่แขวนอยู่บนที่บังแดดเหนือหัว ก่อนจะสอดแผ่นพลาสติกวงกลมเข้าไปยังช่องแคบ ๆ บนแผงคอนโซลรถ ตัวอักษรดิจิตอลบนแผงหน้าปัดแอลอีดีขึ้นตัวอักษรคำว่า ‘TOMMY EMMANUEL’
ลำโพง 6.1 ติดรถดังขึ้นด้วยเสียงกีตาร์ฟิงเกอร์สไตล์ เมโลดี้ที่วิ่งสลับไปมาเป็นท่วงทำนองที่จับใจสมชายยิ่งนัก วลีเพลงที่ตัวโน๊ตไม่เรียงต่อกันเหมือนการไล่สเกลง่าย ๆ โดยไม่ต้องคิดอะไรเลยเป็นสิ่งที่สมชายทำไม่ได้ เขาไม่สามารถฟังเพลงเหล่านี้แล้วแกะออกมาเล่นได้เลย นิ้วของเขาเดินทางได้เป็นเส้นตรงอย่างเดียว เขารู้ทุกสเกลบนโลกนี้แต่ไม่สามารถเล่นวลีสั้น ๆ ที่มีเอกลักษณ์อะไรได้เลย
ความสบายเพลิดเพลินจากการฟังเพลงนี้แสดงออกมาบนใบหน้าของนักดนตรีที่มีแฟนคลับมากมาย เมื่อเพลงบรรเลงไปครบอัลบั้มบนแผ่นซีดี สมชายเลือกแผ่นของ Steve Vai ออกมาใส่เครื่องเล่น แต่คราวนี้เขาจงใจเลื่อนแทรคไปยังเพลงที่มีชื่อว่า Tender Surrender สมชายรู้สึกทึ่งกับไดนามิคของเพลงที่มีแข็งสลับอ่อนผ่อนปรนกันไปอย่างลงตัว เมโลดี้ของโน้ตกีตาร์ไพเราะเสนาะหูของเขาทุกครั้งแม้ครั้งนี้สมชายจะฟังมันเป็นครั้งที่พันแล้วก็ตาม
สมชายจะขับรถออกนอกตัวเมืองทุกครั้งหลังเล่นดนตรีเสร็จ เขาจะขับออกนอกเมืองระยะทางรวมร้อยกว่ากิโลเมตรเป็นการผ่อนคลายจากการทำงานที่แสนจะน่าเบื่อของเขา นักดนตรีร็อคจะเปิดเพลงที่มีเมโลดี้สวย ๆ ฟังเพื่อลดความเครียดจากสิ่งที่เขาพบเจอมาในแต่ละวัน และบนถนนเลี่ยงเมืองออกไปจะเป็นทางตรงยาวที่แทบจะไม่มีรถวิ่งเลย นั่นจึงทำให้สมชายเหยียบคันเร่งเครื่องยนต์ทำความเร็วไปแตะสองร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง
รถยนต์สปอร์ตราคาแพงทะยานรักษาความเร็วที่สองร้อยกิเมตรต่อชั่วโมงนานห้านาทีแล้ว และทันใดนั้น สมชายเห็นจุดดวงไฟเล็ก ๆ บนถนนตรงหน้าเขาห่างออกไปหลายร้อยเมตร เจ้าของรถรู้สึกแปลกใจจึงรีบถอนคันเร่งออก แสงไฟจากจุดเล็ก ๆ เริ่มเห็นเป็นภาพใหญ่ขึ้น สมชายเริ่มเห็นว่ามันเป็นรถบรรทุกที่มีตู้คอนเทนเนอร์ ท้ายรถมีไฟประดับประดาเต็มท้ายรถ เมื่อรถของสมชายเข้าไปจ่อตูดรถบรรทุกใกล้ ๆ รถบรรทุกเบรคกระทันหันทันทีจนเสียงล้อรถเบียดถนน
รถสปอร์ตคันหรูเบี่ยงหัวหลบออกทางขวาเตรียมจะแซง เมื่อสมชายบังคับรถอยู่ตำแหน่งขนาบข้างเขากำลังจะเตรียมเหยียบคันเร่งเต็มแรง แต่ก็ต้องเปลี่ยนความคิดทันทีเมื่อเห็นตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกตกแต่งเป็นห้องกระจก ภายในกระจกมีแสงไฟสลัว ๆ แต่ยังพอทำให้เห็นภาพกีตาร์วางเรียงรายเหมือนกับว่านี่คือร้านขายกีตาร์เคลื่อนที่ และทันใดนั้นแสงไฟภายในตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกดัดแปลงเป็นห้องกระจกก็สว่างไสวจากแสงไฟภายใน
สมชายยกเท้าถอนคันเร่งปล่อยให้รถไหลไปอยู่หน้ารถบรรทุกที่จอดนิ่งสนิทแล้ว เขาพยายามมองทะลุกระจกหน้ารถบรรทุกเข้าไปเพื่อมองหาคนขับ สมชายมองเห็นแต่เพียงเงามืด ๆ ของชายผมยาวจัดทรงไม่ได้รูปนั่งอยู่หลังพวงมาลัยไม่ขยับเขยื้อนร่างกายใด ๆ ชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้ารถพยายามจะทำท่าทางเรียกความสนใจจากเงาดำ ๆ หลังกระจก แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล
ชายหนุ่มเปลี่ยนเป้าหมายโดยเดินไปดูที่ตู้คอนเทนเนอร์ เขาเห็นประตูเปิดออกเหมือนรอให้ใครบางคนเข้าไป นักกีตาร์นิ้วไฟถูกดึงดูดด้วยอะไรบางอย่างจนทำให้เขาต้องปีนข้างรถขึ้นไป
เมื่อสมชายเข้าไปข้างในจึงทำให้สังเกตเห็นต้นกำเนิดแสงสว่างนั้นมาจากตะเกียงโบราญ เปลวไฟเล็ก ๆ ในหลอดแก้วกว่าสิบอันสั่นไหวตามจังหวะการเดินของแขกผู้มาเยือน บนชั้นวางกีตาร์มีกีตาร์ราคาแพงวางอยู่เรียงราย สมชายเห็นกีตาร์บางตัวเป็นลิมิเต็ดอีดิทชั่นที่หายากมาก ๆ แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาใจเต้นอะไรเลยจนกระทั่งได้เห็นกีตาร์ไฟฟ้าสีขาวสะอาดตัวหนึ่งมีปิ๊กการ์ดสีแดงคล้ำมีรอยตะปุ่มตะป่ำไม่เรียบ
ชายผู้มาใหม่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ กับกีตาร์ตัวนั้นก่อนจะเอานิ้วมือไปลูบสัมผัสตรงปิ๊กการ์ดสีแดงคล้ำ เขาถูมันไปมาและหงายนิ้วขึ้นมาดู สมชายถึงกับขนลุกซู่เมื่อเห็นนิ้วมือของตัวเองชื้นไปด้วยของเหลวสีข้น ๆ เขาไม่แน่ใจว่ามันคือเลือดสด ๆ หรือเปล่าเพราะแสงไฟสีส้มทำให้ไม่สามารถดูมันได้ว่าเป็นสีอะไรแน่ และทันใดนั้นเสียง ๆ หนึ่งก็ดังขึ้น
“ต้องขออภัยด้วย กีตาร์ตัวนั้นเพิ่งจะทำสี มันยังไม่แห้งดี”
แขกผู้มาเยือนสะดุ้งเฮือกกับน้ำเสียงแหบพร่านั้น เขาเผลอสะดุดเท้าไปโดนกับชั้นวางกีตาร์ สมชายตกใจรีบหันไปประครองชั้นวางที่มีกีตาร์หลายตัวแขวนอยู่
“ขะ...ขอโทษครับ ขอโทษที่เข้ามา...”
“ขอโทษอะไรกัน ร้านนี้ตั้งใจเปิดไว้รอคุณอยู่แล้ว”
“รอผม” สมชายกลืนน้ำลายลงคอ เขาหยุดคิดว่าคงเป็นการล้อเล่นกระมัง เพราะชายที่ยืนอยูตรงหน้านั้นที่ดูแก่ชราน้ำเสียงไร้ความรู้สึกใด ๆ ได้แต่ผงกศรีษะ
ชายชราสภาพสกปรกโสโครกแต่งตัวเหมือนหยิบผ้าขี้ริ้วที่ซักแล้วมาห่ม ผมเผ้ายาวสีเทาดูหยุงเหยิงไร้การดูแล ตอนนี้ชายแก่เขยิบเข้ามายืนข้างสมชาย กลิ่นตัวเหม็นเน่าจนแทบจะอาเจียนจนทำให้สมชายต้องกลืนน้ำลายลงคออีกครั้ง
“คุณสนใจกีตาร์ตัวนั้น”
สมชายได้แต่ผงกหน้า
“คุณจะหยิบลงมาดูก็ได้นี่”
“แต่สีของมันยังไม่แห้งดีไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ต้องไปสนใจสีตรงปิ๊กการ์ดหรอก บางทีแล้วมันอาจจะไม่มีวันแห้งเลยก็ได้”
สิ้นเสียงชายชรา สมชายไม่สนใจคำพูดนั้น เขาเอื้อมมือไปจับที่คอกีตาร์ก่อนจะเอามืออีกข้างประครองที่ลำตัว ชายหนุ่มถือกีตาร์ในตำแหน่งพร้อมเล่นก็รู้สึกว่ามันช่างเหมาะพอดีมืออะไรอย่างนี้ เขาทดลองใช้นิ้วสะบัดลงบนสายเหล็กสองสามที
“ผมจะลองฟังเสียงมันหน่อยจะได้ไหม” สมชายหันมาพูดกับชายชรา และเบี่ยงหน้าหนีทันทีเมื่อสบสายคู่นั้นเข้า
“อยู่ข้าง ๆ เท้าคุณนั่นไง” ชราส่ายหน้าไปยังทิศทางที่พูดถึง
สมชายเสียบสายแจ๊คและปรับปุ่มต่าง ๆ ที่ลำโพงจนเรียบร้อย เขาทดลองไล่สเกลดูสองสามรอบก็ทำสีหน้ารู้สึกพอใจระดับหนึ่ง จากนั้นนักกีตาร์ทดลองตีคอร์ดจังหวะร็อคที่ดุดัน เขารู้สึกทึ่งว่ามันคือกีตาร์ที่ดีตัวหนึ่ง สมชายลองเล่นเทคนิคที่เขาถนัดที่สุดโดยการสวีปปิ้ง นั่นทำให้สมชายอยากได้กีตาร์ตัวนี้มาครอบครอง
“ฝีมือของคุณเยี่ยมมาก” ชายชราพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ
“ไม่ทราบว่าราคาของกีตาร์ตัวนี้อยู่ที่เท่าไหร่”
ชายชราทำท่าจะเบี่ยงหน้าหนีไปทางอื่นเมื่อได้ยินสมชายพูด “หากคุณจะเพียงแค่ใช้กีตาร์ทำในสิ่งที่คุณเพิ่งเล่นไปนั้น ในร้านนี้มีกีตาร์อีกหลายตัวที่มีเสียงดีเทียบเท่ากับกีตาร์ตัวนี้ มีรูปทรงกีตาร์สวย ๆ ให้คุณเลือกมากมาย คุณไม่จำเป็นต้องใช้กีตาร์ตัวนี้หรอก” คนดูแลร้านพูดเสร็จก็ผายมือให้ดูกีตาร์อีกหลายตัวในชั้นเดียวกัน
“ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณพูด”
“ทำไมไม่ลองเล่นเพลงของศิลปินที่คุณชื่นชอบล่ะ”
สมชายรู้สึกจุกอกเมื่อได้ยินคำพูดนี้ “ผมไม่เคยเล่นเพลงเหล่านั้นเลย เพลงที่มีเมโลดี้สลับซับซ้อนเป็นสิ่งที่ผมไม่ถนัด”
“แล้วทำไมคุณไม่ลองเล่นมันดูล่ะ”
กีตาร์ซาตาน
สมชายยืนกลางเวทีที่มีเสียงกลองและเสียงคีย์บอร์ดสร้างจังหวะ มือเบสบนเวทีตบสายพร้อมไล่นิ้วตามทางเดินคอร์ด เครื่องดนตรีสามชิ้นนี้กำลังบิ๊วอารมณ์ผู้ชมนับพันข้างล่างเวทีที่กำลังยืนรอจนเหงือกแห้ง พวกเขาเหล่าคนดูชาวร็อคเกอร์ทั้งหลายต่างกำลังรอฟังเสียงโซโล่กีตาร์เทพจากนิ้วเรียวยาวของสมชาย
เมื่อใกล้จะจบท่อนอินโทร สมชายสูดลมหายใจช้า ๆ เข้าไปเต็มปอด และเมื่อถึงจังหวะที่เขาต้องเล่น สมชายกระแทกลมหายใจออกมาพร้อมสะบัดข้อมือให้ปิ๊กกีตาร์กรีดลงไปบนสายเหล็ก มือขวาจับคอร์ดและเปลี่ยนมันอย่างรวดเร็วไปมา แค่การตีพาวเวอร์คอร์ดจังหวะร็อคด้วยความเร็วไปมารวมถึงเสียงสายกีตาร์ที่สะท้านผ่านเอฟเฟคราคาแพง นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้เหล่าสาวกขาไฟต่างโห่ร้องครวญครางกันเต็มฮอลล์แสดง
เสียงร้องโหยหวนชวนสยองจากเหล่าคนดูเหมือนกับว่าพวกเขาและเธอเหล่านั้นคือปีศาจที่เพิ่งจะหลุดออกมาจากขุมนรก โดยมีเสียงสั่นสะเทือนจากสายกีตาร์นั้นมาสะเดาะกุญแจสู่นรกอเวจี ท่อนเวิร์สธรรมดาที่ยังไม่กระชากบาดใจเท่าใดนักอาจจะทำให้เหล่าผู้ชมยังสงวนท่าทีไม่ดิ้นแรงจนพื้นฮอลล์ลุกเป็นไฟ
สมชายเพ่งสายตาดุดันลงไปยังข้างล่างเวที ที่ข้างล่างนั้นเขาเห็นเหล่าสาวกต่างปลุกเร้าใจตัวเองด้วยการดื่มเหล้าเมายา บางคนยกขวดเบียร์เทลงปากรวดเดียวหมดขวด ขี้เหล้าผมยาวใส่ชุดหนังขาด ๆ คนหนึ่งขว้างขวดเบียร์ที่กินหมดแล้วขึ้นเวที ขวดแก้วสีเขียวขุ่นลอยล่องตรงไปยังหัวของมือกลอง แต่ด้วยความเร็วราวปีศาจของมือให้จังหวะประจำวง มือกลองร่างใหญ่ฟาดไม้กลองเหล็กลงไปกลางขวดเบียร์อย่างแม่นยำ เศษแก้วแตกละเอียดพรุ่งกระจายเต็มเวที แก้วเศษเล็กเศษน้อยลอยฟุ้งสะท้อนแสงระยิบระยับ เหมือนกับว่านี่คือเอฟเฟคอย่างหนึ่งของโชว์
มือกลองดูเหมือนจะโกรธแค้นเป็นอย่างยิ่ง เพราะเขารัวกลองเร็วขึ้นเป็นสองเท่าก่อนจะค่อย ๆ เบาลงเมื่อกำลังจะเข้าท่อนพรีคอรัส
สมชายทำสีหน้าเบื่อหน่ายกับความไร้รสนิยมจากแฟนดนตรีของตัวเอง เพลงที่มีแต่จังหวะเร้า ๆ และคอร์ดของเพลงที่วนไปวนมาไม่มีจบสิ้น บางทีสมชายใช้แค่เทคนิคง่าย ๆ ของการดีดกีตาร์ก็เหมือนกับเปลี่ยนบรรยากาศของเพลงให้เปลี่ยนไปบ้าง แต่สำหรับเขานั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่สร้างสรรค์หรือได้ใช้พรสวรรค์ทางดนตรีอะไรเลย สมชายคิดแบบนี้
แฟนเพลงอสูรกายบางคนพ่นควันฟุ้งลอยเต็มอากาศ สมชายคิดว่านั่นคงไม่ใช่แค่ยาสูบธรรมดา ๆ หรอก บางคนสูบฝิ่นสูบกัญชา หรือบางคนอาจจะเตรียมบุหรี่ที่ยัดผงยาบ้าเอาไว้ในใบยาขึ้นมาดูด ภาพหมู่คนที่ถูกรมไปด้วยควันชวนให้นึกถึงฉากการสังหารหมู่คนนับพันด้วยการรมแก๊สพิษให้ตายในครั้งเดียว การตายเพื่อเกิดใหม่หลายพันชีวิตด้วยยาพิษในอากาศแค่ไม่กี่ถัง เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ชวนสยดสยองยิ่งนักสำหรับมือกีตาร์ฮีโร่บนเวทีนี้
เรียวนิ้วยาวเคลื่อนไหวไล่นิ้วไปตามเสกลเพนทาโทนิคด้วยความเร็วเกินกว่าที่หูใครจะทันจับได้ว่าเป็นการดีดกีตาร์ เสียงแผดร้องของสเกลง่ายระดับอนุบาลแต่ความเร็วปานสายฟ้ายิ่งเร้าอารมณ์ของคนดูขึ้นมาหน่อยนึง
เสียงกลองเปลี่ยนจังหวะเพื่อเตรียมเข้าท่อนฮุคสำคัญที่เตรียมจะน็อคเอาท์คนฟังให้สลบใต้เวที สมชายจับจังหวะเล่นลูกสวีปเปอร์กับคอร์ดที่ถูกกำหนดจากมือซ้าย มือขวากวาดปิ๊กกีตาร์ไปมาพร้อมใช้สันมืออุดสายที่ไม่ต้องการออก เสียงกีตาร์ที่ถูกขยายจากแอมปิฟลายเออร์และลำโพงดอกสิบสองนิ้วหลายสิบตัว เสียงพิศดารหว่านล้อมฟิลลิ่งคนฟังให้ฮึกเหิมไปกลับเสียงดนตรี สีหน้านักฟังแทบทุกคนเกือบจะสติแตกไปกับท่อนฮุคสุดโหด
หลายคู่ทนไม่ไหวมีเซ็กส์กันท่ามกลางงานคอนเสิร์ต พวกเขาและเธอเหล่านั้นต่างไม่รู้สึกเขินอายหรือกระดากใจแต่อย่างใด เพราะอารมณ์ทางดนตรีนั้นสูบฉีดให้คนเหล่านั้นขึ้นถึงจุดสุดยอดในความรู้สึก อคติและจริตที่มนุษย์สร้างขึ้นถูกทำลายลงด้วยท่วงทำนองที่แสนวิเศษและมหัศจรรย์ ความฝันและความคาดหวังทุกอย่างของมนุษย์ถูกขัดจังหวะจากเสียงแห่งปัจจุบัน แทบทุกคู่ที่กำลังร่วมรักกันกลางงาน ต่างพร้อมใจกันหน่วงเวลารอท่อนจบของท่อนฮุคเพื่อจะขึ้นถึงสวรรค์พร้อมกันกับท่อนสำคัญของเพลง
เสียงกลองกระทุ้งกระเดื่องคู่รัวจนหัวใจคนฟังแทบหยุดเต้น เสียงจังหวะเร็วรัวรบกวนจังหวะเต้นของหัวใจจนเกือบทำให้ผิดเพี้ยน กระเดื่องเงียบเสียง ทุกอย่างเงียบเหลือแต่เสียงตบสายโซโลเบสหยุดอารมณ์ไว้ชั่วครู่ เสียงคีย์บอร์ดเล่นโน๊ตเพลงที่สลับซับซ้อนก่อนจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นคอร์ดอะเพ็กจิโอที่เรียบง่าย
ทุกอย่างเงียบเหลือแต่เสียงตีคอร์ดจากกีตาร์ไฟฟ้าโดยไม่มีเอฟเฟคใด ๆ มาทำให้เสียงธรรมชาติผิดเพี้ยน และไม่นานทุกอย่างก็เงียบงัน
สมชายถอยรถออกจากลานจอดหลังทำงานเสร็จในคืนนี้ เขาตั้งลำบนถนนหลักและค่อย ๆ เปลี่ยนจากเกียร์ต่ำไปยังเกียร์สูงสุดตามความเร็วที่รถทำได้ และเมื่อสมชายไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเกียร์เพิ่มอีกแล้ว เขาจึงเลื่อนมือซ้ายไปหยิบแผ่นซีดีหนึ่งแผ่นออกจากซองที่แขวนอยู่บนที่บังแดดเหนือหัว ก่อนจะสอดแผ่นพลาสติกวงกลมเข้าไปยังช่องแคบ ๆ บนแผงคอนโซลรถ ตัวอักษรดิจิตอลบนแผงหน้าปัดแอลอีดีขึ้นตัวอักษรคำว่า ‘TOMMY EMMANUEL’
ลำโพง 6.1 ติดรถดังขึ้นด้วยเสียงกีตาร์ฟิงเกอร์สไตล์ เมโลดี้ที่วิ่งสลับไปมาเป็นท่วงทำนองที่จับใจสมชายยิ่งนัก วลีเพลงที่ตัวโน๊ตไม่เรียงต่อกันเหมือนการไล่สเกลง่าย ๆ โดยไม่ต้องคิดอะไรเลยเป็นสิ่งที่สมชายทำไม่ได้ เขาไม่สามารถฟังเพลงเหล่านี้แล้วแกะออกมาเล่นได้เลย นิ้วของเขาเดินทางได้เป็นเส้นตรงอย่างเดียว เขารู้ทุกสเกลบนโลกนี้แต่ไม่สามารถเล่นวลีสั้น ๆ ที่มีเอกลักษณ์อะไรได้เลย
ความสบายเพลิดเพลินจากการฟังเพลงนี้แสดงออกมาบนใบหน้าของนักดนตรีที่มีแฟนคลับมากมาย เมื่อเพลงบรรเลงไปครบอัลบั้มบนแผ่นซีดี สมชายเลือกแผ่นของ Steve Vai ออกมาใส่เครื่องเล่น แต่คราวนี้เขาจงใจเลื่อนแทรคไปยังเพลงที่มีชื่อว่า Tender Surrender สมชายรู้สึกทึ่งกับไดนามิคของเพลงที่มีแข็งสลับอ่อนผ่อนปรนกันไปอย่างลงตัว เมโลดี้ของโน้ตกีตาร์ไพเราะเสนาะหูของเขาทุกครั้งแม้ครั้งนี้สมชายจะฟังมันเป็นครั้งที่พันแล้วก็ตาม
สมชายจะขับรถออกนอกตัวเมืองทุกครั้งหลังเล่นดนตรีเสร็จ เขาจะขับออกนอกเมืองระยะทางรวมร้อยกว่ากิโลเมตรเป็นการผ่อนคลายจากการทำงานที่แสนจะน่าเบื่อของเขา นักดนตรีร็อคจะเปิดเพลงที่มีเมโลดี้สวย ๆ ฟังเพื่อลดความเครียดจากสิ่งที่เขาพบเจอมาในแต่ละวัน และบนถนนเลี่ยงเมืองออกไปจะเป็นทางตรงยาวที่แทบจะไม่มีรถวิ่งเลย นั่นจึงทำให้สมชายเหยียบคันเร่งเครื่องยนต์ทำความเร็วไปแตะสองร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง
รถยนต์สปอร์ตราคาแพงทะยานรักษาความเร็วที่สองร้อยกิเมตรต่อชั่วโมงนานห้านาทีแล้ว และทันใดนั้น สมชายเห็นจุดดวงไฟเล็ก ๆ บนถนนตรงหน้าเขาห่างออกไปหลายร้อยเมตร เจ้าของรถรู้สึกแปลกใจจึงรีบถอนคันเร่งออก แสงไฟจากจุดเล็ก ๆ เริ่มเห็นเป็นภาพใหญ่ขึ้น สมชายเริ่มเห็นว่ามันเป็นรถบรรทุกที่มีตู้คอนเทนเนอร์ ท้ายรถมีไฟประดับประดาเต็มท้ายรถ เมื่อรถของสมชายเข้าไปจ่อตูดรถบรรทุกใกล้ ๆ รถบรรทุกเบรคกระทันหันทันทีจนเสียงล้อรถเบียดถนน
รถสปอร์ตคันหรูเบี่ยงหัวหลบออกทางขวาเตรียมจะแซง เมื่อสมชายบังคับรถอยู่ตำแหน่งขนาบข้างเขากำลังจะเตรียมเหยียบคันเร่งเต็มแรง แต่ก็ต้องเปลี่ยนความคิดทันทีเมื่อเห็นตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกตกแต่งเป็นห้องกระจก ภายในกระจกมีแสงไฟสลัว ๆ แต่ยังพอทำให้เห็นภาพกีตาร์วางเรียงรายเหมือนกับว่านี่คือร้านขายกีตาร์เคลื่อนที่ และทันใดนั้นแสงไฟภายในตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกดัดแปลงเป็นห้องกระจกก็สว่างไสวจากแสงไฟภายใน
สมชายยกเท้าถอนคันเร่งปล่อยให้รถไหลไปอยู่หน้ารถบรรทุกที่จอดนิ่งสนิทแล้ว เขาพยายามมองทะลุกระจกหน้ารถบรรทุกเข้าไปเพื่อมองหาคนขับ สมชายมองเห็นแต่เพียงเงามืด ๆ ของชายผมยาวจัดทรงไม่ได้รูปนั่งอยู่หลังพวงมาลัยไม่ขยับเขยื้อนร่างกายใด ๆ ชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้ารถพยายามจะทำท่าทางเรียกความสนใจจากเงาดำ ๆ หลังกระจก แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล
ชายหนุ่มเปลี่ยนเป้าหมายโดยเดินไปดูที่ตู้คอนเทนเนอร์ เขาเห็นประตูเปิดออกเหมือนรอให้ใครบางคนเข้าไป นักกีตาร์นิ้วไฟถูกดึงดูดด้วยอะไรบางอย่างจนทำให้เขาต้องปีนข้างรถขึ้นไป
เมื่อสมชายเข้าไปข้างในจึงทำให้สังเกตเห็นต้นกำเนิดแสงสว่างนั้นมาจากตะเกียงโบราญ เปลวไฟเล็ก ๆ ในหลอดแก้วกว่าสิบอันสั่นไหวตามจังหวะการเดินของแขกผู้มาเยือน บนชั้นวางกีตาร์มีกีตาร์ราคาแพงวางอยู่เรียงราย สมชายเห็นกีตาร์บางตัวเป็นลิมิเต็ดอีดิทชั่นที่หายากมาก ๆ แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาใจเต้นอะไรเลยจนกระทั่งได้เห็นกีตาร์ไฟฟ้าสีขาวสะอาดตัวหนึ่งมีปิ๊กการ์ดสีแดงคล้ำมีรอยตะปุ่มตะป่ำไม่เรียบ
ชายผู้มาใหม่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ กับกีตาร์ตัวนั้นก่อนจะเอานิ้วมือไปลูบสัมผัสตรงปิ๊กการ์ดสีแดงคล้ำ เขาถูมันไปมาและหงายนิ้วขึ้นมาดู สมชายถึงกับขนลุกซู่เมื่อเห็นนิ้วมือของตัวเองชื้นไปด้วยของเหลวสีข้น ๆ เขาไม่แน่ใจว่ามันคือเลือดสด ๆ หรือเปล่าเพราะแสงไฟสีส้มทำให้ไม่สามารถดูมันได้ว่าเป็นสีอะไรแน่ และทันใดนั้นเสียง ๆ หนึ่งก็ดังขึ้น
“ต้องขออภัยด้วย กีตาร์ตัวนั้นเพิ่งจะทำสี มันยังไม่แห้งดี”
แขกผู้มาเยือนสะดุ้งเฮือกกับน้ำเสียงแหบพร่านั้น เขาเผลอสะดุดเท้าไปโดนกับชั้นวางกีตาร์ สมชายตกใจรีบหันไปประครองชั้นวางที่มีกีตาร์หลายตัวแขวนอยู่
“ขะ...ขอโทษครับ ขอโทษที่เข้ามา...”
“ขอโทษอะไรกัน ร้านนี้ตั้งใจเปิดไว้รอคุณอยู่แล้ว”
“รอผม” สมชายกลืนน้ำลายลงคอ เขาหยุดคิดว่าคงเป็นการล้อเล่นกระมัง เพราะชายที่ยืนอยูตรงหน้านั้นที่ดูแก่ชราน้ำเสียงไร้ความรู้สึกใด ๆ ได้แต่ผงกศรีษะ
ชายชราสภาพสกปรกโสโครกแต่งตัวเหมือนหยิบผ้าขี้ริ้วที่ซักแล้วมาห่ม ผมเผ้ายาวสีเทาดูหยุงเหยิงไร้การดูแล ตอนนี้ชายแก่เขยิบเข้ามายืนข้างสมชาย กลิ่นตัวเหม็นเน่าจนแทบจะอาเจียนจนทำให้สมชายต้องกลืนน้ำลายลงคออีกครั้ง
“คุณสนใจกีตาร์ตัวนั้น”
สมชายได้แต่ผงกหน้า
“คุณจะหยิบลงมาดูก็ได้นี่”
“แต่สีของมันยังไม่แห้งดีไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ต้องไปสนใจสีตรงปิ๊กการ์ดหรอก บางทีแล้วมันอาจจะไม่มีวันแห้งเลยก็ได้”
สิ้นเสียงชายชรา สมชายไม่สนใจคำพูดนั้น เขาเอื้อมมือไปจับที่คอกีตาร์ก่อนจะเอามืออีกข้างประครองที่ลำตัว ชายหนุ่มถือกีตาร์ในตำแหน่งพร้อมเล่นก็รู้สึกว่ามันช่างเหมาะพอดีมืออะไรอย่างนี้ เขาทดลองใช้นิ้วสะบัดลงบนสายเหล็กสองสามที
“ผมจะลองฟังเสียงมันหน่อยจะได้ไหม” สมชายหันมาพูดกับชายชรา และเบี่ยงหน้าหนีทันทีเมื่อสบสายคู่นั้นเข้า
“อยู่ข้าง ๆ เท้าคุณนั่นไง” ชราส่ายหน้าไปยังทิศทางที่พูดถึง
สมชายเสียบสายแจ๊คและปรับปุ่มต่าง ๆ ที่ลำโพงจนเรียบร้อย เขาทดลองไล่สเกลดูสองสามรอบก็ทำสีหน้ารู้สึกพอใจระดับหนึ่ง จากนั้นนักกีตาร์ทดลองตีคอร์ดจังหวะร็อคที่ดุดัน เขารู้สึกทึ่งว่ามันคือกีตาร์ที่ดีตัวหนึ่ง สมชายลองเล่นเทคนิคที่เขาถนัดที่สุดโดยการสวีปปิ้ง นั่นทำให้สมชายอยากได้กีตาร์ตัวนี้มาครอบครอง
“ฝีมือของคุณเยี่ยมมาก” ชายชราพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ
“ไม่ทราบว่าราคาของกีตาร์ตัวนี้อยู่ที่เท่าไหร่”
ชายชราทำท่าจะเบี่ยงหน้าหนีไปทางอื่นเมื่อได้ยินสมชายพูด “หากคุณจะเพียงแค่ใช้กีตาร์ทำในสิ่งที่คุณเพิ่งเล่นไปนั้น ในร้านนี้มีกีตาร์อีกหลายตัวที่มีเสียงดีเทียบเท่ากับกีตาร์ตัวนี้ มีรูปทรงกีตาร์สวย ๆ ให้คุณเลือกมากมาย คุณไม่จำเป็นต้องใช้กีตาร์ตัวนี้หรอก” คนดูแลร้านพูดเสร็จก็ผายมือให้ดูกีตาร์อีกหลายตัวในชั้นเดียวกัน
“ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณพูด”
“ทำไมไม่ลองเล่นเพลงของศิลปินที่คุณชื่นชอบล่ะ”
สมชายรู้สึกจุกอกเมื่อได้ยินคำพูดนี้ “ผมไม่เคยเล่นเพลงเหล่านั้นเลย เพลงที่มีเมโลดี้สลับซับซ้อนเป็นสิ่งที่ผมไม่ถนัด”
“แล้วทำไมคุณไม่ลองเล่นมันดูล่ะ”