คือหนูอยู่ชั้นม.ปลายแล้วนะคะ เรื่องมันมีอยู่ว่า หนูได้ย้ายไปอยู่ในห้องเรียนพิเศษแต่ก่อนหนูก็อยู่ก้องธรรมดาท้ายๆโหลๆเลยค่ะและก็ย้ายไปในห้องพิเศษ ไปวันแรกหัวหน้าห้องก็แสดงออกว่าไม่ชอบหนูเลยค่ะ ก็จะมีบางกลุ่มที่เป็นคนแรงๆด้วยก็มาทักหนูแบบใช้คำพูดกูเลยค่ะ ด้วยที่ตอนนั้นก็เป็นคนแรงๆอยู่แล้วก็ไม่ได้ติดไร ในห้องเรียนพิเศษส่วนมากจะเป็นคนอรงๆอยู่เยอะนะคะ ละกนูก็มีเพื่อนสนิทอยู่1คนค่ะก็ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน ในห้องพิเศษมันก็มีเพื่อนตั้งแต่สมัยม.ต้นอยู่นะคะ ส่วนเพื่อนสนิทหนูมาจากรร.อื่น แต่ก่อนหนูก็ด้วยที่เป็นคนแรงๆคำพูดคำจาก็จะแรงแต่หนูพูดแต่กับคนที่สนิทด้วยนะคะ กับคนอื่นก็ธรรมดาเลยไม่มีหลุดคำไม่สุภาพ และพอย้ายได้ไปอยู่ช่วงหนึ่งแล้วก็คือหนูก็พยายามจะเข้ากาเพื่อน ด้วยการพูดด้วย เจอกันก็ทักทาย แต่สิ่งที่เพื่อนทำกลับมาคือเมิน ไม่สนใจ พูดด้วยก็ไม่พูด จนมาถึงม.5 หนูก็ได้คิดว่าสิ่งที่หนูทำกับเพื่อนสนิทหนูมันไม่ดีมาก ทั้งคำพูด ด่ากันตลอดเวลา ลืมบอกเพื่อนกลุ่มหนูมี4-5คน คนสนิท1คน เค้าก็พูดว่าอยากให้ปรับทั้งด้านความคิด คำพูด อยากให้เป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ แต่ที่หนูพูดแรงๆด้วยก็จะมีแค่กลุ่มนี้เท่านั้นนะคะ เพราะรู้จักกันตั้งแต่ม.ต้น ส่วนคนอื่นก็พูดจาน่ารักๆด้วย อ๋อลืม ที่พูดแรงก็ไม่ใช่ว่าจะแรงขนาดนั้นนะคะ ด้วยที่ว่าหนูเป็นคนตรงๆค่ะ ละพอม.5 หนูก็พูดกับเพื่อนเลยว่าจะเปลี่ยนนิสัย เพราะที่ผ่านมารู้สึกว่าที่ผ่านมาหนูนิสัยเด็กมาก คำพูดก็แรง อันรี้พูดกับเพื่อนสนิท ด้วยที่หนูบอกกับเพื่อนแล้วว่าจะเปลี่ยนนิสัย ตอนแรกหนูก็คิดว่ามันยังไม่ชินกับหนูสภาพที่บอกจะเปลี่ยนนิสัย มันก็ยังพูดกับหนูด้วยคำพูดแรงๆอยู่ ละหนูไม่โอเคก็เลยปรับควาเข้าใจกันแบบนี้มาเรื่อยๆประมาณ 3-4ครั้ง สุดท้ายก็ไม่ไหวแยกกัน เพื่อนสนิทหนูคือมันเป็นคนไม่ค่อยพูดแต่มันก็มีบางครั้งที่มันพูดมากอยู่นะ มันก็จะมียางครั้งที่คนในห้องถามว่าเพื่อนสนิทหนูเป็นคนยังไง ด้วยความที่พึ่งรู้จักกันก็บอกว่าเป็นคนดี เรื่องถัดไปๆ แต่มีนก็มีบางครั้งนะคะที่มันพูดจาแรงๆกับหนู ด่า อะไรแบบนี้ จนถึงที่ว่าหนูจะเปลี่ยนนิสัย ตั้งแต่หนูบอกกับมันว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองมันก๋าทำแบบที่หนูทำกับมันเลยทุกๆเรื่อง จนหนูรู้สึกว่า เฮ้ย! ปกติไม่ใช่คนแบบนี้นะก็ได้มาเคลียร์กันว่าที่ผ่านมาที่เคยทำอะไรแบบไหนไว้ก็ขอโทษขอโพยกันไปค่ะ มันก็บอกถ้ามันทำตัวแย่ก็บอกมันตรงๆไปเลยจะได้ปรับปรุงตัวก็แบบนี้มาเรื่อยๆประมาณ 3-4 ครั้ง คือด้วยความที่หนูบอกว่าจะเปลี่ยนตัวเองกลายเป็นคนเรียบร้อยไปเลยค่ะทุกวันนี้คือแทบจะไม่พูดคำหยาบ ก็กลายเป็นคนอ่อนไหวกับคำพูด ต่อๆนะคะ พอแยกย้ายกัน ปัญหาที่หนูเจอก็คือไม่มีเพื่อน มีเเต่เพื่อนในห้องที่ไม่ได้สนิทส่วนกลุ่มหนูอีกคนก็ย้ายไปอีกห้อง เหลือ2คน ซึ่งอันนี้หนูก็ยังไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงตีตัวออกห่างจากหนู ก็พูดด้วยแต่ไม่สนิทเหมือนเดิมค่ะ และปัจจุบันเพื่อนสนิทหนูคนนั้นก็ออกจะเป็นไปตามส่วนมากของห้องพิเศษแล้วค่ะคือพูดแรงๆ อะไรแบบนี้ เพื่อนกลุ่มหนูแต่ก่อนก็ไม่สนใจหนูแล้วค่ะ คือห้องพิเศษส่วนมากมันจะลูกคนรวย คุณหนูอะไรแบบนี้ค่ะ แต่มันก็มีบางกลุ่มในห้องที่ไม่ได้ชอบคนกลุ่มนี้นะคะ เวลาที่มีงานหรือกิจกรรมอะไรที่หนูไม่รู้เขาก็จะไม่บอก เหมือนที่หนูไม่รู้ว่ามีกิจกรรมหนูไม่ได้ไปซ้อม วันจันทร์หนูลา คือวันแจ้งและซ้อม วันอังคารหนูมารร.คือซ้อมรวม หนูก็ได้ไปซ้อม วันพุธหนูกลับก่อนเลยไม่ได้ซ้อม แล้ววันพฤหัสเขาก็พูดว่าให้หนูไปซ้อมหน่อยนะ เขาว่าไม่เห็นหน้าหนูหลายวันแล้ว ซึ่งหนูว่าทำไมต้องพูดออกมาตรงที่คนเยอะๆและตรงที่มีครู หนูไม่ได้ไปซ้อมวันเดียว มีนทำให้หนูคิดมาก มากๆเลยค่ะ และก็คือหนูอยู่ซุ่มอีกซุ้มหนึ่งละหนูก็ลองไปทำดูซึ่งกนูทำแล้ว หนูทำแล้วมันไม่ลอด ก็เลยขอเปลี่ยนซุ้ม เขาก็โอเค มันก็จะมีบางส่วนที่คิดว่าหนูยังอยู่ซุ้มเดิมก็ยังพูดเหมือนเดิมว่าให้หนูไปซ้อม อ๋อลืมบอกวันจันทร์คือวันให้เราเลือกซุ้มเองนะคะ แต่วันนั้นหนูไม่ได้ไป หนูไปวันอังคารหนูก็เลยเลือกซุ้มที่ออกแนวบันเทิงๆ แต่กนูทำแล้วไม่ลอดก็เลยขอเปลี่ยนวันพุธซึ่งวันพุธหนูกลับก่อนก็เลยไม่ได้ซ้อมค่ะ ต่อวันพฤหัสเขาก็นัดซ้อมเหมือนเดิม ส่วนใหญ่เขาก็ยังคิดว่าหนูยังอยู่ซุ้มเดิม ก็เลยพูดใส่หนูแรงๆ หนูก็บอกพวกเค้าแล้วว่าเราย้ายซุ้มแล้ว เขาก็พูดแบบเสียงไม่พอใจกลับค่ะ ตอนนั้นหนูก็เดินไปคนหาคนที่เค้ากำลังทำซุ้มเล่นของเล่น มันมีครูอยู่ด้วยนะคะ เขาก๋นึกว่าหนูอยู่ซุ้มเดิมอยู่ ก็เลยบอกว่าให้ไปที่อื่นก่อน ตรงนี้เป็นของของเล่นด้วยความที่ไม่รู้ว่านี้คือซุ้มของเล่นนึกว่าเป็นซุ้มใหม่ที่ย้ายมาอยู่ใหม่ก็เลยพูดไปว่าเราไม่ได้อยู่ซุ้มออกแนวบันเทิงๆแล้ว เราเปลี่ยนแล้ว แล้วพวกนั้นก็พูดว่า ซุ้มบันเทิงก็ไม่คบดิ แล้วก็มีคนแทรกซึ่งคนๆนั้นก็คือคนที่หนูไปบอกว่าหนูขอเปลี่ยนซุ้มค่ะ และคำพูดที่พูดออกมามันทำให้หนูคิดมากหรือเปล่าก็ไม่รู้เขาพูดว่าที่ย้ายเพราะหนูไม่อยากอยู่ ซึ่งเหตุผลของหนูไม่ใช่อย่างนั้นคือหนูเต้นไม่เก่งและหนูเต้นไม่เป็นก็เลยขอย้าย ตอนนั้นครูก็อยู่ครูก็มองหน้าแปลกๆตอนนี้หนูรู้สึกว่าครูก็ไม่ชอบตั้งแต่ย้ายมาแรกๆแล้วค่ะทั้งครูประจำชั้นอันนี้เป็นเหตุการณ์ปัจจุบันนะคะแล้วก็มีเรื่องเพื่อนที่หนูยังเข้ากับเขาไม่ได้บางกลุ่มก็ยังเป็นคนแรงๆพูดจาไม่สนโลกบางกลุ่มก็ดีตอนนี้มันทำให้หนูคิดมาก มากๆเลยค่ะ หนูกลับมาร้องไห้ที่บ้านหนูไปปรึกษาครูแนะแนวก็ให้เหตุผลที่ตลกมากๆเลยค่ะครูบอกว่าหนูมีดีกว่าเขาในหลายๆด้านเยอะมันเลยทำให้คนอื่นไม่ค่อยชอบไม่ว่าจะกินทั้งเรื่องหน้าตา เก่งในทุกๆเรื่องแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเก่งจนเป็นหัวกะทินะคะ ก็คือพึ่งพาตัวเองได้ แล้วก็พูดด้วยว่าหนูเด่นในทุกๆเรื่อง มันเลยทำให้คนในห้องไม่ชอบหนู ละครูก็พูดว่าเท่าที่ครูดูและสังเกตคนในห้องเธอเป็นคนที่เด่นในเกือบทุกๆเรื่องที่สุด มันก็มีอีกหลายๆเพื่อนอยู่เลยนะคะก็ขอบคุณทุกๆคนที่มาเสียเวลาอ่านเรื่องราวชีวิตของหนู หนูพยายามจะไม่คิดมากแล้วค่ะปัจจุบันนี้หนูอยู่ม 5 แล้วนะคะพยายามจะเข้ามาหาอะไรแล้วก็หนีจากสังคมแย่ๆนี้ค่ะไม่รู้เป็นเพราะหนูหรือสังคมรึเปล่าแต่ก็ขอบคุณที่อ่านจบเรื่องราวของหนูนะคะ บายยย
เพื่อนในห้องทำไมทำเเบบนี้กับเรา?
คือหนูอยู่ชั้นม.ปลายแล้วนะคะ เรื่องมันมีอยู่ว่า หนูได้ย้ายไปอยู่ในห้องเรียนพิเศษแต่ก่อนหนูก็อยู่ก้องธรรมดาท้ายๆโหลๆเลยค่ะและก็ย้ายไปในห้องพิเศษ ไปวันแรกหัวหน้าห้องก็แสดงออกว่าไม่ชอบหนูเลยค่ะ ก็จะมีบางกลุ่มที่เป็นคนแรงๆด้วยก็มาทักหนูแบบใช้คำพูดกูเลยค่ะ ด้วยที่ตอนนั้นก็เป็นคนแรงๆอยู่แล้วก็ไม่ได้ติดไร ในห้องเรียนพิเศษส่วนมากจะเป็นคนอรงๆอยู่เยอะนะคะ ละกนูก็มีเพื่อนสนิทอยู่1คนค่ะก็ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน ในห้องพิเศษมันก็มีเพื่อนตั้งแต่สมัยม.ต้นอยู่นะคะ ส่วนเพื่อนสนิทหนูมาจากรร.อื่น แต่ก่อนหนูก็ด้วยที่เป็นคนแรงๆคำพูดคำจาก็จะแรงแต่หนูพูดแต่กับคนที่สนิทด้วยนะคะ กับคนอื่นก็ธรรมดาเลยไม่มีหลุดคำไม่สุภาพ และพอย้ายได้ไปอยู่ช่วงหนึ่งแล้วก็คือหนูก็พยายามจะเข้ากาเพื่อน ด้วยการพูดด้วย เจอกันก็ทักทาย แต่สิ่งที่เพื่อนทำกลับมาคือเมิน ไม่สนใจ พูดด้วยก็ไม่พูด จนมาถึงม.5 หนูก็ได้คิดว่าสิ่งที่หนูทำกับเพื่อนสนิทหนูมันไม่ดีมาก ทั้งคำพูด ด่ากันตลอดเวลา ลืมบอกเพื่อนกลุ่มหนูมี4-5คน คนสนิท1คน เค้าก็พูดว่าอยากให้ปรับทั้งด้านความคิด คำพูด อยากให้เป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ แต่ที่หนูพูดแรงๆด้วยก็จะมีแค่กลุ่มนี้เท่านั้นนะคะ เพราะรู้จักกันตั้งแต่ม.ต้น ส่วนคนอื่นก็พูดจาน่ารักๆด้วย อ๋อลืม ที่พูดแรงก็ไม่ใช่ว่าจะแรงขนาดนั้นนะคะ ด้วยที่ว่าหนูเป็นคนตรงๆค่ะ ละพอม.5 หนูก็พูดกับเพื่อนเลยว่าจะเปลี่ยนนิสัย เพราะที่ผ่านมารู้สึกว่าที่ผ่านมาหนูนิสัยเด็กมาก คำพูดก็แรง อันรี้พูดกับเพื่อนสนิท ด้วยที่หนูบอกกับเพื่อนแล้วว่าจะเปลี่ยนนิสัย ตอนแรกหนูก็คิดว่ามันยังไม่ชินกับหนูสภาพที่บอกจะเปลี่ยนนิสัย มันก็ยังพูดกับหนูด้วยคำพูดแรงๆอยู่ ละหนูไม่โอเคก็เลยปรับควาเข้าใจกันแบบนี้มาเรื่อยๆประมาณ 3-4ครั้ง สุดท้ายก็ไม่ไหวแยกกัน เพื่อนสนิทหนูคือมันเป็นคนไม่ค่อยพูดแต่มันก็มีบางครั้งที่มันพูดมากอยู่นะ มันก็จะมียางครั้งที่คนในห้องถามว่าเพื่อนสนิทหนูเป็นคนยังไง ด้วยความที่พึ่งรู้จักกันก็บอกว่าเป็นคนดี เรื่องถัดไปๆ แต่มีนก็มีบางครั้งนะคะที่มันพูดจาแรงๆกับหนู ด่า อะไรแบบนี้ จนถึงที่ว่าหนูจะเปลี่ยนนิสัย ตั้งแต่หนูบอกกับมันว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองมันก๋าทำแบบที่หนูทำกับมันเลยทุกๆเรื่อง จนหนูรู้สึกว่า เฮ้ย! ปกติไม่ใช่คนแบบนี้นะก็ได้มาเคลียร์กันว่าที่ผ่านมาที่เคยทำอะไรแบบไหนไว้ก็ขอโทษขอโพยกันไปค่ะ มันก็บอกถ้ามันทำตัวแย่ก็บอกมันตรงๆไปเลยจะได้ปรับปรุงตัวก็แบบนี้มาเรื่อยๆประมาณ 3-4 ครั้ง คือด้วยความที่หนูบอกว่าจะเปลี่ยนตัวเองกลายเป็นคนเรียบร้อยไปเลยค่ะทุกวันนี้คือแทบจะไม่พูดคำหยาบ ก็กลายเป็นคนอ่อนไหวกับคำพูด ต่อๆนะคะ พอแยกย้ายกัน ปัญหาที่หนูเจอก็คือไม่มีเพื่อน มีเเต่เพื่อนในห้องที่ไม่ได้สนิทส่วนกลุ่มหนูอีกคนก็ย้ายไปอีกห้อง เหลือ2คน ซึ่งอันนี้หนูก็ยังไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงตีตัวออกห่างจากหนู ก็พูดด้วยแต่ไม่สนิทเหมือนเดิมค่ะ และปัจจุบันเพื่อนสนิทหนูคนนั้นก็ออกจะเป็นไปตามส่วนมากของห้องพิเศษแล้วค่ะคือพูดแรงๆ อะไรแบบนี้ เพื่อนกลุ่มหนูแต่ก่อนก็ไม่สนใจหนูแล้วค่ะ คือห้องพิเศษส่วนมากมันจะลูกคนรวย คุณหนูอะไรแบบนี้ค่ะ แต่มันก็มีบางกลุ่มในห้องที่ไม่ได้ชอบคนกลุ่มนี้นะคะ เวลาที่มีงานหรือกิจกรรมอะไรที่หนูไม่รู้เขาก็จะไม่บอก เหมือนที่หนูไม่รู้ว่ามีกิจกรรมหนูไม่ได้ไปซ้อม วันจันทร์หนูลา คือวันแจ้งและซ้อม วันอังคารหนูมารร.คือซ้อมรวม หนูก็ได้ไปซ้อม วันพุธหนูกลับก่อนเลยไม่ได้ซ้อม แล้ววันพฤหัสเขาก็พูดว่าให้หนูไปซ้อมหน่อยนะ เขาว่าไม่เห็นหน้าหนูหลายวันแล้ว ซึ่งหนูว่าทำไมต้องพูดออกมาตรงที่คนเยอะๆและตรงที่มีครู หนูไม่ได้ไปซ้อมวันเดียว มีนทำให้หนูคิดมาก มากๆเลยค่ะ และก็คือหนูอยู่ซุ่มอีกซุ้มหนึ่งละหนูก็ลองไปทำดูซึ่งกนูทำแล้ว หนูทำแล้วมันไม่ลอด ก็เลยขอเปลี่ยนซุ้ม เขาก็โอเค มันก็จะมีบางส่วนที่คิดว่าหนูยังอยู่ซุ้มเดิมก็ยังพูดเหมือนเดิมว่าให้หนูไปซ้อม อ๋อลืมบอกวันจันทร์คือวันให้เราเลือกซุ้มเองนะคะ แต่วันนั้นหนูไม่ได้ไป หนูไปวันอังคารหนูก็เลยเลือกซุ้มที่ออกแนวบันเทิงๆ แต่กนูทำแล้วไม่ลอดก็เลยขอเปลี่ยนวันพุธซึ่งวันพุธหนูกลับก่อนก็เลยไม่ได้ซ้อมค่ะ ต่อวันพฤหัสเขาก็นัดซ้อมเหมือนเดิม ส่วนใหญ่เขาก็ยังคิดว่าหนูยังอยู่ซุ้มเดิม ก็เลยพูดใส่หนูแรงๆ หนูก็บอกพวกเค้าแล้วว่าเราย้ายซุ้มแล้ว เขาก็พูดแบบเสียงไม่พอใจกลับค่ะ ตอนนั้นหนูก็เดินไปคนหาคนที่เค้ากำลังทำซุ้มเล่นของเล่น มันมีครูอยู่ด้วยนะคะ เขาก๋นึกว่าหนูอยู่ซุ้มเดิมอยู่ ก็เลยบอกว่าให้ไปที่อื่นก่อน ตรงนี้เป็นของของเล่นด้วยความที่ไม่รู้ว่านี้คือซุ้มของเล่นนึกว่าเป็นซุ้มใหม่ที่ย้ายมาอยู่ใหม่ก็เลยพูดไปว่าเราไม่ได้อยู่ซุ้มออกแนวบันเทิงๆแล้ว เราเปลี่ยนแล้ว แล้วพวกนั้นก็พูดว่า ซุ้มบันเทิงก็ไม่คบดิ แล้วก็มีคนแทรกซึ่งคนๆนั้นก็คือคนที่หนูไปบอกว่าหนูขอเปลี่ยนซุ้มค่ะ และคำพูดที่พูดออกมามันทำให้หนูคิดมากหรือเปล่าก็ไม่รู้เขาพูดว่าที่ย้ายเพราะหนูไม่อยากอยู่ ซึ่งเหตุผลของหนูไม่ใช่อย่างนั้นคือหนูเต้นไม่เก่งและหนูเต้นไม่เป็นก็เลยขอย้าย ตอนนั้นครูก็อยู่ครูก็มองหน้าแปลกๆตอนนี้หนูรู้สึกว่าครูก็ไม่ชอบตั้งแต่ย้ายมาแรกๆแล้วค่ะทั้งครูประจำชั้นอันนี้เป็นเหตุการณ์ปัจจุบันนะคะแล้วก็มีเรื่องเพื่อนที่หนูยังเข้ากับเขาไม่ได้บางกลุ่มก็ยังเป็นคนแรงๆพูดจาไม่สนโลกบางกลุ่มก็ดีตอนนี้มันทำให้หนูคิดมาก มากๆเลยค่ะ หนูกลับมาร้องไห้ที่บ้านหนูไปปรึกษาครูแนะแนวก็ให้เหตุผลที่ตลกมากๆเลยค่ะครูบอกว่าหนูมีดีกว่าเขาในหลายๆด้านเยอะมันเลยทำให้คนอื่นไม่ค่อยชอบไม่ว่าจะกินทั้งเรื่องหน้าตา เก่งในทุกๆเรื่องแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเก่งจนเป็นหัวกะทินะคะ ก็คือพึ่งพาตัวเองได้ แล้วก็พูดด้วยว่าหนูเด่นในทุกๆเรื่อง มันเลยทำให้คนในห้องไม่ชอบหนู ละครูก็พูดว่าเท่าที่ครูดูและสังเกตคนในห้องเธอเป็นคนที่เด่นในเกือบทุกๆเรื่องที่สุด มันก็มีอีกหลายๆเพื่อนอยู่เลยนะคะก็ขอบคุณทุกๆคนที่มาเสียเวลาอ่านเรื่องราวชีวิตของหนู หนูพยายามจะไม่คิดมากแล้วค่ะปัจจุบันนี้หนูอยู่ม 5 แล้วนะคะพยายามจะเข้ามาหาอะไรแล้วก็หนีจากสังคมแย่ๆนี้ค่ะไม่รู้เป็นเพราะหนูหรือสังคมรึเปล่าแต่ก็ขอบคุณที่อ่านจบเรื่องราวของหนูนะคะ บายยย