รีวิว การส่องกล้องกระเพาะอาหาร
เป็นคนดื่มหนักพอสมควร ดื่มไม่ค่อยกินข้าว นอนน้อย ไม่ได้ออกกำลังกาย ความเครียด
ตอนแรกที่เริ่มเป็น วันแรกกลืนข้าวไม่ลงเลย จากที่เคยกินได้เยอะ ก็กิน 2 คำอิ่ม ไปหาเภสัช จัดยาให้ มากิน กินข้าวได้ปกติ แต่ เริ่มมีการเจ็บกระเพาะอาหาร ตื่นกลางคืน ทุกคืน ตี 2 ตี 3 นอนไม่ได้เลย จนต้องลุกมานั่ง ถึงจะหลับ เป็นอยู่อาทิตย์กว่าๆ ตัดสินใจไปหาหมอ หมอวิเคราห์อาการว่าน่าจะกระเพาะอาหารแหละ ประเมินอาการไม่น่าเป็นห่วง ให้ยาลดกรด ยาลดลม ยาลดการบีบตัวของกระเพาะมากิน กินไปเรื่อยๆ ยาหมด ก็ยังไม่หาย หมอก็นัดไปตรวจอีกรอบ ก็ไปตรวจอาการถามว่าดีขึ้นไหม ก็บอกว่าไม่มีตื่นกลางคืนแล้ว แต่มีเจ็บอยู่ หมอก็ให้ยามาอีกรอบ กินยาอีก เริ่มดีขึ้น เราก็ดื้อ คิดว่าหายดีระดับหนึ่งแล้ว ดื่มสิครับ อาการกลับมาเป็นอีกไม่หาย ไปหาหมออีก เราก็กินยาอีกจ้า และกินยาก็ไม่หมดจ้า หยุดกินเฉย ไม่ได้ใส่ใจกับการกินยา คิดว่าดีขึ้นแล้ว และก็ผ่านไป 2 เดือน ยังไม่หาย ดูกูเกิลเลยครับ มันเสี่ยงเป็นนั่นเป็นนี่ เอาล่ะ ตัดสินใจ ส่องกล้องดูให้มันรู้ๆไปเลย เป็นอะไรจะได้รักษาทัน เราก็นัดหมอส่องกล้อง พอนัด ปุ๊บ หายย ไม่เจ็บ ยกเลิกหมอ แล้ววันต่อไปเจ็บ เห้ยยย กังวลอีกครั้ง นัดซ้ำเลยทั้งๆที่ยกเลิกหมอไปวันเดียว เอากับเขาสิครับ ตัดสินใจเด็ดขาด ส่อง การส่องกล้องหมอให้อดอาหาร อดน้ำ ก่อน เกือบเป็นลมครับ หิวข้าว พอถึงเวลาส่อง พยาบาลก็จะแนะนำวิธีการที่ต้องปฏิบัติ แนะนำดีมาก ถามว่าผมตื่นเต้นไหม ตื่นเต้นสิครับ แต่ไม่ได้กลัว หมอพ่นยาชา ที่คอให้ สองครั้ง ชามาก และหมอเอาที่กันกัดให้ใส่ปาก และ ขั้นตอนที่ระทึกใจ หมอสอดกล้อง ลงคอ หมอให้กลืนน้ำลาย 1 ครั้ง เพื่อให้เปิดอะไรสักอย่างนี่แหละ หลังจากนั้นก็ไม่รู้สึกอะไรเลย เหมือน มันมีอาหารชิ้นยาวๆ ลงไปกระเพาะเราแหละ จะเสียวๆหน่อย ตอนลงไปลำใส้เล็กส่วนต้น การตรวจก็ผ่านไปด้วยดี ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
ผลที่ออกมา คือ ปกติ มีเลือดออกจุดเล็กๆ 1 จุด ไม่มีแบคทีเรียในกระเพาะ
หมอเก่งมากครับ คือตอนที่มาส่องมันดีขึ้นมากแล้ว แต่ตัดสินใจมาส่องเพราะอยากรู้ ถ้าไม่เป็นคงจะไปตระหนักถึงเรื่องนี้เลย เตือนสายดื่ม สายซอยจุ๊ อาหาร สุกๆดิบๆ อ่อ หมอที่ผมส่องด้วย คลีนิคหมอยิ่งลักษณ์ อยู่ที่ศรีสะเกษครับ ค่าส่อง 4300 บาท ค่ายา ก็ เกือบ ๆ 5000 เอนจอยครับ
ส่องกล้องกระเพาะอาหาร
เป็นคนดื่มหนักพอสมควร ดื่มไม่ค่อยกินข้าว นอนน้อย ไม่ได้ออกกำลังกาย ความเครียด
ตอนแรกที่เริ่มเป็น วันแรกกลืนข้าวไม่ลงเลย จากที่เคยกินได้เยอะ ก็กิน 2 คำอิ่ม ไปหาเภสัช จัดยาให้ มากิน กินข้าวได้ปกติ แต่ เริ่มมีการเจ็บกระเพาะอาหาร ตื่นกลางคืน ทุกคืน ตี 2 ตี 3 นอนไม่ได้เลย จนต้องลุกมานั่ง ถึงจะหลับ เป็นอยู่อาทิตย์กว่าๆ ตัดสินใจไปหาหมอ หมอวิเคราห์อาการว่าน่าจะกระเพาะอาหารแหละ ประเมินอาการไม่น่าเป็นห่วง ให้ยาลดกรด ยาลดลม ยาลดการบีบตัวของกระเพาะมากิน กินไปเรื่อยๆ ยาหมด ก็ยังไม่หาย หมอก็นัดไปตรวจอีกรอบ ก็ไปตรวจอาการถามว่าดีขึ้นไหม ก็บอกว่าไม่มีตื่นกลางคืนแล้ว แต่มีเจ็บอยู่ หมอก็ให้ยามาอีกรอบ กินยาอีก เริ่มดีขึ้น เราก็ดื้อ คิดว่าหายดีระดับหนึ่งแล้ว ดื่มสิครับ อาการกลับมาเป็นอีกไม่หาย ไปหาหมออีก เราก็กินยาอีกจ้า และกินยาก็ไม่หมดจ้า หยุดกินเฉย ไม่ได้ใส่ใจกับการกินยา คิดว่าดีขึ้นแล้ว และก็ผ่านไป 2 เดือน ยังไม่หาย ดูกูเกิลเลยครับ มันเสี่ยงเป็นนั่นเป็นนี่ เอาล่ะ ตัดสินใจ ส่องกล้องดูให้มันรู้ๆไปเลย เป็นอะไรจะได้รักษาทัน เราก็นัดหมอส่องกล้อง พอนัด ปุ๊บ หายย ไม่เจ็บ ยกเลิกหมอ แล้ววันต่อไปเจ็บ เห้ยยย กังวลอีกครั้ง นัดซ้ำเลยทั้งๆที่ยกเลิกหมอไปวันเดียว เอากับเขาสิครับ ตัดสินใจเด็ดขาด ส่อง การส่องกล้องหมอให้อดอาหาร อดน้ำ ก่อน เกือบเป็นลมครับ หิวข้าว พอถึงเวลาส่อง พยาบาลก็จะแนะนำวิธีการที่ต้องปฏิบัติ แนะนำดีมาก ถามว่าผมตื่นเต้นไหม ตื่นเต้นสิครับ แต่ไม่ได้กลัว หมอพ่นยาชา ที่คอให้ สองครั้ง ชามาก และหมอเอาที่กันกัดให้ใส่ปาก และ ขั้นตอนที่ระทึกใจ หมอสอดกล้อง ลงคอ หมอให้กลืนน้ำลาย 1 ครั้ง เพื่อให้เปิดอะไรสักอย่างนี่แหละ หลังจากนั้นก็ไม่รู้สึกอะไรเลย เหมือน มันมีอาหารชิ้นยาวๆ ลงไปกระเพาะเราแหละ จะเสียวๆหน่อย ตอนลงไปลำใส้เล็กส่วนต้น การตรวจก็ผ่านไปด้วยดี ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
ผลที่ออกมา คือ ปกติ มีเลือดออกจุดเล็กๆ 1 จุด ไม่มีแบคทีเรียในกระเพาะ
หมอเก่งมากครับ คือตอนที่มาส่องมันดีขึ้นมากแล้ว แต่ตัดสินใจมาส่องเพราะอยากรู้ ถ้าไม่เป็นคงจะไปตระหนักถึงเรื่องนี้เลย เตือนสายดื่ม สายซอยจุ๊ อาหาร สุกๆดิบๆ อ่อ หมอที่ผมส่องด้วย คลีนิคหมอยิ่งลักษณ์ อยู่ที่ศรีสะเกษครับ ค่าส่อง 4300 บาท ค่ายา ก็ เกือบ ๆ 5000 เอนจอยครับ