"แท็บเล็ต เด็กไทยได้หรือเสีย"
ใจเย็นนิดครับ เรื่องการแจกแท็บเล็ต แม้ว่าการใช้เทคโนโลยีนั้นดี แต่ผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ อาจเป็นคนละเรื่อง ผมห่วงใยในฐานะคนรักการศึกษา คนรักเทคโนโลยี และคุณพ่อที่มีลูกในวัยเรียน ขอฝากไว้ 3 เรื่องจำเป็น ก่อนตะลุยแจก
.
1. แท็บเล็ต ไม่ใช่ของดีสำหรับเด็กทุกวัย โดยเฉพาะเด็กเล็ก อาจส่งผลลบด้านพัฒนาการ ทั้งด้านสายตา ด้านทักษะการใช้กล้ามเนื้อ และทักษะการสื่อสารทางสังคม
ดังนั้น ต้องให้แน่ชัดว่า เด็กไทยวัยใดมีความพร้อม ต่อการใช้งานแท็บเล็ต ไม่งั้นผลกระทบรุนแรง ได้ไม่คุ้มเสีย
.
2. แท็บเล็ต ไม่ใช่มีแล้วจะเรียนได้เรียนดี หากครูและผู้ปกครองยังไม่เข้าใจกระบวนการเรียนรู้ที่แท้จริง เพราะอุปกรณ์ทางเทคโนโลยี เป็นเพียงหนึ่งใน "เครื่องมือ" ไม่ใช่ปัจจัยหลักเพื่อการเรียนรู้ ครูและพ่อแม่ต่างหาก ที่สำคัญที่สุด ต้องรู้จักใช้เครื่องมือนี้ ถึงจะสอนเด็กได้
ดังนั้น การเตรียมความพร้อมของครู และผู้ปกครอง จำเป็นที่สุดต่อความสำเร็จของการใช้เทคโนโลยี
.
3. แท็บเล็ต อาจมีผลกระทบด้านพฤติกรรม ในเด็กทุกวัย มีงานศึกษาวิจัยว่า การอยู่หน้าจอนานเกินไป ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออารมณ์ สร้างปัญหาทั้งเรื่องสมาธิสั้น ทั้งความฉุนเฉียว ใจร้อน หรือนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้
ดังนั้น นักจิตวิทยาของกระทรวงศึกษา ต้องกล้าแนะนำผู้บริหาร และเตรียมความพร้อมในการดูแลผลกระทบนี้
.
ผมย้ำนะครับว่า ผมสนับสนุนเรื่องการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ และย้ำว่าคนไทยต้องเข้าถึง "อินเทอร์เน็ตฟรี" ตามนโยบายที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอ เพียงแต่ว่า เหรียญมีสองด้าน เมื่อมีคุณอนันต์ อาจมีโทษมหันต์ ก็เป็นได้
.
ความรอบคอบ และความพร้อมจึงจำเป็นยิ่ง ก่อนการแจกแท็บเล็ต มิเช่นนั้น เราอาจสูญเสียการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ อย่างไม่สามารถเอาคืนได้
.
ด้วยความห่วงใยครับ
.
#การศึกษา #กระทรวงศึกษา #นโยบาย #เเท็บเล็ต #เอ้สุชัชวีร์ #สุชัชวีร์ #1นักเรียน1tablet
————————-
เป็นอีกเสียง ที่เสนอว่า รมตศึกษา ต้องทำการบ้านเยอะๆนะครับ ต้องไม่ใช่แบบโยน Tablet ให้เด็กไปเฉย เพราะเด็กทุกวันนี้ก็ใช้เวลาไถหน้าจอ เยอะอยู่แล้ว
ความเห็นของดร เอ้ จากประชาธิปัตย์ เรื่องการแจก Tablet
ใจเย็นนิดครับ เรื่องการแจกแท็บเล็ต แม้ว่าการใช้เทคโนโลยีนั้นดี แต่ผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ อาจเป็นคนละเรื่อง ผมห่วงใยในฐานะคนรักการศึกษา คนรักเทคโนโลยี และคุณพ่อที่มีลูกในวัยเรียน ขอฝากไว้ 3 เรื่องจำเป็น ก่อนตะลุยแจก
.
1. แท็บเล็ต ไม่ใช่ของดีสำหรับเด็กทุกวัย โดยเฉพาะเด็กเล็ก อาจส่งผลลบด้านพัฒนาการ ทั้งด้านสายตา ด้านทักษะการใช้กล้ามเนื้อ และทักษะการสื่อสารทางสังคม
ดังนั้น ต้องให้แน่ชัดว่า เด็กไทยวัยใดมีความพร้อม ต่อการใช้งานแท็บเล็ต ไม่งั้นผลกระทบรุนแรง ได้ไม่คุ้มเสีย
.
2. แท็บเล็ต ไม่ใช่มีแล้วจะเรียนได้เรียนดี หากครูและผู้ปกครองยังไม่เข้าใจกระบวนการเรียนรู้ที่แท้จริง เพราะอุปกรณ์ทางเทคโนโลยี เป็นเพียงหนึ่งใน "เครื่องมือ" ไม่ใช่ปัจจัยหลักเพื่อการเรียนรู้ ครูและพ่อแม่ต่างหาก ที่สำคัญที่สุด ต้องรู้จักใช้เครื่องมือนี้ ถึงจะสอนเด็กได้
ดังนั้น การเตรียมความพร้อมของครู และผู้ปกครอง จำเป็นที่สุดต่อความสำเร็จของการใช้เทคโนโลยี
.
3. แท็บเล็ต อาจมีผลกระทบด้านพฤติกรรม ในเด็กทุกวัย มีงานศึกษาวิจัยว่า การอยู่หน้าจอนานเกินไป ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออารมณ์ สร้างปัญหาทั้งเรื่องสมาธิสั้น ทั้งความฉุนเฉียว ใจร้อน หรือนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้
ดังนั้น นักจิตวิทยาของกระทรวงศึกษา ต้องกล้าแนะนำผู้บริหาร และเตรียมความพร้อมในการดูแลผลกระทบนี้
.
ผมย้ำนะครับว่า ผมสนับสนุนเรื่องการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ และย้ำว่าคนไทยต้องเข้าถึง "อินเทอร์เน็ตฟรี" ตามนโยบายที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอ เพียงแต่ว่า เหรียญมีสองด้าน เมื่อมีคุณอนันต์ อาจมีโทษมหันต์ ก็เป็นได้
.
ความรอบคอบ และความพร้อมจึงจำเป็นยิ่ง ก่อนการแจกแท็บเล็ต มิเช่นนั้น เราอาจสูญเสียการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ อย่างไม่สามารถเอาคืนได้
.
ด้วยความห่วงใยครับ
.
#การศึกษา #กระทรวงศึกษา #นโยบาย #เเท็บเล็ต #เอ้สุชัชวีร์ #สุชัชวีร์ #1นักเรียน1tablet
————————-
เป็นอีกเสียง ที่เสนอว่า รมตศึกษา ต้องทำการบ้านเยอะๆนะครับ ต้องไม่ใช่แบบโยน Tablet ให้เด็กไปเฉย เพราะเด็กทุกวันนี้ก็ใช้เวลาไถหน้าจอ เยอะอยู่แล้ว