“ปดิพัทธ์” โยนก้าวไกล ตัดสินใจเก้าอี้”รองประธานสภา” ยอมรับอยากทำงานต่อ
https://www.matichon.co.th/clips/news_4201567

“ปดิพัทธ์ สันติภาดา” โยนพรรคก้าวไกลตัดสิน ว่าจะให้อยู่ในตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 หรือไม่ ยอมรับอยากทำงานต่อในตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ติดตามชมรายละเอียดทั้งหมดจากคลิปด้านล่างนี้

---

พี่สาว ‘วันเฉลิม’ ยื่นหนังสือขอรบ.ใหม่ตามเรื่องต่อ ‘สมคิด’ ยันเรื่องนี้ถึงนายกฯแน่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4201632

พี่สาว ‘วันเฉลิม’ หวังได้รับความเป็นธรรม ยื่นหนังสือขอรบ.ใหม่ตามเรื่องต่อ ‘สมคิด’ ยันเรื่องนี้ถึงนายกฯแน่
 
เมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวสิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาว นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือ ต้าร์ ผู้ลี้ภัยทางการเมือง ซึ่งถูกบังคับสูญหาย ในกรุงพนมเปญ กัมพูชา ได้เดินทางมายื่นหนังสือ กับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยมีนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เป็นผู้รับมอบหนังสือ ในวาระที่นายกฯ จะเดินทางไปเยือน ประเทศกัมพูชาในวันที่ 28 กันยายนนี้
 
นางสาวสิตานัน กล่าวว่า มีกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับชะตากรรมของนายวันเฉลิมจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเวลาได้ผ่านมาแล้วกว่า 3 ปี แต่รัฐบาลกัมพูชา แม้จะเป็นรัฐสมาชิกอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการ คุ้มครองบุคคลทุกคนจากการสูญหายโดยถูกบังคับ (ICPPED) ซึ่งมีหน้าที่ต้องค้นหาความจริงและสืบสวนสอบสวนกรณี ดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือนายวันเฉลิม นําตัวผู้กระทําผิดมาลงโทษและชดใช้เยียวยาครอบครัวผู้สูญหาย แต่จนปัจจุบันเป็นเวลามากกว่า 3 ปีแล้วที่ครอบครัวของของนายวันเฉลิมยังไม่ได้ รับทราบถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนอีกเลย ทั้งที่การกระทําให้บุคคลสูญหายเป็น ความผิดทางอาญาทั้งตามกฎหมายไทยและกัมพูชา และเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงและเป็นความผิดตาม กฎหมายระหว่างประเทศ

หนังสือระบุด้วยว่า ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลไทยที่มีอํานาจและหน้าที่ในการปกป้องคุ้มครองคนไทยไม่ว่าจะอยู่ใน ประเทศหรือต่างแดนก็ตาม โดยเฉพาะ เมื่อประเทศไทยได้ตราพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและ การกระทําให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ที่กําหนดไว้ในมาตรา 10 และมาตรา 43 ให้ทางการไทยมีหน้าทีสืบสวนกรณีที่ บุคคลถูกกระทําให้สูญหายจนกว่าจะพบหรือปรากฎหลักฐานอันน่าเชื่อได้ว่าบุคคลนั้นถึงแก่ความตายและทราบ รายละเอียดของการกระทําผิดและรู้ตัวผู้กระทําผิด
 
นางสาวสิตานัน กล่าวว่า ในโอกาสที่นายเศรษฐาจะเดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชาในวันที่ 28 กันยายนนี้ ตนจึงขอให้ท่านได้กรุณาสอบถามทางการกัมพูชาเกี่ยวกับชะตากรรมของนายวันเฉลิม เพื่อให้รัฐบาลกัมพูชาชี้แจงความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนกรณีที่เขาถูกบังคับให้สูญหาย และคืนความยุติธรรมให้กับครอบครัวของนายวันเฉลิมโดยไม่ล่าช้า เพื่อให้ครอบครัวของนายวันเฉลิมได้รับทราบเกี่ยวกับการดําเนินการในแต่ละขั้นตอน รวมถึงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกรณีทั้งหมดอย่างต่อเนื่องและเป็นธรรม
 
“ขอให้ท่านร้องขอให้รัฐบาลกัมพูชาดําเนินการสอบสวนกรณีอย่างจริงจังและได้ผลตามพันธกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศกัมพูชามีอยู่ และตามพันธกรณีที่ประเทศกัมพูชามีต่อประเทศไทย รวมทั้งตามอํานาจหน้าที่ ที่ทางการกัมพูชามีอยู่ภายใต้กฎหมายของตนด้วย หวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเป็นรัฐบาลของประชาชนที่สามารถช่วยเหลือได้ และหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากรัฐบาลชุดนี้ ” นางสาวสิตานัน กล่าว
 
ด้านนายสมคิด กล่าวว่า ในเรื่องนี้ตนจะดำเนินการประสานงานให้ ยืนยันว่าเรื่องนี้จะถึงนายกฯ อย่างแน่นอน ส่วนกรณีที่จะยื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงยุติธรรม ตนก็ยินดีจะประสานงานให้ ซึ่งตนคิดว่านายทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมน่าจะเข้าใจในเรื่องนี้ดี แตยืนยันว่าจะช่วยประสานงานให้เพื่อให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวผู้เสียหาย

---

ค่าเงินบาทอ่อนค่าหนัก 36.50 บาท ลุ้นดอกเบี้ยนโยบายแบงก์ชาติบ่ายวันนี้
https://www.dailynews.co.th/news/2755368/

ค่าเงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 10 เดือนครึ่ง แตะ 36.50 บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มอ่อนค่าก่อนผลประชุม กนง. เคาะดอกเบี้ยไทยบ่ายวันนี้

วันที่ 27 ก.ย. น.ส.กาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทอ่อนค่าทดสอบแนว 36.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 10 เดือนครึ่งในช่วงเช้าวันนี้ (10.05 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 36.36 บาทต่อดอลลาร์ 

ทั้งนี้เงินบาทยังคงมีทิศทางอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องในช่วงก่อนผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในช่วงบ่ายวันนี้ 
อย่างไรก็ดีการอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับทิศทางสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชียและการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่เงินดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูงหลายรายยังคงมีท่าทีคุมเข้ม หนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายของเฟด

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 36.33-36.53 บาทต่อดอลลาร์ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุม กนง. ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ส.ค. ของสหรัฐ... สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/2755368/