ปีใหม่นี้อยากเขียน Recap เรื่องการซ่อมชาวน้อลs
ไมโล พี่ใหญ่สุด
ปีนี้ 14 ขวบแล้วนะ ปกติแล้วก็เป็นหมาขี้งอนมาก แต่เพิ่งเริ่มมางอนตอนแก่ ปีนี้น่าจะป่วย 2 ครั้ง
ครั้งแรกคือเมื่อต้นปีที่สังเกตอาการเห็นคือเป็นไข้และสั่น เมื่อไปพบหมอก็ตรวจพบว่า
มีพยาธิเม็ดเลือดที่รุนแรง ตัวเทพทั้ง 2 ตัว ซึ่งมาจากเห็บหมัดหรือยุงกัด ซึ่งเห็บหมัดพวกนี้อาจจะกัดไปแต่ตอนที่ยังเด็กๆ
แล้วพอแก่ภูมิต้านทาน และความเสื่อมทุกอย่างของร่างกายก็นำมาซึ่งการแสดงอาการ หมอบอกว่าถ้าไม่ตอบสนองกับยาที่ให้
อาจจะมีชีวิตอยู่แค่หลักวัน โดนฉีดยาไปหลายเข็ม และกินยาอีกเป็นเดือน ซึ่งมียาตัวหนึ่งที่หมอบอกว่าจะแสบหน่อย
พอฉีดยาตัวนั้นก็มีการยกหัวขึ้นมองหน้าหมอแบบเคืองๆ นิดนึง
พอครบกำหนดเวลาที่จะตรวจเลือดเช็คค่าการติดเชื้ออีกครั้ง ไมโลก็ไม่ยอมขึ้นรถไปหาหมออีกแล้ว
พอบังคับขึ้นไปก็ตัวสั่นมาก สั่นจนเราไม่กล้าพาไปหาหมอกลัวช็อคระหว่างทาง
ทั้งๆ ที่สัญญากันแล้วว่าถ้าหายจะพาไปทะเลนะ และตอนที่ป่วยก็แอบพาไปมองทะเลจากในรถแล้วด้วย
เราอาจจะดูคลิบที่จัมโบ้กลูต้าสตอรีไปชายหาดแล้วใจฟู เลยอยากพาน้อลๆ ของเราไปบ้าง
แต่ไมโลคงไม่อยากไปเท่าไร และนึกในใจว่าถามตรูหรือยัง 555
ส่วนครั้งล่าสุดก็เมื่อปลายพ.ย.และต้นธ.ค. ที่ผ่านมา อยู่ๆ ก็ไม่กินข้าว
ก็คิดว่างอนปกติ งอนเพราะไม่ได้กินตัวแรก หรือเรียกช้า หรืออะไรก็ตามจะงอนอยู่ทั้งวันแล้ววันถัดไปจะกิน
แต่ปรากฏว่าวันที่ เดินเข้ามาขอนอนในบ้านและอ้วกเป็นน้ำย่อย ก็ไม่กินข้าวอยู่ 6 วัน ทรหดมาก
พาไปหาหมอก็ไม่ได้เพราะฝนตกหนักตลอด ระหว่างทางไปคลินิกก็มีน้ำท่วม ฝ่าไปไม่ได้
จึงปรึกษาสัตวแพทย์ทางโทรศัพท์และประคองอาการไปด้วยการให้กินน้ำเกลือแทน
รอบนี้ไม่ได้พาไปหาหมอแต่ไปซื้อยาจากคลีนิคมา พบครบ 6 วัน fasting ไมโลก็กลับมากินข้าวเอง เหตุการณ์นี้เยียวยาได้ด้วยอาหารเปียกของรอยัล
คะนินยังๆ วีรกรรมยังไม่หมด คืนสิ้นปี ที่เตรียมน้อลไว้ในกรงไม่ให้กลัวพลุเตลิด แต่ปกติก็ไม่กลัวกันเท่าไร
มีบุญรอดตัวเดียวที่กลัว แต่ถ้าเห็นเจ้าของก็จะทำดราม่าเป็นกลัว
แต่กลายเป็นว่า เพราะมีพลุดัง เขาก็มาออกันที่ประตูกรง แล้วคงจะมีเหตุการณ์กระแทกไหล่กัน
คนมันไม่ถูกกันอยู่แล้ว เลยวางมวยกันหลายยก วิ่งไปดูก็ช็อคมาก เพราะไมโลโดนหย๋อมแหย๋มคร่อมอยู่และที่ปากมีเลือด
พอเปิดประตูออกมาหย๋อมยังไม่ยอมให้ไมโลไปโดยดี โจมตีอีก เฮ้อออออ...
สรุปได้เลือดกันไปเยอะอยู่ ฉลองส่งท้ายปีเก่าตอนรับปีใหม่ ไมโลไม่เป็นอะไรมาก มีแผลที่หู
ซึ่งหย๋อมแหย๋มที่เป็นตัวเปิดนี่เลือดเต็มไปครึ่งหน้า ช็อคมาก แต่พบบาดแผลหนึ่งตำแหน่งเหมือนกัน คือบนหัวคิ้ว
ป.ล. แก่แล้วดูอ่อนโยนขึ้นนะไมโล
มาที่หย๋อมแหย๋ม วัยย่างเข้า 13 ปี ชายแก่ที่พยายามจะเป็นจ่าฝูงมาทั้งชีวิต
พยายามอยู่เหนือไมโล ซึ่งไมโลก็ยอม
แต่บางครั้งหย๋อมก็ทำเกินไปจนไมโลต้องปกป้องตัวเอง หย๋อมอ่ะสู้ตาย แต่หน่วยก้านไม่ได้
ถ้าปล่อยให้สู้จนแพ้ชนะ ก็คิดว่าคงจะสู้จนตายจริงๆ เพราะเค้าไม่เคยร้องไห้ หรือร้องยอมแพ้เลย
ทั้งๆ ที่ตัวเองบาดเจ็บสาหัสกว่าคนอื่นทุกที
แต่ก็เป็นตัวหาเรื่องคนอื่นก่อนนะ
เฮ้อ...ไม่รู้จะเห็นใจใครดี
หย๋อมแหย๋มผู้ไม่เคยป่วยไปหาหมอด้วยอาการเจ็บไข้เหมือนหมาตัวอื่นๆ
แต่ไปหาหมอจากบาดแผลสนามรบทั้งหมด
และไม่เคยร้องสักแอะ
แววตาแข็งกร้าวสู้ตายมาก
แหย๋มเฮ้ยยยย...ไปกินข้าวให้อ้วน ไปยกเวท ไปซ้อมมวยก่อน แล้วค่อยมาสู้ แกมันแพ้รูปร่าง แพ้การต่อสู้ทุกอย่าง มีแต่ใจอย่างเดียวที่ไม่ยอมแพ้
อันตพาลหย๋อม นอกจากจะอันตพาลแล้ว
พอยิ่งแก่ยิ่งดีด งงมาก ดีดเกิ๊น
มาถึงคิวหยุ๋มหยิ๋ม เป็นพี่น้องกับหย๋อมแหย๋ม
หยุ๋มหยิ๋มสมชื่อ หยุ๋มหยิ๋มมากๆ
ใครเดินผ่านก็ไม่ได้ จะโวยวาย แว๊ดๆ ว่าเค้า
เหมือนมนุษย์ป้า ไปหมด อารมณ์สวิงสุดๆ
.
ปีนี้ป้าหยุ๋มก็ป่วย 2 รอบ
ป่วยแรก ตูดเป็นแผลจนมีแมลงวันเข้าไปไข่
สงสารมากๆ ไม่ได้ดูแลใกล้ชิดเลยไม่เห็น
เพราะขนเยอะ บังแผลที่ตูด
แต่ก็ไปหาหมอทำแผลและผ่านไปด้วยดี
ให้การร่วมมือในการล้างแผลที่แม่ทำให้ทุกวัน
พอเรียกปุ๊บก็จะมานอนหงายยื่นตูดให้ล้างเหมือนชอบยังไงยังงั้น
ป่วยที่ 2 คือมีแผลในหูจากการเกาจนบวม
และเหมือนโป่งไม่ยุบ จนเหมือนเนื้องอก
ซึ่งหมอบอกว่าต้องทำการผ่าตัดเอาออก
และนำชิ้นเนื้อไปตรวจ ก็เตรียมตัวก่อนผ่าตัด
และหมอให้เซ็นต์ยินยอมถ้าหมาจะเป็นอะไรไป
กลัวมาก เพราะหมาแก่ การวางยาสลบไม่ดี
เค้ามีสิทธิ์ที่จะไม่ฟื้นขึ้นมา
หมอบอกว่าจะใช้ปริมาณที่น้อยมาก
ให้พอดีกับการผ่าตัด ไม่ได้ให้หลับไปนาน
พอส่งหยุ๋มเสร็จก็กลัวกันมากสองคนแม่
กลัวหมาจะไม่ฟื้น แล้วคลินิกก็โทรมาเร็วมาก
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง กลัวมากกว่าเดิมอีก กลัวเค้าจะบอกว่าหยุ๋มเป็นอะไรไปแล้ว เพราะมันเร็วเกินไปหรือเปล่าในการผ่าตัด แต่หมอบอกว่าหยุ๋มฟื้นแล้วววว
What…? เร็วมาก
แต่แผลมันก็ติดเดียวนะ หมอบอกตอนแรกแค่ตัดไปตรวจ แต่พอวางยาสลบดูเห็นมีขั้วของติ่งที่โผล่มาเลยตัดออกทั้งก้อน และผลตรวจก็ออกมาอีกสัปดาห์ว่าไม่ใช่เนื้อร้าย
ระหว่างนั้นก็คิดว่าถ้าเป็นเนื้อร้ายก็คงจะไม่ไปรักษาอะไรเขาเยอะแยะ จะรักษาตามอาการ
เพราะเขายังร่าเริง กินได้ สนุกสนาน
กลัวกว่าถ้านำไปรักษาโดยที่อาการปกติ
เค้าจะไปไวกว่าการรักษาตามอาการ
แต่ก็โชคดีมากที่หยุ๋มไม่เป็นอะไร
ยังออกมาแว๊ดๆ ใส่ตัวอื่ได้อยู่ 5555+
ครั้งนี้เลยพาหยุ๋มไปทะเลเป็นตัวแทนของไมโล
และหยุ๋มเองก็ชอบมาก ชอบนั่งรถเที่ยวด้วย
หยุ๋มนี่เคยเสี่ยงตายมาแล้วหนึ่งครั้งสมัยแรกรุ่น
ที่บ้านเรายังไม่รู้เรื่องยาคุม
ฉีดไปน่าจะแค่รอบเดียว
แต่สังเกตเห็นอาการซึมๆ ก็รีบพาไป
ปรากฏว่ามดลูกอักเสบ และหมอบอกว่าไม่ควรมีการฉีดยาคุมเลย และคนที่ทำงานด้านนี้ก็ควรจะแนะนำให้คนที่มีสัตว์เลี้ยงว่าห้ามฉีด มันเหมือนเป็นการฆ่าหมาทางอ้อม ควรจะทำหมัน ทำแค่ครั้งเดียวทั้งชีวิต (ดีกว่าฉีดยาคุมที่ต้องทำอยู่เรื่อยๆ)
สุขภาพก็ดีกว่าไม่ทำ ซึ่งมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
ชีวิตหลังทำหมันคือร่าเริงมาก
มีแรงวีนคนอื่นเยอะแยะเลย
ป.ล.ทำไมตอนเด็กเหมือนผช จัง
ตัวที่ 3 นู๋เกรียน (เกรียนเป็นพี่น้องกับหยุ๋มและหย๋อม)
ที่เกรียนสมชื่อ แต่พอแก่ตัวขึ้นก็เบาลงเยอะ
อย่างสงครามคืนข้ามปีก็ไม่ได้ร่วมจอยกับเค้า
ปกติ เกรียนจะไม่ทะเลาะกับใครตัวๆ
แต่พอเค้าทะเลาะกัน เกรียนจะลอบกัด
กัดใครก็ได้ ใครอยู่ใกล้ก็กัด 555+
เกรียนนี่ก็ไม่เคยไม่สบายเหมือนกัน เท่าที่จำได้
ไปหาหมอแค่การไปทำหมัน
แต่การทำหมันของเกรียนนั้นต้องผ่าถึงสองรอบ
เพราะรอบแรกหมอผ่าออกมาโดยไม่ได้อันตราซาวก่อน เพราะฟังอาการหมาตามคำที่เจ้าของเล่า
แต่พอเปิดออกมา หมอไม่แน่ใจว่าเกรียนท้องหรือเปล่า ความโตของมดลูกมันเท่าขนาดที่หมาจะมีลูกในท้อง หมอเลยให้รอ 1 เดือนแล้วมาอัตตร้าซาวก่อนผ่าอีกรอบ
ปรากฏว่าไม่ได้ท้อง
ชีวิตเนาะเกรียนเนาะ คนมันจะมีเกณฑ์ผ่าตัด 2 รอบอ่ะ แต่ก็ผ่านไปด้วยดี มีร้องหงิงๆ รอบสอง นิดนึง
แต่ก็กลับมาแข็งแรงๆ ไม่มีตัวไหนมีปัญหาเรื่องแผลสักตัวเลย
เกรียนนี่จะเป็นหมาที่เชื่อฟังมากที่สุด
เพราะต้องการให้เรารัก อยากทำตามคำสั่ง อยากเอาใจ อยากโชว์ให้เราเห็นว่าเค้าเก่ง
จะเข้ากรงนอนเองเวลามีฝนตก
เวลาเรียกเข้ากรงก็ไม่ต้องเรียกหลายครั้ง
แถมเปิดประตูเข้าเองได้อีก ขอแค่ให้บอก
เก่งๆ จริงเลยนู้เกรียน
เกรียนมีเนื้องอกที่หน้าและน่าจะที่อื่นเป็นจุดเล็กๆ
เล็กมาก เท่าคอตต้อลบัด ซึ่งไม่ได้โตเร็ว ไม่ได้โตมาก อาจจะแค่อักเสบบางครั้งที่มีการเกาหรือโดนอะไร
ซึ่งเรากับแม่ก็คิดว่าจะไม่ไปรักษาเช่นกัน
เพราะเค้ายังมีความสุข สนุก ร่าเริง อยากให้เค้าใช้ชีวิตตามปกติ ทางนี้ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็จะรักษาตามอาการ
ไม่อยากพรากเวลาของเค้าไปจากการนำไปผ่าตัด
ป.ล.ขอให้เกรียนมีความสุขทุกวันนะเกรียนนะ ขอโทษที่ให้อาหารน้อยกว่าตัวอื่น แต่เกรียนมีไขมันสะสมเยอะ ไม่เป็นไรหรอก
มาถึงตัวที่ 5 มีนามว่าบุญรอด หรือน้อลรอด
ก็ย่างเข้าเดือนหก เฮ้ยยยย ย่างเข้า 12 ปีแล้ว
ตัวนี้ก็ไม่ป่วยแบบหนักๆ
เพราะป่วยมาแล้วตั้งแต่อายุยังไม่กี่เดือน
ป่วยหนักจนเกือบตุย ให้น้ำเกลือเป็นอาทิตย์
บุญรอดเป็นน้องเล็กในครอบครัวของหมาที่บ้าน
เป็นลูกหยุ๋มหยิ๋ม ที่เหลือรอดจากลำไส้อักเสบเพียงตัวเดียว ไม่สู้ใครเลย หงายยอมแพ้ทุกคน
กลัวพลุและฟ้าร้อง ฟ้าผ่ามาก
พอให้เข้ามานอนในบ้านก็เรียบร้อยและพูดรู้เรื่อง
บุญรอดนี่สมกับชื่อบุญรอด
เพราะรู้จักการรักษาเอาตัวรอดเป็นยอดดี
เฝ้าบ้านก็ดี เพราะจะเห่าคนแปลกหน้า
แต่เห่าแล้วถอยหลังนะ
บุญรอดเลยสามารถปล่อยไว้ให้เป็นออดที่บ้านได้
ใครมาจะได้ยินเสียงเค้าเห่าบอก
บุญรอดไม่ป่วยก็จริง แต่ก็มีการเข้าคลีนิคบ่อยอยู่เหมือนกันเพราะเล็บเท้าจิกเข้าไปในเนื้อ และมีติ่งเนื้องอกที่บางครั้งก็อักเสบ
อันนี้เราก็งงนะ ถ้าหมาจรในธรรมชาตินี่เค้าจะทำยังไง ที่เค้าไม่คนมาคอยตัดเล็บให้
แรกๆ แม่ก็ไม่กล้าตัด เพราะเคยตัดโดนเนื้อ
แต่หลังๆ ก็ตัดได้ เพราะถ้าให้หมอตัดให้ก็จะแพงหน่อย 555+
นุ้งรอดตั๊ลล๊าคและไม่ดื้อ(มากเท่าไร)
ตัวที่ 6 พี่โชคดี
น้องหมาจรที่ช่วยมาจากที่ทำงาน
ปีนี้ก็น่าจะ 8 ขวบนะ อยู่ด้วยกันมาเข้าปีที่ 6 ปีแล้ว ก็ป่วยใช้ได้อยู่
เจอกันครั้งแรกก็มาด้วยอาการบาดเจ็บที่มือ น่าจะโดนรถเหยียบ ก็ทำการผ่าตัดเรียบร้อยเหลือ 3 ขา
ส่งเข้ารร K9 เพราะยังหาบ้านไม่ได้ จนจับพลัดจับผลู ทำกรงทำบ้านให้อยู่เฉ๊ย
หมดไปเยอะนะกับเรานะ 555+
แต่พี่โชคก็น่ารัก ให้ความร่วมมือและเจียมตัวเสมอ เพราะจ่าฝูงหย๋อมและไมโลไม่ยอมรับ
เลยต้องมีบ้านเดี่ยวส่วนตัว
ล่าสุดที่บ้านฝนตกหนักก็กลายเป็นพูลวิลล่าไปเลย
พี่โชคนี่ก็เข้าคลินิกหลายรอบ
ตัดขา ทำหมัน หูเป็นน้ำหนวก และล่าสุดปวดเอวจ้า
มีแววว่าจะต้องไปเอ็กซเรย์อีก
ที่สำคัญคือต้องลดน้ำหนักด้วย
เพราะชอบกระโดดกำแพงบ้าน
สงสัยคงล้มลงสักครั้งเลยปวดเอว
แต่ก็ยังไม่วายโดดอยู่อีก
ปีที่ผ่านมาน้ำหนัก 23 กก
หมอบอกให้ลดเหลือหลัก 10 ปลายพอ
ซึ่งก็เห็นควร เพราะมีแค่สามขา
หมอบอกว่าหมาโดยทั่วไปสองขาคู่หน้าจะรับน้ำหนักประมาณ 70% ของน้ำหนักตัว
นี่ขาหายไป 1 ข้าง ก็ค่อยข้างทรงตัวยาก
ซึ่งเราเองก็พยายามบอกพี่โชค
เพราะว่าเชื่อเถอะพี่โชค แกไม่อยากใส่วีลแชร์แน่ๆ เพราะฉะนั้นถนอมขาที่เหลือของตัวเองไว้
ปกติหมาทุกตัวที่บ้านจะเห่าเวลามีสัตว์ร้าย
เช่นงูหรือแมงป่อง แต่ตอนนี้ทุกคนเกษียนแล้ว
เหลือพี่โชคตัวเดียวที่ทำงาน
นี่ภายในหนึ่งเดือนฆ่างูเขียวไปแล้วสองตัว
เราเข้าไปช่วยไม่ทันจริงๆ ช่วยงูนะ ไม่ใช่หมา
แต่หมาก็ช่วยแหละ 555+ เพียงแต่เรารู้ว่างูตัวนั้นไม่มีพิษ ล่าสุดถึงขั้นกระโดดงับงูลงมาจากต้นไม้
เฮ้อ...อนิจจังงูเอ้ย แกก็นะ ไม่ได้ยินที่มันเห่าบ้างหรือไงทำไมไม่หนีไป
ขอบคุณนะพี่โชคที่ไม่ดื้อ และเจียมตัว ให้สิทธิ์กร่างแก่พี่ใหญ่ที่บ้านเสมอ แม้บางครั้งเค้าแทบจะฉี่ใส่หน้าเลย
มีต่ออีก 2 ตัว
เรื่อง(ของ)หมาๆ..."สมาคมหมาจ๋า" 10 ปีต่อมา
ครั้งแรกคือเมื่อต้นปีที่สังเกตอาการเห็นคือเป็นไข้และสั่น เมื่อไปพบหมอก็ตรวจพบว่า
พอฉีดยาตัวนั้นก็มีการยกหัวขึ้นมองหน้าหมอแบบเคืองๆ นิดนึง
แต่ไมโลคงไม่อยากไปเท่าไร และนึกในใจว่าถามตรูหรือยัง 555
ส่วนครั้งล่าสุดก็เมื่อปลายพ.ย.และต้นธ.ค. ที่ผ่านมา อยู่ๆ ก็ไม่กินข้าว
คนมันไม่ถูกกันอยู่แล้ว เลยวางมวยกันหลายยก วิ่งไปดูก็ช็อคมาก เพราะไมโลโดนหย๋อมแหย๋มคร่อมอยู่และที่ปากมีเลือด
สรุปได้เลือดกันไปเยอะอยู่ ฉลองส่งท้ายปีเก่าตอนรับปีใหม่ ไมโลไม่เป็นอะไรมาก มีแผลที่หู
ป.ล. แก่แล้วดูอ่อนโยนขึ้นนะไมโล
พยายามอยู่เหนือไมโล ซึ่งไมโลก็ยอม
แต่บางครั้งหย๋อมก็ทำเกินไปจนไมโลต้องปกป้องตัวเอง หย๋อมอ่ะสู้ตาย แต่หน่วยก้านไม่ได้
ถ้าปล่อยให้สู้จนแพ้ชนะ ก็คิดว่าคงจะสู้จนตายจริงๆ เพราะเค้าไม่เคยร้องไห้ หรือร้องยอมแพ้เลย
ทั้งๆ ที่ตัวเองบาดเจ็บสาหัสกว่าคนอื่นทุกที
แต่ก็เป็นตัวหาเรื่องคนอื่นก่อนนะ
เฮ้อ...ไม่รู้จะเห็นใจใครดี
หย๋อมแหย๋มผู้ไม่เคยป่วยไปหาหมอด้วยอาการเจ็บไข้เหมือนหมาตัวอื่นๆ
แต่ไปหาหมอจากบาดแผลสนามรบทั้งหมด
และไม่เคยร้องสักแอะ
แววตาแข็งกร้าวสู้ตายมาก
แหย๋มเฮ้ยยยย...ไปกินข้าวให้อ้วน ไปยกเวท ไปซ้อมมวยก่อน แล้วค่อยมาสู้ แกมันแพ้รูปร่าง แพ้การต่อสู้ทุกอย่าง มีแต่ใจอย่างเดียวที่ไม่ยอมแพ้
อันตพาลหย๋อม นอกจากจะอันตพาลแล้ว
พอยิ่งแก่ยิ่งดีด งงมาก ดีดเกิ๊น
หยุ๋มหยิ๋มสมชื่อ หยุ๋มหยิ๋มมากๆ
ใครเดินผ่านก็ไม่ได้ จะโวยวาย แว๊ดๆ ว่าเค้า
เหมือนมนุษย์ป้า ไปหมด อารมณ์สวิงสุดๆ
.
ปีนี้ป้าหยุ๋มก็ป่วย 2 รอบ
ป่วยแรก ตูดเป็นแผลจนมีแมลงวันเข้าไปไข่
สงสารมากๆ ไม่ได้ดูแลใกล้ชิดเลยไม่เห็น
เพราะขนเยอะ บังแผลที่ตูด
แต่ก็ไปหาหมอทำแผลและผ่านไปด้วยดี
ให้การร่วมมือในการล้างแผลที่แม่ทำให้ทุกวัน
พอเรียกปุ๊บก็จะมานอนหงายยื่นตูดให้ล้างเหมือนชอบยังไงยังงั้น
ป่วยที่ 2 คือมีแผลในหูจากการเกาจนบวม
และเหมือนโป่งไม่ยุบ จนเหมือนเนื้องอก
ซึ่งหมอบอกว่าต้องทำการผ่าตัดเอาออก
และนำชิ้นเนื้อไปตรวจ ก็เตรียมตัวก่อนผ่าตัด
และหมอให้เซ็นต์ยินยอมถ้าหมาจะเป็นอะไรไป
กลัวมาก เพราะหมาแก่ การวางยาสลบไม่ดี
เค้ามีสิทธิ์ที่จะไม่ฟื้นขึ้นมา
หมอบอกว่าจะใช้ปริมาณที่น้อยมาก
ให้พอดีกับการผ่าตัด ไม่ได้ให้หลับไปนาน
พอส่งหยุ๋มเสร็จก็กลัวกันมากสองคนแม่
กลัวหมาจะไม่ฟื้น แล้วคลินิกก็โทรมาเร็วมาก
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง กลัวมากกว่าเดิมอีก กลัวเค้าจะบอกว่าหยุ๋มเป็นอะไรไปแล้ว เพราะมันเร็วเกินไปหรือเปล่าในการผ่าตัด แต่หมอบอกว่าหยุ๋มฟื้นแล้วววว
What…? เร็วมาก
แต่แผลมันก็ติดเดียวนะ หมอบอกตอนแรกแค่ตัดไปตรวจ แต่พอวางยาสลบดูเห็นมีขั้วของติ่งที่โผล่มาเลยตัดออกทั้งก้อน และผลตรวจก็ออกมาอีกสัปดาห์ว่าไม่ใช่เนื้อร้าย
ระหว่างนั้นก็คิดว่าถ้าเป็นเนื้อร้ายก็คงจะไม่ไปรักษาอะไรเขาเยอะแยะ จะรักษาตามอาการ
เพราะเขายังร่าเริง กินได้ สนุกสนาน
กลัวกว่าถ้านำไปรักษาโดยที่อาการปกติ
เค้าจะไปไวกว่าการรักษาตามอาการ
แต่ก็โชคดีมากที่หยุ๋มไม่เป็นอะไร
ยังออกมาแว๊ดๆ ใส่ตัวอื่ได้อยู่ 5555+
ครั้งนี้เลยพาหยุ๋มไปทะเลเป็นตัวแทนของไมโล
และหยุ๋มเองก็ชอบมาก ชอบนั่งรถเที่ยวด้วย
หยุ๋มนี่เคยเสี่ยงตายมาแล้วหนึ่งครั้งสมัยแรกรุ่น
ที่บ้านเรายังไม่รู้เรื่องยาคุม
ฉีดไปน่าจะแค่รอบเดียว
แต่สังเกตเห็นอาการซึมๆ ก็รีบพาไป
ปรากฏว่ามดลูกอักเสบ และหมอบอกว่าไม่ควรมีการฉีดยาคุมเลย และคนที่ทำงานด้านนี้ก็ควรจะแนะนำให้คนที่มีสัตว์เลี้ยงว่าห้ามฉีด มันเหมือนเป็นการฆ่าหมาทางอ้อม ควรจะทำหมัน ทำแค่ครั้งเดียวทั้งชีวิต (ดีกว่าฉีดยาคุมที่ต้องทำอยู่เรื่อยๆ)
สุขภาพก็ดีกว่าไม่ทำ ซึ่งมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
ชีวิตหลังทำหมันคือร่าเริงมาก
มีแรงวีนคนอื่นเยอะแยะเลย
ป.ล.ทำไมตอนเด็กเหมือนผช จัง
ที่เกรียนสมชื่อ แต่พอแก่ตัวขึ้นก็เบาลงเยอะ
อย่างสงครามคืนข้ามปีก็ไม่ได้ร่วมจอยกับเค้า
ปกติ เกรียนจะไม่ทะเลาะกับใครตัวๆ
แต่พอเค้าทะเลาะกัน เกรียนจะลอบกัด
กัดใครก็ได้ ใครอยู่ใกล้ก็กัด 555+
เกรียนนี่ก็ไม่เคยไม่สบายเหมือนกัน เท่าที่จำได้
ไปหาหมอแค่การไปทำหมัน
แต่การทำหมันของเกรียนนั้นต้องผ่าถึงสองรอบ
เพราะรอบแรกหมอผ่าออกมาโดยไม่ได้อันตราซาวก่อน เพราะฟังอาการหมาตามคำที่เจ้าของเล่า
แต่พอเปิดออกมา หมอไม่แน่ใจว่าเกรียนท้องหรือเปล่า ความโตของมดลูกมันเท่าขนาดที่หมาจะมีลูกในท้อง หมอเลยให้รอ 1 เดือนแล้วมาอัตตร้าซาวก่อนผ่าอีกรอบ
ปรากฏว่าไม่ได้ท้อง
ชีวิตเนาะเกรียนเนาะ คนมันจะมีเกณฑ์ผ่าตัด 2 รอบอ่ะ แต่ก็ผ่านไปด้วยดี มีร้องหงิงๆ รอบสอง นิดนึง
แต่ก็กลับมาแข็งแรงๆ ไม่มีตัวไหนมีปัญหาเรื่องแผลสักตัวเลย
เกรียนนี่จะเป็นหมาที่เชื่อฟังมากที่สุด
เพราะต้องการให้เรารัก อยากทำตามคำสั่ง อยากเอาใจ อยากโชว์ให้เราเห็นว่าเค้าเก่ง
จะเข้ากรงนอนเองเวลามีฝนตก
เวลาเรียกเข้ากรงก็ไม่ต้องเรียกหลายครั้ง
แถมเปิดประตูเข้าเองได้อีก ขอแค่ให้บอก
เก่งๆ จริงเลยนู้เกรียน
เกรียนมีเนื้องอกที่หน้าและน่าจะที่อื่นเป็นจุดเล็กๆ
เล็กมาก เท่าคอตต้อลบัด ซึ่งไม่ได้โตเร็ว ไม่ได้โตมาก อาจจะแค่อักเสบบางครั้งที่มีการเกาหรือโดนอะไร
ซึ่งเรากับแม่ก็คิดว่าจะไม่ไปรักษาเช่นกัน
เพราะเค้ายังมีความสุข สนุก ร่าเริง อยากให้เค้าใช้ชีวิตตามปกติ ทางนี้ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็จะรักษาตามอาการ
ไม่อยากพรากเวลาของเค้าไปจากการนำไปผ่าตัด
ป.ล.ขอให้เกรียนมีความสุขทุกวันนะเกรียนนะ ขอโทษที่ให้อาหารน้อยกว่าตัวอื่น แต่เกรียนมีไขมันสะสมเยอะ ไม่เป็นไรหรอก
ก็ย่างเข้าเดือนหก เฮ้ยยยย ย่างเข้า 12 ปีแล้ว
ตัวนี้ก็ไม่ป่วยแบบหนักๆ
เพราะป่วยมาแล้วตั้งแต่อายุยังไม่กี่เดือน
ป่วยหนักจนเกือบตุย ให้น้ำเกลือเป็นอาทิตย์
บุญรอดเป็นน้องเล็กในครอบครัวของหมาที่บ้าน
เป็นลูกหยุ๋มหยิ๋ม ที่เหลือรอดจากลำไส้อักเสบเพียงตัวเดียว ไม่สู้ใครเลย หงายยอมแพ้ทุกคน
กลัวพลุและฟ้าร้อง ฟ้าผ่ามาก
พอให้เข้ามานอนในบ้านก็เรียบร้อยและพูดรู้เรื่อง
บุญรอดนี่สมกับชื่อบุญรอด
เพราะรู้จักการรักษาเอาตัวรอดเป็นยอดดี
เฝ้าบ้านก็ดี เพราะจะเห่าคนแปลกหน้า
แต่เห่าแล้วถอยหลังนะ
บุญรอดเลยสามารถปล่อยไว้ให้เป็นออดที่บ้านได้
ใครมาจะได้ยินเสียงเค้าเห่าบอก
บุญรอดไม่ป่วยก็จริง แต่ก็มีการเข้าคลีนิคบ่อยอยู่เหมือนกันเพราะเล็บเท้าจิกเข้าไปในเนื้อ และมีติ่งเนื้องอกที่บางครั้งก็อักเสบ
อันนี้เราก็งงนะ ถ้าหมาจรในธรรมชาตินี่เค้าจะทำยังไง ที่เค้าไม่คนมาคอยตัดเล็บให้
แรกๆ แม่ก็ไม่กล้าตัด เพราะเคยตัดโดนเนื้อ
แต่หลังๆ ก็ตัดได้ เพราะถ้าให้หมอตัดให้ก็จะแพงหน่อย 555+
นุ้งรอดตั๊ลล๊าคและไม่ดื้อ(มากเท่าไร)
น้องหมาจรที่ช่วยมาจากที่ทำงาน
ปีนี้ก็น่าจะ 8 ขวบนะ อยู่ด้วยกันมาเข้าปีที่ 6 ปีแล้ว ก็ป่วยใช้ได้อยู่
เจอกันครั้งแรกก็มาด้วยอาการบาดเจ็บที่มือ น่าจะโดนรถเหยียบ ก็ทำการผ่าตัดเรียบร้อยเหลือ 3 ขา
ส่งเข้ารร K9 เพราะยังหาบ้านไม่ได้ จนจับพลัดจับผลู ทำกรงทำบ้านให้อยู่เฉ๊ย
หมดไปเยอะนะกับเรานะ 555+
แต่พี่โชคก็น่ารัก ให้ความร่วมมือและเจียมตัวเสมอ เพราะจ่าฝูงหย๋อมและไมโลไม่ยอมรับ
เลยต้องมีบ้านเดี่ยวส่วนตัว
ล่าสุดที่บ้านฝนตกหนักก็กลายเป็นพูลวิลล่าไปเลย
พี่โชคนี่ก็เข้าคลินิกหลายรอบ
ตัดขา ทำหมัน หูเป็นน้ำหนวก และล่าสุดปวดเอวจ้า
มีแววว่าจะต้องไปเอ็กซเรย์อีก
ที่สำคัญคือต้องลดน้ำหนักด้วย
เพราะชอบกระโดดกำแพงบ้าน
สงสัยคงล้มลงสักครั้งเลยปวดเอว
แต่ก็ยังไม่วายโดดอยู่อีก
ปีที่ผ่านมาน้ำหนัก 23 กก
หมอบอกให้ลดเหลือหลัก 10 ปลายพอ
ซึ่งก็เห็นควร เพราะมีแค่สามขา
หมอบอกว่าหมาโดยทั่วไปสองขาคู่หน้าจะรับน้ำหนักประมาณ 70% ของน้ำหนักตัว
นี่ขาหายไป 1 ข้าง ก็ค่อยข้างทรงตัวยาก
ซึ่งเราเองก็พยายามบอกพี่โชค
เพราะว่าเชื่อเถอะพี่โชค แกไม่อยากใส่วีลแชร์แน่ๆ เพราะฉะนั้นถนอมขาที่เหลือของตัวเองไว้
ปกติหมาทุกตัวที่บ้านจะเห่าเวลามีสัตว์ร้าย
เช่นงูหรือแมงป่อง แต่ตอนนี้ทุกคนเกษียนแล้ว
เหลือพี่โชคตัวเดียวที่ทำงาน
นี่ภายในหนึ่งเดือนฆ่างูเขียวไปแล้วสองตัว
เราเข้าไปช่วยไม่ทันจริงๆ ช่วยงูนะ ไม่ใช่หมา
แต่หมาก็ช่วยแหละ 555+ เพียงแต่เรารู้ว่างูตัวนั้นไม่มีพิษ ล่าสุดถึงขั้นกระโดดงับงูลงมาจากต้นไม้
เฮ้อ...อนิจจังงูเอ้ย แกก็นะ ไม่ได้ยินที่มันเห่าบ้างหรือไงทำไมไม่หนีไป