มันไม่มีใครไม่เปรียบเทียบหรอกค่ะเรา
และทุกคนต่างก็มีปมทั้งนั้น ! 😈😈
/ และอยู่ที่ว่าเราจะจัดการความรู้สึกในจิตใจที่เกิดจากการเปรียบเทียบและปมในใจตัวเองยังไง ไม่ให้ไปก้าวล่วงคนอื่น
เอาตามความรู้สึกเเละจากการอ่านหนังสือเเนววิวัฒนาการของมนุษย์นะ ธรรมชาติมนุษย์ขี้อวดทั้งนั้น เพื่อเเสดงศักยภาพและดึงดูดโอกาสในการสืบพันธุ์และสามารถใช้สิ่งนั้นบำรุงรักษาเผ่าพันธุ์ของตนเองไว้ หรืออย่างน้อยๆ ก็เพื่อความอุดมสมบูรณ์ในชีวิตของตัวเอง มันอาจจะมีรายละเอียดมากกว่านี้ เเต่เราอ่านเเล้วเราเข้าใจประมาณนี้ ลึกๆลองไปหาอ่านเอาเอง รวมถึงมนุษย์มีความชิงชังริษยา หรืออย่างน้อยๆ ก็หมั้นไส้ เเละสิ่งนั้นมันกระตุ้นให้เราทำร้ายคนอื่น
อย่างน้อยๆก็ด้วยหอกปากที่เอาไว้ทิ่มเเทงจิกกัดด้อยค่าคนอื่น อาจจะผ่านวาทะกรรมสวยหรู หรือไม่ก็หยาบช้า ตามระดับความรู้ที่มี
เเต่ใดๆ คือมนุษญขัดเกลาจิตใจได้ ไม่ให้ไหนตามสัญชาตญาณดิบ ชิงชังรัษยาหมั้นไส้ เเละ การจะมีจิตใจเมตตาเห็นคุณค่าในชีวิตคนอื่น เเละเห็นความมืดบอดในจิตของตัวเองได้ช้าหรือไวต่างก็ไม่เท่ากัน..
เมื่อก่อนเราก็ชอบตั้งคำถามลักษณะแบบนี้นะ
้เช่น ทำไมเมียฝรั่งขี้อวดจัง ไปเจอฝรั่งได้ไง พัทยาละสิ เมียฝรั่งคือโสเพณีเหรอ คนนั้นคนนี้สวยเพราะศัลยกรรม ยังจะอวดอีก มีปมละสิ! คนนี้เป็นเมียน้อยเป็นกิ๊กคนนั้นคืนนี้, มีเสี่ยเลี้ยง บลาๆๆ คนนี้เคยมีผัวมาหลายคน คนนี้รวยเพราะพ่อเเม่สร้างมาตัวเองไม่ได้ทำอะไร, ก็เเค่เกิดมารวย , กล้าอวดเนอะ ทั้งๆที่เป็นผีน้อย / ยิ่งมีเเนวร่วมด้อยค่าพวกเค้า ยิ่งชอบใจ / สังเกตมั๊ย? ว่าเป้าหมายคือใคร ก็ผู้หญิงเหมือนกันกับเราทั้งนั้น.. อาจจะมีผู้ชายบ้าง เเต่ก็ประเด็นเรื่องโอกาสทางการศึกษา... ( ที่ยกตัวอย่างมา บางเรื่องเราก็คิดทัน พิจารณาจิตใจตัวเองทัน แแต่บางเรื่องก็ไม่ทันพิจจารณาจริงๆ เเล้วพยายามหาเเนวร่วมมาสสร้างกรรมทางวาจา ต่อบุคคลเหล่านั้นที่เราเอ่ยถึง
ทั้งๆที่คนพวกน้นไม่ได้มาว่าหรือทำร้ายเราเลยยยย..รวมถึงก็ไม่ได้ทำร้ายสังคมโดยรวมด้วย..(ประเด็น sex worker , หรือประเด็นศีลธรรมข้อ 3 เรายังมองว่ามันเป็นปัจเจเกบุคคลอยู่ มีความ sensitive เเละใคร่ครวญความผิดได้ยากลำบาก ใความ bias ทางสังคมอยู่มาก ). / เรามีเหตุการณ์ให้ตาสว่าง จากกัลยาณมิตรท่านหนึ่งที่สะท้อนจิตใจของเราว่าจริงๆเเล้ว เราชิงชังหมั้นไส้ คนที่เราด้อยค่าเค้าอยู่ เเละสร้างวาทะกรรมให้พวกเค้าดูเเย่, นั้นแหละทำให้เรารู้ว่า เเท้จริงเเล้ว เราเอาเเต่เเสวงหาความด้อย ความไม่ดีของคนนั้นคนนี้ ( ซึ่งเราคิดเเละตัดสินไปเองว่าไม่ดี เราอคติกับมันไปเอง (
อาจด้วยตัวเรามีอคติจริงๆ และหรือสังคมหล่อหลอมให้อคติกับมัน.. ) เเละไม่ได้ดูจิตใจตัวเองเลยยยยย ว่าเเย่ ... เลว.. หยาบ.. เเค่ไหน เราเลยเริ่มศึกษาเรื่องความคิดเเละจิตใจของเรามากขึ้นค่ะ ทั้งเรื่องการวิวัฒนาการของมนุษย์ ร่างกายสัญชาตญาณดิบ เเละธรรมมะ ( จิตใจ)
อยากจะบอกว่า อย่าเพิ่งสร้างวาทะกรรม ด้อยค่า คนที่เขาอวดบนโลกโซเชียลเลย.... ใจเย็นๆ
เราควรตั้งคำถามกับตัวเองมั๊ยว่า...
- การที่เราไม่อวดแล้วไม่เห็นด้วยในสิ่งที่เขาทำใน
social มันไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้เราจริงๆ เลย
- เขามีสิทธิ์ที่จะอวด ความสำเร็จของเขา มันจะเป็นปัญหาก็ต่อเมื่อเขาได้มันมาด้วย การผิดกฎหมายและความอยุติธรรม(ช่องโหว่ทางกฎหมาย) หากเขาได้มาโดยไม่ผิดกฎหมาย เขาก็ไม่ได้ผิดอะไรเลย แต่เป็น ความผิดและปัญหาของเราที่เราไปเสพแล้วเราไม่พอใจตังหาก
- อันที่จริงความไม่พอใจที่เค้าอวด ก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์มากๆเลย, เพราะมนุษย์มีความความชิงชังริษยาหมั้นไส้ ที่อาจเข้ามากระทบจิตได้เสมอ
แต่เราจะจัดการกับความไม่พอใจของตัวเองยังไงต่างหาก
- แล้ว.. พอเราไม่พอใจแล้วเราควรจะทำยังไง เราควรจะเสพต่อ เราควรตำหนิติเตียนด้อยค่าเขาเหรอ คอยตั้งคำถามหาเเนวรวม ชิงชังริษยาหมั้นไส้พวกเค้าไปด้วยกันเหรอ และยัดเยียดว่าเขามีปมงั้นหรือ ? หรือไม้รีบด่วนสรุปว่าเค้าทำธุรกิจผิดกฎหมายงั้นหรือ?
- ต่อให้ความจริงว่าเขามีปม แล้วยังไงล่ะ
🎗️ ปมที่เกิดมา ในประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำสูง ทั้งเศรษฐกิจและการศึกษา และเขาเป็นประชากรที่อยู่ในชนชั้น ล่างๆ แล้วฝันอยากมีชีวิตที่ดี มีความร่ำรวยอุดมสมบูรณ์
🎗️ ปมที่ไม่ได้สวยไม่ได้หล่อ เลยพยายามที่จะพัฒนาตัวเอง หาเงินมาเสริมสวยเสริมหล่อ เพราะอยากสวยหล่อ
🎗️ ปมที่ไม่ได้เพียบพร้อม เพราะไม่เคยมี พอมีก็เลยอวดบนโลกโซเชียล ที่เป็น optional ว่า ใครจะเลือกเสพหรือไม่เสพก็ได้
แล้วเราล่ะ เคยถามตัวเราเองบ้างไหมว่าเรามีปมหรือปัญหาอะไร กับความสวย ความหล่อ บนเรือนร่างของพวกเขา ไม่ว่าเขาจะ ธรรมชาติให้มา หรือ ศัลยกรรมก็ตาม / เราอยากให้พวกเขายอมรับความจริง ว่ามีปม แล้วเราล่ะ กล้าที่จะยอมรับปมในจิตใจตัวเอง ว่าชิงชังหมั่นไส้เขาไหม
เราไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าชีวิตเขาผ่านอะไรมาบ้าง เขาต้องอยู่กับความเหลื่อมล้ำ ในชีวิตมามากน้อยแค่ไหน วันหนึ่งเขารวยขึ้นจะด้วยทำงานหนักเหมือนกระเเต หรือมีผัวรวยแบบมาดามต่าง ๆ แล้วเขาอวด ในโลกโซเชียล แล้วเราก็ไปเสพเองหมั่นไส้เอง ชง จิตใจที่มีความริษยาหมั่นไส้อยู่แล้วให้ปะทุขึ้น ตั้งคำถามและสร้างวาทกรรมด้อยค่าพวกเขา ว่ามีปมอย่างนั้นอย่างนี้ เพื่อให้ตัวเราเองรู้สึกมีค่ามากขึ้นอย่างนั้นหรือ?? ยัดเยียดว่าเขามีปมไม่ก็ยัดเยียดว่าเขาทำสิ่งผิดกฎหมาย ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นงั้นหรือ เรารู้สึกมีความสุขและยินดี ที่เราได้ยัดเยียดปมให้เขา งั้นหรือ ทั้งที่เขาก็ไม่ได้ไปปล้นใครมา ความ ความสวยและร่างกาย มันก็ของเขา ...
คนได้ดีมีสุขโดยสุจริตชอบ เราควรมีมุฑิตาจิตกับเค้า
แต่ถึงไม่มี ก็ไม่เป็นไร เพราะบางคน เค้าอาจเคยทำร้ายเรามาก่อน เราไม่ต้องยินดีกับเค้าก็ได้
แต่ก็อย่าไปยินร้ายเลย อย่าไปเสพสะเลยดีกว่า การที่เราเคย
มีอคติบางอย่าง เราก็ไม่ผิด เพียงแต่จะควบคุมอคติของเรายังไงไม่ให้ไปทำร้ายคนอื่น บางเรื่องเราไม่ต้องสนับสนุนเค้าหรอกถ้าเราไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่ต้องไปโค่นหักหาญเค้าก็ได้..ยิ่งเรื่องเชิงสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล
ใครใคร่อยากเลี้ยงดูตัวเองด้วยตัวเอง ก็ศึกษาหาความรู้ไป มีความสุขจริงๆ จากการเลี้ยงดูตัวเองด้วยล้ำเเข้งไม่ใช่จากการด้อยค่าผู้หญิงคนอื่นที่ปฎิบัติตนเเตกต่างไปจากตนเอง เราคืออีกหนึ่งคนที่ไม่ได้มีใครเลี้ยง เเต่อยากได้มั๊ย อยากอยู่เเล้ว เเต่เราไม่ได้มีปัจจัยดึงดูดมากพอ ต้องยอมรับความจริง
ผู้ชายเค้าก็มีสิทธิเลือก
เราอาจจะอธิบายสับสนเเละเรียบเรียงไม่สละสลวยนะคะ ขอขอบคุณที่อ่านจนจบ และขอบคุณที่ร่วมเเสดงความเห็น
เราเองก็ไม่ได้ดี มีบางมุมที่พอได้ขัดเกลาเเล้วบ้าง เเละอีกมากมายหลายอย่างยังไม่ได้ขัดเกลา อาจยังไม่เจอสถาณการณ์หรือกัลญณมิตรช่วยชี้นำ
เราคิดว่า ทุกคนต่างก็มีปมทั้งนั้น ! 😈😈 การอวดในโลกโซเชี่ยล
และทุกคนต่างก็มีปมทั้งนั้น ! 😈😈
/ และอยู่ที่ว่าเราจะจัดการความรู้สึกในจิตใจที่เกิดจากการเปรียบเทียบและปมในใจตัวเองยังไง ไม่ให้ไปก้าวล่วงคนอื่น
เอาตามความรู้สึกเเละจากการอ่านหนังสือเเนววิวัฒนาการของมนุษย์นะ ธรรมชาติมนุษย์ขี้อวดทั้งนั้น เพื่อเเสดงศักยภาพและดึงดูดโอกาสในการสืบพันธุ์และสามารถใช้สิ่งนั้นบำรุงรักษาเผ่าพันธุ์ของตนเองไว้ หรืออย่างน้อยๆ ก็เพื่อความอุดมสมบูรณ์ในชีวิตของตัวเอง มันอาจจะมีรายละเอียดมากกว่านี้ เเต่เราอ่านเเล้วเราเข้าใจประมาณนี้ ลึกๆลองไปหาอ่านเอาเอง รวมถึงมนุษย์มีความชิงชังริษยา หรืออย่างน้อยๆ ก็หมั้นไส้ เเละสิ่งนั้นมันกระตุ้นให้เราทำร้ายคนอื่น อย่างน้อยๆก็ด้วยหอกปากที่เอาไว้ทิ่มเเทงจิกกัดด้อยค่าคนอื่น อาจจะผ่านวาทะกรรมสวยหรู หรือไม่ก็หยาบช้า ตามระดับความรู้ที่มี
เเต่ใดๆ คือมนุษญขัดเกลาจิตใจได้ ไม่ให้ไหนตามสัญชาตญาณดิบ ชิงชังรัษยาหมั้นไส้ เเละ การจะมีจิตใจเมตตาเห็นคุณค่าในชีวิตคนอื่น เเละเห็นความมืดบอดในจิตของตัวเองได้ช้าหรือไวต่างก็ไม่เท่ากัน..
เมื่อก่อนเราก็ชอบตั้งคำถามลักษณะแบบนี้นะ
้เช่น ทำไมเมียฝรั่งขี้อวดจัง ไปเจอฝรั่งได้ไง พัทยาละสิ เมียฝรั่งคือโสเพณีเหรอ คนนั้นคนนี้สวยเพราะศัลยกรรม ยังจะอวดอีก มีปมละสิ! คนนี้เป็นเมียน้อยเป็นกิ๊กคนนั้นคืนนี้, มีเสี่ยเลี้ยง บลาๆๆ คนนี้เคยมีผัวมาหลายคน คนนี้รวยเพราะพ่อเเม่สร้างมาตัวเองไม่ได้ทำอะไร, ก็เเค่เกิดมารวย , กล้าอวดเนอะ ทั้งๆที่เป็นผีน้อย / ยิ่งมีเเนวร่วมด้อยค่าพวกเค้า ยิ่งชอบใจ / สังเกตมั๊ย? ว่าเป้าหมายคือใคร ก็ผู้หญิงเหมือนกันกับเราทั้งนั้น.. อาจจะมีผู้ชายบ้าง เเต่ก็ประเด็นเรื่องโอกาสทางการศึกษา... ( ที่ยกตัวอย่างมา บางเรื่องเราก็คิดทัน พิจารณาจิตใจตัวเองทัน แแต่บางเรื่องก็ไม่ทันพิจจารณาจริงๆ เเล้วพยายามหาเเนวร่วมมาสสร้างกรรมทางวาจา ต่อบุคคลเหล่านั้นที่เราเอ่ยถึง
ทั้งๆที่คนพวกน้นไม่ได้มาว่าหรือทำร้ายเราเลยยยย..รวมถึงก็ไม่ได้ทำร้ายสังคมโดยรวมด้วย..(ประเด็น sex worker , หรือประเด็นศีลธรรมข้อ 3 เรายังมองว่ามันเป็นปัจเจเกบุคคลอยู่ มีความ sensitive เเละใคร่ครวญความผิดได้ยากลำบาก ใความ bias ทางสังคมอยู่มาก ). / เรามีเหตุการณ์ให้ตาสว่าง จากกัลยาณมิตรท่านหนึ่งที่สะท้อนจิตใจของเราว่าจริงๆเเล้ว เราชิงชังหมั้นไส้ คนที่เราด้อยค่าเค้าอยู่ เเละสร้างวาทะกรรมให้พวกเค้าดูเเย่, นั้นแหละทำให้เรารู้ว่า เเท้จริงเเล้ว เราเอาเเต่เเสวงหาความด้อย ความไม่ดีของคนนั้นคนนี้ ( ซึ่งเราคิดเเละตัดสินไปเองว่าไม่ดี เราอคติกับมันไปเอง (อาจด้วยตัวเรามีอคติจริงๆ และหรือสังคมหล่อหลอมให้อคติกับมัน.. ) เเละไม่ได้ดูจิตใจตัวเองเลยยยยย ว่าเเย่ ... เลว.. หยาบ.. เเค่ไหน เราเลยเริ่มศึกษาเรื่องความคิดเเละจิตใจของเรามากขึ้นค่ะ ทั้งเรื่องการวิวัฒนาการของมนุษย์ ร่างกายสัญชาตญาณดิบ เเละธรรมมะ ( จิตใจ)
อยากจะบอกว่า อย่าเพิ่งสร้างวาทะกรรม ด้อยค่า คนที่เขาอวดบนโลกโซเชียลเลย.... ใจเย็นๆ
เราควรตั้งคำถามกับตัวเองมั๊ยว่า...
- การที่เราไม่อวดแล้วไม่เห็นด้วยในสิ่งที่เขาทำในsocial มันไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้เราจริงๆ เลย
- เขามีสิทธิ์ที่จะอวด ความสำเร็จของเขา มันจะเป็นปัญหาก็ต่อเมื่อเขาได้มันมาด้วย การผิดกฎหมายและความอยุติธรรม(ช่องโหว่ทางกฎหมาย) หากเขาได้มาโดยไม่ผิดกฎหมาย เขาก็ไม่ได้ผิดอะไรเลย แต่เป็น ความผิดและปัญหาของเราที่เราไปเสพแล้วเราไม่พอใจตังหาก
- อันที่จริงความไม่พอใจที่เค้าอวด ก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์มากๆเลย, เพราะมนุษย์มีความความชิงชังริษยาหมั้นไส้ ที่อาจเข้ามากระทบจิตได้เสมอ แต่เราจะจัดการกับความไม่พอใจของตัวเองยังไงต่างหาก
- แล้ว.. พอเราไม่พอใจแล้วเราควรจะทำยังไง เราควรจะเสพต่อ เราควรตำหนิติเตียนด้อยค่าเขาเหรอ คอยตั้งคำถามหาเเนวรวม ชิงชังริษยาหมั้นไส้พวกเค้าไปด้วยกันเหรอ และยัดเยียดว่าเขามีปมงั้นหรือ ? หรือไม้รีบด่วนสรุปว่าเค้าทำธุรกิจผิดกฎหมายงั้นหรือ?
- ต่อให้ความจริงว่าเขามีปม แล้วยังไงล่ะ
🎗️ ปมที่เกิดมา ในประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำสูง ทั้งเศรษฐกิจและการศึกษา และเขาเป็นประชากรที่อยู่ในชนชั้น ล่างๆ แล้วฝันอยากมีชีวิตที่ดี มีความร่ำรวยอุดมสมบูรณ์
🎗️ ปมที่ไม่ได้สวยไม่ได้หล่อ เลยพยายามที่จะพัฒนาตัวเอง หาเงินมาเสริมสวยเสริมหล่อ เพราะอยากสวยหล่อ
🎗️ ปมที่ไม่ได้เพียบพร้อม เพราะไม่เคยมี พอมีก็เลยอวดบนโลกโซเชียล ที่เป็น optional ว่า ใครจะเลือกเสพหรือไม่เสพก็ได้
แล้วเราล่ะ เคยถามตัวเราเองบ้างไหมว่าเรามีปมหรือปัญหาอะไร กับความสวย ความหล่อ บนเรือนร่างของพวกเขา ไม่ว่าเขาจะ ธรรมชาติให้มา หรือ ศัลยกรรมก็ตาม / เราอยากให้พวกเขายอมรับความจริง ว่ามีปม แล้วเราล่ะ กล้าที่จะยอมรับปมในจิตใจตัวเอง ว่าชิงชังหมั่นไส้เขาไหม
เราไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าชีวิตเขาผ่านอะไรมาบ้าง เขาต้องอยู่กับความเหลื่อมล้ำ ในชีวิตมามากน้อยแค่ไหน วันหนึ่งเขารวยขึ้นจะด้วยทำงานหนักเหมือนกระเเต หรือมีผัวรวยแบบมาดามต่าง ๆ แล้วเขาอวด ในโลกโซเชียล แล้วเราก็ไปเสพเองหมั่นไส้เอง ชง จิตใจที่มีความริษยาหมั่นไส้อยู่แล้วให้ปะทุขึ้น ตั้งคำถามและสร้างวาทกรรมด้อยค่าพวกเขา ว่ามีปมอย่างนั้นอย่างนี้ เพื่อให้ตัวเราเองรู้สึกมีค่ามากขึ้นอย่างนั้นหรือ?? ยัดเยียดว่าเขามีปมไม่ก็ยัดเยียดว่าเขาทำสิ่งผิดกฎหมาย ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นงั้นหรือ เรารู้สึกมีความสุขและยินดี ที่เราได้ยัดเยียดปมให้เขา งั้นหรือ ทั้งที่เขาก็ไม่ได้ไปปล้นใครมา ความ ความสวยและร่างกาย มันก็ของเขา ...
คนได้ดีมีสุขโดยสุจริตชอบ เราควรมีมุฑิตาจิตกับเค้า แต่ถึงไม่มี ก็ไม่เป็นไร เพราะบางคน เค้าอาจเคยทำร้ายเรามาก่อน เราไม่ต้องยินดีกับเค้าก็ได้ แต่ก็อย่าไปยินร้ายเลย อย่าไปเสพสะเลยดีกว่า การที่เราเคยมีอคติบางอย่าง เราก็ไม่ผิด เพียงแต่จะควบคุมอคติของเรายังไงไม่ให้ไปทำร้ายคนอื่น บางเรื่องเราไม่ต้องสนับสนุนเค้าหรอกถ้าเราไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่ต้องไปโค่นหักหาญเค้าก็ได้..ยิ่งเรื่องเชิงสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล
ใครใคร่อยากเลี้ยงดูตัวเองด้วยตัวเอง ก็ศึกษาหาความรู้ไป มีความสุขจริงๆ จากการเลี้ยงดูตัวเองด้วยล้ำเเข้งไม่ใช่จากการด้อยค่าผู้หญิงคนอื่นที่ปฎิบัติตนเเตกต่างไปจากตนเอง เราคืออีกหนึ่งคนที่ไม่ได้มีใครเลี้ยง เเต่อยากได้มั๊ย อยากอยู่เเล้ว เเต่เราไม่ได้มีปัจจัยดึงดูดมากพอ ต้องยอมรับความจริง
ผู้ชายเค้าก็มีสิทธิเลือก
เราอาจจะอธิบายสับสนเเละเรียบเรียงไม่สละสลวยนะคะ ขอขอบคุณที่อ่านจนจบ และขอบคุณที่ร่วมเเสดงความเห็น
เราเองก็ไม่ได้ดี มีบางมุมที่พอได้ขัดเกลาเเล้วบ้าง เเละอีกมากมายหลายอย่างยังไม่ได้ขัดเกลา อาจยังไม่เจอสถาณการณ์หรือกัลญณมิตรช่วยชี้นำ