เป็นเรื่องที่ไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง เพราะอายค่ะ อายว่าจะร้องไห้น้ำตาแตกออกมาแบบหยุดไม่ได้
แม่จากไปต้นมิถุนาค่ะ ด้วยอาการหลายอย่าง
เรากลับบ้านไปประมาณกลางเดือนพฤษภา ใจตอนนั้นแบบอยากกลับๆๆๆ มากๆ ทั้งๆที่มีเวลาว่างแค่2วันก่อนที่จะทำงานนานๆหนักๆ เราเลยกลับบ้านแบบกะทันหันไม่ให้ใครรู้ ก่อนหน้านี้ก็พอรู้ว่าแม่ป่วยเพราะโทรคุยกัน แต่น้องสาวก็ไปดูแลแล้ว ก็ไม่ห่วงอะไร
พอไปถึบ้านปุ๊บ เจอแม่ที่นอนป่วยปั๊บ เราตกใจกับภาพที่เห็น
แม่อนป่วยหน้าทีวี ตัวผอมแฟ้งแทบจะติดกระดูก สูงประมาณ150 แต่น้ำหนัก32ค่ะ หลักจากที่ชั่งตอนไปรพ. ผมขาว เสียงแหบพร่า ตาเหลือง นี่แม่เราเหรอ เราสตั๊นไปแปบ ได้คุยว่าไปหาหมอและให้ยามากินแบบนี้1อาทิตย์แล้ว และกินข้าวได้แค่วันละช้อน เขาว่าแบบนั้นนะ กินข้าวไม่ได้ เร่เลยซื้อข้าว ขนม นมบำรุงไปให้ และออกมาจากบ้านพักนึงมาตั้งสติ เราจะทำยังไงดีนะ มีเวลาแคาคืนเดียว พรุ่งนี้จะต้องกลับแล้ว เลยโทรหาเพื่อนรุ่นพี่2คนทราเขาเคบเล่าการเลี้ยงดูคนแห่แบบตัวผอมๆกกินข้าวไม่ได้ เขาก็บอกมาว่าให้ทำแบบนั้นๆนะ
ตอนค่ำของวันนั้นเราไถต๊อกต๊อกเล่นเจอดูคนนึงเป็นผู้ชายหล่อๆ เราFL เขาเพราะความหล่อ5555
เลยทักไปดูดวงเล่นๆหาที่พึง 3ประโยคแรกกับราคาแรกที่เราถามคือตรง แม่นไปหมด เราเลยเลือกดูต่อ เสียอีก1ราคา แบบโทรคุยกัน มีอยู่คำถามนึงที่เราเคยดูกับหมอดูที่ดูๆกันประจำแต่ไม่ได้ดูแล้วนะ เราถามเกี่ยวกับตัวเลข
เราถามว่า เราอ้ะ เห็นเวลาเป็นเลขคู่ตลอดๆเลย เข่น 17.17 00.00 11.11 คือหันไปดูแบบกี่โมงแล้ว ตื่นนอน จะเห็นเป๊ะๆแบบนี้ตลอดเลย หมอดูคนที่เคยดูประจำๆบอกว่าจะมีคน2คนเข้ามาในชีวิตในเรื่องความรักนะ เราก็ว่าเราเจอแล้วนะ
แต่หมอดูผู้ชายคนนี้เขาดูให้แล้วบอกว่า เลขแบบนี้ในทางโหราศาสตร์หมายถึง แม่ สุขภาพของแม่ เราอึ้งไปเลย น้ำตาไหล เหมือนทุกอย่างมาประมวลแล้วเราถึงบางอ้อ นี่คือสัญญาณ พลังงานหรืออะไรบางอย่างที่บอกเราเหรอเนี่ยะ การทำนายกับภาพที่เราเห็นคือใช่เลย เรามัวแต่สนใจเรื่องคู่ เรื่องคนรัก คิดว่าเป็นเรื่องนั่น แต่จริงๆคือ แม่
แล้ววันก่อนกลับเราเลยให้น้องสาวมารับไปอยู่ด้วย แต่แม่ไม่อยากไป เพราะเป็นห่วงพ่อ พ่อที่เป็นอัลไซเมอร์ เราเลยบังคับให้ไป พร้อมกับให้น้องสาวมารับตอนนั้นเลย
และนั่นคือการเห็นหน้าและเสียงครั้งสุดท้าย ของแม่
ระหว่างนี้เราคุยถามไถ่ถึงอาการตลอดๆจากน้องสาวๆทั้งวันเพราะเราห่วงมากๆ เราไม่ได้ที่จะโทรคุยกับแม่เลย เพราะน้องบอกว่าเขาจะนอน อย่างเดียวเลยให้พักผ่อน จาวันที่3ที่ไปอยู่กับน้องสาว แม่ก็โทรมา เสียวสดใสเเจ่มมาก55 เราเลยเบาใจขึ้น
และนั่นคือครั้งสุดท้ายที่ได้ยินเสียง
วันที่4น้องสาวบอกพาไปรพ.แล้วนะ แม่เขาบ่นว่าอยากไปเอง ถ้าเกิดเขาพูดว่าอยากไป คือมันสุดแล้วจริงๆ เพราะปกติแม่เราอดทนและเเละเข้มแข็งจริงๆ ขนาดขาเป็นฝียังฝืนไปทำงานว่ายเลนไปรับจ้างถางป่าโกงกางในหน้าฝนได้จนฝีหายดี นั่นเป็นภาพที่เราเห็นและจำได้ดี
เรารับรู้และไปทำงาน น้องเรารายงานเราเป็นระยะๆ ระหว่างนี้ตอนค่ำ เรานั่งรถไฟฟ้ากลับบ้าน เรายืนอยู่แล้วเห็นภาพผู้หญิงกลางคนนั่งหลับพิงไหล่ผู้ชายคนนึงซึ่งน่าจะเป็นลูก ลักษณะคนนั้นคล้ายๆแม่ของเรา อาการของเค้าดูอ่อนเพลียมาก ในมือลูกชายมีซองกระดาษเป็นชื่อรพ.เราก็คิดว่าคุณแม่ของเขาน่าจะกลับมาจากหาหมอ ตอนนั้นเราน้ำตาซึมกัดฟันและอยากร้องไห้ แม่เราจะอาการอย่างนี้ไหมนะ จะเหนื่อยจะเพลียแบบนี้ไหมนะ มันจุกในใจจริงๆ
วันต่อมาน้องบอกว่าต้องให้เลือดด่วาต่อเนือง3วัน เนื่องจากขาดสารอย่างนึง
ให้เลือดวันที่2 ปรากฎว่าเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด ตอนนี้เราเริ่มอยู่ไม่สุขแล้ว ได้ยินเสียงแจ้งเตือนของโทรศัพท์ทีนึงก็สะดุ้งและรีบเปิดดูด้วยความกลัว มีแต่อาการแย่ลงเรื่อยๆ ใจเรามันบอกลึกๆแบบไม่อยากยอมรับว่า อาจจะใกล้ถึงเวลาแล้วนะ แล้วเราก็เริ่มรั้สึกถึงบรรยากาศรอบข้าง มันซึมๆ ทำไมอากาศมันชวนเศร้านักนะ มีแต่ความขมุกขมัว ไม่สดใสเลย จนตี2ของวันต่อมา น้องเร่าส่งข้อความมาบอกว่าปอดติดเชื้อต้องเจาะปอด เราก็แบบแย่ลง กลัวการจากไปจริงๆ จนตี5กว่าๆ น้องเร่โทรมาแต่เราไ่ม่ได้รับสาย เราโทรกลับไป น้องจะถามว่าให้ปั๊มหัวใจไหม หมอเขาจะลองเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ แต่น้องน้องเลยโทรหาเราเพื่อถามความคิดเห็นแต่ไม่ได้รับ น้องเลยตัดสินใจว่าไม่ปั๊มเพราะกลัวแม่เจ็บและไม่อยากยื้อแล้ส
แล้วก็น้องบอกว่า เมื่อกี้นี้หมอและพยาบาลเขาปิดม่านและเข้าไปทำอะไรกันหลายคน โดยที่ไม่ไให้น้องเข้าไปดู เราวางสาย และน้องก็ส่งข้อความต่อว่า หมอบอกว่าให้แจ้งญาติได้เลยนะ หมอพยายามสุดๆแล้ว ตอนนี้เหลือแค่สัญญาณชีพหรืออะไรนะเราจำไม่ได้ ว่าถ้าสัญญาณในเครื่องนี้มันดับหมอจะเอาเครื่องช่วยหายใจนี้ออก เราเลยรับกลับบ้าน น้องบอกว่าเหมือนเขารอเราอยู่
เรามาถึงตอนบ่าย2 ระหว่างทางคือฝนตกหนักสลับแดดออกเป็นช่วงๆ พอใกล้จะถึงจังหวัดเรา แต่ก่อนใจจะฟูจะพองโตมากแบบโอ๊ยดีใจจะถึงบ้านเกิดปล้ว จังหวัดที่เรารัก แต่ครั้งนี้เรากลับกลัว หดหู่ ยิ่งใกล้รพ.เท่าไหร่ยิ่งกลัว ก้าวขาลงจากรถก็ยิ่งกลัว มันกลัวภาพที่จะเห็น
เเล้วก็จริงๆ เราไปเห็นภาพแม่เราคือร้องไห้น้ำตาแตกเลย
สายระโยงระยางบนร่างกายเต็มไปหมด เราร้องไห้ข้างเตียง2ชั่วโมงกว่าๆ จับมือเขา ลูบหน้าผากเขา เขายังตัวอุ่นๆอยู่ ในใจคิดว่าน่าจะยังรู้สึกอยุ่ เราเลยเปิดยูทูปธรรมมะพระเทศก่อนจากไปที้ข้างหูให้ฟังแล้วออกมา ข้างนอกห้อง พี่ๆน้องๆ ญาติต่างมารอดูอาการกันและจะรับศพกลับเพราะคิดว่าไม่น่านาน แต่จนแล้วจนเล่าถึง2ทุ่มแล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะไป เราเลยให้ทุกคนกลับเพราะแต่ละคนก็มาจากการทำงานและดูเหนื่อยมากๆ และเราคิดว่าน่าจะไม่ได้ไปหรอกคืนนี้ น้องเฝ้าดูแลมาหลายวัน ร่างกายล้ามากๆ เราเลยอยู่ต่อเเละให้ทุกคนกลับ เกิดอะไรขึ้นเราจัดการได้ แต่มีป้าเราค่ะ ไม่ใช่ป้าแท้ๆนะ แต่เป็นคนที่ยายเราเลี้ยงและดูแลจนโต เขาผจญความลำบากมาด้วยกัน ป้าเราไม่กลับ เขาจะอยู่ช่วยเราจัดการ
ระหว่างนี้ก็ได้เห็นคนป่วยอาการหนักๆ และได้พูดคุยกับคนที่มาเฝ้าไข้คนอื่นๆ ไปพลางๆ
ระหว่างนี้พอได้มาเห็นภาพตรงนี้จริงๆ ใจมันก็รู้สึกว่า เออ มันก็ไม่ได้แย่มากนี่นา ก่อนหน้านั้นทุกข์เพราะความคิดจริงๆ เราเริ่มทำใจได้ และเข้มแข็งขึ้น เห็นภาพตรงหน้าแล้ว เราเจ็บปวดร่างกายจริงๆ ภาวนาแบบในใจที่คิดแบบไม่ดีเลยว่าอย่าตื่นมานะ ถ้าตื่นขึ้นมาจะเจ็บปวดร่างกายมากแน่ๆ ระหว่างนี้ป้าเราก็ไปจับตามเนื้อตัวเรื่อยๆ เขารักของเขาอะเนอะ พี่สาวที่รักน้องสาวมากๆ เขาลำบากด้วยกันมากๆมาด้วยกันตั้งแต่เล็กยันโต ความรักความผูกพันธ์ที่เราเข้าใจไม่ได้ ทั้งที่ใจเราจริงไไม่อยากให้ไปจับเลย กลัวเขาจะมีห่วง จะมีสัญญสุดท้ายที่จะไปสู่ภพภูมิดีๆไม่ได้
ป้าเขาบอกว่าอาจจะไปใันพุธเพราะเป็นวันเกิดเขา แล้วก็จริงๆค่ะ
เที่ยงคืน15นาที เข้าสู้วันพุธ พยาบาลบอกว่าคนไข้จากไปแล้วนะคะ นาทีนั้นตอนนั้นไม่ร้องไห้เลย รูสึกโล่งมากๆๆ แบบแม่เราไม่เจ็บตัวเเล้วนะ เขาไปสบายดีแล้วนะ เราไม่ร้องไห้เลย พร้อมกับทำเรื่องวิ่งไปตามอาคารต่างๆแบบคนมีพลัง และเช่าโรงแรมนอนหลับอย่างสนิท เพราะเรานอนไม่หลับไมาหลายวัน
2511 2566 55
ใช่ค่ะ ลงท้ายด้วยเลขคู่หมดเลย
ความแปลกใจ ไม่น่าเชื่อกับตัวเลขเวลาที่เราเห็นเป็นเลขคู่ทั้งหมด
งานศพถูกใจไปอย่างเรียบร้อย เราไม่เสียใจ ไม่ร้องไห้ ไม่อะไรเลย เพราะตอนแม่ยังมีขีวิต เราตั้งใจไว้ว่า เราจะไม่เป็นแค่ลูกที่เดินไปเดินมาที่ไม่ได้ช่วยอะไรแม่เลย เราช่วยเหลือเรื่องเงิน อยากได้โน่นได้นี่ เรากล้าพูดได้เลยค่ะว่า เราเสกให้เลย เราจะเป็นลักที่เป็นที่พึ่งให้แม่ให้ได้ และมันจริงๆนะคะ ชีวิตเราไม่เคยตกต่ำเลย จะอดก็ไม่อด มีงานเข้ามาตลอดๆ อันนี้เป็นสิ่งที่เหลือเลื่อเหมือนกัน
ที่เราตั้งใจเป็นที่พึ่งให้แม่แบบนั้น อย่างที่เล่ามาเลยค่ะ เหตุกาณ์ที่เเม่เป็นฝีที่ขาแล้วไปทำง่ายว่ายเลนไปถางไปโกงกาง เพื่อหาเงินมาดูแลเราและน้องๆ แแม่เรารับผิดชอบมากๆค่ะ และภาพจำความดีหลายๆอย่างที่แม่ทำไว้หลายๆอย่างมันทำให้เราตั้งใจที่จะเลี้ยงดูจะทดแทนท่านค่ะ
แต่ก็มีเหตุการณ์ลี้ลับด้วย มั้งคะ 55 หรือเราคิดไปเองไม่รู้ ไม่เล่าดีกว่าค่ะ555
แม่เราทำดีไว้น่าจะเยอะเลยค่ะ ภาพแขกที่มาร่วมงาน 90% เราไม่รั้จักเลยค่ะ อาจเป็นเพราะมาอยู่กทม.จะ10ปีแล้วมั้งคะ ยิ่งวันสุดท้ายและวันปลงคนมาเยอะจริงๆ มาพูดมาบอกเราว่าแม่เราไปช่วยเขาทำตรงโน้นตรงนั้นนะ อะไรอย่างนั้นนะ เราก็ได้แต่ดีใจและไปบอกแม่ งานศพนี้เราไม่มีความเศร้าเลยคาคาะ เพราะแขกเหรื่อที่มาเหมือนมาบอกมาเพราะคุณงามความดูของแม่ทั้งนั้นเลย ตอนนั้นฝนตกมากๆแต่คนก็มาเยอะมากเหมือนกัน งานผ่านไปได้ด้วยดีมากๆค่ะ สาเหตุนึงก็เป็นเพราะน้องๆด้วยค่ะ เรามีพี่น้อง4คน เราเป็นพี่คนโตสุด น้องเราช่วยงานกันดีไม่มีเกี่ยงอะไรกันเลยค่ะ
เราว่าเราโชคดีมากที่มีพี่น้องดีที่ซัพพอร์ตกันดี
มีเหตุการณ์วันปลงแบบที่เราคิดไปเองว่ามันมหัศจรรย์ที่อยากเล่า
พยากรณ์อากาศฝนตกหนักมากค่ะ เพราะพายุเข้าด้วย เรากังวลว่าจะทำยังไงดี แต่พอใกล้จะปลง ฝนแล้งค่ะ วนรอบเมรุฝนแล้งค่ะ จนเอาเข้าเผาเสร็จฝนก็้ตกแบบตกหนักมากๆๆๆๆๆ แล้วพอจะเก็บกระดูกฝนก็หยุดค่ะ เก็บเสร็จฝนก็ตกลงมาทันทีแบบหนักเลยค่ะ หลายคนแบบแบบแซวๆ แม่เราบุญเยอะนะนิห้ามฟ้าห้ามฝน5555
มีเพื่อนคนนึงที่พ่อเขาจากไปได้5ปี เขาก็บอกวว่า ตอนนี้ก็สดใสร่าเริงแหละ เพราะมีคนอยู่ด้วย เดั๋ยวหลังจากนั้นสิ
เราก็คิดในใจ ไม่อ้ะ ไม่จริง แบบว่าฉันน่ะ พลังใจดีมากน่ะ
แต่พอเสร็จจากงานทุกอย่างเสร็จ กลับมาบ้าน ความเศร้ามันถาโถมมาจริงๆค่ะ ความหนาวจากฝนที่ตก เสียงสัตว์ร้องระงม ความเย็นๆ มองดูรูปภาพ เเล้วได้แต่คิดว่า จริงเหรอๆ นี่จากไปแล้วจริงๆเหรอ ความคิดถึง ความเศร้าของการจากลามันถาโถมเข้ามาเยอะมาก แต่ไม่ค่อยเป็นอะไรเท่าไหร่ค่ะ
จาเดือนที่2 ฝันเห็นทุกคืน ทุกครั้งที่นอนเป็นภาพความจำ ความจำของในอดีตเฉยๆ เราร้องไห้เพราะคิดถึง คิดถึงมากๆ ยิ่งมาเปิดTT เจอเพลง past lives เราร้องไห้แตกกระเจิงมาก เป็นแบบนี้เรื่อยๆ เขาสู่เดือนที่3
จนย่างเข้าสู่เดือนที่4 เราฟังธรรมมะจากหลววพ่อปราโมท ก่อนหน้านี้ชอบฟังธรรมมะอยู่แล้วด้วยค่ะ เลยพอมีเข้าใจเรื่อบุญอยู่นิดๆหน่อย
เราเลยตั้งใจรักษาศีล5 เพราะการรักษาศีล5ได้บุญมากกว่าการทำทานมากๆๆค่ะ ก่อนกินเข้าใจ ก่อนเข้าเที่ยง ก่อนนอนก็ตั้งใจว่าจะรักษาศีล5ให้ได้ ถ้าจะตายก็ให้ตายไปด้วยใจที่รักษาศีล5นี่แหละ และเราก็อุทิศให้แม่ค่ะ โดยที่เราไม่รู่เลยว่าจะถึงแม่มั้ย เพราะจะมีอยู4ภพภูมิที่บุญส่งไปไม่ถึง แต่เราตั้งใจของเราค่ะ
จนใกล้จะถึงที่ทำบุญ100วัน จริงเลยมาเยอะมากๆ แต่เราตกลงกับน้องว่าเอาให้ผ่านพ้นช่วงฤดูฝนไปก่อน เพราะทำบุญ100วันเสร็จก็จะไปลอยอังคารเลย
จนวันที่11 ที่ผ่านมา เราฝันว่า กำลังทำบุญ100วัน เราเดินเข้าไปในพิธีแล้วสายตาก็พลันไปมองผู้หญิงคนนึง คนนี้ทำไมหน้าคุ้นจัง เอ๊ะ นี่แม่นิ เป็นแม่ที่รูปลักษณ์ดีมากๆ ผิวขาวผ่อง แก้มอมพูๆ เนื้อตัวอิ่มเอิบ ใส่เสื้อแขนสั้นลาบลูกไม้สีน้ำเงิน เราตกใจ แม่ แล้วแม่จากไปแล้วนี่ แล้ว แล้วมาได้ยังไง เราคืดในใจในความฝัน แล้วแม่ก็เอาพานที่บนพานนั้นมีขนมตะโก้ล้นๆ แม่อมยิ้มแววตามีความสุข แล้วถอยหลังออกไป แล้วเราก็ตื่นขึ้น
เราตื่นขึ้นมาพร้อมกับการปลดล็อคในใจ ครั้งในเราไม่ได้ฝันแบบภาพจำ และดูเหมือนแม่เข้าฝันมาเพื่อบอกเราโดยเฉพาะ
เราเลยมีความรู้สึกว่า ไม่เศร้าเเล้ว มีสติ แล้วเข้มแข็ง เเละตั้งใจที่จะรักษาศีล และบุญอื่นๆที่สูงกว่าและอุทิศให้แม่เรื่อยๆไป
ตอนนี้ที่เข้ามาพิมพ์มาเล่า เพราะอยากจะเก็บเป็นไดอารี่เล็ก เรื่องราวที่ไม่กล้าบอกใคร เอาไว้ให้อ่านเอง
ให้เป็นเรื่องเล่าเล็กๆนะคะ
แท็กผิดยังไง ขออภัยด้วยนะคะ😙😙😙
เล่าเรื่องการจากไปของแม่
แม่จากไปต้นมิถุนาค่ะ ด้วยอาการหลายอย่าง
เรากลับบ้านไปประมาณกลางเดือนพฤษภา ใจตอนนั้นแบบอยากกลับๆๆๆ มากๆ ทั้งๆที่มีเวลาว่างแค่2วันก่อนที่จะทำงานนานๆหนักๆ เราเลยกลับบ้านแบบกะทันหันไม่ให้ใครรู้ ก่อนหน้านี้ก็พอรู้ว่าแม่ป่วยเพราะโทรคุยกัน แต่น้องสาวก็ไปดูแลแล้ว ก็ไม่ห่วงอะไร
พอไปถึบ้านปุ๊บ เจอแม่ที่นอนป่วยปั๊บ เราตกใจกับภาพที่เห็น
แม่อนป่วยหน้าทีวี ตัวผอมแฟ้งแทบจะติดกระดูก สูงประมาณ150 แต่น้ำหนัก32ค่ะ หลักจากที่ชั่งตอนไปรพ. ผมขาว เสียงแหบพร่า ตาเหลือง นี่แม่เราเหรอ เราสตั๊นไปแปบ ได้คุยว่าไปหาหมอและให้ยามากินแบบนี้1อาทิตย์แล้ว และกินข้าวได้แค่วันละช้อน เขาว่าแบบนั้นนะ กินข้าวไม่ได้ เร่เลยซื้อข้าว ขนม นมบำรุงไปให้ และออกมาจากบ้านพักนึงมาตั้งสติ เราจะทำยังไงดีนะ มีเวลาแคาคืนเดียว พรุ่งนี้จะต้องกลับแล้ว เลยโทรหาเพื่อนรุ่นพี่2คนทราเขาเคบเล่าการเลี้ยงดูคนแห่แบบตัวผอมๆกกินข้าวไม่ได้ เขาก็บอกมาว่าให้ทำแบบนั้นๆนะ
ตอนค่ำของวันนั้นเราไถต๊อกต๊อกเล่นเจอดูคนนึงเป็นผู้ชายหล่อๆ เราFL เขาเพราะความหล่อ5555
เลยทักไปดูดวงเล่นๆหาที่พึง 3ประโยคแรกกับราคาแรกที่เราถามคือตรง แม่นไปหมด เราเลยเลือกดูต่อ เสียอีก1ราคา แบบโทรคุยกัน มีอยู่คำถามนึงที่เราเคยดูกับหมอดูที่ดูๆกันประจำแต่ไม่ได้ดูแล้วนะ เราถามเกี่ยวกับตัวเลข
เราถามว่า เราอ้ะ เห็นเวลาเป็นเลขคู่ตลอดๆเลย เข่น 17.17 00.00 11.11 คือหันไปดูแบบกี่โมงแล้ว ตื่นนอน จะเห็นเป๊ะๆแบบนี้ตลอดเลย หมอดูคนที่เคยดูประจำๆบอกว่าจะมีคน2คนเข้ามาในชีวิตในเรื่องความรักนะ เราก็ว่าเราเจอแล้วนะ
แต่หมอดูผู้ชายคนนี้เขาดูให้แล้วบอกว่า เลขแบบนี้ในทางโหราศาสตร์หมายถึง แม่ สุขภาพของแม่ เราอึ้งไปเลย น้ำตาไหล เหมือนทุกอย่างมาประมวลแล้วเราถึงบางอ้อ นี่คือสัญญาณ พลังงานหรืออะไรบางอย่างที่บอกเราเหรอเนี่ยะ การทำนายกับภาพที่เราเห็นคือใช่เลย เรามัวแต่สนใจเรื่องคู่ เรื่องคนรัก คิดว่าเป็นเรื่องนั่น แต่จริงๆคือ แม่
แล้ววันก่อนกลับเราเลยให้น้องสาวมารับไปอยู่ด้วย แต่แม่ไม่อยากไป เพราะเป็นห่วงพ่อ พ่อที่เป็นอัลไซเมอร์ เราเลยบังคับให้ไป พร้อมกับให้น้องสาวมารับตอนนั้นเลย
และนั่นคือการเห็นหน้าและเสียงครั้งสุดท้าย ของแม่
ระหว่างนี้เราคุยถามไถ่ถึงอาการตลอดๆจากน้องสาวๆทั้งวันเพราะเราห่วงมากๆ เราไม่ได้ที่จะโทรคุยกับแม่เลย เพราะน้องบอกว่าเขาจะนอน อย่างเดียวเลยให้พักผ่อน จาวันที่3ที่ไปอยู่กับน้องสาว แม่ก็โทรมา เสียวสดใสเเจ่มมาก55 เราเลยเบาใจขึ้น
และนั่นคือครั้งสุดท้ายที่ได้ยินเสียง
วันที่4น้องสาวบอกพาไปรพ.แล้วนะ แม่เขาบ่นว่าอยากไปเอง ถ้าเกิดเขาพูดว่าอยากไป คือมันสุดแล้วจริงๆ เพราะปกติแม่เราอดทนและเเละเข้มแข็งจริงๆ ขนาดขาเป็นฝียังฝืนไปทำงานว่ายเลนไปรับจ้างถางป่าโกงกางในหน้าฝนได้จนฝีหายดี นั่นเป็นภาพที่เราเห็นและจำได้ดี
เรารับรู้และไปทำงาน น้องเรารายงานเราเป็นระยะๆ ระหว่างนี้ตอนค่ำ เรานั่งรถไฟฟ้ากลับบ้าน เรายืนอยู่แล้วเห็นภาพผู้หญิงกลางคนนั่งหลับพิงไหล่ผู้ชายคนนึงซึ่งน่าจะเป็นลูก ลักษณะคนนั้นคล้ายๆแม่ของเรา อาการของเค้าดูอ่อนเพลียมาก ในมือลูกชายมีซองกระดาษเป็นชื่อรพ.เราก็คิดว่าคุณแม่ของเขาน่าจะกลับมาจากหาหมอ ตอนนั้นเราน้ำตาซึมกัดฟันและอยากร้องไห้ แม่เราจะอาการอย่างนี้ไหมนะ จะเหนื่อยจะเพลียแบบนี้ไหมนะ มันจุกในใจจริงๆ
วันต่อมาน้องบอกว่าต้องให้เลือดด่วาต่อเนือง3วัน เนื่องจากขาดสารอย่างนึง
ให้เลือดวันที่2 ปรากฎว่าเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด ตอนนี้เราเริ่มอยู่ไม่สุขแล้ว ได้ยินเสียงแจ้งเตือนของโทรศัพท์ทีนึงก็สะดุ้งและรีบเปิดดูด้วยความกลัว มีแต่อาการแย่ลงเรื่อยๆ ใจเรามันบอกลึกๆแบบไม่อยากยอมรับว่า อาจจะใกล้ถึงเวลาแล้วนะ แล้วเราก็เริ่มรั้สึกถึงบรรยากาศรอบข้าง มันซึมๆ ทำไมอากาศมันชวนเศร้านักนะ มีแต่ความขมุกขมัว ไม่สดใสเลย จนตี2ของวันต่อมา น้องเร่าส่งข้อความมาบอกว่าปอดติดเชื้อต้องเจาะปอด เราก็แบบแย่ลง กลัวการจากไปจริงๆ จนตี5กว่าๆ น้องเร่โทรมาแต่เราไ่ม่ได้รับสาย เราโทรกลับไป น้องจะถามว่าให้ปั๊มหัวใจไหม หมอเขาจะลองเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ แต่น้องน้องเลยโทรหาเราเพื่อถามความคิดเห็นแต่ไม่ได้รับ น้องเลยตัดสินใจว่าไม่ปั๊มเพราะกลัวแม่เจ็บและไม่อยากยื้อแล้ส
แล้วก็น้องบอกว่า เมื่อกี้นี้หมอและพยาบาลเขาปิดม่านและเข้าไปทำอะไรกันหลายคน โดยที่ไม่ไให้น้องเข้าไปดู เราวางสาย และน้องก็ส่งข้อความต่อว่า หมอบอกว่าให้แจ้งญาติได้เลยนะ หมอพยายามสุดๆแล้ว ตอนนี้เหลือแค่สัญญาณชีพหรืออะไรนะเราจำไม่ได้ ว่าถ้าสัญญาณในเครื่องนี้มันดับหมอจะเอาเครื่องช่วยหายใจนี้ออก เราเลยรับกลับบ้าน น้องบอกว่าเหมือนเขารอเราอยู่
เรามาถึงตอนบ่าย2 ระหว่างทางคือฝนตกหนักสลับแดดออกเป็นช่วงๆ พอใกล้จะถึงจังหวัดเรา แต่ก่อนใจจะฟูจะพองโตมากแบบโอ๊ยดีใจจะถึงบ้านเกิดปล้ว จังหวัดที่เรารัก แต่ครั้งนี้เรากลับกลัว หดหู่ ยิ่งใกล้รพ.เท่าไหร่ยิ่งกลัว ก้าวขาลงจากรถก็ยิ่งกลัว มันกลัวภาพที่จะเห็น
เเล้วก็จริงๆ เราไปเห็นภาพแม่เราคือร้องไห้น้ำตาแตกเลย
สายระโยงระยางบนร่างกายเต็มไปหมด เราร้องไห้ข้างเตียง2ชั่วโมงกว่าๆ จับมือเขา ลูบหน้าผากเขา เขายังตัวอุ่นๆอยู่ ในใจคิดว่าน่าจะยังรู้สึกอยุ่ เราเลยเปิดยูทูปธรรมมะพระเทศก่อนจากไปที้ข้างหูให้ฟังแล้วออกมา ข้างนอกห้อง พี่ๆน้องๆ ญาติต่างมารอดูอาการกันและจะรับศพกลับเพราะคิดว่าไม่น่านาน แต่จนแล้วจนเล่าถึง2ทุ่มแล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะไป เราเลยให้ทุกคนกลับเพราะแต่ละคนก็มาจากการทำงานและดูเหนื่อยมากๆ และเราคิดว่าน่าจะไม่ได้ไปหรอกคืนนี้ น้องเฝ้าดูแลมาหลายวัน ร่างกายล้ามากๆ เราเลยอยู่ต่อเเละให้ทุกคนกลับ เกิดอะไรขึ้นเราจัดการได้ แต่มีป้าเราค่ะ ไม่ใช่ป้าแท้ๆนะ แต่เป็นคนที่ยายเราเลี้ยงและดูแลจนโต เขาผจญความลำบากมาด้วยกัน ป้าเราไม่กลับ เขาจะอยู่ช่วยเราจัดการ
ระหว่างนี้ก็ได้เห็นคนป่วยอาการหนักๆ และได้พูดคุยกับคนที่มาเฝ้าไข้คนอื่นๆ ไปพลางๆ
ระหว่างนี้พอได้มาเห็นภาพตรงนี้จริงๆ ใจมันก็รู้สึกว่า เออ มันก็ไม่ได้แย่มากนี่นา ก่อนหน้านั้นทุกข์เพราะความคิดจริงๆ เราเริ่มทำใจได้ และเข้มแข็งขึ้น เห็นภาพตรงหน้าแล้ว เราเจ็บปวดร่างกายจริงๆ ภาวนาแบบในใจที่คิดแบบไม่ดีเลยว่าอย่าตื่นมานะ ถ้าตื่นขึ้นมาจะเจ็บปวดร่างกายมากแน่ๆ ระหว่างนี้ป้าเราก็ไปจับตามเนื้อตัวเรื่อยๆ เขารักของเขาอะเนอะ พี่สาวที่รักน้องสาวมากๆ เขาลำบากด้วยกันมากๆมาด้วยกันตั้งแต่เล็กยันโต ความรักความผูกพันธ์ที่เราเข้าใจไม่ได้ ทั้งที่ใจเราจริงไไม่อยากให้ไปจับเลย กลัวเขาจะมีห่วง จะมีสัญญสุดท้ายที่จะไปสู่ภพภูมิดีๆไม่ได้
ป้าเขาบอกว่าอาจจะไปใันพุธเพราะเป็นวันเกิดเขา แล้วก็จริงๆค่ะ
เที่ยงคืน15นาที เข้าสู้วันพุธ พยาบาลบอกว่าคนไข้จากไปแล้วนะคะ นาทีนั้นตอนนั้นไม่ร้องไห้เลย รูสึกโล่งมากๆๆ แบบแม่เราไม่เจ็บตัวเเล้วนะ เขาไปสบายดีแล้วนะ เราไม่ร้องไห้เลย พร้อมกับทำเรื่องวิ่งไปตามอาคารต่างๆแบบคนมีพลัง และเช่าโรงแรมนอนหลับอย่างสนิท เพราะเรานอนไม่หลับไมาหลายวัน
2511 2566 55
ใช่ค่ะ ลงท้ายด้วยเลขคู่หมดเลย
ความแปลกใจ ไม่น่าเชื่อกับตัวเลขเวลาที่เราเห็นเป็นเลขคู่ทั้งหมด
งานศพถูกใจไปอย่างเรียบร้อย เราไม่เสียใจ ไม่ร้องไห้ ไม่อะไรเลย เพราะตอนแม่ยังมีขีวิต เราตั้งใจไว้ว่า เราจะไม่เป็นแค่ลูกที่เดินไปเดินมาที่ไม่ได้ช่วยอะไรแม่เลย เราช่วยเหลือเรื่องเงิน อยากได้โน่นได้นี่ เรากล้าพูดได้เลยค่ะว่า เราเสกให้เลย เราจะเป็นลักที่เป็นที่พึ่งให้แม่ให้ได้ และมันจริงๆนะคะ ชีวิตเราไม่เคยตกต่ำเลย จะอดก็ไม่อด มีงานเข้ามาตลอดๆ อันนี้เป็นสิ่งที่เหลือเลื่อเหมือนกัน
ที่เราตั้งใจเป็นที่พึ่งให้แม่แบบนั้น อย่างที่เล่ามาเลยค่ะ เหตุกาณ์ที่เเม่เป็นฝีที่ขาแล้วไปทำง่ายว่ายเลนไปถางไปโกงกาง เพื่อหาเงินมาดูแลเราและน้องๆ แแม่เรารับผิดชอบมากๆค่ะ และภาพจำความดีหลายๆอย่างที่แม่ทำไว้หลายๆอย่างมันทำให้เราตั้งใจที่จะเลี้ยงดูจะทดแทนท่านค่ะ
แต่ก็มีเหตุการณ์ลี้ลับด้วย มั้งคะ 55 หรือเราคิดไปเองไม่รู้ ไม่เล่าดีกว่าค่ะ555
แม่เราทำดีไว้น่าจะเยอะเลยค่ะ ภาพแขกที่มาร่วมงาน 90% เราไม่รั้จักเลยค่ะ อาจเป็นเพราะมาอยู่กทม.จะ10ปีแล้วมั้งคะ ยิ่งวันสุดท้ายและวันปลงคนมาเยอะจริงๆ มาพูดมาบอกเราว่าแม่เราไปช่วยเขาทำตรงโน้นตรงนั้นนะ อะไรอย่างนั้นนะ เราก็ได้แต่ดีใจและไปบอกแม่ งานศพนี้เราไม่มีความเศร้าเลยคาคาะ เพราะแขกเหรื่อที่มาเหมือนมาบอกมาเพราะคุณงามความดูของแม่ทั้งนั้นเลย ตอนนั้นฝนตกมากๆแต่คนก็มาเยอะมากเหมือนกัน งานผ่านไปได้ด้วยดีมากๆค่ะ สาเหตุนึงก็เป็นเพราะน้องๆด้วยค่ะ เรามีพี่น้อง4คน เราเป็นพี่คนโตสุด น้องเราช่วยงานกันดีไม่มีเกี่ยงอะไรกันเลยค่ะ
เราว่าเราโชคดีมากที่มีพี่น้องดีที่ซัพพอร์ตกันดี
มีเหตุการณ์วันปลงแบบที่เราคิดไปเองว่ามันมหัศจรรย์ที่อยากเล่า
พยากรณ์อากาศฝนตกหนักมากค่ะ เพราะพายุเข้าด้วย เรากังวลว่าจะทำยังไงดี แต่พอใกล้จะปลง ฝนแล้งค่ะ วนรอบเมรุฝนแล้งค่ะ จนเอาเข้าเผาเสร็จฝนก็้ตกแบบตกหนักมากๆๆๆๆๆ แล้วพอจะเก็บกระดูกฝนก็หยุดค่ะ เก็บเสร็จฝนก็ตกลงมาทันทีแบบหนักเลยค่ะ หลายคนแบบแบบแซวๆ แม่เราบุญเยอะนะนิห้ามฟ้าห้ามฝน5555
มีเพื่อนคนนึงที่พ่อเขาจากไปได้5ปี เขาก็บอกวว่า ตอนนี้ก็สดใสร่าเริงแหละ เพราะมีคนอยู่ด้วย เดั๋ยวหลังจากนั้นสิ
เราก็คิดในใจ ไม่อ้ะ ไม่จริง แบบว่าฉันน่ะ พลังใจดีมากน่ะ
แต่พอเสร็จจากงานทุกอย่างเสร็จ กลับมาบ้าน ความเศร้ามันถาโถมมาจริงๆค่ะ ความหนาวจากฝนที่ตก เสียงสัตว์ร้องระงม ความเย็นๆ มองดูรูปภาพ เเล้วได้แต่คิดว่า จริงเหรอๆ นี่จากไปแล้วจริงๆเหรอ ความคิดถึง ความเศร้าของการจากลามันถาโถมเข้ามาเยอะมาก แต่ไม่ค่อยเป็นอะไรเท่าไหร่ค่ะ
จาเดือนที่2 ฝันเห็นทุกคืน ทุกครั้งที่นอนเป็นภาพความจำ ความจำของในอดีตเฉยๆ เราร้องไห้เพราะคิดถึง คิดถึงมากๆ ยิ่งมาเปิดTT เจอเพลง past lives เราร้องไห้แตกกระเจิงมาก เป็นแบบนี้เรื่อยๆ เขาสู่เดือนที่3
จนย่างเข้าสู่เดือนที่4 เราฟังธรรมมะจากหลววพ่อปราโมท ก่อนหน้านี้ชอบฟังธรรมมะอยู่แล้วด้วยค่ะ เลยพอมีเข้าใจเรื่อบุญอยู่นิดๆหน่อย
เราเลยตั้งใจรักษาศีล5 เพราะการรักษาศีล5ได้บุญมากกว่าการทำทานมากๆๆค่ะ ก่อนกินเข้าใจ ก่อนเข้าเที่ยง ก่อนนอนก็ตั้งใจว่าจะรักษาศีล5ให้ได้ ถ้าจะตายก็ให้ตายไปด้วยใจที่รักษาศีล5นี่แหละ และเราก็อุทิศให้แม่ค่ะ โดยที่เราไม่รู่เลยว่าจะถึงแม่มั้ย เพราะจะมีอยู4ภพภูมิที่บุญส่งไปไม่ถึง แต่เราตั้งใจของเราค่ะ
จนใกล้จะถึงที่ทำบุญ100วัน จริงเลยมาเยอะมากๆ แต่เราตกลงกับน้องว่าเอาให้ผ่านพ้นช่วงฤดูฝนไปก่อน เพราะทำบุญ100วันเสร็จก็จะไปลอยอังคารเลย
จนวันที่11 ที่ผ่านมา เราฝันว่า กำลังทำบุญ100วัน เราเดินเข้าไปในพิธีแล้วสายตาก็พลันไปมองผู้หญิงคนนึง คนนี้ทำไมหน้าคุ้นจัง เอ๊ะ นี่แม่นิ เป็นแม่ที่รูปลักษณ์ดีมากๆ ผิวขาวผ่อง แก้มอมพูๆ เนื้อตัวอิ่มเอิบ ใส่เสื้อแขนสั้นลาบลูกไม้สีน้ำเงิน เราตกใจ แม่ แล้วแม่จากไปแล้วนี่ แล้ว แล้วมาได้ยังไง เราคืดในใจในความฝัน แล้วแม่ก็เอาพานที่บนพานนั้นมีขนมตะโก้ล้นๆ แม่อมยิ้มแววตามีความสุข แล้วถอยหลังออกไป แล้วเราก็ตื่นขึ้น
เราตื่นขึ้นมาพร้อมกับการปลดล็อคในใจ ครั้งในเราไม่ได้ฝันแบบภาพจำ และดูเหมือนแม่เข้าฝันมาเพื่อบอกเราโดยเฉพาะ
เราเลยมีความรู้สึกว่า ไม่เศร้าเเล้ว มีสติ แล้วเข้มแข็ง เเละตั้งใจที่จะรักษาศีล และบุญอื่นๆที่สูงกว่าและอุทิศให้แม่เรื่อยๆไป
ตอนนี้ที่เข้ามาพิมพ์มาเล่า เพราะอยากจะเก็บเป็นไดอารี่เล็ก เรื่องราวที่ไม่กล้าบอกใคร เอาไว้ให้อ่านเอง
ให้เป็นเรื่องเล่าเล็กๆนะคะ
แท็กผิดยังไง ขออภัยด้วยนะคะ😙😙😙