อาการบอกโรค“เนื้องอกมดลูก”
▶ มาทำความรู้จักเนื้องอกมดลูก
เนื้องอกมดลูกเป็นเนื้องอกที่เกิดขึ้นบริเวณกล้ามเนื้อมดลูกและเป็นเนื้องอกที่
พบได้บ่อยของอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้หญิงเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเซลล์กล้ามเนื้อมดลูกโดยสัมพันธ์กับฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงดังนั้นจึงพบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์คือตั้งแต่เริ่มมีประจำเดือนครั้งแรกไปจนถึงช่วงหมดประจำเดือน
ประเด็นแรกที่ผู้หญิงทุกคนต้องทำความเข้าใจก่อนก็คือ
เนื้องอก “ไม่ใช่” เนื้อร้ายหรือมะเร็งเสมอไป ไม่จำเป็นต้องวิตกกังวลจนเกินไปเพราะส่วนใหญ่จะเป็นเนื้องอกขนาดเล็กที่ไม่กระทบต่อสุขภาพยกเว้นเนื้องอกจะเป็นเนื้องอกที่มีอาการ หรือมีขนาดใหญ่จนไปเบียดอวัยวะข้างเคียงก็อาจทำให้มีผลกระทบจากอวัยวะที่โดนเบียดได้โดยทั่วไปเนื้องอกอาจจะเติบโตอย่างช้า ๆ
หรืออาจจะไม่เติบโตขึ้นเลยอาจมีเพียงก้อนเดียวหรือหลายก้อนก็ได้เพราะฉะนั้นควรได้รับการตรวจวินิจฉัย
อย่างละเอียดโดยแพทย์เฉพาะทางเพื่อทราบแนวทางการรักษาที่ถูกต้องต่อไป
▶ ใครที่เสี่ยงเป็น?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าผู้หญิงในวัยเจริญพันธ์ทุกคนมีความเสี่ยงในการเป็นเนื้องอกมดลูกแต่มักจะพบบ่อยในกลุ่มต่อไปนี้
1.กลุ่มผู้หญิงอายุ 25 – 30 ปี ซึ่งพบในอัตราร้อยละ 30-50 ขณะที่ในผู้หญิงที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนเนื้องอกจะมีขนาดเล็กลงเอง
2. มีประวัติคนในครอบครัวมีเนื้องอกมดลูก มีแนวโน้มที่จะเป็นมากกว่าผู้ที่ไม่มีคนในครอบครัวเป็นเนื้องอกในมดลูกซึ่งความเสี่ยงทางพันธุกรรมนี้จะเกี่ยวข้องกับระดับและการทำงานของฮอร์โมนเอสโตรเจน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรคแต่อย่างใด
3.มีประวัติรับประทานยาและสารที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งกระตุ้นให้เนื้องอกมดลูกโตขึ้นได้
เนื้องอกมดลูกมีโอกาสที่จะเปลี่ยนเป็นมะเร็งเพียงร้อยละ 0.25 – 1.08 เท่านั้นเพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลหากตรวจพบในครั้งแรกเพียง
แต่ต้องคอยตรวจติดตามและมาตามนัดของแพทย์ของอย่างสม่ำเสมอ
▶อาการเตือนที่บอกว่าเราอาจจะเป็นเนื้องอกมดลูก
สำหรับอาการของเนื้องอกมดลูกที่พบได้บ่อย ได้แก่
- ความผิดปกติของประจำเดือน ไม่ว่าจะเป็นมานานขึ้น มาบ่อยขึ้น หรือมามากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะโลหิตจางได้
และอาจจะมีอาการปวดประจำเดือนร่วมด้วย
-ปัสสาวะบ่อยกลั้นปัสสาวะลำบากและท้องผูกเรื้อรัง เนื่องจากก้อนของเนื้องอกไปเบียดกระเพาะปัสสาวะ หรือลำไส้
-คลำเจอก้อนเนื้อ ในกรณีที่เนื้องอกมดลูกมีขนาดใหญ่หรือ/และมีจำนวนมากจะสามารถคลำเจอก้อนเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานหรือช่องท้อง ซึ่งจะสังเกตได้จากบริเวณท้องน้อยที่บวมหรือโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
-มีบุตรยาก หรือแท้งบ่อย เกิดจากการไปขัดขวางการฝังตัวของทารก
ในสตรีที่มีเนื้องอกมดลูกจำนวนมากไม่มีอาการใดๆเลยและตรวจพบโดยบังเอิญเมื่อไปตรวจภายในหรือ
ตรวจอัลตราซาวน์จึงไม่ควรประมาทและควรตรวจภายในหรืออัลตราซาวน์อุ้งชิงกรานเป็นประจำทุกปีเพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่ก้อนเนื้องอกยังไม่ใหญ่มากเพื่อพิจารณาการดูแลรักษาต่อที่เหมาะสมจากแพทย์เฉพาะทาง
▶สัญญาณอันตราย เมื่ออาการเริ่มรุนแรง
โดยทั่วไปเมื่อตรวจเจอเนื้องอกมดลูกที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่หรือไม่ได้ใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วจนผิดปกติ แพทย์จะแนะนำให้อัลตราซาวนด์เพื่อติดตามดูขนาดของเนื้องอกเป็นระยะเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะในรายที่ไม่เจออาการบ่งชี้ใด ๆ แต่ในรายที่เนื้องอกส่งสัญญาณอันตรายจนเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพและการตั้งครรภ์ควรมาพบแพทย์เพื่อทำการรักษาเพราะหากเนื้องอกไปเบียดอวัยวะอื่น ๆ อาจทำให้การรักษามีความซับซ้อนมากขึ้น
▶วิธีการรักษา
แพทย์จะแบ่งการรักษาตามความรุนแรงและขนาดของเนื้องอกดังนี้
1. ในกรณีที่เนื้องอกมีขนาดเล็กและไม่มีอาการ จะติดตามขนาดของเนื้องอกเป็นระยะด้วยการอัลตราซาวน์ เพื่อให้แน่ใจว่าก้อนเนื้องอกไม่มีขนาดใหญ่ขึ้นจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
2.กรณีที่เนื้องอกมีขนาดเล็กแต่มีอาการปวดหรือภาวะอื่น ๆ แพทย์จะให้ยารักษาเพื่อบรรเทาอาการปวดหากมีอาการปวดเนื่องมาจากเนื้องอกแพทย์อาจจะให้รับประทานยาระงับปวดยาบำรุงเลือดหรือยาฮอร์โมนที่ช่วยลดปริมาณประจำเดือน
3.ในกรณีที่เนื้องอกมีขนาดใหญ่ขึ้นมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆหรืออาการไม่ตอบสนองต่อการใช้ยา แพทย์จะวินิจฉัยให้
เข้ารับการผ่าตัด
อย่างไรก็ตามในกรณีที่ผ่าตัดเฉพาะเนื้องอกออกไป หากอยู่ในวัยเจริญพันธุ์ก็ยังมีโอกาสกลับมาเป็นเนื้องอกมดลูกได้อีกครั้ง จึงยังต้องไปตรวจกับแพทย์ตามนัด และตรวจร่างกายประจำปีเป็นประจำทุกปี
อ่านเพิ่มเติมคลิก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ศูนย์สุขภาพสตรี
อาการบอกโรค“เนื้องอกมดลูก”
เนื้องอกมดลูกเป็นเนื้องอกที่เกิดขึ้นบริเวณกล้ามเนื้อมดลูกและเป็นเนื้องอกที่พบได้บ่อยของอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้หญิงเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเซลล์กล้ามเนื้อมดลูกโดยสัมพันธ์กับฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงดังนั้นจึงพบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์คือตั้งแต่เริ่มมีประจำเดือนครั้งแรกไปจนถึงช่วงหมดประจำเดือน
ประเด็นแรกที่ผู้หญิงทุกคนต้องทำความเข้าใจก่อนก็คือเนื้องอก “ไม่ใช่” เนื้อร้ายหรือมะเร็งเสมอไป ไม่จำเป็นต้องวิตกกังวลจนเกินไปเพราะส่วนใหญ่จะเป็นเนื้องอกขนาดเล็กที่ไม่กระทบต่อสุขภาพยกเว้นเนื้องอกจะเป็นเนื้องอกที่มีอาการ หรือมีขนาดใหญ่จนไปเบียดอวัยวะข้างเคียงก็อาจทำให้มีผลกระทบจากอวัยวะที่โดนเบียดได้โดยทั่วไปเนื้องอกอาจจะเติบโตอย่างช้า ๆ
หรืออาจจะไม่เติบโตขึ้นเลยอาจมีเพียงก้อนเดียวหรือหลายก้อนก็ได้เพราะฉะนั้นควรได้รับการตรวจวินิจฉัย
อย่างละเอียดโดยแพทย์เฉพาะทางเพื่อทราบแนวทางการรักษาที่ถูกต้องต่อไป
▶ ใครที่เสี่ยงเป็น?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าผู้หญิงในวัยเจริญพันธ์ทุกคนมีความเสี่ยงในการเป็นเนื้องอกมดลูกแต่มักจะพบบ่อยในกลุ่มต่อไปนี้
1.กลุ่มผู้หญิงอายุ 25 – 30 ปี ซึ่งพบในอัตราร้อยละ 30-50 ขณะที่ในผู้หญิงที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนเนื้องอกจะมีขนาดเล็กลงเอง
2. มีประวัติคนในครอบครัวมีเนื้องอกมดลูก มีแนวโน้มที่จะเป็นมากกว่าผู้ที่ไม่มีคนในครอบครัวเป็นเนื้องอกในมดลูกซึ่งความเสี่ยงทางพันธุกรรมนี้จะเกี่ยวข้องกับระดับและการทำงานของฮอร์โมนเอสโตรเจน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรคแต่อย่างใด
3.มีประวัติรับประทานยาและสารที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งกระตุ้นให้เนื้องอกมดลูกโตขึ้นได้
เนื้องอกมดลูกมีโอกาสที่จะเปลี่ยนเป็นมะเร็งเพียงร้อยละ 0.25 – 1.08 เท่านั้นเพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลหากตรวจพบในครั้งแรกเพียง
แต่ต้องคอยตรวจติดตามและมาตามนัดของแพทย์ของอย่างสม่ำเสมอ
▶อาการเตือนที่บอกว่าเราอาจจะเป็นเนื้องอกมดลูก
สำหรับอาการของเนื้องอกมดลูกที่พบได้บ่อย ได้แก่
- ความผิดปกติของประจำเดือน ไม่ว่าจะเป็นมานานขึ้น มาบ่อยขึ้น หรือมามากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะโลหิตจางได้
และอาจจะมีอาการปวดประจำเดือนร่วมด้วย
-ปัสสาวะบ่อยกลั้นปัสสาวะลำบากและท้องผูกเรื้อรัง เนื่องจากก้อนของเนื้องอกไปเบียดกระเพาะปัสสาวะ หรือลำไส้
-คลำเจอก้อนเนื้อ ในกรณีที่เนื้องอกมดลูกมีขนาดใหญ่หรือ/และมีจำนวนมากจะสามารถคลำเจอก้อนเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานหรือช่องท้อง ซึ่งจะสังเกตได้จากบริเวณท้องน้อยที่บวมหรือโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
-มีบุตรยาก หรือแท้งบ่อย เกิดจากการไปขัดขวางการฝังตัวของทารก
ในสตรีที่มีเนื้องอกมดลูกจำนวนมากไม่มีอาการใดๆเลยและตรวจพบโดยบังเอิญเมื่อไปตรวจภายในหรือตรวจอัลตราซาวน์จึงไม่ควรประมาทและควรตรวจภายในหรืออัลตราซาวน์อุ้งชิงกรานเป็นประจำทุกปีเพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่ก้อนเนื้องอกยังไม่ใหญ่มากเพื่อพิจารณาการดูแลรักษาต่อที่เหมาะสมจากแพทย์เฉพาะทาง
▶สัญญาณอันตราย เมื่ออาการเริ่มรุนแรง
โดยทั่วไปเมื่อตรวจเจอเนื้องอกมดลูกที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่หรือไม่ได้ใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วจนผิดปกติ แพทย์จะแนะนำให้อัลตราซาวนด์เพื่อติดตามดูขนาดของเนื้องอกเป็นระยะเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะในรายที่ไม่เจออาการบ่งชี้ใด ๆ แต่ในรายที่เนื้องอกส่งสัญญาณอันตรายจนเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพและการตั้งครรภ์ควรมาพบแพทย์เพื่อทำการรักษาเพราะหากเนื้องอกไปเบียดอวัยวะอื่น ๆ อาจทำให้การรักษามีความซับซ้อนมากขึ้น
▶วิธีการรักษา
แพทย์จะแบ่งการรักษาตามความรุนแรงและขนาดของเนื้องอกดังนี้
1. ในกรณีที่เนื้องอกมีขนาดเล็กและไม่มีอาการ จะติดตามขนาดของเนื้องอกเป็นระยะด้วยการอัลตราซาวน์ เพื่อให้แน่ใจว่าก้อนเนื้องอกไม่มีขนาดใหญ่ขึ้นจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
2.กรณีที่เนื้องอกมีขนาดเล็กแต่มีอาการปวดหรือภาวะอื่น ๆ แพทย์จะให้ยารักษาเพื่อบรรเทาอาการปวดหากมีอาการปวดเนื่องมาจากเนื้องอกแพทย์อาจจะให้รับประทานยาระงับปวดยาบำรุงเลือดหรือยาฮอร์โมนที่ช่วยลดปริมาณประจำเดือน
3.ในกรณีที่เนื้องอกมีขนาดใหญ่ขึ้นมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆหรืออาการไม่ตอบสนองต่อการใช้ยา แพทย์จะวินิจฉัยให้เข้ารับการผ่าตัด
อย่างไรก็ตามในกรณีที่ผ่าตัดเฉพาะเนื้องอกออกไป หากอยู่ในวัยเจริญพันธุ์ก็ยังมีโอกาสกลับมาเป็นเนื้องอกมดลูกได้อีกครั้ง จึงยังต้องไปตรวจกับแพทย์ตามนัด และตรวจร่างกายประจำปีเป็นประจำทุกปีอ่านเพิ่มเติมคลิก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้