ประสบการณ์และการเตรียมตัว ส่องกล้องกระเพราะและลำไส้ (บน/ล่าง)

ขอเล่าประสบการณ์และ การเตรียมพร้อมครับ
 
ก่อนอื่นเลย สมัยเด็กๆ น่าจะประมาณ 30 ปี ผมเคยส่งกล้องลำไส้ และมีอดีตที่ไม่ดีฝังใจมา 
สมัยนั้นจำได้ น่าจะอยู่วัยมัธยม ผมมีอาการเข้าห้องน้ำ ธุระหนักบ่อยและกระปริดกระปรอย ท้องเสียหลายครั้ง เป็นกิจวัตร
คุณพ่อคุณแม่ ก็ไปปรึกษาหมอ หมอนัดส่องกล้อง ให้ยาถ่ายกลับมาทาน และวันรุ่งขึ้นค่อยไปส่อง
 
ซึ่งก็นัดวันเรียบร้อย คืนก่อนที่จะไปก็ทานยาถ่าย ผมจำไม่ได้ว่า ยาถ่ายเป็นยังไงนะครับ นานมาก แต่จำได้ว่า เข้าห้องน้ำบ่อยมาก จู้ดๆ เลยทีเดียว
พอเข้าห้องน้ำหลายรอบ เราก็จะเพลีย และเจ็บรูทวารด้วยครับ เจ็บแบบถ่ายไม่ไหวแล้ว สุดท้ายก็เลยอั้นไม่ถ่าย เพราะเจ็บ
พอไปหาหมอ เขาก็ส่องกล้องเลย จำได้ว่าแทงสด ตอนนั้น เจ็บมาก และก็ปวดท้องจนถ่ายออกมาด้วย
คุณหมอจึงให้ยานอนหลับ และก็หลับยาวไป ตื่นขึ้นมา หมอบอกว่า ลำไส้ยังมีกากเยอะ ส่องยาก แต่ก็ส่องได้อยู่
 
ส่องเสร็จก็กลับบ้านครับ
จำได้ว่าวันนั้น ปวดท้อง ปวดกระเพราะมาก เพราะท้องว่าง หิวก็หิว แต่กินไม่ได้
คุณแม่พูดว่า นี่ไง เคยเห็นไหม หิวมากแต่ทานข้าวไม่ได้
แต่สุดท้ายก็ค่อยกลืนลงไป และสภาพท้องก็ปรับสมดุลและทานข้าวได้หลังจากนั้น
ผลสรุปตอนนั้นคือ ลำไส้ปกติ สมัยนั้น ยังไม่มีชื่อโรคลำไส้แปรปรวน
 
กลับมาปัจจุบัน
เวลาใครๆพูดว่า ไปส่องกล้องซิ ดูว่า เป็นมะเร็งลำไส้ไหม ผมก็จะขยาดมาก กลัวเจ็บก้นสุดๆ
แต่สุดท้ายก็ต้องไปส่องครับ
รอบนี้ คุณหมอแจ้งว่า ให้งดทานอาหารจำพวกผัก กากใย ทุกชนิด 3 วันล่วงหน้า เวลากินยาถ่ายจะได้ไม่มีกากาใยมากๆ ซึ่งผมทำล่วงหน้า 4 วันเลยครับ คือกินข้าวสวยและเนื้อสัตว์ หมู ไก่ ผัดซีอิ้ว น้ำแกงใสๆ ไข่ดาว จริงๆ หมอแจ้งว่า กินแต่ไข่ และปลาก็ดีกว่าเพราะย่อยได้ง่ายกว่า อ่อ งดทานเนื้อวัวด้วยครับ เพราะย่อยยาก
 
ผมก็กินมา4 วันล่วงหน้าเลย
ถึงวันนัดก็ไปโรงพยาบาลครับ ทางโรงพยาบาลตรวจ xray ช่วงปอด ตรวจเลือด ตรวจคลื่นหัวใจ สิ่งเหล่านี้ เข้าใจว่า เขาตรวจเพื่อดูว่า ร่างกายเราพร้อมที่จะวางยานอนหลับได้ไหม เผื่อเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดจะได้ช่วยเหลือทัน
 
พอตรวจเสร็จ ก็มานั่งรอ และทานยาถ่ายครับ ทางพยาบาลจะให้ ยาถ่ายเป็นน้ำ 2 ลิตร แบ่งเป็น 2 ขวด ให้เราทานให้หมด ภายใน 2 ชั่วโมง ทานขวดแรกเสร็จ ภายใน 1 ชั่วโมง และจะให้ยาถ่ายพิเศษอีกขวดนึง แต่ขนาดเพียง 450 ml เท่านั้น และพยาบาลจะฉีดยาผ่านเส้นเลือด อีกตัว เป็นยาป้องกันคลื่นไส้ครับ
เพราะคนไข้บางคน ทานยาถ่ายมากๆ จะรู้สึกคลื่นไส้
 
รสชาติของยาถ่าย2 ลิตร นั้น ความเข้มข้นน้อย ทานแล้วเหมือนทานน้ำเกลือ เค็มจางๆ เฝื่อนๆลิ้น และมีกลิ่นคาวปลา (คล้ายน้ำมันตับปลา ถ้าใครเคยกัดให้มันแตก กลิ่นจะประมาณนั้นครับ)
พอหมด 1 ลิตร ผมใช้เวลาประมาณ ครึ่งชั่วโมงครับ
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ผมก็ไปเข้าห้องน้ำแล้วครับ แรกๆเบ่งปกติ ก็ถ่ายครับ และสักพัก ปวดท้องนิดหน่อย ก็ถ่ายเป็นน้ำออกมาเลย
พอถ่ายหมด ก็ทำความสะอาด และออกมานั่ง เพื่อจะทานขวดที่ 2 ต่อ 
ยังไม่ทันได้ทานหมดแก้ว ก็ต้องวิ่งไปเข้าห้องน้ำต่อ 
เข้าไปหลายรอบครับ น่าจะประมาณ 5 รอบได้ 
อุจระผมก็ไม่มีกากแล้วครับ เป็นน้ำส้มๆ ใสๆ
 
จากนั้นก็ดื่มยา 450ml คุณพยาบาลแจ้งว่า ตัวนี้ทานยากกว่า 2 ลิตรนั้นอีกนะ มันจะเเฝื่อนๆมากๆ ผมลองจิบๆดู รสชาติจะออกเค็มปรี้ดดดดดบาดดๆ เปรี้ยวเฝื่อนนิดหน่อย พอผมรู้ว่ารสขาติเป็นแบบนี้ ผมก็ค่อยยกและค่อยๆกลินทีละอึกๆๆครับ ผมคิดว่า รสชาติมันเหมือนบ๊วยเค็มแบบเค๊มมากๆๆๆๆ คือกลืนได้เรื่อยๆเลย กลืนไม่ยาก แต่พอกลืนหมด ทั้งปากจะรู้สึกหนืดๆ และกระหายน้ำมาก ก็ต้องกินน้ำตามลงไป ซึ่งก็คือน้ำ 2 ลิตรนั้นแหละ
 
วิธีการกินน้ำ 2 ลิตรที่จะทำให้ไม่รู้สึกคาวนะครับ
ผมจะดื่มทีละอึกน้อยๆ พอดีคำ และหยุดครับ ตอนที่หยุด ก็คือ กลืนหมดคำปุ๊บ อ้าปาแล้วหายใจเข้าปากทันทีครับ จะไม่มีกลิ่นคาวเหลือยู่ จากนั้น ก็ค่อยจิบๆๆคำต่อไป ทำซ้ำไปเรื่อยครับ
และอย่าลืมหาอมยิ้มมาอมปรับสภาพลิ้นด้วยนะครับ อมสักอึก 2 อึก ก็ค่อยๆ ดื่มยาถ่ายต่อครับ
 
สรุปวันนั้น ผมเข้าห้องน้ำไปประมาณ 20 รอบครับ จนอุจาระใสแจ๋ง ไม่มีกาก ถือว่าผ่าน ถ่ายรูปให้พยาบาลดูหรือเรียกพยาบาลมาดู ถือว่าผ่าน
 
ใช้เวลาไป 2 ชั่วโมงหลังจากดื่ม น้ำ 2 ลิตรหมดครับ หลังจากนั้นก็นั่ง หรือนอนพักผ่อน รอเวลาส่องกล้องครับ
 
การส่องกล้องกระเพาะอาหาร หลอดอาหาร ช่วงบน ไม่ค่อยมีอะไรครับ พยาบาลเขาจะพ่นยาชาเข้าปาก (เหมือนเราพ่นยาแก้เจ็บคอ) ให้ปากเราชาทั้งปาก ลิ้นแข็ง กลืนน้ำลายยาก
สวนการส่องกล้องลำไส้ ล่าง ผมไม่ทราบครับ รู้แต่ว่าสมัยนี้กล้องเล็กมากแล้ว
 
ที่ไม่ทราบเพราะว่า หลังจากเขาพ่นยาชาเข้าปาก และชาทั้งปาก คุณหมอ วิสัญญี เขาก็จะฉีดยาผ่านเส้นเลือดให้เราหลับครับ
เป็นยานอนหลัง สลึมสลือ ผมจำได้ว่า ผมพยายามจะคุยกับทุกๆคน อยากรู้สึกตัวตลอดเวลา อยากรู้ว่า เราจะค่อยๆง่วงนอนหลับตา ได้ยินคนรอบข้างพูดอะไรไหม แต่เปล่าเลย มันเหมือเรา พูดๆ อยุ่ แล้วเราลืมตาขึ้น ก็อยู่อีกห้องแล้ว เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ
 
พยาบาลจะเข้ามาทักทายว่า เสร็จแล้วนะคะ ตอนนี้เรานอนอยู่ห้องพักฟื้น 
ใช้จริงๆด้วย เพราะว่า มองไปรอบๆ แบบสลึมสลือ สักพักคุณหมอก็แวะมา และก็เล่าอาการว่า ปกติ ไม่มีปัญหาอะไร มีนั่นมีนี่นิดหน่อย
 
นอนพักสักครู่ ก็กลับบ้านได้ครับ
 
ขอให้โชคดีครับ 
การเตรียมตัวก่อนไปทานยาถ่าย ช่วยได้มากๆครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่