แฟนอายุ22 น้องสาวแฟนอายุ18 ทำไมพ่อแม่บางคน(บางคน)(บางครอบครัว) ถึงเลือกหน้าตาตัวเองมากกว่าความสุขของลูก เราได้ไปเจอครอบครัวแฟนมา และได้รับรู้อะไรหลายๆอย่าง เช่นการเรียนต่อคณะที่ลูกตัวเองชอบและอยากจะเรียนแฟนเราอยากเรียนถ่ายภาพมากๆ ตัวเขาถ่ายรูปสวยใช้ได้และเขาอยากศึกษาเพิ่ม บวกกับสามารถอัดตัดต่อคลิปออกมาได้ดี แต่พ่อแม่ดันกลับให้ไปเรียนการบิน เพื่อจะได้เอาไปคุยกับคนที่บ้านได้ รวมถึงตัวน้องสาวที่อยากจะเรียนในสิ่งที่ตัวเองอยากเรียน น้องสาวเก่งทางด้าน ออกแบบเสื้อผ้า วาดภาพเสื้อผ้าลายแปลกๆใหม่ๆ วาดภาพ สามารถวาดภาพและออกแบบเสื้อผ้าออกมาได้ดี แต่พ่อแม่กลับบังคับให้น้องเขาเรียนหมอเพื่อให้คนที่บ้านหรือคนแถวบ้านอิจฉาหรือเอาไปคุยกับคนอื่นได้ ว่า"ลูกฉันเป็นหมอนะ"ตอนนี้ที่บ้าน ทั้งแฟนและน้องสาวแฟนอึดอัดใจและไม่มีความสุขที่จะอยู่บ้านกันมากๆ น้องสาวชอบทักมาว่าให้พาออกไปเที่ยวไปไหนบ้างเพราะอยู่บ้านไม่มีความสุข รวมถึงตัวแฟนด้วย เพราะเขาไม่ได้บังคับแค่การเรียน แต่เขาบังคับทุกอย่างเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของเขาทั้งพี่น้อง การแต่งตัว การดูแลตัวเอง การเลือกคบเพื่อนคบแฟน เพื่อนต้องกลุ่มนี้ แฟนต้องแบบนี้ ห้ามกินข้าวตอนกลางคืน ห้ามกินจุกจิกหรือขนมเยอะ ให้ตื่นทุกๆตี5เพื่อไปออกกำลังกายรวมถึงวันหยุดที่เด็กๆควรได้พักผ่อน รวมถึงการที่เด็กมีเวลาส่วนตัวในห้องแต่กลับไม่ให้อยู่และอยากให้อยู่ที่ห้องนั่งเล่นมากกว่าอยากให้ลูกมีเวลาครอบครัวกับเขาเยอะๆ เวลาทำอะไรนอกเหนือจากสิ่งที่เขาไม่ต้องการหรือไม่ชอบเขามักจะใช้คำพูดแรงๆกับลูกเพื่อตัดกำลังใจและความตั้งใจของเขา ชอบเข้าไปค้นของส่วนตัวลูกบ่อยๆ ในห้อง รวมถึงเวลาเราคุยธุระกับแฟนที่เป็นเรื่องสำคัญหรือเรื่องส่วนตัวแม่แฟนก็ชอบมาฟังและต้องรับรู้ทุกเรื่องที่คุยกันตลอดเลย จนทำให้เราเองก็อึดอัดใจไปด้วย และเขาก็ชอบถามแฟนเราเรื่องที่บ้านของเราอยู่บ่อยๆ ออกรถอะไรใหม่ ซื้ออะไรใหม่ และเขาก็เอาไปคุยกับที่บ้านเขาว่าบ้านลูกสะไภ้ทำอันนั้นซื้อรถอันนี้มา และเอารูปครอบครัวเรารถเราไปอวดกับคนที่บ้านของเขา เราอยากมาแชร์และอยากถามว่า มันเป็นเรื่องปกติมั้ย และ คนเป็นพ่อเป็นแม่จะรู้หรือเปล่าว่าลูกตัวเองเสียใจและไม่มีคงามสุขขนาดไหน?
ห่วงหน้าตาตัวเอง มากกว่าความสุขลูก