ขณะที่ดันแคนกำลังเครียดมาก ๆ โรมันก็เข้ามา
หาวิธีแก้ปัญหาให้เขา
"อย่าเครียดเลยครับ" โรมันพยายามให้กำลังใจ
ดันแคนกล่าวว่า "แต่ช่วงนี้ฉันไม่ไหวแล้ว
ทหารโดนโจมตีหนัก เดวิดก็เหมือนจะหายหน้าหายตาไป
ประชาชนกำลังหาแพะ"
"ผมหาแพะมาให้แล้วครับ ท่านนายพลไม่ต้องห่วง
ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นหน้าที่ของผม"
โรมันให้สำนักข่าวทุกสำนักที่เขาซื้อได้ลงข่าวว่า
ตอนนี้ทางทหารได้สอบสวนจนทราบแล้วว่าใครเป็นตัวการ
ที่ทำให้ทางสิริคิมาจาโรเข้าใจโสฬสผิด
และตัดสินใจถล่มประภาคารเคียงดาว ทางทหารพบว่า
คนที่มีส่วนร่วมด้วยจะมีด้วยกัน 3 คน แบ่งเป็นทหารของทางโสฬส 2 นาย
และทหารของสิริคิมาจาโร 1 นาย
ทหารทางเราสองนายคือมัครากับเจมส์
ทั้งคู่เลวมากเพราะเป็นนายทหารที่ไม่ฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา
แล้วปล่อยให้มีการส่งทหารไปที่หนานนูเปีย
ถึงแม้จะเสี่ยงต่อการเข้าใจผิด แต่ทหารสองนายนี้ก็ไม่ฟัง
พวกเขาเหลิงในอำนาจและทำในสิ่งที่ชั่วช้าสามานย์มาก
อีกนายคือทหารจากสิริคิมาจาโรที่ชื่อเปปเปอร์
คนนี้เลวมาก และสื่อให้ทางสิริคิมาจาโรเข้าใจผิด
จนถึงขั้นที่ยิงขีปนาวุธมาถล่มประภาคารเคียงดาว
ก่อนที่จะนำทั้งสามเข้าคุกทหารที่โหดมาก ๆ
ทางหน่วยทหารจะเปิดโอกาสให้ประชาชนที่โกรธแค้นได้ลงโทษทหารกลุ่มนี้ร่วมกัน
พอข่าวออกไป ก็มีความเห็นของประชาชนที่หลากหลาย
บางคนรู้สึกสะใจที่จะได้มีส่วนร่วมในการลงโทษทหาร 3 นายนี้
แต่บางคนรู้สึกว่ามันป่าเถื่อนมาก เมื่อไหร่ความป่าเถื่อนในโสฬสจะหมดไป
ศรีจิตราบ่นเรื่องนี้กับจักรภพ แล้วยังไปบ่นกับลูก ๆ มนุษย์หมาป่ากับแวมไพร์ด้วย
หลังจากความจริงถูกเปิดเผยว่าคุณแม่ของจักรภพและหม่อมป้า
เคยจุนเจือพวกมนุษย์หมาป่าและแวมไพร์ในบริเวณป่าหลังเพดานดาวมาก่อน
ศรีจิตราจึงทำอย่างนั้นบ้าง เธอเป็นคนให้อาหารคนกลุ่มนี้
และเรียกว่าลูกทุกคำ อาหารที่เธอให้ยังเผื่อแผ่ไปยังหลายเผ่าพันธุ์ในป่านูเปีย
ทำให้เผ่าพันธ์เหล่านี้เรียกเธอว่า "พระแม่ศรีจิตรา"
ศรีจิตราเป็นตัวอย่างของผู้หญิงสลัมที่ก้าวมาเป็นนักธุรกิจระดับกลาง
จนถึงเจ้าหญิงศรีจิตราและพระแม่ศรีจิตรา ทุกตำแหน่งที่เธอได้
ล้วนมาจากการกระทำของเธอ ตอนยากจนก็มุ่งพัฒนาตนเอง
พอรวยล้นฟ้าก็ช่วยเหลือผู้อื่นและยังเผื่อแผ่ความเมตตาไปอีกหลายเผ่าพันธุ์
เมื่อเธอทราบว่าเผ่าพันธุ์ไหนมีอยู่จริง เธอไม่เคยรังเกียจ มีแต่จะเมตตาสงสาร
ซึ่งเป็นเหตุให้ในอนาคตอาจมีอีกหลายเผ่าพันธุ์จะมาปรากฏแก่เธอ
จนมาถึงวันที่ทางหน่วยทหารเปิดโอกาสให้ประชาชนชาวโสฬสที่โกรธแค้น
สามารถเข้ามาลงโทษทหารได้ สถานที่ ๆ ใช้คือเสาะสิงขร
ถือเป็นสถานที่ ๆ รับรองผู้คนได้เป็นจำนวนมาก
ทางทหารจับทั้งสามแก้ผ้าและมัดตรึงกับกางเขนไว้
ทางทหารเตรียมลูกเทนนิส ถุงน้ำและไข่ เพื่อให้ประชาชนปาพวกเขาจนสาแก่ใจ
พวกเขาถูกตรึงกางเขนแล้ว โดนมัดแบบดิ้นไม่หลุด
จึงไม่มีโอกาสปกป้องตนเองได้ ไม้กางเขนตรงกลางคือมัครา
ไม้กางเขนตรงกลางจะอยู่ใกล้มากที่สุด โรมันวางแผนไว้ว่า
เด็กกับผู้หญิงและผู้สูงอายุ ถ้าปาไกล ๆ ๆ ไม่ไหว ก็มาปามัคราแล้วกัน
ส่วนใครที่ป่าไกล ๆ ไหว ก็ให้ปาเจมส์กับเปปเปอร์ไป
มัคราดูเหมือนจะโดนหนักที่สุด แต่เขาเองก็ชอบ
มัคราเพิ่งค้นพบตนเองว่าเขาชอบถูกกระทำเช่นนี้มาก มันสะใจดี
เจเรมีชวนจังโก้มาที่เสาะสิงขรด้วย จังโก้สนุกกับการเอาลูกเทนนิส
ปาไปที่หน้าท้องของทหารเหล่านี้ แต่เจเรมีกลับดูอย่างเดียว
จังโก้จึงถามว่า "นายไม่ปาพวกมันเหรอ"
"ไม่หรอก ชอบดู"
"โหดไม่เบานะ ชอบดูคนถูกลงโทษโหด"
"ที่ชอบดูเพราะอยากโดนแบบนี้บ้าง"
"ว่าไงนะ"
"นายฟังไม่ผิดหรอก ฉันอิจฉามัครา อยากโดนทรมานแบบนี้บ้าง
เออ ฉันอยากไปฝึกทหารโหดที่ต่างประเทศ นายช่วยจัดการหน่อยดิ"
"เอาอย่างนั้นเหรอ"
"นายลองดูก็แล้วกัน มันน่าจะทำได้"
.................................................................................................
ช่วงนี้ มิสเตอร์ X เดวิด และดันแคน ดูจะเป็นตัวร้ายที่ยังไม่ค่อยมีชั้นเชิงใด ๆ
ในช่วงนี้ แต่สิ่งที่คนเหล่านี้นึกไม่ถึงคือโรมัน อลัน หวังและเปเรส
กลับรวมกลุ่มกันเอง และอยากเป็นใหญ่โดยที่ยังไม่ต้องเป็นนายพลก็ได้
พวกนายพลแม็กกับนายพลเฉินดูเหมือนจะหมดแรง
ส่วนมิสเตอร์ X เดวิด และดันแคนดูเหมือนจะเฉื่อยชาในช่วงนี้
สามคนนี้ โรมัน อลัน หวังและเปเรสจึงรวมตัวกันกลายเป็นสามเทวราช
พวกเขาหาเงินจากการที่หาทหารหนุ่ม ๆ หล่อ ๆ กล้ามแน่น ๆ ไปขาย
ให้กับคุณหญิงคุณนายหรือแม้กระทั่งพวกผู้ชายที่เป็น ส.ส. ส.ว.และ
นายทหารและตำรวจแก่ ๆ กิจกรรมนี้เป็นความลับแต่กลับได้เงินเป็นกอบเป็นกำ
เมื่อมีเงิน ช่องทางแห่งอำนาจก็จะตามมาเอง
สามเทวราชอยากดับรัศมีทุกคนที่ขวางหน้าพวกเขา
วิมานมายา โดย ศักดา ตอนที่ 160 กำเนิดตัวร้ายกลุ่มใหม่ที่น่าสะพรึงกลัว
หาวิธีแก้ปัญหาให้เขา
"อย่าเครียดเลยครับ" โรมันพยายามให้กำลังใจ
ดันแคนกล่าวว่า "แต่ช่วงนี้ฉันไม่ไหวแล้ว
ทหารโดนโจมตีหนัก เดวิดก็เหมือนจะหายหน้าหายตาไป
ประชาชนกำลังหาแพะ"
"ผมหาแพะมาให้แล้วครับ ท่านนายพลไม่ต้องห่วง
ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นหน้าที่ของผม"
โรมันให้สำนักข่าวทุกสำนักที่เขาซื้อได้ลงข่าวว่า
ตอนนี้ทางทหารได้สอบสวนจนทราบแล้วว่าใครเป็นตัวการ
ที่ทำให้ทางสิริคิมาจาโรเข้าใจโสฬสผิด
และตัดสินใจถล่มประภาคารเคียงดาว ทางทหารพบว่า
คนที่มีส่วนร่วมด้วยจะมีด้วยกัน 3 คน แบ่งเป็นทหารของทางโสฬส 2 นาย
และทหารของสิริคิมาจาโร 1 นาย
ทหารทางเราสองนายคือมัครากับเจมส์
ทั้งคู่เลวมากเพราะเป็นนายทหารที่ไม่ฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา
แล้วปล่อยให้มีการส่งทหารไปที่หนานนูเปีย
ถึงแม้จะเสี่ยงต่อการเข้าใจผิด แต่ทหารสองนายนี้ก็ไม่ฟัง
พวกเขาเหลิงในอำนาจและทำในสิ่งที่ชั่วช้าสามานย์มาก
อีกนายคือทหารจากสิริคิมาจาโรที่ชื่อเปปเปอร์
คนนี้เลวมาก และสื่อให้ทางสิริคิมาจาโรเข้าใจผิด
จนถึงขั้นที่ยิงขีปนาวุธมาถล่มประภาคารเคียงดาว
ก่อนที่จะนำทั้งสามเข้าคุกทหารที่โหดมาก ๆ
ทางหน่วยทหารจะเปิดโอกาสให้ประชาชนที่โกรธแค้นได้ลงโทษทหารกลุ่มนี้ร่วมกัน
พอข่าวออกไป ก็มีความเห็นของประชาชนที่หลากหลาย
บางคนรู้สึกสะใจที่จะได้มีส่วนร่วมในการลงโทษทหาร 3 นายนี้
แต่บางคนรู้สึกว่ามันป่าเถื่อนมาก เมื่อไหร่ความป่าเถื่อนในโสฬสจะหมดไป
ศรีจิตราบ่นเรื่องนี้กับจักรภพ แล้วยังไปบ่นกับลูก ๆ มนุษย์หมาป่ากับแวมไพร์ด้วย
หลังจากความจริงถูกเปิดเผยว่าคุณแม่ของจักรภพและหม่อมป้า
เคยจุนเจือพวกมนุษย์หมาป่าและแวมไพร์ในบริเวณป่าหลังเพดานดาวมาก่อน
ศรีจิตราจึงทำอย่างนั้นบ้าง เธอเป็นคนให้อาหารคนกลุ่มนี้
และเรียกว่าลูกทุกคำ อาหารที่เธอให้ยังเผื่อแผ่ไปยังหลายเผ่าพันธุ์ในป่านูเปีย
ทำให้เผ่าพันธ์เหล่านี้เรียกเธอว่า "พระแม่ศรีจิตรา"
ศรีจิตราเป็นตัวอย่างของผู้หญิงสลัมที่ก้าวมาเป็นนักธุรกิจระดับกลาง
จนถึงเจ้าหญิงศรีจิตราและพระแม่ศรีจิตรา ทุกตำแหน่งที่เธอได้
ล้วนมาจากการกระทำของเธอ ตอนยากจนก็มุ่งพัฒนาตนเอง
พอรวยล้นฟ้าก็ช่วยเหลือผู้อื่นและยังเผื่อแผ่ความเมตตาไปอีกหลายเผ่าพันธุ์
เมื่อเธอทราบว่าเผ่าพันธุ์ไหนมีอยู่จริง เธอไม่เคยรังเกียจ มีแต่จะเมตตาสงสาร
ซึ่งเป็นเหตุให้ในอนาคตอาจมีอีกหลายเผ่าพันธุ์จะมาปรากฏแก่เธอ
จนมาถึงวันที่ทางหน่วยทหารเปิดโอกาสให้ประชาชนชาวโสฬสที่โกรธแค้น
สามารถเข้ามาลงโทษทหารได้ สถานที่ ๆ ใช้คือเสาะสิงขร
ถือเป็นสถานที่ ๆ รับรองผู้คนได้เป็นจำนวนมาก
ทางทหารจับทั้งสามแก้ผ้าและมัดตรึงกับกางเขนไว้
ทางทหารเตรียมลูกเทนนิส ถุงน้ำและไข่ เพื่อให้ประชาชนปาพวกเขาจนสาแก่ใจ
พวกเขาถูกตรึงกางเขนแล้ว โดนมัดแบบดิ้นไม่หลุด
จึงไม่มีโอกาสปกป้องตนเองได้ ไม้กางเขนตรงกลางคือมัครา
ไม้กางเขนตรงกลางจะอยู่ใกล้มากที่สุด โรมันวางแผนไว้ว่า
เด็กกับผู้หญิงและผู้สูงอายุ ถ้าปาไกล ๆ ๆ ไม่ไหว ก็มาปามัคราแล้วกัน
ส่วนใครที่ป่าไกล ๆ ไหว ก็ให้ปาเจมส์กับเปปเปอร์ไป
มัคราดูเหมือนจะโดนหนักที่สุด แต่เขาเองก็ชอบ
มัคราเพิ่งค้นพบตนเองว่าเขาชอบถูกกระทำเช่นนี้มาก มันสะใจดี
เจเรมีชวนจังโก้มาที่เสาะสิงขรด้วย จังโก้สนุกกับการเอาลูกเทนนิส
ปาไปที่หน้าท้องของทหารเหล่านี้ แต่เจเรมีกลับดูอย่างเดียว
จังโก้จึงถามว่า "นายไม่ปาพวกมันเหรอ"
"ไม่หรอก ชอบดู"
"โหดไม่เบานะ ชอบดูคนถูกลงโทษโหด"
"ที่ชอบดูเพราะอยากโดนแบบนี้บ้าง"
"ว่าไงนะ"
"นายฟังไม่ผิดหรอก ฉันอิจฉามัครา อยากโดนทรมานแบบนี้บ้าง
เออ ฉันอยากไปฝึกทหารโหดที่ต่างประเทศ นายช่วยจัดการหน่อยดิ"
"เอาอย่างนั้นเหรอ"
"นายลองดูก็แล้วกัน มันน่าจะทำได้"
.................................................................................................
ช่วงนี้ มิสเตอร์ X เดวิด และดันแคน ดูจะเป็นตัวร้ายที่ยังไม่ค่อยมีชั้นเชิงใด ๆ
ในช่วงนี้ แต่สิ่งที่คนเหล่านี้นึกไม่ถึงคือโรมัน อลัน หวังและเปเรส
กลับรวมกลุ่มกันเอง และอยากเป็นใหญ่โดยที่ยังไม่ต้องเป็นนายพลก็ได้
พวกนายพลแม็กกับนายพลเฉินดูเหมือนจะหมดแรง
ส่วนมิสเตอร์ X เดวิด และดันแคนดูเหมือนจะเฉื่อยชาในช่วงนี้
สามคนนี้ โรมัน อลัน หวังและเปเรสจึงรวมตัวกันกลายเป็นสามเทวราช
พวกเขาหาเงินจากการที่หาทหารหนุ่ม ๆ หล่อ ๆ กล้ามแน่น ๆ ไปขาย
ให้กับคุณหญิงคุณนายหรือแม้กระทั่งพวกผู้ชายที่เป็น ส.ส. ส.ว.และ
นายทหารและตำรวจแก่ ๆ กิจกรรมนี้เป็นความลับแต่กลับได้เงินเป็นกอบเป็นกำ
เมื่อมีเงิน ช่องทางแห่งอำนาจก็จะตามมาเอง
สามเทวราชอยากดับรัศมีทุกคนที่ขวางหน้าพวกเขา