เมสันมองชายแปลกหน้าอย่างหัวร้อน
ชายแปลกหน้าพยายามสื่อสารกับเขา "ฉันมาดีนะ อย่าเพิ่งอัดฉัน"
"มาดี? พูดงี้ได้ไงวะ มาตรงระเบียง ไม่เข้าทางประตู"
"คือฉัน ฉันอยากลองฟังเพื่อเก็บข้อมูลบางอย่างก่อน"
เมสันเริ่มทนไม่ไหว "รีบบอกธุระของนายมาดีกว่า
ก่อนที่จะถูกฉันอัด ก่อนอื่นแนะนำตัวก่อนว่านายเป็นใคร
มาจากไหน"
ชายหนุ่มแปลกหน้าแนะนำตัว "ฉันเป็นสายลับมาจาก
สิริคิมาจาโร ภารกิจหลักคือให้มากล่อมพวกนายโดยตรง"
"กล่อม?" วิลเลียมสงสัย
"ใช่ กล่อมให้เข้ามาเป็นทหารของเครือข่ายคงเครา"
"ทำไมต้องเป็นพวกเราล่ะ" เมสันถามขึ้น
"พวกนายแมนมาก ๆ เป็นลูกผู้ชายเต็มตัว ตัดสินใจเร็ว
บรรลุเป้าหมายในการทำงาน และคาดว่าพวกนาย
น่าจะไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว"
"ทำไมถึงคิดอย่างนั้น" เมสันเริ่มขมวดคิ้ว
"นายจะทนไหวเหรอที่โสฬสจะมีผู้ปกครองเป็นผู้หญิง
สมเด็จพระราชินีวิมลลักษณาจะมาบริหารประเทศร่วมกับนายกฯ
แบบที่โชกุนโพทำ แต่เราก็รู้ว่ามันเป็นยุคผู้หญิงครองเมืองอยู่ดี
พวกแมน ๆ อย่างนายจะทนไหวเหรอกับการต้องตกอยู่
ภายใต้เบี้ยล่างของผู้หญิง ไปอยู่สิริคิมาจาโรกับพวกเราเถอะ"
วิลเลียมอยากถามอะไรบางอย่าง
"แล้วนายจะไปหวานล้อมเฟอดินานกับกาเร็ตไหม"
"ไม่"
"ทำไมวะ" เมสันถามขึ้น
"เราสงสัยว่าเขาสองคนมีความลึกซึ้งต่อกัน ทางเราไม่ชอบ
ทางเรารังเกียจ มันไม่สมเป็นลูกผู้ชาย"
"นายไปจากที่นี่ดีกว่าก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน"
เมสันรีบไล่เขาไป ชายหนุ่มแปลกหน้าก็รีบจากไปเพราะรู้ว่า
อยู่ต่อไปคงไม่รอด เมสันหันมามองวิลเลียม
"แต่ฉันทนได้นะถ้าสมเด็จพระราชินีวิมลลักษณาจะมาปกครองจริง ๆ
เหตุผลง่ายมากคือโสฬสของเราปกครองแบบประชาธิปไตยมาร้อย
กว่าปีแล้ว มันไม่มีอะไรดีขึ้นเลย มีแต่จะเลวลง
และตลอดร้อยปีที่ผ่านมา มันก็อยู่ในมือผู้นำที่เป็นผู้ชายมาโดยตลอด
แต่มันไม่มีอะไรดีขึ้นเลย"
วิลเลียมมองหน้าเมสันแล้วยิ้ม
"นึกไม่ถึงว่าแมน ๆ อย่างนายจะคิดแบบนี้"
เมสันหันมามองหน้าวิลเลียม
"นายพูดเหมือนว่านายไม่แมนนะ"
วิลเลียมไม่ค่อยพอใจในคำพูดนั้นเลยหนีไปอีกทาง
เมสันเดินไปง้อ "งอนไรวะ แค่พูดเล่นนิดหน่อยเอง"
"ฉันไม่ได้งอนนะ"
"ไม่ได้งอนแล้วทำไมหน้าเหมือนตูดล่ะ"
"โอเค ขอปลีกวิเวกสักพักก็แล้วกัน"
"อ้าว เฮ้ย ไอ้บ้า"
........................................................................
แอนโทนี่กลับมาเพ่งเล็งที่เฮนรี่กับมารุตก่อน
"เป็นยังไงบ้าง"
เฮนรี่เป็นคนที่พูด "ก็โอเคนะ มารุตดูเป็นคนที่พิเศษ
พิเศษกว่านายนะแอนโทนี่"
แอนโทนี่หัวเราะ เฮนรี่กล่าวต่อว่า "เขามีเสน่ห์มาก
น่าค้นหา แต่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นไงต่อไป"
"ก็ต้องค้นหากันต่อไป" แอนโทนี่ให้กำลังใจ
เขาเองก็หันไปหามารุต "นายมีอะไรจะพูดไหม"
"พูดตรง ๆ นะ ที่ผมกลับมาก็เพราะรู้ว่ามาคิวลัสมา
ผมไม่เคยพบเฮนรี่มาก่อน ก่อนจะมา คิดว่าจะมาคุยกับ
มาคิวลัส แต่พอเจอกันก็พูดไม่ออก จนมาเจอเฮนรี่ในวันนี้
เฮนรี่คุยเก่งมาก เขาบอกผมว่าปกติเขาจะหยิ่ง ๆ เงียบ ๆ
แต่ตอนคุยกับผม เขาคุยเก่งมาก จนผมต้องเงียบ
ผมว่าเขาโอเคนะ โอเคมาก ๆ เลย"
"นายก็โอเคนะ" แอนโทนี่ให้กำลังใจ
....................................................................
คุณหนูวิเวียน ธิดาของประธานาธิบดีคงเครา
ได้ขอเข้าพบราชาป่านูเปีย
"หนูมีเรื่องจะถามค่ะ"
ราชาป่านูเปียทรงหันไปหาวิเวียน
"มีอะไรรึ"
"ทำไมไม่ให้หนูถ่ายทอดสดออกไปว่าหนูหนีมาที่นี่เอง
ไม่ได้มีใครลักพาตัวมา"
"หนูคิดว่าถ้าทำแบบนั้น พ่อหนูจะล้มเลิกความคิดที่จะมาโจมตี
ดินแดนแถบนี้เหรอ"
"เออ อาจจะไม่ค่ะ เพียงแต่หนูอยากทำอะไรบางอย่างเพื่อ
ช่วยเหลือพวกท่านได้"
ทันใดนั้นนาฟก้า มนุษย์ต่างดาวที่ติดต่อกับราชาป่านูเปียมาตลอด
ขอเข้าพบด่วน
"มีอะไรเหรอท่าน" ราชาป่านูเปียทรงถามออกไป
"เกิดเรื่องแล้วครับ ยานจากดาวเลอาที่อยู่ห่างจากโลกมาก ๆ
ดันค้นพบประตูมิติที่ผู้มีอภิญญาได้สร้างไว้
ตอนนี้พวกเขากำลังนำยานผ่านประตูมิติมาที่โลกครับ"
"ยานพวกเขาจะมาโผล่ที่ไหนล่ะ"
"ถ้าทางเราคาดการไม่ผิด ยานจากดาวเลอาจะมาโผล่ที่
พระราชวังวริศราครับ"
"ว่าไงนะ แถวนั้นมีประตูมิติด้วยเหรอท่าน"
"สร้างมาตั้งแต่ราชินีโซเฟียได้รับอภิญญาครับ"
"อืม มนุษย์ต่างดาวจากดาวเลอา รูปร่างหน้าตาเหมือนกับมนุษย์ไหม"
"เหมือนครับ เพียงแต่สิ่งที่ตามมาไม่ใช่"
"ท่านกำลังหมายความว่า?"
"มียานอีกลำที่ตามยานของดาวเลอามา
พวกนั้นไม่เหมือนกับเราครับ หน้าตาพวกเขาคล้ายสัตว์ประหลาด
เรียกว่าพวกลูซอนครับ"
"ไม่ได้การแล้ว เดี๋ยวทางเราจะต้องแจ้งผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายให้ทราบด่วนเลย"
"ถ้าจะส่งกระแสจิตให้ผู้มีอภิญญาทั้งหมดทราบ
คน ๆ นั้นจะต้องมีอภิญญาแก่กล้ามากเลยนะครับ"
คุณหนูวิเวียนเอ่ยขึ้น "หนูรู้จักอยู่หนึ่งคนค่ะ"
"ใครเหรอ" ราชาป่านูเปียถามด้วยความสงสัย
"ทาสอาเธอร์ค่ะ"
วิมานมายา โดย ศักดา ตอนที่ 176 เหตุไม่คาดฝัน
เมสันมองชายแปลกหน้าอย่างหัวร้อน
ชายแปลกหน้าพยายามสื่อสารกับเขา "ฉันมาดีนะ อย่าเพิ่งอัดฉัน"
"มาดี? พูดงี้ได้ไงวะ มาตรงระเบียง ไม่เข้าทางประตู"
"คือฉัน ฉันอยากลองฟังเพื่อเก็บข้อมูลบางอย่างก่อน"
เมสันเริ่มทนไม่ไหว "รีบบอกธุระของนายมาดีกว่า
ก่อนที่จะถูกฉันอัด ก่อนอื่นแนะนำตัวก่อนว่านายเป็นใคร
มาจากไหน"
ชายหนุ่มแปลกหน้าแนะนำตัว "ฉันเป็นสายลับมาจาก
สิริคิมาจาโร ภารกิจหลักคือให้มากล่อมพวกนายโดยตรง"
"กล่อม?" วิลเลียมสงสัย
"ใช่ กล่อมให้เข้ามาเป็นทหารของเครือข่ายคงเครา"
"ทำไมต้องเป็นพวกเราล่ะ" เมสันถามขึ้น
"พวกนายแมนมาก ๆ เป็นลูกผู้ชายเต็มตัว ตัดสินใจเร็ว
บรรลุเป้าหมายในการทำงาน และคาดว่าพวกนาย
น่าจะไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว"
"ทำไมถึงคิดอย่างนั้น" เมสันเริ่มขมวดคิ้ว
"นายจะทนไหวเหรอที่โสฬสจะมีผู้ปกครองเป็นผู้หญิง
สมเด็จพระราชินีวิมลลักษณาจะมาบริหารประเทศร่วมกับนายกฯ
แบบที่โชกุนโพทำ แต่เราก็รู้ว่ามันเป็นยุคผู้หญิงครองเมืองอยู่ดี
พวกแมน ๆ อย่างนายจะทนไหวเหรอกับการต้องตกอยู่
ภายใต้เบี้ยล่างของผู้หญิง ไปอยู่สิริคิมาจาโรกับพวกเราเถอะ"
วิลเลียมอยากถามอะไรบางอย่าง
"แล้วนายจะไปหวานล้อมเฟอดินานกับกาเร็ตไหม"
"ไม่"
"ทำไมวะ" เมสันถามขึ้น
"เราสงสัยว่าเขาสองคนมีความลึกซึ้งต่อกัน ทางเราไม่ชอบ
ทางเรารังเกียจ มันไม่สมเป็นลูกผู้ชาย"
"นายไปจากที่นี่ดีกว่าก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน"
เมสันรีบไล่เขาไป ชายหนุ่มแปลกหน้าก็รีบจากไปเพราะรู้ว่า
อยู่ต่อไปคงไม่รอด เมสันหันมามองวิลเลียม
"แต่ฉันทนได้นะถ้าสมเด็จพระราชินีวิมลลักษณาจะมาปกครองจริง ๆ
เหตุผลง่ายมากคือโสฬสของเราปกครองแบบประชาธิปไตยมาร้อย
กว่าปีแล้ว มันไม่มีอะไรดีขึ้นเลย มีแต่จะเลวลง
และตลอดร้อยปีที่ผ่านมา มันก็อยู่ในมือผู้นำที่เป็นผู้ชายมาโดยตลอด
แต่มันไม่มีอะไรดีขึ้นเลย"
วิลเลียมมองหน้าเมสันแล้วยิ้ม
"นึกไม่ถึงว่าแมน ๆ อย่างนายจะคิดแบบนี้"
เมสันหันมามองหน้าวิลเลียม
"นายพูดเหมือนว่านายไม่แมนนะ"
วิลเลียมไม่ค่อยพอใจในคำพูดนั้นเลยหนีไปอีกทาง
เมสันเดินไปง้อ "งอนไรวะ แค่พูดเล่นนิดหน่อยเอง"
"ฉันไม่ได้งอนนะ"
"ไม่ได้งอนแล้วทำไมหน้าเหมือนตูดล่ะ"
"โอเค ขอปลีกวิเวกสักพักก็แล้วกัน"
"อ้าว เฮ้ย ไอ้บ้า"
........................................................................
แอนโทนี่กลับมาเพ่งเล็งที่เฮนรี่กับมารุตก่อน
"เป็นยังไงบ้าง"
เฮนรี่เป็นคนที่พูด "ก็โอเคนะ มารุตดูเป็นคนที่พิเศษ
พิเศษกว่านายนะแอนโทนี่"
แอนโทนี่หัวเราะ เฮนรี่กล่าวต่อว่า "เขามีเสน่ห์มาก
น่าค้นหา แต่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นไงต่อไป"
"ก็ต้องค้นหากันต่อไป" แอนโทนี่ให้กำลังใจ
เขาเองก็หันไปหามารุต "นายมีอะไรจะพูดไหม"
"พูดตรง ๆ นะ ที่ผมกลับมาก็เพราะรู้ว่ามาคิวลัสมา
ผมไม่เคยพบเฮนรี่มาก่อน ก่อนจะมา คิดว่าจะมาคุยกับ
มาคิวลัส แต่พอเจอกันก็พูดไม่ออก จนมาเจอเฮนรี่ในวันนี้
เฮนรี่คุยเก่งมาก เขาบอกผมว่าปกติเขาจะหยิ่ง ๆ เงียบ ๆ
แต่ตอนคุยกับผม เขาคุยเก่งมาก จนผมต้องเงียบ
ผมว่าเขาโอเคนะ โอเคมาก ๆ เลย"
"นายก็โอเคนะ" แอนโทนี่ให้กำลังใจ
....................................................................
คุณหนูวิเวียน ธิดาของประธานาธิบดีคงเครา
ได้ขอเข้าพบราชาป่านูเปีย
"หนูมีเรื่องจะถามค่ะ"
ราชาป่านูเปียทรงหันไปหาวิเวียน
"มีอะไรรึ"
"ทำไมไม่ให้หนูถ่ายทอดสดออกไปว่าหนูหนีมาที่นี่เอง
ไม่ได้มีใครลักพาตัวมา"
"หนูคิดว่าถ้าทำแบบนั้น พ่อหนูจะล้มเลิกความคิดที่จะมาโจมตี
ดินแดนแถบนี้เหรอ"
"เออ อาจจะไม่ค่ะ เพียงแต่หนูอยากทำอะไรบางอย่างเพื่อ
ช่วยเหลือพวกท่านได้"
ทันใดนั้นนาฟก้า มนุษย์ต่างดาวที่ติดต่อกับราชาป่านูเปียมาตลอด
ขอเข้าพบด่วน
"มีอะไรเหรอท่าน" ราชาป่านูเปียทรงถามออกไป
"เกิดเรื่องแล้วครับ ยานจากดาวเลอาที่อยู่ห่างจากโลกมาก ๆ
ดันค้นพบประตูมิติที่ผู้มีอภิญญาได้สร้างไว้
ตอนนี้พวกเขากำลังนำยานผ่านประตูมิติมาที่โลกครับ"
"ยานพวกเขาจะมาโผล่ที่ไหนล่ะ"
"ถ้าทางเราคาดการไม่ผิด ยานจากดาวเลอาจะมาโผล่ที่
พระราชวังวริศราครับ"
"ว่าไงนะ แถวนั้นมีประตูมิติด้วยเหรอท่าน"
"สร้างมาตั้งแต่ราชินีโซเฟียได้รับอภิญญาครับ"
"อืม มนุษย์ต่างดาวจากดาวเลอา รูปร่างหน้าตาเหมือนกับมนุษย์ไหม"
"เหมือนครับ เพียงแต่สิ่งที่ตามมาไม่ใช่"
"ท่านกำลังหมายความว่า?"
"มียานอีกลำที่ตามยานของดาวเลอามา
พวกนั้นไม่เหมือนกับเราครับ หน้าตาพวกเขาคล้ายสัตว์ประหลาด
เรียกว่าพวกลูซอนครับ"
"ไม่ได้การแล้ว เดี๋ยวทางเราจะต้องแจ้งผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายให้ทราบด่วนเลย"
"ถ้าจะส่งกระแสจิตให้ผู้มีอภิญญาทั้งหมดทราบ
คน ๆ นั้นจะต้องมีอภิญญาแก่กล้ามากเลยนะครับ"
คุณหนูวิเวียนเอ่ยขึ้น "หนูรู้จักอยู่หนึ่งคนค่ะ"
"ใครเหรอ" ราชาป่านูเปียถามด้วยความสงสัย
"ทาสอาเธอร์ค่ะ"