พึ่งเคยเขียนบทความครั้งแรกค่ะ ทุกคนช่วยคอมเม้นส์หน่อยค่ะ อยากฟังความเห็น

กระทู้คำถาม
ตามหัวข้อเลยค่ะช่วย ติ แสดงความคิดเห็นหน่อยค่ะพึ่งเคยเขียนครั้งแรก จะนำทุกคำแนะนำไปปรับปรุงตัวค่ะ

                                                                
                                                                       4 แนวทางการใช้ชีวิตในโรงเรียนมัธยมให้มีความสุข
     ความทรงจำที่ดีที่สุดในช่วงวัยรุ่นของคุณคือเรื่องไหน? คำตอบของใครหลายคนคงหนีไม่พ้นช่วงที่มีเรื่องราวดีๆเกิดขึ้นมากมายอย่างเรื่องความรักในวัยเรียน เรื่องการโดนทำโทษครั้งแรก หรือเรื่องขำขันกับอาจารย์คนโปรด ทุกเรื่องล้วนเกิดขึ้นในวัยเรียนทั้งสิ้น แต่สำหรับบางคนแล้ว โรงเรียนกับไม่ใช่สถานที่แห่งความทรงจำที่หน้าคิดถึง ซ้ำยังเป็นฝันร้ายที่ไม่อยากกลับไปพบไปเจออีกเป็นครั้งที่สอง วันเรามี 4 แนวทางเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในโรงเรียนอย่างไรให้มีความสุข โดยรับรองได้ว่าหากได้ลองทำตามแล้วชีวิตในโรงเรียนของคุณจะง่ายขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว
 
หัวข้อที่ 1 เพื่อนดีเป็นศรีแก่ตัว เพื่อนชั่วจะทำให้ตัวเปื้อนสี
ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อชีวิตในโรงเรียนของทุกคนนั้นล้วนมีคำว่า “เพื่อน” เข้ามาเกี่ยวข้อง การเลือกคบเพื่อนที่ดีนั้นจะทำให้ชีวิตในโรงเรียนดีขึ้นอย่างไร? “เพื่อนที่ดี” ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเพื่อนที่เรียนเก่ง มีผลการเรียนดีหรือ บ้านรวย แต่เป็นเพื่อนที่พร้อมสนับสนุนคุณในเรื่องที่ถูกและกล้าตำหนิคุณในเรื่องที่ผิด เพื่อนที่คอยรับฟังปัญหาของคุณแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องไร้สาระแค่ไหนสำหรับเขาก็ตาม เพื่อนที่ไม่ว่าร้าย ไม่ดูถูก และที่สำคัญที่สุดคือเพื่อนที่คิดว่าคุณเป็นเพื่อนของเขาจริงๆ หากรอบตัวของคุณมีเพื่อนประเภทนี้อยู่ นั่นหมายความว่าคุณโชคดีมากแล้ว แต่หากรอบตัวคุณไม่มีเพื่อนประเภทนี้เลย สิ่งที่เราอยากจะแนะนำคุณคือการอยู่แบบมีส่วนร่วม คุณควรเลือกคบหาเพื่อนประเภทที่ไม่เลยร้ายจนเกินไป อย่างน้อยก็ประเภทที่ไม่ทำผิดกฎหมาย ไม่เห็นแก่ตัว ไม่สร้างเรื่องเดือดร้อนให้กับคุณเป็นต้น เพราะถึงอย่างไรการคบเพื่อนประเภทนี้ย่อมดีกว่าการทำทุกอย่างด้วยตนเองอยู่แล้ว และที่สำคัญอย่าไปคาดหวังมิตรภาพตลอดชีพจากคนพวกนี้มากนะ แค่ใช้ชีวิตของคุณต่อไปโดยไม่กังวลแค่นี้ก็พอแล้ว
 
หัวข้อที่ 2 คิดมาก ยากปัญหา
ในขณะที่คุณกำลังเสิร์ชหรืออ่านบทความนี้อยู่ ปัจจัยแรกที่ทำให้คุณเลือกคลิกเข้ามาอ่านคือ “ความเครียด” คุณคงจะมีปัญหาในใจมากมาย อย่างเช่น “ทำไมเพื่อนถึงไม่ชวนฉันไปงานวันเกิดล่ะ?”  “ทำไมพวกเขาถึงถ่ายรูปโดยไม่มีฉันกันนะ? ” กรณีเหล่านี้ล้วนทำให้เกิดความเครียดได้ทั้งสิ้น วิธีแสดงออกทางความเครียดของคนเราไม่เหมือนกัน เพื่อบางคนที่ทำตัวสดใสร่างเริงอยู่ตลอดเวลาแท้จริงแล้วอาจเครียดจนอยากอาเจียนอยู่ก็เป็นได้ บทความเกี่ยวกับการรับมือด้านความเครียดของนักวิจัยบนโลกอินเทอร์เน็ตได้กว่าถึงวิธีวิธีที่ดีและได้ผลที่สุดเกี่ยวกับการกำจัดความเครียดไว้ว่า “การจมอยู่กับความคิดใดความคิดหนึ่งมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการเครียดโดยไม่รู้ตัวได้ หรือถ้าหากเราจมอยู่กับความวิตกกังวลมากๆ ก็กลายเป็นความเครียดสะสม ความเครียดที่เกิดขึ้นนั้นก็จะกลายเป็นสาเหตุของความทุกข์ใจ ดังนั้นแล้ววิธีที่ดีที่สุดคือการหยุดคิดมากและปล่อยวางตัวให้สบายไปตามที่เป็นอยู่ ” ซึ่งการหยุดคิดมากนั้นฟังดูแล้วเหมือนจะทำได้ยากเกินไปหน่อย แต่หากลองช่างมันดูบ้างก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้เลย อย่างเช่น “เพื่อนไม่ชวนฉันไปงานวันเกิดเหรอ? อ๋อ ไม่เป็นไรหรอก ช่างเขาเถอะฉันเองก็มีงานที่ต้องทำเหมือนกัน” อย่างนี้เป็นต้น
 
หัวข้อที่ 3 เรียนรู้เอาตัวรอดเป็นยอดดี 
นอกจากปัญหาชีวิตในโรงเรียนเกี่ยวกับเรื่องเพื่อนแล้ว เหล่าวัยรุ่นมัธยมทั้งหลายยังมีปัญหาในโรงเรียนอีกมากมายที่เหลืออยู่อย่างเช่นปัญหาเกี่ยวกับคุณครู รุ่นพี่ หรือแม้แต่ลุงยามหน้าประตูโรงเรียนก็อาจเป็นปัญหาที่ทำให้หนักใจได้ในหัวข้อที่ 3 นี้ จะพูดถึงการเอาตัวรอดจากปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นและคาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต อย่างแรกที่คุณควรทำคือ หลีกเลี่ยงการทะเลาะให้ได้มากที่สุด พยายามเดินเลี่ยง หลีกหนี ไม่พบหน้าได้จะดีที่สุด แต่หากเป็นสถานการณ์ที่เลี่ยงไม่ได้อย่างการที่ต้องเข้าเรียนกับครูครูที่มีปัญหาอยู่ให้คุณ ทำตัวให้เล็กที่สุด ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงให้ คุณนั่งหดตัวหันหน้าเข้ามุมแต่อย่างใด แต่หมายถึง ให้ทำตัวตามปกติ ไม่แสดงท่าทีองอาจทำเรียนเช่นเดิมเหมือนปกติไป เพราะร้อยทั้งร้อยหากเกิดปัญหาครูวิวาทกับนักเรียนขึ้นมา ถึงยังไงคณะครูและผู้บริหารก็ต้องโอนเอียงไปทางฝั่งคุณครูด้วยกันอยู่แล้ว ดังนั้นการทำตัวให้เข้าข่ายการเกิดการทะเลาะจึงไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย นอกจากจะโดนหักคะแนนความประพฤติแล้ว อาจทำให้ชีวิตในโรงเรียนยากขึ้นด้วย ต่อมาถ้าคุณเป็นฝ่ายถูกหาเรื่องและมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้เป็นฝ่ายผิดสิ่งที่คุณควรทำคือปรึกษาครู ผู้ปกครองหรือเพื่อนที่ไว้ใจได้ เล่าให้พวกเขาเล่านั้นฟังและขอคำแนะนำจากพวกเขา และที่ดีที่สุด จำไว้ว่าอย่าหาเรื่องใครก่อนเป็นอันขาด
 
หัวข้อที่ 4 มัธยม มัธใจ ใครๆก็ชอบ
มัธยม ช่วงเวลาที่ทุกคนมีได้ครั้งเดียวเหมือนกัน ตลอดชีวิตของคนเรานั้นจะมีมัธยมได้แค่ครั้งเดียว ไม่ว่าคุณจะเรียนที่ไหนหรือเรียนที่ประเทศใดเราทุกคนล้วนมีเวลามัธยมที่เท่ากัน ดังนั้นแล้วสิ่งที่คุณควรทำอีกอย่างหนึ่งคือ การสร้างความทรงจำดีๆให้กับชีวิตมัธยม ทำในสิ่งที่คุณจะไม่เสียใจที่ได้ทำ ทำในสิ่งที่คุณคิดว่าดีและถูกคุณอาจลองสารภาพรักกับคนที่ชอบหรือ ไปทัศนศึกษากับเพื่อนร่วมชั้น ลองไปที่ใหม่ๆกินอาหารอร่อยๆร่วมกัน ทำในสิ่งต่างๆที่เป็นการสร้างความทรงจำดีๆ ทำให้หวนกลับมาคิดถึงได้ทุกเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่