ย้อนความไป พ่อแม่เราแยกทางกันตั้งแต่พอจำความได้ค่ะ แต่แม่ยังอาศัยอยู่บ้านย่าค่ะ มีไปทำงานนานๆ ครั้งจะมาเยี่ยม ถ้าจำไม่ผิดน่าจะช่วงอนุบาล ก็ใช้ชีวิตโดยอยู่กับย่ามาสักระยะ พ่อก็กลับมาหาบ้าง ปีละ 4-5 ครั้ง
จนมาวันนึงค่ะ ที่เราท้องเสียหนักมากถ่ายบ่อยจนไม่มีแรง ก็ได้ย่าค่ะ เช่ารถพาไปแอ็ดมิทที่โรงพยาบาล อักษรย่อ ส.ร.ก แถวสัตหีบ แปลกมากที่แค่ท้องเสียแต่กลับปวดหัวจนตอนนั้นทนไม่ได้ นอนอยู่ได้ประมาณสองวัน จนวันสุดท้าย แม่รีบกลับมาทันวันที่สาม เรานอนร้องไห้ ร้องปวด จำความรู้ตอนนั้นแม่นมากค่ะ เข้าใจว่าปวดแบบจะตายเป็นยังไง สุดท้ายก็ยังได้รับแค่ยาพารา แก้ปวดธรรมดา
เรานอนห้องรวม นอนร้องโหยหวน ร้องปวดจนแม่ทนดูไม่ได้ เลยยอมเรียกรถแอมบูแลนซ์ จาก รพ.เอกชน ก ท พ ย มารับตัวที่นี่เลยค่ะ จากนี้จะเป็นในมุมมองแม่นะคะ เพราะเราไม่ได้สติแล้ว หัวขาวโพลนหมดเลย เหมือนกึ่งหมดสติ พยาบาลจากรถแอมบูแลนซ์ ขึ้นมารับในวอร์ดผู้ป่วยค่ะ พอเห็นแบบนั้นมันเลยเหมือนหยามกันหรือเปล่า เราไม่แน่ใจ พยาบาลที่รพที่เรานอนอยู่ พอเห็นเลยดึงสายน้ำเกลือเราออก จนเลือดออกเลยค่ะ ไม่ใช่การดึงแบบถูกต้อง
เขาเลยมีปากเสียงกันค่ะ พยาบาลที่มารับไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ใส่สายน้ำเกลือไว้ เพราะคนไข้จ่ายตังซื้อแล้ว ไม่นานเราถูกยกขึ้นเตียงเข็นของพี่พยาบาลที่มารับ ถูกพาลงตึกไปขึ้นรถค่ะ เขาฉีดยาสลบให้ พอสลบก็เจาะเข็มน้ำเกลือให้ใหม่บนรถ
เรารู้สึกตัวอีกทีในห้องฉุกเฉินค่ะ หมอให้ยาอะไรสักอย่าง พร้อมถูกพาเข้าเครื่อง CT Scan ที่ให้นอน มีอุโมงค์ครอบครึ่งตัวบนถึงหัวค่ะ ตอนนั้นก็ยังไม่ทราบอะไรเลย คิดว่าตายแล้วด้วยซ้ำ ถูกพาไปเจาะไขสันหลัง เจ็บมากๆ แถมน่ากลัวด้วย เพราะตอนนั้นเราเห็นเข็มใหญ่ยักษ์แทงมาทีหลังพร้อมดูของเหลวออกไปจากกระดูก (ความคิดเด็ก) เวลาผ่านไปเร็วพอสมควร เราหลับตื่นหลับตื่น ภาพตัดไปมา
สิ่งที่เราเป็นเรียกว่า 'เยื่อหุ้มสมองอักเสบ' ติดเชื้อจากแบคทีเรีย แม่เราพูดทั้งน้ำตา เล่าว่าหมอบอกกับแม่ "ถ้ามาช้าเกิน 5 นาที" น่าจะไม่ทันแล้วค่ะ เชื้อวิ่งจากไขสันหลัง ขึ้นสมอง คือไม่รอด
จากนั้นเราก็อยู่รพนั้น รักษาตัวไม่นานก็หายดี มีแค่อาการปวดหลังที่จะเป็นไปตลอดชีวิต นอกนั้นก็ปกติทุกอย่าง ค่าใช้จ่ายสูงเพราะเป็นเอกชล หลังจากนั้นทำให้แม่ต้องกู้ยืมจากเจ้านาย มาจ่ายค่ารักษา เขาเลยเล็งเห็นถึงจุดนี้ จึงเริ่มทำประกันค่ะ
ขอบคุณที่แม่คิดถูก หลังจากนั้นเราป่วยบ่อยมาก เข้าออกแอ็ดมิทเป็นว่าเล่น ส่วนตัวเรามีโรคประจำตัวคือ ภูมิแพ้ มีภาวะเม็ดเลือดขาวตัวเล็ก กับความดันต่ำค่ะ ไม่รู้ว่าใช่เหตุผลไหม
จนมาช่วงจบม.ปลาย อาการเจ็บป่วยออดแอดๆ ก็หายเป็นเหมือนฟ้าประทานค่ะ ทำให้ได้ใช้ชีวิตแบบปกติ แต่ต้องดูแลสุขภาพเรื่อยๆ
เหมือนว่าปัจุบันจะมีวัคซีนนะคะ ไม่แน่ใจว่าในเด็กหรือผู้ใหญ่
ประสบการณ์เกือบตาย ใน 5 นาที
จนมาวันนึงค่ะ ที่เราท้องเสียหนักมากถ่ายบ่อยจนไม่มีแรง ก็ได้ย่าค่ะ เช่ารถพาไปแอ็ดมิทที่โรงพยาบาล อักษรย่อ ส.ร.ก แถวสัตหีบ แปลกมากที่แค่ท้องเสียแต่กลับปวดหัวจนตอนนั้นทนไม่ได้ นอนอยู่ได้ประมาณสองวัน จนวันสุดท้าย แม่รีบกลับมาทันวันที่สาม เรานอนร้องไห้ ร้องปวด จำความรู้ตอนนั้นแม่นมากค่ะ เข้าใจว่าปวดแบบจะตายเป็นยังไง สุดท้ายก็ยังได้รับแค่ยาพารา แก้ปวดธรรมดา
เรานอนห้องรวม นอนร้องโหยหวน ร้องปวดจนแม่ทนดูไม่ได้ เลยยอมเรียกรถแอมบูแลนซ์ จาก รพ.เอกชน ก ท พ ย มารับตัวที่นี่เลยค่ะ จากนี้จะเป็นในมุมมองแม่นะคะ เพราะเราไม่ได้สติแล้ว หัวขาวโพลนหมดเลย เหมือนกึ่งหมดสติ พยาบาลจากรถแอมบูแลนซ์ ขึ้นมารับในวอร์ดผู้ป่วยค่ะ พอเห็นแบบนั้นมันเลยเหมือนหยามกันหรือเปล่า เราไม่แน่ใจ พยาบาลที่รพที่เรานอนอยู่ พอเห็นเลยดึงสายน้ำเกลือเราออก จนเลือดออกเลยค่ะ ไม่ใช่การดึงแบบถูกต้อง
เขาเลยมีปากเสียงกันค่ะ พยาบาลที่มารับไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ใส่สายน้ำเกลือไว้ เพราะคนไข้จ่ายตังซื้อแล้ว ไม่นานเราถูกยกขึ้นเตียงเข็นของพี่พยาบาลที่มารับ ถูกพาลงตึกไปขึ้นรถค่ะ เขาฉีดยาสลบให้ พอสลบก็เจาะเข็มน้ำเกลือให้ใหม่บนรถ
เรารู้สึกตัวอีกทีในห้องฉุกเฉินค่ะ หมอให้ยาอะไรสักอย่าง พร้อมถูกพาเข้าเครื่อง CT Scan ที่ให้นอน มีอุโมงค์ครอบครึ่งตัวบนถึงหัวค่ะ ตอนนั้นก็ยังไม่ทราบอะไรเลย คิดว่าตายแล้วด้วยซ้ำ ถูกพาไปเจาะไขสันหลัง เจ็บมากๆ แถมน่ากลัวด้วย เพราะตอนนั้นเราเห็นเข็มใหญ่ยักษ์แทงมาทีหลังพร้อมดูของเหลวออกไปจากกระดูก (ความคิดเด็ก) เวลาผ่านไปเร็วพอสมควร เราหลับตื่นหลับตื่น ภาพตัดไปมา
สิ่งที่เราเป็นเรียกว่า 'เยื่อหุ้มสมองอักเสบ' ติดเชื้อจากแบคทีเรีย แม่เราพูดทั้งน้ำตา เล่าว่าหมอบอกกับแม่ "ถ้ามาช้าเกิน 5 นาที" น่าจะไม่ทันแล้วค่ะ เชื้อวิ่งจากไขสันหลัง ขึ้นสมอง คือไม่รอด
จากนั้นเราก็อยู่รพนั้น รักษาตัวไม่นานก็หายดี มีแค่อาการปวดหลังที่จะเป็นไปตลอดชีวิต นอกนั้นก็ปกติทุกอย่าง ค่าใช้จ่ายสูงเพราะเป็นเอกชล หลังจากนั้นทำให้แม่ต้องกู้ยืมจากเจ้านาย มาจ่ายค่ารักษา เขาเลยเล็งเห็นถึงจุดนี้ จึงเริ่มทำประกันค่ะ
ขอบคุณที่แม่คิดถูก หลังจากนั้นเราป่วยบ่อยมาก เข้าออกแอ็ดมิทเป็นว่าเล่น ส่วนตัวเรามีโรคประจำตัวคือ ภูมิแพ้ มีภาวะเม็ดเลือดขาวตัวเล็ก กับความดันต่ำค่ะ ไม่รู้ว่าใช่เหตุผลไหม
จนมาช่วงจบม.ปลาย อาการเจ็บป่วยออดแอดๆ ก็หายเป็นเหมือนฟ้าประทานค่ะ ทำให้ได้ใช้ชีวิตแบบปกติ แต่ต้องดูแลสุขภาพเรื่อยๆ
เหมือนว่าปัจุบันจะมีวัคซีนนะคะ ไม่แน่ใจว่าในเด็กหรือผู้ใหญ่