เรื่องราวของมหาเศรษฐีเฮนรี่ ซูการ์ ที่ใช้ชีวิตสำมะเลเทเมา วันๆไม่ทำอะไรได้แต่เดินอวดรวยลอยชายไปมา หาแก่นสารอะไรไม่ได้
นอกจากเข้าบ่อนเล่นไพ่ เที่ยวไนต์คลับ จนกระทั่งวันนึง ซูการ์ค้นพบพลังวิเศษ ที่ทำให้เขสสามารถมองเห็นทุกสิ่งที่เขาต้องการได้
โดยไม่ต้องใช้ดวงตาในการจ้องมอง ก่อนที่เขาจะรู้ว่าเขาควรเอาพลังที่ได้มา ไปใช้เพื่ออะไร...
The Wonderful Story of Henry Sugar เป็นงานเขียนของรูออล ดาห์ล (Roald Dahl, อ่านว่ารูออล ตามเชื้อสายที่มีฝั่งพ่อที่เป็นนอร์เวย์)
งานของเขาที่โด่งดังอย่างมากและเป็นที่รู้จักกันดีก็คือเรื่อง Charlie and the Chocolate Factory ซึ่งก็ถูกสร้างเป็นหนังไปแล้ว
รวมถึง Fantastic Mr Fox ซึ่งเรื่องนี้ เวส แอนเดอร์สัน เอาไปสร้างเป็นภาพยนตร์ stop-motion animated เมื่อปี 2009 ..
แน่นอนว่ามาจากความชื่นชอบส่วนตัวของเวส ที่มีต่องานของรูออล ดาห์ล อย่างมาก
และผมเชื่อว่าลึกๆ เวส ก็คงเสียดายเช่นกันที่ไม่ได้นำเสนอ Charlie and the Chocolate Factory ในรูปแบบของตัวเขาเอง..
โดยนักแสดงที่มาร่วมงานนั้นเอาดาวดังมาร่วมงานอย่างคับคั่งเลยครับตามสไตล์เวสได้แก่
เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ (Doctor Strange) ในบทบาทตัวละครนำแสดงโดยราล์ฟ ไฟนส์ (Lord Voldemort - Harry Potter),
เดฟ พาเทล (The Green Knight), เบ็น คิงสลีย์ (An Ordinary Man), และริชาร์ด อโยเด (ผู้กำกับจาก Submarine, The Double)
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ ถือเป็นซีรีส์เรื่องสั้นชุดแรกจากทั้งหมดสี่ตอนครับ ที่ดัดแปลงมาจากเรื่องสั้นของดาห์ล โดยนอกจาก The Wonderful Story of Henry Sugar แล้ว อีก 3 เรื่องที่อยู่ใน Project นี้ ก็ได้แก่ "The Swan", "The Ratcatcher" และ "Poison"
ซึ่งทั้ง 3 เรื่องจะอยู่ภายใต้การสร้างเวส แอนเดอร์สัน ทั้งหมด และยังไม่มีเผยรายชื่อนักแสดงออกมาให้เห็นเลย (น่าสนใจอย่างยิ่งงงงงงง)
แฟนๆของเวส ถูกใจอย่างแน่นอน สไตล์หนังของเขาชัดเจน ภาพสีสันสดใสสไตล์พาสเทล งานภาพที่สมมาตรเป็นเอกลักษณ์
แต่ในเรื่องนี้จะมีการใช้รูปแบบการเปลี่ยนฉากแบบละครเวทีซึ่งจะไปเร็วมาไวมาก อย่างที่ผมเคยบอกไว้ในรีวิวหนังของเขามาก่อนหน้านี้อย่าง Asteroid City ถึงวีธีในการเสพหนังของผู้กำกับรายนี้ให้ได้อรรถรสและเต็มอิ่มที่สุดก็คือดูหนังของเขาสัก 2 รอบ
รอบแรกดูเอาเนื้อเรื่อง และครั้งที่ 2 คือสังเกตองค์ประกอบในฉากที่ซ่อนอยู่ แน่นอนครับเรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน
เพื่อที่จะได้ไม่ตกหล่นในรายละเอียดต่างๆที่น่าสนใจอย่างมากนั่นเอง
กับหนังสั้นเรื่องแรกในโปรเจ็คต์งานเขียนของรูออล ดาห์ล (ความยาว 39 นาที) ที่ว่าด้วยเรื่องมหาเศรษฐีที่ได้พลังพิเศษ (ตาทิพย์)
หนังเสียดสีสังคมชนชั้นสูงที่ใช้เงินแบบไม่ต้องแคร์อะไรทั้งสิ้น ก่อนที่จะนำพามาซึ่งความวุ่นวาย
เพียงเพราะความคิดที่บ้องตื้นของคนรวยที่ไม่ค่อยจะมีสมองคิดไตร่ตรองสิ่งใดให้ดีก่อนที่จะทำอะไรบางอย่างลงไป...
อ่อ ไม่เหมาะกับท่านที่ไม่ชอบบทสนทนาเยอะๆ นะครับ เพราะเรื่องนี้พ่นกันไฟแลบ
แต่นี่ล่ะคือเสน่ห์อย่างนึงของงานหนังเวส แอนเดอร์สัน ที่ผมอยากให้ลองเปิดใจรับชม
แค่เรื่องแรกยังประทับใจได้ขนาดนี้ ทำให้ผมตั้งตารอคอยอย่างยิ่งเลยกับงานอีก 3 เรื่อง
"The Swan", "The Ratcatcher" และ "Poison" ที่กำลังจะตามมา เร็วๆนี้
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
== The Wonderful Story Of Henry Sugar (2023) มายา..ตาทิพย์.. ==
เรื่องราวของมหาเศรษฐีเฮนรี่ ซูการ์ ที่ใช้ชีวิตสำมะเลเทเมา วันๆไม่ทำอะไรได้แต่เดินอวดรวยลอยชายไปมา หาแก่นสารอะไรไม่ได้
นอกจากเข้าบ่อนเล่นไพ่ เที่ยวไนต์คลับ จนกระทั่งวันนึง ซูการ์ค้นพบพลังวิเศษ ที่ทำให้เขสสามารถมองเห็นทุกสิ่งที่เขาต้องการได้
โดยไม่ต้องใช้ดวงตาในการจ้องมอง ก่อนที่เขาจะรู้ว่าเขาควรเอาพลังที่ได้มา ไปใช้เพื่ออะไร...
The Wonderful Story of Henry Sugar เป็นงานเขียนของรูออล ดาห์ล (Roald Dahl, อ่านว่ารูออล ตามเชื้อสายที่มีฝั่งพ่อที่เป็นนอร์เวย์)
งานของเขาที่โด่งดังอย่างมากและเป็นที่รู้จักกันดีก็คือเรื่อง Charlie and the Chocolate Factory ซึ่งก็ถูกสร้างเป็นหนังไปแล้ว
รวมถึง Fantastic Mr Fox ซึ่งเรื่องนี้ เวส แอนเดอร์สัน เอาไปสร้างเป็นภาพยนตร์ stop-motion animated เมื่อปี 2009 ..
แน่นอนว่ามาจากความชื่นชอบส่วนตัวของเวส ที่มีต่องานของรูออล ดาห์ล อย่างมาก
และผมเชื่อว่าลึกๆ เวส ก็คงเสียดายเช่นกันที่ไม่ได้นำเสนอ Charlie and the Chocolate Factory ในรูปแบบของตัวเขาเอง..
โดยนักแสดงที่มาร่วมงานนั้นเอาดาวดังมาร่วมงานอย่างคับคั่งเลยครับตามสไตล์เวสได้แก่
เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ (Doctor Strange) ในบทบาทตัวละครนำแสดงโดยราล์ฟ ไฟนส์ (Lord Voldemort - Harry Potter),
เดฟ พาเทล (The Green Knight), เบ็น คิงสลีย์ (An Ordinary Man), และริชาร์ด อโยเด (ผู้กำกับจาก Submarine, The Double)
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ ถือเป็นซีรีส์เรื่องสั้นชุดแรกจากทั้งหมดสี่ตอนครับ ที่ดัดแปลงมาจากเรื่องสั้นของดาห์ล โดยนอกจาก The Wonderful Story of Henry Sugar แล้ว อีก 3 เรื่องที่อยู่ใน Project นี้ ก็ได้แก่ "The Swan", "The Ratcatcher" และ "Poison"
ซึ่งทั้ง 3 เรื่องจะอยู่ภายใต้การสร้างเวส แอนเดอร์สัน ทั้งหมด และยังไม่มีเผยรายชื่อนักแสดงออกมาให้เห็นเลย (น่าสนใจอย่างยิ่งงงงงงง)
แฟนๆของเวส ถูกใจอย่างแน่นอน สไตล์หนังของเขาชัดเจน ภาพสีสันสดใสสไตล์พาสเทล งานภาพที่สมมาตรเป็นเอกลักษณ์
แต่ในเรื่องนี้จะมีการใช้รูปแบบการเปลี่ยนฉากแบบละครเวทีซึ่งจะไปเร็วมาไวมาก อย่างที่ผมเคยบอกไว้ในรีวิวหนังของเขามาก่อนหน้านี้อย่าง Asteroid City ถึงวีธีในการเสพหนังของผู้กำกับรายนี้ให้ได้อรรถรสและเต็มอิ่มที่สุดก็คือดูหนังของเขาสัก 2 รอบ
รอบแรกดูเอาเนื้อเรื่อง และครั้งที่ 2 คือสังเกตองค์ประกอบในฉากที่ซ่อนอยู่ แน่นอนครับเรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน
เพื่อที่จะได้ไม่ตกหล่นในรายละเอียดต่างๆที่น่าสนใจอย่างมากนั่นเอง
กับหนังสั้นเรื่องแรกในโปรเจ็คต์งานเขียนของรูออล ดาห์ล (ความยาว 39 นาที) ที่ว่าด้วยเรื่องมหาเศรษฐีที่ได้พลังพิเศษ (ตาทิพย์)
หนังเสียดสีสังคมชนชั้นสูงที่ใช้เงินแบบไม่ต้องแคร์อะไรทั้งสิ้น ก่อนที่จะนำพามาซึ่งความวุ่นวาย
เพียงเพราะความคิดที่บ้องตื้นของคนรวยที่ไม่ค่อยจะมีสมองคิดไตร่ตรองสิ่งใดให้ดีก่อนที่จะทำอะไรบางอย่างลงไป...
อ่อ ไม่เหมาะกับท่านที่ไม่ชอบบทสนทนาเยอะๆ นะครับ เพราะเรื่องนี้พ่นกันไฟแลบ
แต่นี่ล่ะคือเสน่ห์อย่างนึงของงานหนังเวส แอนเดอร์สัน ที่ผมอยากให้ลองเปิดใจรับชม
แค่เรื่องแรกยังประทับใจได้ขนาดนี้ ทำให้ผมตั้งตารอคอยอย่างยิ่งเลยกับงานอีก 3 เรื่อง
"The Swan", "The Ratcatcher" และ "Poison" ที่กำลังจะตามมา เร็วๆนี้
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===