เราอายุ 24 ปีเป็น LGBT
ตอนแรกไม่เคยคิดแบบนี้เลย พอมาถึงวันนี้เราว่าชัดขึ้นเรื่อยๆ
- ตอนอายุ 18 ปี จบ ม.6 เราสอบเข้ามหาลัยตามเพื่อน ปกติ แต่ด้วยฐานะครอบครัวเราตอนนั้นมีหนี้รถ ที่ต้องจ่าย พ่อของเราเป็นคนสร้างหนี้ส่วนนี้ขึ้นมาโดยไม่มีมีใครขอ เขามีรถ 3-4คันในการทำงาน แต่ต้องผ่อนทุกคัน เหมือนตัวเขาเองไม่ได้วางแผนที่จะส่งลูกเรียนเลยสักนิด พ่อออกรถตอนเราม.5จะขึ้น ม.6
จนไม่มีเงินส่งเราเข้ามหาลัย เราก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ จำใจไม่เรียนต่อ เพราะช่วงเวลาที่เรากำลังสอบ เข้ามหาลัยพ่อโทรหาว่า หาที่ทำงานให้เพื่อนแนะนำ เป็นที่ๆแห่งหนึ่ง แถวสุวรรณภูมิ เราก็ไปทำได้1 ปีนะ จนครบสัญญา ตั้งใจว่าจะเก็บเงินไปเรียนภาษาจีน ส่งเงินให้ที่บ้านทุกเดือน ส่งให้มากสุดเดือนละ1หมื่น
แต่ผลสุดท้ายเงินที่เราส่งไปก็ไม่ได้ไว้เรียน เขานำไปซื้อที่ดินตาบอด ซึ่งในที่สุดก็ต้องขายกำไรแค่หลักหมื่น แล้วก็นำเงินมาปลูกร้านค้าให้เราขายอาหาร ซึ่งเราก็จำใจทำคิดว่าคือสิ่งที่ดีที่สุด สุดท้ายเราก็ไม่ไหว ขอไปทำโรงงาน เพราะร้านทั้งร้อนทั้งตังน้อย อายุแค่20 ปีเป็นเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว ปลาเผา อาหารตามสั่ง..... ทำเลก็มีต้นไม้หน้าร้าน.... ขายไม่ออก....
เราจึงไปทำงานโรงงานได้6เดือน ได้คำแนะนำจากน้องสาวแท้ๆ ให้ไปเรียนต่อปวส.เพื่อทำงานไปเรียนไป
บอกเลยว่าสุดด เหนื่อยมากก แต่ก็จบมาได้ แล้ว
ขณะที่เรียนไปฝึกงานไป เราก็ไม่ค่อยได้ส่งให้ที่บ้านเพราะเงินเดือนน้อยแถมต้องเช่าห้อง เขาก็มีบ่นๆตลอดถ้าเราตังไม่พอใช้ เราขอเขาแค่ 1พัน ต่อเดือน แล้วก็ไม่ได้ขอทุกเดือน เขาด่าเรารุณแรงมากก นึกแล้วก็เศร้าแฮะ 😹
พอฝึกงานครบ2ปี ไปทำงาน กทม ไม่มีเงินเดือน + เลิกกับแฟน จึงตัดสินใจกลับบ้าน
เราก็มาหางานทำด้วยตัวเอง แต่เราโชคดีอย่างคือเราหางานง่ายมาก เรามีงานทำเงินเดือนโอเคเลย สำหรับวุฒิปวส. ทำได้4เดือน พ่อโทรตามเราขณะเราทำงานให้ไปดูรถ เพื่อออกรถ อ่าา... แล้วก็ออกรถจนสำเร็จ พอออกรถมา ได้1-2วัน มีรอยแปลกๆหน้ากระโปรงรถ + รอยฝ่ามือขนาดใหญ่เหมือนตั้งใจแปะไว้ (ตอนทำสัญญาเราทำประกันชีวิต ให้ผู้รับผลประโยชน์คือพ่อ) มีวันนึงเราขับรถต้องไปเรียนภาคพิเศษวันอาทิตย์เขาเราขับรถไปเรียน เขาก็โทรวีดีโอคอลมารู้ว่าเราขับรถ โทรมาหลายสายมากเหมือนตั้งใจให้เรา เกิดอุบัติเหตุขณะขับรถ แต่เราก็ไม่รับสายเพราะมันอันตรายจริงๆทั้งดูGPS แล้วต้องมากเรับสายวีโอคอล พอเราไม่รับสายเขาก็พิมพ์มาด่าแรงมากๆนะ เรางงเลย เขาพิมพ์ประมาณว่า "ไม่ได้หวังพึ่ง ไม่ได้หวังอะไร แค่จะโทรถามสารทุกข์สุขดิบ" เรางงมากอยู่บ้านด้วยกันทุกวันแทบไม่คุยอะไร แถมยังเคยยกเท้าใส่เราตอนเราเดินผ่าน บางทีเราก็งงนะ เราไปทำไรให้ขนาดนั้น เราไม่เคยด่า ไม่เคยเถียง ไม่เคยพูดไม่ดีใส่เขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว แล้วเขาก็พิมพ์มาอีกว่า "เกลียดเรา" เราก็งงมาก แต่เราก็ไม่ช็อคอะไรนะ เราไม่ได้เกลียดพ่อตัวเอง แต่เราแค่คิดว่าทำไมต้องทำร้ายจิตใจกันขนาดนั้นแค่ไม่รับสายแค่นี้ ถ้าคนเป็นห่วงอ่ะ เขาไม่โทรวีดีโอขนาดขับรถหรอกจริงไหม มีแต่อยากให้ตายเท่านั้นแหละ ถึงโทรวีโอคอลมา4-5สายขนาดนั้น พร้อมพิมพ์ด่า เราก็ต้องจำใจตั้งใจเรียนภาคพิเศษต่อไปเพื่อนาคต ทำงานจันทร์-เสาร์ อาทิตย์ไปเรียน 🫶🏼 แถวยังมาเจอปบบนี้555555
เอ้อ พอถึงมหาลัยแล้วเขาพิมพ์มาด่าในไลน์อีกนะ ว่าเรากระจอก เราก็เลยบอกไปว่า จะสร้างความทรงจำแบบนี้หรอ ชีวิตคนเรามันสั้นนะ เขาก็ไม่จบนะก็ด่าต่ออีก 55555 เราก็เลยบอกไปว่าไม่ได้เสียใจอะไรนะเฉยๆ "เพราะทั้งคนที่ทำงาน เรียน ก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกันเรื่องแค่นี้กระจอก ควรใช้คำว่ากระจอกให้ถูก เสริมพลังบวกนะ ไม่ใช่เอาคำว่ากระจอกมาดูถูกคนอื่น เรื่องแค่นี้ทำอะไรไม่ได้หรอกกระจอก"
แล้ววันเกิดเรา ชวนแม่ออกไปทำงาน ตจว เรารู้นะว่าตั้งใจ แต่เราก็เฉยๆ
จนถึงวันเกิดน้อง จัดปกติเราก็ไม่ได้อะไร เพราะเราก็รักน้อง เค้กก็เขียนชื่อทั้ง2คน
แต่เราไม่ได้ดีใจอะไรหรอก จัดไม่จัดก็ได้ พ่อจะดูรักน้อง แต่ก็ไม่เชิง เหมือนรักตัวเองมากกว่านั่นแหละ ให้น้องแต่งงานกับแฟนคนแรกตั้งแต่อายุ 20 ปี แต่บ้านฝั่งผช มีฐานะก็จริง แต่ ผช.ที่เป็นแฟนน้องก็นะ... พอได้ละกัน แต่น้องน่าสงสารมากดูเศร้าแปลกๆหลังแต่งงาน
วันนี้ที่ชัดว่าเขาอิจฉาเราคือ
- เขาขอขับรถเรา ไปส่งน้องสาวเรา
เราก็ยินดีให้นะไม่หวง แต่เราขอไปด้วย ด้วยควาทเป็นห่วงว่าเขาจะขับได้ไหม รถเราระบบไฟฟ้า
บทสนทนา
พ่อ : ยืมรถไปส่งนิ่มหน่อยนะ กุญแจมา
เรา : //หยิบกุญแจยื่นให้ แล้วบอกว่าจะไปด้วย
พ่อ : ไม่ต้องไป ไปเปิดประตูด็พอแล้ว
เรา : เดินกำลังไปเปิดประตู แต่น้องสาวเปิดให้ก่อน
แม่ : มาช่วยบอกพ่อหน่อยว่าสตาร์ทยังไง พ่ออยากให้สอน
เรา : // นั่งหน้าข้างคนขับ คือ(พ่อ) เราบอกว่าต้องใช้งานยังไงกับพ่อครบทุกอย่าง แต่พ่อจะพยายามพูดแทรกตลอด
เช่น พ่อต้องกดปุ่มนี้ก่อนเปลี่ยนเกียร์นะ
พ่อ : รู้แล้วรถ(ยี่ห้อรถ) ก็ต้องกดเหมือนกัน
เขาพยายามพูดว่ารถเราขับยาก แล้วก็พยายามพูดว่าจะเอารถเราไปใช้เที่ยวต่างจังหวัด ตลอด
เรา : บอกปุ่มต่างๆภายในรถให้พ่อ แต่เขาก็ไม่ไม่ได้สนใจเหมือนไม่ได้ฟังอะไร
พอรถจอดเราเห็นพ่อเข้าเกียร์ D ไปP ขณะรถจอดแปปเดียว เราจึงแนะนำไปว่า ปุ่มพวกนี้ไว้ใช้อะไรบ้าง ย้ำอีกครั้งเพราะก่อนพ่อสตาร์ทเราอธิบายอย่างกับเซลล์ท่านหนึ่งไปแล้ว เราพูดว่าปุ่ม Hold ไว้ใช้ตอนรถจอดแปปเดียว เพื่อถนอมเกียร์ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อย
พ่อ : กระชากเกียร์รถเราแรงมากจากP มา D แล้วตบด้วย S อีกที
//(รถเราออกมา9วัน) ป้ายแดง เราไม่ได้หวงรถพ่อนะ แต่แค่อยากให้ถนอมบ้าง รู้สึกเจ็บจี๊ดเราใช้มา9วันไม่เคยกระชากแรง แล้วผลักไปSแรงขนาดนั้นเลย
เป็นการกระทำที่ประชดประชันสุดๆ เราไม่ได้พูดน้ำเสียงที่ไม่ดีเลยสักนิด ทำไมเขาถึงต้องเป็นขนาดนั้น
ผลสุดท้ายเราก็สอนเขาไม่สำเร็จ จนตอนนี้เราไม่อยากให้เขาจับรถเราอีกแล้ว
รู้สึกแย่มากๆ และรู้สึกว่าพ่ออิจฉาเรา
พ่ออิจฉาเรา
ตอนแรกไม่เคยคิดแบบนี้เลย พอมาถึงวันนี้เราว่าชัดขึ้นเรื่อยๆ
- ตอนอายุ 18 ปี จบ ม.6 เราสอบเข้ามหาลัยตามเพื่อน ปกติ แต่ด้วยฐานะครอบครัวเราตอนนั้นมีหนี้รถ ที่ต้องจ่าย พ่อของเราเป็นคนสร้างหนี้ส่วนนี้ขึ้นมาโดยไม่มีมีใครขอ เขามีรถ 3-4คันในการทำงาน แต่ต้องผ่อนทุกคัน เหมือนตัวเขาเองไม่ได้วางแผนที่จะส่งลูกเรียนเลยสักนิด พ่อออกรถตอนเราม.5จะขึ้น ม.6
จนไม่มีเงินส่งเราเข้ามหาลัย เราก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ จำใจไม่เรียนต่อ เพราะช่วงเวลาที่เรากำลังสอบ เข้ามหาลัยพ่อโทรหาว่า หาที่ทำงานให้เพื่อนแนะนำ เป็นที่ๆแห่งหนึ่ง แถวสุวรรณภูมิ เราก็ไปทำได้1 ปีนะ จนครบสัญญา ตั้งใจว่าจะเก็บเงินไปเรียนภาษาจีน ส่งเงินให้ที่บ้านทุกเดือน ส่งให้มากสุดเดือนละ1หมื่น
แต่ผลสุดท้ายเงินที่เราส่งไปก็ไม่ได้ไว้เรียน เขานำไปซื้อที่ดินตาบอด ซึ่งในที่สุดก็ต้องขายกำไรแค่หลักหมื่น แล้วก็นำเงินมาปลูกร้านค้าให้เราขายอาหาร ซึ่งเราก็จำใจทำคิดว่าคือสิ่งที่ดีที่สุด สุดท้ายเราก็ไม่ไหว ขอไปทำโรงงาน เพราะร้านทั้งร้อนทั้งตังน้อย อายุแค่20 ปีเป็นเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว ปลาเผา อาหารตามสั่ง..... ทำเลก็มีต้นไม้หน้าร้าน.... ขายไม่ออก....
เราจึงไปทำงานโรงงานได้6เดือน ได้คำแนะนำจากน้องสาวแท้ๆ ให้ไปเรียนต่อปวส.เพื่อทำงานไปเรียนไป
บอกเลยว่าสุดด เหนื่อยมากก แต่ก็จบมาได้ แล้ว
ขณะที่เรียนไปฝึกงานไป เราก็ไม่ค่อยได้ส่งให้ที่บ้านเพราะเงินเดือนน้อยแถมต้องเช่าห้อง เขาก็มีบ่นๆตลอดถ้าเราตังไม่พอใช้ เราขอเขาแค่ 1พัน ต่อเดือน แล้วก็ไม่ได้ขอทุกเดือน เขาด่าเรารุณแรงมากก นึกแล้วก็เศร้าแฮะ 😹
พอฝึกงานครบ2ปี ไปทำงาน กทม ไม่มีเงินเดือน + เลิกกับแฟน จึงตัดสินใจกลับบ้าน
เราก็มาหางานทำด้วยตัวเอง แต่เราโชคดีอย่างคือเราหางานง่ายมาก เรามีงานทำเงินเดือนโอเคเลย สำหรับวุฒิปวส. ทำได้4เดือน พ่อโทรตามเราขณะเราทำงานให้ไปดูรถ เพื่อออกรถ อ่าา... แล้วก็ออกรถจนสำเร็จ พอออกรถมา ได้1-2วัน มีรอยแปลกๆหน้ากระโปรงรถ + รอยฝ่ามือขนาดใหญ่เหมือนตั้งใจแปะไว้ (ตอนทำสัญญาเราทำประกันชีวิต ให้ผู้รับผลประโยชน์คือพ่อ) มีวันนึงเราขับรถต้องไปเรียนภาคพิเศษวันอาทิตย์เขาเราขับรถไปเรียน เขาก็โทรวีดีโอคอลมารู้ว่าเราขับรถ โทรมาหลายสายมากเหมือนตั้งใจให้เรา เกิดอุบัติเหตุขณะขับรถ แต่เราก็ไม่รับสายเพราะมันอันตรายจริงๆทั้งดูGPS แล้วต้องมากเรับสายวีโอคอล พอเราไม่รับสายเขาก็พิมพ์มาด่าแรงมากๆนะ เรางงเลย เขาพิมพ์ประมาณว่า "ไม่ได้หวังพึ่ง ไม่ได้หวังอะไร แค่จะโทรถามสารทุกข์สุขดิบ" เรางงมากอยู่บ้านด้วยกันทุกวันแทบไม่คุยอะไร แถมยังเคยยกเท้าใส่เราตอนเราเดินผ่าน บางทีเราก็งงนะ เราไปทำไรให้ขนาดนั้น เราไม่เคยด่า ไม่เคยเถียง ไม่เคยพูดไม่ดีใส่เขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว แล้วเขาก็พิมพ์มาอีกว่า "เกลียดเรา" เราก็งงมาก แต่เราก็ไม่ช็อคอะไรนะ เราไม่ได้เกลียดพ่อตัวเอง แต่เราแค่คิดว่าทำไมต้องทำร้ายจิตใจกันขนาดนั้นแค่ไม่รับสายแค่นี้ ถ้าคนเป็นห่วงอ่ะ เขาไม่โทรวีดีโอขนาดขับรถหรอกจริงไหม มีแต่อยากให้ตายเท่านั้นแหละ ถึงโทรวีโอคอลมา4-5สายขนาดนั้น พร้อมพิมพ์ด่า เราก็ต้องจำใจตั้งใจเรียนภาคพิเศษต่อไปเพื่อนาคต ทำงานจันทร์-เสาร์ อาทิตย์ไปเรียน 🫶🏼 แถวยังมาเจอปบบนี้555555
เอ้อ พอถึงมหาลัยแล้วเขาพิมพ์มาด่าในไลน์อีกนะ ว่าเรากระจอก เราก็เลยบอกไปว่า จะสร้างความทรงจำแบบนี้หรอ ชีวิตคนเรามันสั้นนะ เขาก็ไม่จบนะก็ด่าต่ออีก 55555 เราก็เลยบอกไปว่าไม่ได้เสียใจอะไรนะเฉยๆ "เพราะทั้งคนที่ทำงาน เรียน ก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกันเรื่องแค่นี้กระจอก ควรใช้คำว่ากระจอกให้ถูก เสริมพลังบวกนะ ไม่ใช่เอาคำว่ากระจอกมาดูถูกคนอื่น เรื่องแค่นี้ทำอะไรไม่ได้หรอกกระจอก"
แล้ววันเกิดเรา ชวนแม่ออกไปทำงาน ตจว เรารู้นะว่าตั้งใจ แต่เราก็เฉยๆ
จนถึงวันเกิดน้อง จัดปกติเราก็ไม่ได้อะไร เพราะเราก็รักน้อง เค้กก็เขียนชื่อทั้ง2คน
แต่เราไม่ได้ดีใจอะไรหรอก จัดไม่จัดก็ได้ พ่อจะดูรักน้อง แต่ก็ไม่เชิง เหมือนรักตัวเองมากกว่านั่นแหละ ให้น้องแต่งงานกับแฟนคนแรกตั้งแต่อายุ 20 ปี แต่บ้านฝั่งผช มีฐานะก็จริง แต่ ผช.ที่เป็นแฟนน้องก็นะ... พอได้ละกัน แต่น้องน่าสงสารมากดูเศร้าแปลกๆหลังแต่งงาน
วันนี้ที่ชัดว่าเขาอิจฉาเราคือ
- เขาขอขับรถเรา ไปส่งน้องสาวเรา
เราก็ยินดีให้นะไม่หวง แต่เราขอไปด้วย ด้วยควาทเป็นห่วงว่าเขาจะขับได้ไหม รถเราระบบไฟฟ้า
บทสนทนา
พ่อ : ยืมรถไปส่งนิ่มหน่อยนะ กุญแจมา
เรา : //หยิบกุญแจยื่นให้ แล้วบอกว่าจะไปด้วย
พ่อ : ไม่ต้องไป ไปเปิดประตูด็พอแล้ว
เรา : เดินกำลังไปเปิดประตู แต่น้องสาวเปิดให้ก่อน
แม่ : มาช่วยบอกพ่อหน่อยว่าสตาร์ทยังไง พ่ออยากให้สอน
เรา : // นั่งหน้าข้างคนขับ คือ(พ่อ) เราบอกว่าต้องใช้งานยังไงกับพ่อครบทุกอย่าง แต่พ่อจะพยายามพูดแทรกตลอด
เช่น พ่อต้องกดปุ่มนี้ก่อนเปลี่ยนเกียร์นะ
พ่อ : รู้แล้วรถ(ยี่ห้อรถ) ก็ต้องกดเหมือนกัน
เขาพยายามพูดว่ารถเราขับยาก แล้วก็พยายามพูดว่าจะเอารถเราไปใช้เที่ยวต่างจังหวัด ตลอด
เรา : บอกปุ่มต่างๆภายในรถให้พ่อ แต่เขาก็ไม่ไม่ได้สนใจเหมือนไม่ได้ฟังอะไร
พอรถจอดเราเห็นพ่อเข้าเกียร์ D ไปP ขณะรถจอดแปปเดียว เราจึงแนะนำไปว่า ปุ่มพวกนี้ไว้ใช้อะไรบ้าง ย้ำอีกครั้งเพราะก่อนพ่อสตาร์ทเราอธิบายอย่างกับเซลล์ท่านหนึ่งไปแล้ว เราพูดว่าปุ่ม Hold ไว้ใช้ตอนรถจอดแปปเดียว เพื่อถนอมเกียร์ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อย
พ่อ : กระชากเกียร์รถเราแรงมากจากP มา D แล้วตบด้วย S อีกที
//(รถเราออกมา9วัน) ป้ายแดง เราไม่ได้หวงรถพ่อนะ แต่แค่อยากให้ถนอมบ้าง รู้สึกเจ็บจี๊ดเราใช้มา9วันไม่เคยกระชากแรง แล้วผลักไปSแรงขนาดนั้นเลย
เป็นการกระทำที่ประชดประชันสุดๆ เราไม่ได้พูดน้ำเสียงที่ไม่ดีเลยสักนิด ทำไมเขาถึงต้องเป็นขนาดนั้น
ผลสุดท้ายเราก็สอนเขาไม่สำเร็จ จนตอนนี้เราไม่อยากให้เขาจับรถเราอีกแล้ว
รู้สึกแย่มากๆ และรู้สึกว่าพ่ออิจฉาเรา